ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 56 อันดับหนึ่งในรายชื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 58 เรียนรู้ที่จะก้าวข้าม

STBI : ตอนที่ 57 พ่ายแพ้


ไป๋ตงหลิน ปรากฏตัวบนชั้นที่ 37 ของ เจดีย์ถงเทียน

เขามองไปยังพื้นที่โดยรอบ และ พบหลุมฝังศพ ที่มีดวงจันทร์สีโลหิตแขวนอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน

สภาพของหลุมศพของที่นี่ ค่อนข้างเละเทะ ที่นี่ มีสายลมที่มืดมนไหลผ่าน และ หมอกที่หนาเต๊อะปกคลุมพื้นที่โดยรอบพื้นที่แห่งนี้ กระทั่งมีเศษประกายเปลวไฟสีเขียวส่องประกายอยู่ในหมอกเป็นครั้งคราว

นี่มันอะไรกัน?

ไป๋ตงหลิน ขมวดคิ้วแน่น เขาหวังว่าจะไม่ได้เจอพวกตัวประหลาด เพราะมันจะเป็นการต่อสู้ที่น่ารำคาญที่สุด

สัมผัสวิญญาณของเขาได้หลั่งไหลออกมาและตรวจสอบการเคลื่อนไหวโดยรอบ จากนั้น ไป๋ตงหลิน ก็มองไปที่ สุสานขนาดใหญ่ เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เย็นยะเยือกและทรงพลังอยู่เบื้องลึก

กึก—

ราวกับว่าการจ้องมองของ ไป๋ตงหลิน ได้ปลุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างใต้หลุมศพ ทำให้มันพยายามตะเกียกตะกายออกมา

ในเวลานี้ มีโลงศพสีแดงขนาดใหญ่ที่ปรากฏเสียงอันเด่นชัด ไป๋ตงหลิน ได้หรี่ตาลง เขาได้ระเบิดพละกำลังของเขาใส่โลงศพสีแดงด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

บึ้ม!

โลงศพสีแดงที่ถูกฉีกออกเป็นชั้น ๆ ทันใดนั้น ร่างที่สง่างามของมันก็กระโดดออกมาและตกลงในระยะไกล

ผีดิบ?

ไป๋ตงหลิน ได้มองไปที่มันครู่นึง สิ่งมีชีวิตที่ไม่เป็นที่รู้จัก ได้กระโดดออกมาจากโลงศพสีแดง นอกจากใบหน้าสีเขียวคล้ำแล้ว ทั่วร่างของมันยังแผ่กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกออกมา

ยกเว้นเสื้อผ้าของมันที่ดูไม่ขาดหลุดรุ่ย ทุกสิ่งอย่างของมันล้วนเหมือนกับ ผีดิบ เป็นอย่างมาก

ถ้าเกิดเป็นผีดิบจริง มันก็ค่อนข้างลำบาก

อย่างที่ทราบกันดีว่า ผีดิบ นั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังหยินแห่งสวรรค์และปฐพี สิ่งเหล่านี้ ถือกำเนิดขึ้นจากศพของคนที่เสียชีวิตและยังมีความคับข้องใจ เพราะพวกเขากระหายเลือดอย่างไร้สิ้นสุด ทำให้ฟื้นคืนความอาฆาตกลับมาอย่างท่วมท้น ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีจิตวิญญาณหลงเหลืออยู่

ทำให้เจ้าสิ่งนี้ไม่มีสตินึกคิดมีเพียงสัญชาตญาณเพียงเท่านั้น

เพื่อป้องกันความผิดพลาด ไป๋ตงหลิน ได้ตัดสินใจที่จะลองทดสอบดู เขาได้เปิดใช้เนตรจิตวิญญาณและโจมตีจิตวิญญาณของอีกฝ่าย

เพียงแต่ ผีดิบหน้าเขียวที่ถูกโจมตีทางจิตวิญญาณไม่ได้ตอบสนอง มันสังเกตุได้ว่า ไป๋ตงหลิน กำลังโจมตีตนเอง ทำให้มันโกรธจัดและคำรามออกมา

ร่างของมันได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และ ไม่มีจุดติดขัดเหมือนกับ ผีดิบทั่วไป เห็นได้ชัดว่าร่างนี้เป็นร่างของผู้อาวุโสที่ทรงพลัง

หลังจากที่ตายไป แม้จะสูญเสียพลังในร่างไป แต่ร่างกายก็ยังคงความแข็งแกร่งเอาไว้

บูม! 1 คน และ 1 ร่าง ได้ปะทะกันอย่างดุเดือด สิ่งนี้ทำให้ พื้นที่หลุมฝังศพโดยรอบพลันระเบิดออกจากกัน

ความแข็งแกร่งของ ซอมบี้หน้าเขียวตัวนี้ แข็งแกร่งกว่า ปีศาจโลหิตอย่างมาก และ สิ่งสำคัญที่สุดของมันคือพลังป้องกันที่ไม่สนใจความเสียหายจากการโจมตีของ ไป๋ตงหลิน สิ่งนี้ทำให้ ไป๋ตงหลิน ตระหนักได้ถึงบางสิ่งที่น่าขยะแขยงในทันที

การเผชิญหน้ากับตัวอันตรายแบบนี้ ทำให้ พลังในการฟื้นฟูและเทคนิคลับของเขาไม่สามารถทำงานภายใต้การโจมตีของ ซอมบี้หน้าเขียว ตัวนี้ได้ และ ทุกครั้งที่มันโจมตี พลังงานชั่วร้ายบางอย่างก็จะแทรกซึมเข้าไปในร่า่งกาย และ ค่อย ๆ ระงับความสามารถในการฟื้นฟูของเขา

ในเวลานี้ จิตใจของ ไป๋ตงหลิน แทบจะกลายเป็นบ้า เขาพยายามมองหาทุกวิถีทางในการทำลายความได้เปรียบของอีกฝ่าย เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสตินึกคิดเช่นนี้ การโจมตีที่เด็ดขาดล้วนเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

ไป๋ตงหลิน คิดจะใช้เทคนิคลับในการยับยั้งอีกฝ่าย ทันใดนั้น ทั่วร่างของเขา ก็ไหลเวียนไปด้วยพลังงานมหาศาล เซลล์เม็ดโลหิตในร่างกายได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแพรวพราว

กำปั้นของ ไป๋ตงหลิน เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อยสองดวง

นี่คือเทคนิคลับต้าฉวน

ด้วยพลังอันร้อนระอุในร่างกาย สิ่งเหล่านี้ ได้แผดเผาพลังงานชั่วร้ายในร่างกายของเขาในทันที

อีกทั้งมันได้ระงับพลังงานชั่วร้ายรอบตัวของเขาอีกด้วย ผีดิบหน้าเขียว รู้สึกเบื่อหน่ายกับพลังงานอันสดใสนี้ มันได้พุ่งออกไปหวังจะทุบศีรษะของ ไป๋ตงหลิน

ไป๋ตงหลิน ไม่ได้หลบเลี่ยง เขาได้ใช้กำปั้นโจมตีสวนกลับโดยตรง และ ผลที่ตามมา ก็ไม่ได้ดีเท่าที่เขาคิด นอกจากการชดเชยพลังที่เข้าสู่ร่างกายแล้ว ความเสียหายที่ส่งผลถึง ผีดิบหน้าเขียว ก็ยังคงมีจำกัด

ช่องว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนั้นใหญ่เกินไป และ เขาได้พึ่งพาความแข็งแกร่งทางกายภาพและการฟื้นตัวเพียงเท่านั้น

ตอนนี้ พลังงานชั่วร้ายในร่างกายได้หายไป ทำให้ความสามารถในการฟื้นฟูของเขาดีขึ้น แต่มัน ก็แทบจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของ ซอมบี้หน้าเขียวได้ จนทำให้เกิดบาดแผลนับไม่ถ้วนบนร่างกายของเขาอย่างไม่รู้จบ

ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

หลังจากเผชิญหน้ากันหลาย 10 กระบวนท่า ไป๋ตงหลิน ก็แทบจะไม่เหลือพละกำลังมากพอที่จะป้องกันศีรษะของเขา ตอนนี้ ไป๋ตงหลิน กำลังตกที่นั่งลำบาก ซอมบี้หน้าเขียวนอกจากมันจะมีพละกำลังทางกายที่น่ากลัว มันยังสามารถเมินเฉยจากการโจมตีทางจิตวิญญาณได้อีกด้วย

ในที่สุด พลังโลหิตในร่างกายของ ไป๋ตงหลิน ก็หมัดลง และ กำปั้นตะวัน ก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาได้ถูกพลังงานชั่วร้ายแทรกแซงอีกครั้ง ทำให้ ความสามารถในการฟื้นฟูของเขาถูกระงับ

ซอมบี้หน้าเขียว ได้แทงเข้าไปที่หน้าอกของ ไป๋ตงหลิน ด้วยมือของมัน ไป๋ตงหลิน ที่ไม่เหลือความสามารถในการฟื้นฟู เขาได้ตายลงในทันที

ทันทีที่ ไป๋ตงหลิน ถูกสังหาร ในโลกชั้นที่ 37 ของเจดีย์ถงเทียน ก็พลันหยุดชะงัก

การเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายได้หยุดลง แม้แต่ โลหิตที่สาดกระเซ็นก็เช่นเดียวกัน

ราวกับว่าทุกสิ่งอย่างล้วนถูกหยุดโดยปุ่มหยุดชั่วคราว จากนั้น หน้าจออันแข็งค้าง ก็เหมือนกับถูกย้อนเวลากลับไป กลับไปยังช่วงเวลาที่ ผีดิบหน้าเขียว ยังไม่ตื่นขึ้นมา และ ไป๋ตงหลิน ก็กลับมามีชีวิต จากนั้นเขาก็ถูกขับออกจาก เจดีย์ถงเทียน

เขาท้าทายล้มเหลว

เจดีย์ถงเทียน นั้นมีความสามารถมากมายที่ไม่อาจคาดเดา นอกจากความสามารถในการควบคุมพื้นที่มิติและเวลาแล้ว มันยังสามารถทำให้ศิษย์นับไม่ถ้วนสามารถท้าทายสนามรบเดียวกันได้

หลังจากที่ตาย ก็จะสามารถฟื้นคืนชีพ นี่เป็นการตั้งค่าของเจดีย์ถงเทียน สิ่งนี้ ก็เพื่อฝึกฝนการต่อสู้ของเหล่าศิษย์ อีกทั้ง นิกายศักดิ์สิทธิ์ ยังทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าถูกฆ่าตายไปจริง ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายจริงก็ตาม

แม้ว่าการตายในโลกใบเล็กนี้จะไม่ใช่การตายจริง แต่มันก็เป็นการตายที่มีความหมาย

โลกใบเล็กที่มีความสามารถนี้ทำให้ ไป๋ตงหลิน รู้สึกอิจฉามาก

เพราะความทรงจำที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตายของเขาไม่ได้ถูกลบ ดังนั้นเขาจึงสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น

เขาไม่ได้รู้สึกหงุดหงิด เพราะท้าทายล้มเหลว เพราะอย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ฝึกฝนตัวเองไปในตัวด้วย ยังไงการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่ได้ขาดทุน

สำหรับ ซอมบี้หน้าเขียว ตัวนี้ เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะกลับไปหามันเพื่อชำระบัญชีแค้น จากนั้น เขาก็จะถล่มหลุมฝังศพนั้นให้ยับ

ในเวลานี้ สร้อยข้อมือจี้เต๋า ได้เปล่งแสงสีแดงออกมา จากนั้น ก็มีข้อความไหลเข้ามาในความคิดของเขา

ท้าทายชั้นที่ 10 สำเร็จ ได้รับแต้มผลงาน 1,000 แต้ม

ท้าทายชั้นที่ 20 สำเร็จ ได้รับแต้มผลงาน 2,000 แต้ม

ท้าทายชั้นที่ 30 สำเร็จ ได้รับแต้มผลงาน 5,000 แต้ม

หากสามารถรักษาตำแหน่งได้เป็นเวลา 1 เดือน จะได้รับรางวัลเป็น พลังเหนือธรรมชาติ สามารถรับได้ที่โลกแห่งหลักจารึก

1,000 อันดับแรกในรายชื่อดาราดวงใหม่ ทุกสิ้นเดือน พวกเขาจะได้รับรางวัลที่แตกต่างกันไปตามอันดับ

และ นี่เป็นเหตุผลที่ เหล่าศิษย์จำนวนมากพยายามที่จะไต่เต้าอันดับของพวกเขา

หลังจากที่ ไป๋ตงหลิน ได้รับข้อมูล เขาก็รู้สึกว่ามีสิ่งของหลายรายการปรากฏขึ้นในสร้อยข้อมือจี้เต๋าของเขา ปรากฏว่าหลังจากชั้นที่ 10 ทุกด่านล้วนมีรางวัลให้ ยกเว้น ทุก ๆ 10 ด่าน ที่รางวัลเป็นแต้มผลงาน ในชั้นอื่น ๆ รางวัลล้วนเป็นสิ่งของจำพวก โอสถ เครื่องมือวิเศษ วัตถุดิบ ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม หากเขาคิดจะรับเอาพลังเหนือธรรมชาติ เขาจะต้องรักษาตำแหน่งไว้ให้ได้เป็นเวลา 1 เดือน ดังนั้น มันคงจะปลอดภัยกว่า หากเขาสามารถฆ่า ซอมบี้หน้าเขียวได้

“เขานั่นไง ไป๋ตงหลิน!”

ในเวลานี้ เสียงตะโกนได้ขัดจังหวะความคิดของ ไป๋ตงหลิน เขาได้เงยหน้าขึ้นและพบว่าคนที่ตะโกนนั้นเป็นศิษย์ของเขาไท่ซาง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเขาหลายครั้ง

“ไหน เขาอยู่ไหน ไป๋ตงหลิน อยู่ที่ไหน?”

“ถอยไป ให้ข้าได้แสดงความเคารพต่อเขาหน่อย!”

“สวัสดี พี่ไป๋ ข้า…”

“พี่ไป๋ ท่านทำได้ยังไง?”

“...”

ในชั่วขณะนึง ไป๋ตงหลิน รายล้อมไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก กระทั่งเหล่าศิษย์ที่ไม่สามารถเข้าไปถึงตัวเขาได้ต่างเขย่งเท้าเพื่อมองดู

ไป๋ตงหลิน ได้ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และ โบกมือพร้อมกับพูดว่า :

“สหายทุกคนชมเกินไปแล้ว มันก็แค่เรื่องบังเอิญที่ข้าขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ของผังรายชื่อ เพราะความสามารถระดับปานกลางที่มี ดังนั้นข้าไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าข้าแข็งแกร่ง”

หลังจากพูดจบ เขาก็เปิดประตูแสงและหายตัวไปในทันที

“ว้าว! ช่างถ่อมตัวยิ่งนัก!”

“ใช่! ใช่! มันช่างแตกต่างโดยสิ้นเชิงไม่เหมือนกับ ถู๋หยา ที่ทั้งหยิ่งทะนง และ อู๋เหล่ย ที่เอาแต่นิ่งเงียบ”

“ข้าชักจะชอบเขาซะแล้วสิ่!”

ไป๋ตงหลิน ไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับคนเหล่านี้มากนัก เหล่าศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถมองเพียงแค่รูปลักษณ์ได้ เพราะพวกเขาทุกคนต่างก็มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา

ไป๋ตงหลิน ไม่ได้กลับไปที่เรือนพักของเขา แต่ไปที่ภูเขาหนังสือเซิงจง

หลังจากการต่อสู้กับ ซอมบี้หน้าเขียว และ หมอกสีเทาแปลก ๆ ที่เต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย เขาก็ค้นพบว่าเขามีความรู้น้อยเกินไปเกี่ยวบางสิ่งที่แปลกประหลาดและชั่วร้ายเหล่านี้ อีกทั้งเขายังไม่มีวิธีการจัดการกับอีกฝ่ายโดยตรง

ครั้งนี้จุดประสงค์ที่เขาเข้าไปในภูเขาหนังสือมี 2 อย่าง 1 คือ มองหาวิธีการต่อต้านบางสิ่งที่ชั่วร้าย และ อีกอย่างคือ การพัฒนาจิตวิญญาณของเขา

การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และ ไป๋ตงหลิน ไม่เคยหยุดที่จะมองหาความรู้ เขาต้องการเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อวันนึง เขาจะได้นำความรู้เหล่านี้มาใช้

หลังจากสร้อยข้อมือกระพริบวาบ เขาก็ก้าวเข้าไปในภูเขาหนังสือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด