ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 54 เจดีย์ถงเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 56 อันดับหนึ่งในรายชื่อ

STBI : ตอนที่ 55 ยากลำบาก?


ไป๋ตงหลิน ข้ามประตูแสงและปรากฏตัวใต้เจดีย์ถงเทียน

ที่ด้านหน้าของเขาคือหอคอยทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่มีแปดมุมแปดด้าน และ มีระฆังทองสัมฤทธิ์ห้อยอยู่ในแต่ละมุม

หอคอยทองนี้แกะสลักด้วยลวดลายวิจิตรงดงามนับไม่ถ้วน สัตว์ร้ายทุกชนิด ปีศาจ เทพ พระพุทธเจ้า หรือ ยักษ์ที่ยืนสูงตระหง่านในเฆม …

มีลวดลายมากมายไร้สิ้นสุด มันได้ทอดยาวไปไกลสุดสายตา อีกทั้งบรรยากาศที่แผ่ออกมายังเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่เหนือสวรรค์

ไป๋ตงหลิน ได้ถอนสายตาและก้าวเข้าไปข้างในหอคอยยักษ์ มันไม่น่าแปลกใจเลยที่พื้นที่ภายในหอคอยนั้นจะใหญ่มากจนเสมือนโลกใบเล็ก สถานการณ์เช่นนี้ ไป๋ตงหลิน คุ้นชินกับมันแล้ว ภายในนิกายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะสถานที่เล็กน้อยเพียงใด ข้างในก็เปรียบเสมือนโลกใบเล็กไร้สิ้นสุด

ในพื้นที่อันกว้างใหญ่นี้ มีเหล่าศิษย์ของนิกายไม่น้อยกว่า 100,000 คนอยู่ที่นี่ นอกจากศิษย์ใหม่แล้ว ยังมีศิษย์รุ่นพี่อีกหลายคน ซึ่งแต่ละคนดูทรงพลังและไม่อาจหยั่งรู้ได้

เจดีย์ถงเทียน นี้ มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากภายในพื้นที่แห่งนี้

ที่ด้านหน้าของมัน มีม่านแสงขนาดใหญ่หลายผืน แขวนเอาไว้บนท้องฟ้า

รายชื่อดาราดวงใหม่,รายชื่อมังกรในหมู่มังกร,รายชื่อสวรรค์เหนือสวรรค์ ฯลฯ มีรายชื่อตัวละครที่อัดแน่นไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าอันดับกำลังเปลี่ยนแปลงตามเวลาจริง

ม่านแสงที่ขยับเหล่านี้ คือการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างเหล่าศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์ถงเทียน แห่งนี้ ไม่เพียงแต่มันมีความสามารถในการประเมินอันดับเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นลานประลานได้อีกด้วย ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ข้างนอกจะสามารถมองเห็นการกระทำที่อยู่ข้างในได้

“เร่เข้ามา,เร่เข้ามา พนันข้างแล้วไม่สามารถอนได้!”

“อัตราต่อรอง ถู๋หยา ชนะ 3 แพ้ 3!”

“ข้าไม่มีปัญหาที่จะร่วมเสี่ยงสัก 100 แต้มคะแนน!”

“หึ่ม ในเมื่อมีการลงเดิมพันทั้งที ข้าจะพนัน 300 แต้ม ไปเลย!”

“ถู๋หยา คือ คุณชายในอุดมคติของข้า ข้าจะลงข้างเขา!”

ไป๋ตงหลิน ได้สั่นศีรษะ แน่นอนว่าการพนันมีอยู่ทุกมุมโลกอย่างแท้จริง แม้แต่นิกายศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่นี่มันก็เป็นเรื่องปกติ

เจดีย์ถงเทียน เหล่านี้ เป็นที่สำหรับเหล่าศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์หลายคน นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแล้วยังได้รับผลประโยชน์ที่ตามมาอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคลับ,โอสถวิเศษ,คะแนนการมีส่วนร่วม และ รางวัลต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นนิกายศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องการกระตุ้นเหล่าศิษย์ของพวกเขาให้มีพัฒนาการในการต่อสู้ ไม่ใช่การฝึกฝนร่างกายโดยไม่มีการพัฒฯาอะไร

หลังจากใช้จิตใจสื่อสารกับเจดีย์ถงเทียนผ่านสร้อยข้อมือจี้เต๋า แสงสว่างก็ได้กวาดผ่านร่างของเขาหายไป ไป๋ตงหลิน ตัดสินใจที่จะท้าชิงอันดับต้น ๆ ของรายการ เพราะนอกจากมีรางวัลที่ดีแล้ว เขายังค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ฝึกที่ดีอีกด้วย

ชั้นแรกของหอคอยถงเทียน

ไป๋ตงหลิน ได้ปรากฏตัวขึ้นในทะเลทรายไร้สิ้นสุด แต่ละชั้นของเจดีย์ถงเทียน ล้วนเป็นโลกใบเล็ก ซึ่งแต่ละชั้นก็มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป และ นี่ถือเป็นบททดสอบสำหรับนักพรตเต๋าในการต่อสู้ที่มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง

ดูเหมือนว่า นิกายศักดิ์สิทธิ์ จะเอ็นดูศิษย์จำนวนมากด้วยความรัก

ในเวลานี้ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหว

แมงป่องทะเลทรายตัวใหญ่ ได้แอบย่องเข้ามาจากใต้พื้นทรายสีเหลือง และ พยายามโจมตีเขา แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถซ่อนตัวไปจากการตรวจจับของเขาได้

ฟุ่บ!

แมงป่องทรายได้กระโดดออกมาจากทรายสีเหลือง หางขนาดใหญ่ของมัน ได้แทงไปที่ระหว่างคิ้วของ ไป๋ตงหลิน อย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า

ไป๋ตงหลิน ไม่ได้หลบเลี่ยงการโจมตีและไม่ได้ตั้งท่าป้องกัน ด้วยพละกำลังของแมงป่องทะเลทราย มันไม่อาจทำลายพลังการป้องกันร่างกายของเขาได้

ปั้ง!

เสียงที่คมชัดได้ปรากฏขึ้น เพียงแต่ไม่มีร่องรอยบาดแผลบนระหว่างคิ้วของ ไป๋ตงหลิน เลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้ เขาสั่นศีรษะ ดูเหมือนว่ามันจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว

เขาสบัดนิ้วของเขา ทันใดนั้น มวลอากาศก็ถูกดึงเข้ามาในร่างกายของเขาในทันที จากนั้น เขาก็สร้างใบมีดขึ้นบนฝ่ามือและผ่าแมงป่องทะเลทรายแยกออกจากกัน

จากนั้น เขาก็ยกเท้าขวาขึ้นและกระทืบมันอย่างดุเดือด แรงสั่นสะเทือนนี้ ทำให้ แมงป่องทะเลทรายที่ซ่อนตัวอยู่ สัมผัสได้ ผ่านไปไม่นาน พวกมันก็สั่นสะเทือนจนอวัยวะภายในแตกสลายจนตาย

เขาไม่ได้ใช้พลังภายในภายในร่างกายด้วยซ้ำ มันเป็นเพียงพละกำลังทางกายภาพของเขาล้วน ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดทางเดินจิตวิญญาณ มันจะช่วยให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาเพิ่มมากขึ้น และ นี่เเป็นเพียงผลประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน พละกำลังของเขามีมากกว่า 220,000 จิน

ชั้นแสงของชั้นต่อไปได้ส่องประกายที่ด้านหน้าเขา

หลังจากเข้ามา พื้นที่ของโลกนี้ก็คือ ป่าทึบ ที่นี่ มีวัวปีศาจ ที่พุ่งเข้ามาหาเขาจำนวนมาก

ฟู่!

เขาของพวกมัน ได้พุ่งเข้ามาหวังจะชน ไป๋ตงหลิน เพียงแต่หลังจากกระทบกับร่างของเขา มันกลับไม่ได้สร้างบาดแผลใด ๆ ให้กับร่างของเขา

ราวกับว่า วัวปีศาจ เหล่านี้ ไม่ได้มีเรี่ยวแรง และ กลิ่นเหม็นของพวกมัน ก็ทำให้ จิตใจของ ไป๋ตงหลิน รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย เขาได้ยกฝ่ามือขึ้นและฟาดฟันออกไปอย่างดุเดือด 4 ทิศทาง พลังใบมีดขนาดใหญ่ ได้ฟันต้นไม้ยักษ์โดยรอบจำนวนมาก และ สังหาร วัวปีศาจทั้งหมด

ไป๋ตงหลิน ไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป เพื่อที่จะมองหาชั้นที่สามารถฝึกฝนได้ เขาจำเป็นจะต้องเร่งการเดินทางของเขา

เมื่อปีนขึ้นไปยังชั้นที่สู.ขึ้น ความแข็งแกร่งของ สัตว์ปีาจ ภายใน ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ภายในชั้นที่ 10 มันเริ่มสามารถทำลายชั้นผิวหนังของเขาได้แล้ว ในชั้นที่ 20 มันเริ่มโจมตีเขาจนอาเจียนออกมาเป็นโลหิตได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจ

จนในที่สุด ชั้นที่ 35 ยกเว้น อู๋เหว่ย บนชั้นที่ 36 , 1,000 อันดับแรกล้วนอยู่บนชั้นนี้

นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยแมกม่า และ คู่ต่อสู้ก็เป็นปีศาจผิวดำที่มีเขาคู่แรกเกิดและถือหอก ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้บรรลุถึงความสมบูรณ์ของการเปิดปากทางเดินจิตวิญญาณ ทำให้มันมีพละกำลังที่เหนือกว่าคนที่อยู่ขั้นเปิดปากทางเดินจิตวิญญาณช่วงเริ่ม แต่ก็เพียงแค่ในแง่ของนักพรตเต๋าธรรมดาเท่านั้น

เพราะอย่างไรก็ตาม เหล่าศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์ สามารถต่อสู้ข้ามช่วงชั้นได้ แม้แต่ คนที่เพิ่งเปิดปากทางเดินจิตวิญญาณระดับมนุษย์ ก็ยังสามารถต่อสู้ได้ข้าม 1-2 ช่วงชั้น

เพราะพวกเขาคืออัจฉริยะที่โดดเด่นท่ามกลางผู้คนหลายร้อยล้านคน ทำให้ พลังการต่อสู้ของพวกเขาไม่สามารถประเมินได้

ดวงตาของ ปีศาจผิวดำค่อนข้างดุเดือด มันได้จ้องไปที่ ไป๋ตงหลิน อย่างเย็นชา เดิมที ปีศษจเหล่านี้ ก็มีสติปัญญาที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

ไป๋ตงหลิน ได้พยักหน้าเล็กน้อย และ ยืนเอามือไขว่หลัง

เมื่อ ปีศาจผิวดำ นี้รู้สึกว่ามันกำลังถูกล้อเลียน มันก็ส่งเสียงคำรามออกมา และ พุ่งเข้าหาร่างของ ไป๋ตงหลิน

ฟุ่บ!

พละกำลังมหาศษล ได้พุ่งตรงไปที่ หน้าอกของ ไป๋ตงหลิน อย่างดุเดือด สิ่งนี้ทำให้ ไป๋ตงหลิน พ่นโลหิตออกมาเต็มปาก จนร่างของเขากระแทกตกลงไปในหินหนืดในทันที

กระดูกหน้าอกของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ และ อวัยวะภายในก็กลายเป็นแหลกเหลว ทะเลโลหิตของเขาได้สั่นสะเทือนและกลิ้งไปมาอย่างไม่รู้จบ ทว่า ในเวลานี้ ก็มีพลังงานลึกลับปรากฏขึ้นมาจากอากาศบาง ๆ และ เติมเต็มร่างกายของเขา

จากนั้น ไป๋ตงหลิน ก็ปีนออกมาจากหินหนืด เขารู้สึกได้ถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากอาการบาดเจ็บ เพียงแต่ คลื่นความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความตั้งใจของเขา

เมื่อเขา เอื้อมมือออกไปเช็ดคราบโลหิตบนใบหน้า เขาก็ยิ้มกว้าง จนเผยให้เห็น ฟันขาวของเขา

“ฮ่าฮ่า ไม่เลว มันต้องอย่างงี้สิ!”

เมื่อเห็น ไป๋ตงหลิน ไม่เพียงแต่ยืนขึ้น แต่ยังหัวเราะออกมา มันก็ทำให้ ปีศาจผิวดำ รู้สึกโกรธ

ก๊ากก—

มันได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับผสานมือทั้งสองข้าง และ ทุบลงบนศีรษะของ ไป๋ตงหลิน

การโจมตีนี้ทำให้ สติของ ไป๋ตงหลิน มึนงงเล็กน้อย มันไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ มันได้ไล่ตาม ไป๋ตงหลิน ไป และ ใช้กรงเล็บในมือทั้งสองข้าง ฟันไปที่ ร่างของ ไป๋ตงหลิน อย่างดุเดือด จนอีกฝ่าย ร่างกายฉีกขาดหลายจุดพร้อมกัน

เพียงแต่ หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ไป๋ตงหลิน ก็ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง และ ใช้นิ้วชี้ไปที่ปีศาจผิวดำ

“ต่อกันเลย!”

ปั้ง!

“มาลองอีกครั้ง!”

ปั้ง!

“...”

5 ชั่วยามต่อมา

“อะไร แรงหมดแล้วงั้นเหรอ หรือว่าไม่ได้กินข้าวปลาก่อนออกมา?”

ปีศาจผิวดำ ที่ถูกเยาะเย้ย มือที่ถือหอกของมันสั่นเล็กน้อย และ หัวหอกสีดำของมัน ก็เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว

ทว่า ไป๋ตงหลิน ที่ยืนอยู่ตรงข้ามมันกลับ ยังเปี่ยมล้นไปด้วยพลังทำให้มันรู้สึกพูดไม่ออก

ในเวลานี้ ปีศาจผิวดำ กำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ พฤติกรรมส่อเสียดที่อีกฝ่ายกระทำกับมัน ช่างดูไร้ยางอายยิ่งนัก

เผชิญหน้ากับการถูกหยอกล้อเช่นนี้ มันจะยังเหลือศักดิ์ศรีในฐานะปีศาจอยู่อีกหรือไม่?

หลังจากที่ ไป๋ตงหลิน เดินเข้ามา ปีศาจตัวนี้ ก็ล่าถอยอย่างหวาดกลัว เพียงแต่ ไป๋ตงหลิน ได้คว้าคอของมันด้วยมือข้างเดียว

จากนั้นเขาก็ใช้มือตบลงไปที่บนใบหน้าของปีศาจผิวดำ

“เจ้าตัวน่าขยะแขยง แกมีดีแค่นี้เองงั้นเหรอฦ.

“แกยังมีความละอายใจในฐานะปีศาจอยู่อีกมั้ย แกไม่แม้แต่จะทำลายการป้องกันของฉันได้แม้ว่าฉันจะยืนให้แกโจมตี หรือว่าแท้จริงแล้ว แกก็คือปีศาจขยะตัวแรกของโลก?”

ป๊าบ ปั้ง

เขาได้ตบมันอีกรอบ จากนั้น ก็มองสายตาอย่างขึงขัง ไปที่มันอย่างรุนแรง

“เช่นนั้น ฉันจะสอนวิธีการต่อสู้ให้แกเอง!”

ไป๋ตงหลิน ได้คว้าหอกที่หักจากมือของ ปีศาจ แล้วโยนทิ้ง จากนั้นก็หยิบอาวุธวิเศษคุณภาพสูงออกมาจากสร้อยข้อมือ แล้วยัดเข้าไปในมือของ ปีศาจ จากนั้นก็กดมีดเล่มนั้นชี้ไปที่คอของเขา

“ลองดูและเรียนรู้เอาจากสิ่งนี้ ตรงนี้คือเส้นเลือดใหญ่ แกเพียงแค่เฉือนมันแค่ทีเดียว เท่านั้น!”

ไป๋ตงหลิน คล้ายกับว่ากำลังบ้า สิ่งนี้ทำให้ ปีศาจผิวดำ หมดกำลังใจที่จะต่อสู้

สีหน้าของมันค่อนข้างหมองคล้ำ มันได้รับความเมตตาจาก ไป๋ตงหลิน ทั้ง ๆ ที่มันคือปีศาจ

ตอนนี้มันกำลังรู้สึกว่า ตัวข้าเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน? และ ข้ากำลังทำอะไรอยู่?

คอของ ไป๋ตงหลิน ได้แสดงความเจ็บออกมา ในขณะที่เขายืนนิ่งและเฝ้าดู ปีศาจผิวดำ สูญเสียจิตวิญญาณของมันเอง

ไป๋ตงหลิน ได้ยืนขึ้นและจ้องมองไปที่ร่างของ ปีศาจผิวดำที่ยืนนิ่ง เขาได้กล่าวพูดอย่างจริงจัง :

“นี่เจ้าปีศาจผิวดำ หากแกระเบิดตัวเอง ยังมีโอกาสที่จะฆ่าฉันอยู่นะ!”

แสงสว่างได้ไหลวาบผ่านดวงตาของ ปีศาจผิวดำ ใช่แล้ว! มันสามารถระเบิดตัวเองได้! อีกทั้งยังสามารถลากอีกฝ่ายให้ไปตายด้วยกันได้ ปีศาจผิวดำ ได้พึ่งฟางเส้นสุดท้าย

ก๊ากก—

หลังจากส่งเสียงคำราม มันก็กางแขนออกและระเบิดตัวเอง

น่าเสียดายเป็นเพราะพลังที่มันสูญเสียไป ทำให้ แรงระเบิดค่อนข้างมีจำกัด แต่ถึงกระนั้นมันก็เพียงพอที่จะระเบิด ไป๋ตงหลิน ให้ตายได้

เพียงแต่ไม่นาน อาการบาดเจ็บของ ไป๋ตงหลิน ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เขาได้เผยรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ เขาค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์การตายของปีศาจตัวนี้

ปีศาจผิวดำเสียชีวิต การท้าทายบนชั้นที่ 35 ก็ประสบความสำเร็จ ด้วยแสงสีขาว ไป๋ตงหลิน ได้เดินเข้าไปในชั้นถัดไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด