ตอนที่แล้วการกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 8 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 10 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (3)

การกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 9 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (2)


ตอนที่ 9 ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (2).txt

Who has access

J

System properties

Type

Text

Size

40 KB

Storage used

40 KBOwned by มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Location

Thai

Owner

Auttakit MAHASUK

Modified

May 10, 2022 by Auttakit MAHASUK

Opened

12:02 PM by me

Created

May 10, 2022

Add a description

Viewers can download

ตอนที่ 9 - ไอ้ตัวประหลาดออกมาแล้ว (2)

สายตาของลีกอนหันกลับมาเมื่อเขาเห็นข้อความที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

[คุณลักษณะของบุรุษผู้พิชิตทุกสรรพสิ่งถูกเปิดใช้งาน ]

[คุณต้องการยืนยันแอตทริบิวต์หรือไม่]

<บุรุษผู้พิชิตทุกสรรพสิ่ง>

- สิ่งมีชีวิตที่สามารถทำลายทุกสิ่งในโลกเพื่อสร้างสิ่งที่เขาต้องการ

- เอฟเฟกต์: ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไหนก็ไม่สำคัญ รวมถึงสกิล ไอเท็ม สิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ สกิลนี้ช่วยให้สามารถทุบทำลายสิ่งสร้างสรรค์ต่างๆให้เป็นสิ่งที่ต้องการได้

ลีกอนเอียงศีรษะด้วยความงุนงง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรแบบนี้ เขาไม่แน่ใจ แต่ข้อมูลนี้เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะพิเศษของเขา สกิลใหม่นี้สามารถใช้ในการต่อสู้ได้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว มันคือสกิลการผลิต “อันที่จริงสกิลการต่อสู้คือการประยุกต์ใช้สกิลการผลิตสินะ” อย่างเช่น การฟันปีศาจก็เป็นการใช้สกิลการบดเนื้อ

[คุณจะได้รับข้อมูลใหม่จากการทำลายไอเท็ม]

[ข้อมูลที่ได้รับจะสามารถถอดประกอบได้ คุณสามารถใช้เพื่อสร้างหรือรวมสกิล ไอเท็ม คุณสมบัติพิเศษ สิ่งปลูกสร้าง หรืออีกมากมายได้]

[ส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ได้รับจะถูกสะสมเพื่อสร้างสกิลใหม่]

เมื่อลีกอนเปิดมือของเขาออก เขาก็เห็นคริสตัลสีเหลืองปรากฎขึ้น นี่อาจจะเป็นข้อมูลที่สำคัญ “นี่น่าสนใจดีหนิ” ลีกอนใช้ทักษะการผลิตของเขาในการทดลองอะไรบางอย่าง เขาต้องเสียอาวุธและอุปกรณ์ป้องกันต่างจากคนอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้

“Battle Workshop!” เขาอยากเรียกมันออกมา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเขา

[เมื่อร่างกายของคุณถูกสร้างขึ้นใหม่ สกิลขั้นสูงที่มีอยู่ของคุณจะถูกพัฒนาและรีเซ็ต!]

[Battle Workshop (เลเวล 99) >> Creation Workshop!]

[ในการเปิดใช้งาน Creation Workshop คุณจะต้องมีไอเท็มศักดิ์สิทธิ์สำหรับการผลิตระดับ S!]

สกิลดั้งเดิมของเขาจำเป็นต้องมีรายการการผลิต ดังนั้นลีกอนจึงค่อนข้างคาดหวังอะไรบางอย่างจากสิ่งนี้ “ฉันจะลองใช้แกทีหลังแล้วกัน”

เขาใส่คริสตอลที่เก็บข้อมูลในกระเป๋าของเขาด้วยท่าทางขบขัน

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญตอนนี้ ลีกอนถามว่า “สิบสองคนนั้นเรียกพวกยุงแล้วก็ปีศาจตัวอื่นๆว่าพวกภัยพิบัติหรอ”

“ใช่ครับ”

เมื่อชายหนุ่มยืนยันกลับมา ลีกอนเลยนึกถึงวิดีโอใน youtube ที่เขาเคยดูก่อนหน้านี้

- โปรดให้ความสนใจ พวกปีศาจถูกสร้างขึ้นจากความเชื่อโชคลางและความกลัว พวกมันเกิดจากความคิดด้านมืดของมนุษย์ที่พวกเราพยายามหลีกหนีมัน พวกมันจะปรากฏในสถานที่ที่มีความคิดด้านลบหรือความกลัวอยู่มาก มันจะเปิดช่องให้พวกปีศาจสามารถถูกอัญเชิญออกมาได้!

ข้อมูลเกี่ยวกับพวกปีศาจนั้นน่าสนใจ มันก็ไม่ได้ผิด แต่ว่า... “ปัญหาก็ยังอยู่ที่ว่าพวกนั้นกำลังบอกความจริงหรือเรื่องโกหก”

เซนต์สิบสองราศีสูญเสียความไว้วางใจจากสาธารณชน เพราะพวกเขายังคงล้มเหลวในการบุกโจมตีพวกปีศาจอยู่ นี่หมายความว่ามันจะทำให้การได้รับเงินบริจาคจะเริ่มได้รับน้อยลง แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้คิดแผน "ระบบเช่าสกิลของเซนต์"

ลีกอนกำลังสนุกกับการใช้โทรศัพท์ของชายหนุ่ม เมื่อเขากดปุ่มเปิดปิดสองครั้ง แอปที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าก็เปิดขึ้นมา

[ยินดีต้อนรับ ฮาน จีมินนิม!]

[สกิลศักดิ์สิทธิ์รายวันพร้อมให้เช่าแล้ว]

(ธุรกิจส่วนตัว)

[เช่าสกิลศักดิ์สิทธิ์รายวัน: 5 อันกำลังทำงานอยู่]

[ระดับการมีส่วนร่วม: ต้องการ 187p สำหรับระดับถัดไป]

[เปลี่ยนวิธีการปรับแต่ง]

ดูเหมือนว่าพวกนี้จะปล่อยเช่าสกิลของพวกเขาไปให้กับประเทศ ธุรกิจ แล้วก็พลเรือน แล้วพวกนั้นก็จะได้รับเงินกลับมา แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

<คนธรรมดาก็สามารถปลุกพลังของจักรราศีได้!>

<เซนต์สิบสองราศีเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงมนุษย์กับจักรราศี วาติกันได้กำหนดให้พวกเขาเป็นเซนต์>

เหล่าจักรราศีปลุกพลังของผู้คนด้วยศักยภาพของพวกเขา พวกเขาปลูกฝังคนเหล่านี้เพื่อให้ทำงานให้กับพวกเขา และผู้ตื่นของพลังเหล่านี้จะถูกเรียกว่าเหล่าสาวก

“นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีผู้ใช้พลังที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นหลังจากผ่านไปยี่สิบปีสินะ” ลีกอนได้เรียนรู้สิ่งนั้น

มันเป็นแผนการที่น่าทึ่งจริงๆ พวกจักรราศีไม่สามารถฆ่าพวกปีศาจได้ด้วยตัวเองพวกเขาก็เลยเพิ่มพลังการต่อสู้ของพวกเขาเองโดยการเพิ่มปริมาณของผู้ใช้พลัง

ลีกอนเล่าถึงการโน้มน้าวใจที่เซนต์ทั้ง 12 ราศีสร้างขึ้น พวกนั้นใช้ชื่อของเขาหลังจากที่พยายามจะฆ่าเขา

<"ในท้ายที่สุด ทุกประเทศจะต้องได้รับพรจากเหล่าจักรราศี พวกเขาต้องก้าวไปสู่ระบอบประชาธิปไตย” การอภิปรายเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียกำลังดุเดือดขึ้น>

- โปรดไว้วางใจเราเหมือนที่คุณไว้วางใจลีกอน!

- พวกภัยพิบัติสามารถกำจัดได้โดยใช้พลังของจักรราศีเท่านั้น!

- ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของพวกคุณจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเหล่าจักรราศี! และพรของพวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น!

- ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของพวกคุณทุกคนจะนำพามนุษยชาติไปสู่ชัยชนะ!

ลีกอนยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม คนงี่เง่าพวกนี้ต้องการทำให้ประเทศต่างๆเป็นรัฐตามระบอบประชาธิปไตย 'พวกนั้นกำลังจะกลายเป็นเผด็จการมั้ยนะ'

ลีกอนไม่สนใจว่าพวกเขาจะขายของที่ควรจะป้องกันความชั่วร้ายนั้นมั้ยและเขาก็ไม่สนใจว่าพวกนั้นจะขายสกิลของตัวเองหรือไม่ แต่ปัญหาก็คือ...

“ไอ้พวกนี้ขายทุกอย่างที่ฉันคิดขึ้นมาเป็นของตัวเอง” สิ่งของที่พวกเขาให้ยืมนั่นแหละคือตัวปัญหา

<ฝาแฝดเจมิไนแห่งราศีเมถุนใช้สกิลของเขาเพื่อเคลียร์โซนสีเหลือง! มันประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม!>

<เครื่องรางของราศีเมษก็มีประสิทธิภาพมากในการต่อสู้กับพวกปีศาจ!>

เครื่องรางนั่นดูเหมือนกับสิ่งที่เขาทำขึ้นมา ลีกอนดูวิดีโอที่ลีโอหรือราศีสิงห์อ้างว่าเขามีเทคนิค แต่อย่างไรก็ตาม ลีกอนเป็นคนพัฒนามันขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นลีโอได้รับค่าภาคหลวงในการออกใบอนุญาตให้เทคนิคนี้อีกด้วย

“ไอ้โง่ไร้ยางอายเอ้ย” แน่นอนว่าเงินไม่ใช่เพียงเป้าหมายเดียว มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น “ทุกอย่างที่พวกนั้นทำขึ้นมาอาจจะเป็นการช่วยจักรราศีที่พวกนั้นรับใช้”

ค่าประสบการณ์และของบรรณาการที่เหล่าสาวกนำมาอาจจะเป็นสิ่งที่เพิ่มพลังให้กับจักรราศีของพวกเขา แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ลีกอนจะต้องยอมรับในตอนนี้

“อ่า! พวกนี้มันน่ารำคาญชะมัด”

ปั้ง!โป้ง!

ลีกอนยังคงปีศาจเหมือนกับว่าพวกมันเป็นแค่ยุง สถานการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญมากๆ เขารู้สึกเหมือนกำลังดูแมลงวันตอมผลไม้กำลังบินไปมา “แม่งเอ้ย! ทำไมพวกแกถึงออกมาเรื่อยๆไม่หยุดสักทีวะ”

“บ-บางทีอากาศไม่ดีอาจจะทำให้มันเป็นแบบนั้นก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มพยายามให้เหตุผล

ลีกอนเป็นผู้สร้างเครื่องมือที่เอาไว้ใช้สำหรับพวกปีศาจ มันจะเป็นประโยชน์สำหรับเขาถ้าเขามีส่วนผสมที่รวบรวมมันมาได้ด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม...

[คุณได้รับค่าประสบการณ์สักดิ์สิทธิ์]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์สักดิ์สิทธิ์]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์สักดิ์สิทธิ์]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์สักดิ์สิทธิ์]

[คุณได้รับ]

“อ่า! ใครจะไปสนใจไอ้ค่าประสบการณ์บ้านี่กันเล่า นี่ไม่ใช่เกมนะ ไอ้โง่เอ้ย!” ลีกอนปลดปล่อยความโกรธของเขาโดยการพูดออกมา ถ้าใครอยากทำอะไรก็ควรพูดแค่เพียงครั้งเดียวก็พอแล้ว นี่ยิ่งเป็นเรื่องจริงสุดๆเฉพาะอย่างยิ่งกับลีกอน ผู้ซึ่งที่ได้ยินเสียงดีกว่าคนอื่นๆ

[คุณได้รับค่า…]

“หุบปาก! ฉันไม่ได้อยากให้แกบอกฉันโว้ย!” ลีกอนตะโกน

ชายหนุ่มตกอยู่ในความงุนงงในขณะที่เขากำลังเฝ้าดูลีกอนที่ยังคงฆ่าปีศาจต่อไป หลังจากนั้นครู่หนึ่ง...

เสียงนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

[คุณต้องการค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อพัฒนาสกิลศักดิ์สิทธิ์ใหม่]

เสียงที่หดหู่ฟังดูมีความหวังราวกับว่ามันคาดหวังให้ลีกอนสนใจคำพูดของมัน

[คุณไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้วก่อนที่คุณจะพัฒนาสกิลใหม่]

อย่างไรก็ตาม ลีกอนไม่ได้สนใจมันมากนัก สิ่งที่สำคัญกว่ากำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

“คนส่งของ! นายสั่งไก่ทอดสองชุดมาแล้วใช่มั้ย​”

“ใช่ครับ” ลีกอนถือกล่องไก่และมุ่งหน้าไปยังห้องใดห้องหนึ่ง

เสียงกรอบของไก่ทอดดังขึ้น

“ฉันจะไปนอนตรงนั้นละกัน นายบอกว่านั่นเป็นเตียงเดียวที่มีอยู่ที่นี้สินะ” ลีกอนพูดกับชายหนุ่ม

ชายหนุ่มเริ่มตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าลีกอนกำลังมุ่งหน้าไป “ด-เดี๋ยวก่อนครับ!”

“อะไรเล่า”

“นั่นคือที่ที่เจ้าของที่นี่อาศัยอยู่น่ะครับ! ถ้าให้ดีผมว่าคุณอย่าเข้าไปตรงนั้นเลยนะครับ! มีสิ่งที่รบกวนคุณอยู่ในนั้นจริงๆนะครับ!”

ลีกอนหัวเราะออกมาอย่างมีไหวพริบ เขาวางแผนที่จะเดินทางไกลหลังจากพักผ่อนที่นี่สักสองสามวัน เขาจะกู้คืนไอเท็มที่เซนต์สิบสองราศีได้ขโมยไปจากเขา

“นี่มันโคตรน่ารำคาญชะมัดเลย” เขาไม่มีเงินเลย มันคงจะง่ายกว่าถ้าไอ้พวกนี้มาตามหาเขาเอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถบอกได้ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะนอนที่นี่ในเวลานี้ เขาเดินเข้ามาในห้อง

“ฮยอง!” ชายหนุ่มร้องออกมา

"ไม่เป็นไรน่า! ฉันเคยนอนข้างซากพวกปีศาจมาก่อน ไอเท็มที่นี่ไม่มีอะไรกวนใจฉันขนาดนั้นหรอก” ลีกอนรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร มันคงเป็นห้องของชายหนุ่มที่กำลังจะผ่านเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น นอกจากนี้ ลีกอนยังได้รู้ว่าเจ้าของห้องนี้เป็นสาวกระดับสูงที่หาเงินเก่งอีกด้วย สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดที่ลีกอนคิดว่าเขาน่าจะได้เจอก็น่าจะเป็นแค่ตุ๊กตาตัวเบิ้ม

อย่างไรก็ตามเมื่อลีกันเปิดไฟขึ้น เขาก็ต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

แม้แต่ลีกอนผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องค้างเมื่อเห็นห้องนี้ เขาบอกว่าเขานอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนบนเตียง แต่เขาก็เดินออกจากห้องนั้นไปอย่างเงียบๆจากนั้นเขาก็นอนลงบนพื้นห้องนั่งเล่นอย่างสงบ เขาบอกว่า “ฉันไม่ต้องการเตียงแล้วล่ะ เยสเซ่อ”

“อะไรกันครับ”

ลีกอนกำลังพูดความจริง

“ถึงฉันจะชอบไอ้พิพิธภัณฑ์นั่น แต่มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะ” ลีกอนเกือบรู้สึกว่าหัวใจของเขาจะหล่นลงไปที่ท้อง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายในห้องเต็มไปด้วยหุ่นจำลองของเขา และไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองชิ้นเท่านั้น

สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือเมื่ออยู่ใกล้กำแพง เขาก็เห็นหุ่นจำลองเหมือนจริงของเขากว่าสิบตัวจ้องมองกลับมาที่เขา หุ่นจำลองทุกตัวถูกจัดให้อยู่ในท่าโพสสุดเท่ สายตาที่มันจ้องมองมาทำให้ลีกอนรู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูก

‘ฉันไม่ได้ล่ำขนาดนั้นซะหน่อย!’ มันคงจะดีถ้าใบหน้าของหุ่นจำลองของเขาถูกทำให้ดูเหมือนมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นการจำลองใบหน้าและร่างกายเก่าของเขาที่มีแต่รอยแผลเป็นและร่างกายที่เสียหาย สายตาของพวกเขาช่างน่ากลัวยิ่งนัก

‘ทำไมพวกเขาถึงแก้ผ้าล่ะ! คิดว่าเป็นนิทรรศการ Body Worlds รึไง’

ชายหนุ่มหัวเราะด้วยความเขินอาย “หุ่นพวกนี้เป็นเครื่องรางที่ใช้เพื่อป้องกันภัยพิบัติในบ้านน่ะครับ ปกติผู้คนจะได้รับหุ่นจำลองของเซนต์สิบสองจักรราศีมา แต่ยังไงก็เถอะครับ พี่ชายแล้วก็น้องสาวในบ้านหลังนี้เป็นแฟนตัวยงของลีกอนเลยล่ะครับ ที่ตุ๊กตามันโป๊ก็เพราะชุดเกราะที่สั่งยังไม่มาน่ะครับ แต่รอยแผลเป็นดูสมจริงมากเลยนะครับ ผมไม่อยากให้คุณเข้าไปเห็นเพราะมันน่ากลัวน่ะครับ”

ลีกอนเห็นด้วยกับชายหนุ่ม ตุ๊กตาพวกนั้นดูน่ากลัวมาก แน่นอนลีกอนไม่ได้ออกมาจากห้องด้วยเหตุผลแค่นั้น โต๊ะทำงานของห้องนั้นก็ยังมีตุ๊กตาลีกอนอยู่ กำแพงก็เต็มไปด้วยรูปภาพและบทความที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับช่วงชีวิตของลีกอนตามลำดับเวลา บอกได้เลยว่ามีความพยายามจริงๆที่รวบรวมข้อมูลมาได้ขนาดนั้น

แน่นอนเลยล่ะว่าเจ้าของห้องนี้คือแฟนบอยหรือแฟนเกิร์ลตัวจริงของเขาเลย แม้ว่าลีกอนจะมีความกังวลใจ แต่เขาไม่สามารถนอนในห้องนั้นได้จริงๆ

‘รูปถ่ายพวกนั้นถูกตัดต่อมากเกินไปแล้ว! ทำไมตาฉันถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ช่างทำโปสเตอร์ที่น่ารังเกียจพวกนั้นน่าจะทำให้ตากับกล้ามเนื้อฉันดูดีขึ้นกว่านี้หน่อยเส้!

ในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน จู่ๆก็...

“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!?”

มีคนเข้ามาในบ้านและกำลังโมโห

* * *

ในขณะนั้นเอง ณ ที่อื่น...

“อะไรนะ สิ่งปลูกสร้างในเกาหลีหายไปแล้วงั้นหรอ”

หยางเว่ยแห่งประเทศจีนเป็นหนึ่งในสิบสองจักรราศีชื่อ <แกะขาว> เขาอยู่ภายใต้ราศีเมษของขนแกะทองคำ

เมื่อเขาได้รับข่าวที่ไม่คาดคิด สีหน้าของเขาก็กลายเป็นเคร่งขรึม “นี่ พวกเขาเอะอะโวยวายว่าลีกอนจะกลับมาที่เกาหลีหรอ”

“ใช่ครับ!’

“ตอนนี้สิ่งปลูกสร้างของเราในประเทศนั้นหายไปหมดแล้วงั้นหรอ” หยางเว่ยถาม

“ใช่ครับ สาขาที่เกาหลีของเราก็ประหลาดใจกับการพัฒนาเหมือนกันครับ ดูเหมือนว่าเราจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้นะครับ”

หยางเว่ยหยุดนวดหลังคอของเขา ในยุคนี้อารยธรรมที่ไม่ทราบชื่อได้ขโมยดินแดนอันกว้างใหญ่ไปจากมนุษยชาติ ด้วยเหตุนี้แผนที่โลกจึงเปลี่ยนไปจากในอดีต และพรมแดนของประเทศต่างๆก็เริ่มสูญเสียไป

แทนที่จะเป็นประเทศเอกราช ทุกคนก็ต่างย้ายตามพันธมิตรของตน แทนที่จะมีเส้นเขตแดนบนแผนที่ มันก็ถูกด้วยโดมที่ถูกทำเครื่องหมายกั้นขอบเขต บาเรียป้องกันเหล่านี้หยุดการบุกรุกของพวกปีศาจ ในยุคนี้พวกเขาต้องปกป้องอารยธรรมมนุษย์ด้วยตัวเอง

“พระเจ้า! สิ่งปลุกสร้างนั่นไม่ใช่ส่วนรับผิดชอบในการรักษาโดมใช่มั้ย”

“สิ่งปลูกสร้างพวกนั้นบางอันหายไปแล้วหรอ?”

หยางเว่ยส่งเสียงคร่ำครวญเล็กน้อยเมื่อได้ยินความไม่สงบในหมู่สาวก ข่าวเกี่ยวกับลีกอนทำให้ช่วงเวลาเช้าของเขาดูแย่ และตอนนี้เขาต้องรับมือกับข่าวเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างอีก

“ให้มันได้พักผ่อนบ้างเถอะ” แน่นอนข่าวนั้นน่าตกใจ

สิ่งปลูกสร้างแปดสิบแปดเป็นกองทัพเงาที่เป็นของพวกจักรราศีมีเพียงจักรราศีเท่านั้นที่สามารถสั่งพวกมันได้ โดยปกติแล้ว สิ่งปลูกสร้างพวกนั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือธรรมชาติ แน่นอนว่าจักรราศีและนักสร้างต่างก็เป็นชาวราศีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม พวกสิ่งปลูกสร้างมักจะดูถูกมนุษย์ แต่สิ่งมีชีวิตพวกนั้นวิ่งหายไปงั้นหรอ

“ทำไม ใครเป็นต้นเหตุ”

“หนึ่งในราศีอื่นๆอาจเป็นคนทำงั้นหรอ”

ก่อนที่จะร่วมมือกันในฐานะสหาย เซนต์ทั้ง 12 จักรราศีเคยโจมตีค่าประสบการณ์ของกันและกัน พวกเขาก็พยายามแก่งแย่งสาวกจากกันและกันและใช้ค่าประสบการณ์ที่รวบรวมจากสาวกเพื่อเพิ่มพลังของจักรราศีของตัวเอง พวกเขาเป็นศัตรูกัน แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นธรรมดาที่พวกเขาโจมตีกันแต่ว่า...

“สิ่งปลูกสร้างพวกนี้ไม่เคยหนีไปไหนมาก่อน” หยางเว่ยเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ “เราล้มเหลวในการเคลียร์เรดโซนแล้วตอนนี้ยังมีเรื่องนี้อีก...”

อันที่จริง มีการบุกโจมตีโซนสีแดงอย่างไม่เป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับ เซนต์สิบสองราศีหลายคนเข้าร่วมการโจมตีครั้งนี้ ทุกคนมีความมั่นใจแต่ก็ล้มเหลวอีกตามเคย หากเรื่องนี้หลุดออกมา พวกสื่อมวลชนก็จะมารุมพวกเขาเหมือนมด ยิ่งไปกว่านั้นหวางเว่ยยังจินตนาการได้ถึงสิ่งที่พวกนักข่าวจะพูดอีกด้วย

- คุณต้องการลีกอนนะครับ!

แน่นอน วลีนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามในหมู่เซนต์สิบสองราศี แม้หลังจากผ่านไปยี่สิบปี หยางเว่ยก็ยังคิด “ไอ้เวรเอ้ย! ก็เราคิดว่าเราจะฆ่าพวกปีศาจที่ไอ้เจ้าลีกอนเคยฆ่าไปได้หนิวะ”

“งั้นไม่เป็นไร แล้วเกิดอะไรขึ้นที่นั่นก่อนที่พวกสิ่งปลูกสร้างของเราจะหายไป” เขาถามราวกับว่าจะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก สิ่งก่อสร้างได้หายไปในพื้นที่ใกล้กับหอคอยปีศาจ แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้หยางเว่ยเริ่มรำคาญ

“ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากครับ แต่สาวกจากวิหารราศีเมถุนถูกปล้นกลางถนนแถวนั้นครับ”

ใจของหยางเว่ยก็ตกไปอยู่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของลูกน้อง “ขโมยงั้นหรอ ใครเป็นคนขโมย ใช่ชายวัยกลางคนมั้ย”

"ไม่ใช่ครับ! เขาดูเหมือนเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายครับ เขาอาจจะเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยด้วยก็ได้ครับ”

หยางเหว่ยก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น 'มันไม่ใช่เจ้าลีกอน'

“เห็นมั้ย ราศีของเราดีกว่าราศีอื่นๆ เงินคือสุดยอด”

หยางเว่ยเหลือบมองที่โทรศัพท์มือถือของเขา มีข้อความเข้ามาเรื่อยๆ

[เซนต์ราศีธนูยังคงไม่สนใจในความพยายามของเราที่จะติดต่อเขา]

[มันก็เป็นอย่างที่คิด นี่มันก็ตั้งยี่สิบปีแล้ว ทำไมเจ้านั่นถึงไม่ทักทายเราด้วยความเต็มใจสักทีนะ]

[แล้วถ้าเจ้านั่นอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ของลีกอนล่ะ]

[ฉันสงสัยในตัวมัน เจ้านั่นรับสัญญาจ้างงานให้กับอังกฤษ ทำไมเจ้านั่นถึงทำให้เกิดความวุ่นวายในเกาหลีได้]

หยางเหว่ยก็ขมวดคิ้ว เกาหลีถือเป็นอาณานิคมที่มีความสัมพันธ์กับเซนต์หลายคน พวกเซนต์ต่อสู้กันเองเพื่อแย่งกันบริหารเมืองต่างๆ

“เราควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับท่าน” ลูกน้องถาม

“เตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้ฉัน” หยางเหว่ยสั่งเขา

ลูกน้องของเขาประหลาดใจ “คุณไม่ต้องการเรียกใช้การเทเลพอร์ตหรอครับ”

“ทำไมฉันต้องทำอะไรบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับเซนต์คนอื่นด้วยล่ะ นายรู้มั้ยว่ายัยแม่มดนั่นคิดค่าเทเลพอร์ตเท่าไหร่” หยางเหว่ยกล่าว

“ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะกลับไปที่เกาหลี คุณมักจะหลีกเลี่ยงการไปที่นั่นเสมอ”

“นี่ล้อเล่นหรอ นายรู้ไหมว่านี่เราอยู่ในสถานการณ์อะไร สิ่งปลูกสร้างของเราหายไปแล้วนะ” หยางเว่ยพูดอย่างโกรธเคือง “แล้วเรื่องลีกอนล่ะครับ” ใช่ “ฉันจะไปเกาหลี มันไม่ใช่ความคิดที่แย่เลยหนิ”

โดยปกติหยองเว่ยเกลียดการไปเกาหลีมากเพราะว่าลีกอน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้คิดอะไรในขณะนั้น “เขาไม่อยู่ที่เกาหลีแล้ว” ไม่มีอะไรเสียตอนนี้

แน่นอนว่าหยางเว่ยไม่รู้ว่าใครกำลังรอเขาอยู่ที่เกาหลี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด