ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 79 ภาพวาดของปรมาจารย์กู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 81 คะแนนเต็ม

MDB ตอนที่ 80 ความจริงเปิดเผย


กำลังโหลดไฟล์

ผู้ประเมินระดับสาม คน ๆ นี้เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในโลกของผู้ประเมินสัตว์วิเศษ

แม้แต่สมาคมประเมินสัตว์วิเศษของเมืองเมเปิ้ลก็ไม่มีผู้ประเมินที่มีตำแหน่งสูงเช่นนี้

หลินจินทำความเคารพทันทีในฐานะผู้ประเมินรุ่นเยาว์ “ข้าน้อยขอคารวะ ท่านผู้อาวุโสตัน!”

ตันซุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ยิ่งเขาพูดคุยกับชายหนุ่มมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเริ่มชื่นชมหลินจินมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าเขาจะอายุน้อยแต่เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมและไม่หยิ่งผยองเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น หลินจินก็สังเกตเห็นภาพวาด เขาเข้าไปทันทีและเมื่อตรวจดูอย่างใกล้ชิด เขาอุทานว่า “นี่ไม่ใช่ภาพวาดที่ข้าทำหายไปไม่ใช่หรือ? ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่?”

คำอธิบายก่อนหน้านี้ของกู่เมียงจงได้รับการยืนยันทันที

นี่เป็นภาพวาดที่เขามอบให้หลินจิน

แล้วภาพวาดของหลินจินมาถึงมือท่านเจ้าเมืองและถูกมอบให้ตันซุนเป็นของขวัญได้อย่างไร?

นี่คือสิ่งที่ฝูงชนต้องการรู้

เนื่องจากเป็นของขวัญจากหวังจีที่ให้กับเจ้าเมือง มันจึงเป็นคำถามของเขาที่จะต้องตอบ

ดังนั้นตันซุนจึงหันไปหาหวังจีและถามว่า "หัวหน้าหวัง ท่านจะอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไร?"

หวังจีเปียกโชกไปด้วยเหงื่อในตอนนี้ เขาพูดได้เพียงว่า “บางทีผู้ประเมินหลินอาจเผลอทิ้งมันไว้โดยไม่ได้ตั้งใจและภาพวาดก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นของขวัญ”

“สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผล เราไม่สามารถหยิบภาพวาดขึ้นมาโดยบังเอิญและคิดว่ามันเป็นของขวัญได้ หัวหน้าหวังมีอะไรปิดบังพวกเราอยู่หรือเปล่า?” กู่เมียงจงจ้องไปที่หวังจีแสดงความสงสัยเกี่ยวกับคำตอบของเขา

“ไม่ ข้าหมายถึง…ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันอาจเป็นลูกน้องของข้าที่เตรียมของขวัญมาให้ ข้าเลยสับสน” หวังจีทำได้แค่พยายามแก้ตัวทั้ง ๆ ที่สีหน้าซีดเผือก

จากนั้น คำพูดฉับพลันของหลินจินก็เจาะผ่านตัวของหวังจีทันที

“นั่นอาจเป็นความจริง คืนนั้น ข้าเหนื่อยมากหลังจากประเมินไข่กลายพันธุ์กลุ่มนั้นจนข้าผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อข้าตื่นขึ้น ภาพวาดก็หายไปแล้ว ค่อนข้างเป็นไปได้ที่ภาพวาดนั้นถูกลูกน้องของท่านนำออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นอย่าโทษหัวหน้าหวังสำหรับเรื่องนี้เลย ตัวเขาเองก็คงไม่รู้เหมือนกัน”

‘ฉิบหายแล้ว!’

ราวกับว่าเขาถูกเปลื้องผ้าในทันที หวังจีรู้สึกมีลมพัดมากระทบกระดูกสันหลังของเขา

ในที่สุด ความลับก็ได้ถูกเปิดเผยแล้ว!

“ไข่กลายพันธุ์?” ตันซุนขมวดคิ้ว ราวกับว่าเขาจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาถามทันที “ผู้ประเมินหลิน เจ้ากำลังพูดถึงไข่กลายพันธุ์ที่ท่านเจ้าเมืองส่งมาให้ที่นี่ถูกประเมินโดยเจ้าอย่างงั้นหรือ?”

หลินจินพยักหน้า "ใช่ ข้ารู้มาว่าพวกมันส่งมาจากคฤหาสน์เจ้าเมือง ถ้าข้าจำไม่ผิด พวกมันมีทั้งหมดสิบเอ็ดฟอง”

“เจ้าประเมินพวกมันทั้งหมดเพียงคนเดียวอย่างงั้นหรือ?” ตันซุนยังคงถามต่อไป

หลินจินตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “มีรายงานการประเมินสองฉบับได้จัดทำขึ้นโดยหัวหน้าหวังและผู้ประเมินเกา ดังนั้นข้าจึงเขียนรายงานอีกเก้าฉบับ”

ตันซุนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอนนี้เขามีความคิดคร่าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้ เขาส่งสายตาดุร้ายใส่หวังจีและคนหลังก็ก้มหน้าลงต่ำแล้วมือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ไม่ใช่เพราะหวังจีอ่อนแอต่อแรงกดดันแต่การคัดลอกรายงาน มันเป็นเรื่องใหญ่เกินไปสำหรับผู้ประเมินและที่เลวร้ายกว่านั้น เขาไม่เพียงแต่เขาคัดลอกรางงานของหลินจินเท่านั้น แต่เขายังทำลายรายงานการประเมินของชายหนุ่มด้วยเพื่อพยายามลบหลักฐานไปอีกด้วย

หวังจีตัดสินใจทันทีว่าเขาจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตันซุนไม่ได้ถามเขาแต่หันไปหาหลินจินแทน

“ผู้ประเมินหลิน ข้าเพิ่งประเมินไข่กลายพันธุ์เหล่านั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงคุ้นเคยกับพวกมันมาก เนื่องจากเจ้าบอกว่าเจ้าได้ประเมินพวกมันด้วยตัวเอง เจ้าต้องจำรายละเอียดบางอย่างได้ ข้ายังไม่ได้ดูรายงานการประเมินของเจ้าเลย ดังนั้น ข้าขอถามเจ้าได้หรือไม่ว่าไข่กลายพันธุ์สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ลวดลายบนไข่นั้นเหมือนแหวนทอง…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลินจินก็ขัดจังหวะ “ข้าจำได้ ไข่กลายพันธุ์ใบนั้นเป็นของตั๊กแตนตำข้าวคมวายุ คุณสมบัติธาตุทอง ข้าได้เขียนรางงานลงไปว่าคือ…”

หลินจินพูดจาฉะฉานเกี่ยวกับทฤษฎีการประเมินและพื้นฐานของเขาอย่างละเอียด เขานำข้อมูลนี้มาจาก 'สำเนา' ของการประเมินในพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษและมันเป็นไปไม่ได้ที่หลินจินจะลืม แม้ว่าเขาจะพยายามก็ตาม เขาแค่ต้องท่องมันออกมาเหมือนเดิมเท่านั้น

ตาของหวังจีเกือบจะโผล่ออกมาจากเบ้าตา หลินจินเป็นผีหรืออย่างไร? เขาจำทุกอย่างได้อย่างไร? และแทบจะเป็นคำต่อคำเลยด้วยซ้ำ

ตันซุน, ตันหลินและผู้ประเมินคนอื่น ๆ ได้ฟังอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าที่ตื่นตะลึง บางครั้งดวงตาของพวกเขาจะสว่างขึ้นหรือบางครั้งพวกเขาจะขมวดคิ้วในความคิดลึก ๆ หรือพวกเขาจะเงยขึ้นเพื่อรับฟัง

ทุกคนต่างจดจ่อกับการบรรยายอย่างกะทันหันของหลินจิน

เมื่อหลินจินจบการอธิบาย ฝูงชนก็ยังดูเหมือนว่าต้องการการบรรยายอีก

โดยเฉพาะตันหลินกำลังจ้องมองหลินจินราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด ในฐานะผู้ประเมินระดับสอง เธอคิดว่าตัวเธอเองมีความโดดเด่นมากพอและสามารถจัดเป็นหนึ่งในห้าผู้ประเมินที่อายุต่ำกว่า 30 ปีในเมืองมังกรหยก

แต่วันนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอถูกหลินจินบดขยี้ความภาคภูมิใจนั้นไปจนหมดสิ้น

เมื่อพิจารณาจากทฤษฎีการประเมินไข่กลายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเธอจะมีหนังสืออ้างอิงอยู่หลายเล่ม ตันหลินก็รู้ว่าเธอคงไม่สามารถหาที่มาของไข่ได้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ดึงเอาด้านการแข่งขันของเธอออกมา

ในแง่ของอายุ เธอคล้ายกับหลินจินแต่ในแง่ของประสบการณ์และภูมิหลัง การมีผู้ประเมินระดับสามเป็นพ่อของเธอเพื่อให้คำแนะนำ ในตอนแรก ตันหลินรู้สึกว่าเธอจะไม่แพ้หลินจิน

เมื่อได้ยินทฤษฎีของหลินจนิ ตอนนี้เธอรู้ว่าเธอยังมีอีกมากที่ต้องเรียนรู้ก่อนที่จะไปถึงระดับเดียวกับหลินจิน

จนถึงตอนนี้ ตันซุนได้ยืนยันความสงสัยของเขาแล้ว แม้จะเคยเห็นทฤษฎีที่หลินจินอธิบายอย่างละเอียดในรายงานการประเมินของหวังจีซึ่งเนื้อหาของในมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ข้อโต้แย้งส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน

“หลินจิน ข้าขอถามเจ้าอีกอย่าง เจ้าจำไข่ที่ใหญ่ที่สุดได้หรือไม่? เจ้าประเมินมันอย่างไร?” ตันซุนยังคงถามคำถามต่อไป

หลินจินพยักหน้า “ข้าจำเรื่องนั้นได้ ไทแรนโนซอรัสเพลิงที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ สิ่งที่ข้าเขียนในรายงานการประเมินคือ…”

หลินจินอธิบายเนื้อหาของรายงานอันยาวเหยียดอีกครั้ง

ในระหว่างนั้นมีบางคนเริ่มบันทึกรายละเอียดที่สำคัญราวกับว่าพวกเขากำลังเข้าร่วมการบรรยาย

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลายคนก็ทำตามพวกเขาอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่ผ่านไปมาที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาอาจจะคิดว่ามีการบรรยายแบบเปิดเกิดขึ้นที่นี่

ตันซุนพยักหน้าเห็นด้วยในขณะที่ฟังหลินจิน ในฐานะผู้ประเมินระดับสาม หากเขายังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์นี้ ประสบการณ์ทั้งหมดของเขาอาจถือว่าสูญเปล่า

“เอาล่ะ ผู้ประเมินหลิน หยุดพูดได้แล้ว” ตันซุนไม่ได้ถามคำถามอีกต่อไปเพราะมันไม่จำเป็น

เขาหันไปมองหวังจีและถามว่า “หัวหน้าหวัง ข้าขอถามท่านว่า ผู้ประเมินหลินเกี่ยวข้องกับการประเมินไข่กลายพันธุ์พวกนั้นหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดรายงานการประเมินจึงมีเพียงลายมือชื่อของท่านเท่านั้น!”

หนังศีรษะของหวังจีชา เขากำลังมึนงงในขณะที่เขาก้มหน้าลงอย่างเงียบ ๆ

ตันซุนมุ่งความสนใจไปที่เกาเจียงและถามว่า “เจ้าคือผู้ประเมินเกาใช่หรือไม่?”

เกาเจียงตกใจพยักหน้าทันที “ใช่ขอรับ ท่านผู้เฒ่าตัน ข้ามีชื่อว่าเกาเจียง”

“ข้าขอถามเจ้า เจ้ารู้เห็นเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?” ตันซุนถามด้วยสีหน้าดำมืด

เกาเจียงกำลังร้องไห้อยู่ข้างใน ในขณะที่หวังจีสามารถต้านทานได้โดยการนิ่งเงียบ เขาไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้น เกาเจียงจึงทำได้ตอบคำถามไปเท่านั้น

“ข้ารู้เรื่องนี้ด้วยขอรับ”

“ผู้ประเมินหลินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินนี้หรือไม่?”

“ใช่ขอรับ แต่หัวหน้าหวังเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่าง”

“แค่นี้ก็พอแล้ว!”

เพื่อระงับความโกรธ ตันซุนตะโกนใส่หวังจีว่า “หวังจี เจ้ารู้ไหมว่าความผิดของเจ้าอยู่ที่ไหน!?”

ในฐานะผู้ประเมิน การคัดลอกรายงานการประเมินของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

การนำความรู้ของผู้อื่นเป็นความรู้ของตนเองและประกาศต่อสาธารณชนว่าทั้งหมดเป็นงานของเขาเพียงผู้เดียว

นั่นคือบาปที่หวังจีได้กระทำลงไป

“ในรายงานการประเมินทั้ง 11 ฉบับนั้น ข้าไม่เห็นรายงานที่มีชื่อหลินจินเลยสักฉบับ ในฐานะหัวหน้า เจ้าคัดลอกรายงานการประเมินของเขาและรับความดีความชอบแต่เพียงผู้เดียว เจ้าไม่ละอายใจตัวเองบ้างเลยหรือไง?” ตันซุนฟาดด้วยความโกรธเมื่อความประพฤติของหวังจีข้ามเส้นเกินไป

ใบหน้าสีขาวเถ้าของหวังจีถูกปกคลุมด้วยชั้นเหงื่อเย็น เขารู้ว่าความน่าเชื่อถือของเขากำลังลดน้อยลงไป

ในที่สุดฝูงชนก็ตระหนักได้

“ถ้างั้นผู้ประเมินหลินจึงเป็นผู้ประเมินไข่กลายพันธุ์เหล่านั้นสินะ!”

“หัวหน้าหวังทั้งกดขี่ผู้ประเมินหลินจินแล้วยังคัดลอกรายงานและขโมยความดีความชอบไปด้วย! ช่างน่าขยะแขยงยิ่งนัก!”

“เมื่อคิดว่าผู้ประเมินหลินได้รับความทุกข์ทรมานจากความคับข้องใจดังกล่าวแล้ว ข้าก็คงรับมันไม่ไหวแน่นอน แล้วก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินข่าวลือของเขาด้วยเช่นกัน ข้าคิดว่าเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งที่เขาได้รับ แต่ตอนนี้เมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว ข้าละอายใจตัวเองจริง ๆ!”

“ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว มันเป็นเพราะหวังจีที่กดขี่และใส่ร้ายหลินจินมาตลอด!”

ตันซุนหันไปหาตันหลินและถามว่า “หลินเอ๋อร์ ลูกยังเป็นผู้ตรวจการที่ส่งมาจากสำนักงานใหญ่ใช่หรือไม่ ตามกฎของสำนักงานใหญ่ ลูกจะจัดการสถานการณ์นี้อย่างไร?”

ตันหลินตอบด้วยใบหน้าจริงจัง “ตามกฎของสำนักงานใหญ่ การลอกเลียนแบบรายงานของผู้อื่นเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ หัวหน้าหวังยังใช้อำนาจในทางที่ผิดด้วยการกดขี่ผู้ใต้บังคับบัญชาและแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ข้าคิดว่าเขาไม่เหมาะที่จะทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าสมาคมประเมินสัตว์วิเศษของเมืองเมเปิ้ลอีกต่อไป

ในฐานะผู้ตรวจการสำนักงานใหญ่ ข้าต้องเพิกถอนหวังจีจากตำแหน่งหัวหน้าโดยมีผลทันที สำหรับคุณสมบัติของเขาในฐานะผู้ประเมินระดับสอง ข้าจะรายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่และพวกเขาจะดำเนินการเพิกถอนตำแหน่งของเขาให้เร็วที่สุด!”

เมื่อกล่าวจบ ตันหลินหยิบเครื่องรางสื่อสารออกมา เธอเขียนการตัดสินใจของเธอ จากนั้นเธอร่ายคาถา เครื่องรางกระจายกลายเป็นแสงทองและหายไปในท้องฟ้าเบื้องบน

เมื่อหวังจีเห็นเช่นนั้น เขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ดวงตาของเขาเหลือกขึ้นทันที แล้วชายชราก็เป็นลมไปในที่สุด

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด