ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 77 พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 79 ภาพวาดของปรมาจารย์กู่

MDB ตอนที่ 78 สู้กันอย่างดุเดือด


กำลังโหลดไฟล์

ตันหลินก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพกู่เมียงจง

“อาจารย์กู่เกี่ยวกับผู้ประเมินระดับหนึ่งที่ท่านกล่าวถึง ท่านกำลังหมายถึงหลินจินใช่หรือไม่?” เธอถามคำถามที่ทุกคนต่างอยากรู้

ดวงตาของตันซุนเป็นประกายและมองไปที่กู่เมียงจง

กู่เมียงจงไม่ได้พยายามซ่อนมันเช่นกัน เขามาที่นี่โดยมีจุดประสงค์ในการสนับสนุนหลินจิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขาได้ข่าวจากเหลียวกู่ว่าห้องโถงประเมินของหลินจินถูกปิด นั่นทำให้เขาโกรธมาก ด้วยเหตุนั้น เขาจึงเดินทางมาที่นี่ในวันนี้

"ถูกต้อง ข้ากำลังพูดถึงหลินจิน ข้าได้รู้จักกับเขาเมื่อสองสามวันก่อน ข้ารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าเมืองเมเปิ้ลแห่งนี้มีชายหนุ่มที่น่าทึ่งเช่นเขาด้วย แม้ว่าเขาจะอายุน้อยแต่ความเชี่ยวชาญในการประเมินสัตว์วิเศษของเขาช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความสงสัยของฝูงชนก็ได้รับการยืนยัน

“เป็นผู้ประเมินหลินจริง ๆ ด้วย!”

"ช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก แม้แต่ผู้ประเมินตันก็ไม่สามารถหาวิธีทำพันธสัญญาโลหิตกับอสูรน้ำหมึกได้แต่หลินจินกลับทำได้ เขาเป็นแค่ผู้ประเมินระดับหนึ่งจริง ๆ หรือ?”

“พวกเราช่างโชคดีที่ได้มาเป็นสักขีพยานในเรื่องนี้ ทางสมาคมประเมินสัตว์วิเศษนี้เรียกผู้ประเมินหลินว่าขยะไร้ค่า ตอนนี้เรามาดูกันว่าพวกเขาจะจัดการกับเรื่องนี้กันอย่างไร?”

คนที่หวาดกลัวที่สุดในกลุ่มคือจางเฮอ

เพราะเขาพูดถึงหลินจินได้แย่ที่สุดในช่วงเวลานี้ ตอนนี้ชื่อเสียงของหลินจินเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงทำให้เขาเริ่มกลัว

ราวกับว่าเขากลืนแมลงวันเข้าไป หวังจีก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการป้ายสีและกดขี่หลินจินตลอดมาแต่ความไร้ยางอายของชายชราผู้นี้กลับไม่มีขอบเขต

“ใครจะรู้ว่าหลินจินของเราเป็นอัจฉริยะ ในฐานะหัวหน้า ข้าไม่ค่อยสนใจเขามากพอ ต่อจากนี้ไปข้าควรเผื่อเวลาไว้เพื่อสนใจเขามากกว่านี้ สำหรับคนในสมาคมของเราที่ไม่มีทักษะ มีบุคลิกที่น่ารังเกียจและอิจฉาความสำเร็จของคนอื่นจนสร้างข่าวลืออันเป็นเท็จ ข้า หวังจี ขอสาบานอย่างจริงจังว่าจะสอบสวนเรื่องนี้ให้ละเอียดและสอนบทเรียนแก่ผู้มุ่งร้ายเหล่านี้”

เมื่อพูดจบ หวังจีก็เหลือบมองไปด้านข้างที่จางเฮอ

'ไอ้แก่ มองข้าหาอะไร!?'

ในใจของจางเฮอได้แต่สาปแช่งบรรพบุรุษของหวังจีด้วยความโกรธและความคับข้องใจ

ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาให้ชัดเจน หวังจีกำลังวางแผนที่จะโยนความผิดทั้งหมดให้เขา เขาทำได้แค่จินตนาการว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหนสำหรับเขา หวังจีอาจจะไล่เขาออกจากสมาคมเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น จางเฮอยังสับสน เมื่อเขาเข้าร่วมเป็นลูกศิษย์ของหลินจิน ในตอนนั้น คนหลังเป็นเพียงผู้ประเมินทั่วไปเท่านั้น

หลินจินจงใจซ่อนความสามารถของเขาไว้งั้นหรือ?

นั่นอาจเป็นไปได้!

จางเฮอรู้สึกเสียใจ หากเขารู้ว่าหลินจินช่างน่าเหลือเชื่อขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันเปลี่ยนใจขอยกเลิกเป็นศิษย์กับเขาและไปเข้าร่วมกับผู้ประเมินคนอื่น

“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องจัดการนชั่วร้ายในสมาคม นอกจากนี้ ข้าได้ยินมาว่าข่าวลือเหล่านี้เกี่ยวข้องกับจางเฮอ เนื่องจากเรื่องนี้ทำลายชื่อเสียงของเราค่อนข้างมาก ข้าขอแนะนำว่าเราควรลงโทษเขาอย่างเด็ดขาด” หนานกงเซียนกล่าวเสริม

เขาสามารถอ่านบรรยากาศได้ดี เนื่องจากมีอาจารย์กู่อยู่รอบ ๆ หากทางสมาคมไม่ดำเนินการใด ๆ ตันซุนและตันหลินไม่อาจมองข้ามเรื่องของพวกเขาไปและพวกเขาต้องโดนลงโทษแน่นอน

เนื่องจากเป็นกรณีนี้ พวกเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อเอาตัวรอด

เมื่ออ่านระหว่างบรรทัด หวังจีก็เข้าใจในทันที ดังนั้นเขาจึงดูเคร่งขรึมทันทีและกล่าวว่า

“ผู้เฒ่าหนานพูดถูกจางเฮอได้พยายามที่จะหว่านความบาดหมางและว่าร้ายผู้อื่นโดยเจตนา ในฐานะหัวหน้าสมาคม ข้าขอเพิกถอนคุณสมบัติในการเป็นผู้ประเมินฝึกหัดของเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมประเมินสัตว์วิเศษของเราอีก”

จางเฮอเสียการทรงตัวชั่วครู่และเกือบจะเป็นลม

พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาต้องใช้เวลากี่ปีกว่าที่เขาจะกลายเป็นผู้ประเมินและในที่สุดเขาก็บรรลุผล เขากลับถูกหวังจีขับไล่อย่างไร้ความปรานี

นี่เทียบเท่ากับการทำลายอาชีพผู้ประเมินของเขา

ความเกลียดชังผุดขึ้นในหัวใจของเขาทันที

ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนจิตใจดี หากเขาเป็นคนซื่อสัตย์อย่างแท้จริง จางเฮอจะไม่ 'ทรยศ' หลินจินตั้งแต่แรกและแทงข้างหลังหลินจินทุกครั้งที่มีโอกาส หลังจากออกจากการเป็นลูกศิษย์ของหลินจินไปแล้ว

เนื่องจากเขาสามารถทรยศหลินจินได้ในตอนนั้น วันนี้เขาสามารถทรยศหวังจีได้เช่นกัน

เมื่อเห็นว่าความผิดทั้งหมดถูกโยนมาที่เขาและตัวตนของเขาในฐานะผู้ประเมินถูกพรากไป จางเฮอไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

“หวังจี แกพยายามจะกำจัดข้าอย่างงั้นหรือ ตอนนี้ข้าไม่มีประโยชน์สำหรับแกอีกต่อไปแล้วสินะ!? ได้ ข้า จางเฮอผู้รับใช้แกเยี่ยงสุนัขและช่วยแกด้วยการวิธีการที่ชั่วร้ายมากมาย ถึงกระนั้นแกก็ไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจให้ข้าเลยแม้แต่น้อย ถ้าแกต้องการไล่ข้าออกไปและทำลายอนาคตของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้แกอยู่อย่างสุขสบายเช่นกัน ในเรื่องของการกดขี่ข่มแหงหลินจิน แกคือผู้บงการตัวจริงเพื่อประโยชน์ของนังผู้หญิงคนนั้น เจียเฉียน แกอยากจะไล่หลินจินออกไปเพื่อที่แกจะได้แนะนำเธอมาแทน จากนั้นแกสมคบคิดร่วมกับหนานกงเซียน…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ จางงเฮอถูกสัตว์วิเศษล้มทับและหมดสติไป

เห็นได้ชัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของหวังจี

การกล่าวหาของจางเฮอในที่สาธารณะนั้น มันคล้ายกับการเผาหวังจีด้วยไฟ หวังจีจะทนต่อไปได้อย่างไร?

“จางเฮอคนนี้ชั่วร้ายและผิดศีลธรรมอย่างแท้จริง เขาไม่เพียงแต่หมิ่นประมาทผู้ประเมินหลินเท่านั้น แต่เขายังพยายามทำเช่นเดียวกันกับผู้เฒ่าหนานและข้าอีกด้วย

เขาพยายามใส่ร้ายผู้เฒ่าหนานกับข้า ในฐานะหัวหน้าสมาคม ข้ารู้สึกละอายใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถให้การศึกษาแก่ลูกศิษย์ของข้าได้อย่างถูกต้อง” หวังจีพูดคำที่คิดทบทวนตนเองในขณะที่ดูเศร้าโศกและโกรธเคือง

แม้ว่าเขาจะพยายามล้มล้างความคิดเห็นของสาธารณชนเกี่ยวกับตัวเขาเอง

หวังจีคนนี้อาจไม่ไร้เดียงสามากไปกว่าจางเฮอ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขามีสถานะและตำแหน่งในฐานะหัวหน้าสมาคม ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชื่อเสียงของสมาคมอันเนื่องมาจากความดื้อรั้นไม่เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อตำแหน่งของหวังจี

ตันซุนรู้เรื่องนี้และลูกสาวของเขาก็เช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตันซุน เขายังคงประทับใจหวังจีอย่างน้อยคนหลังก็ประสบความสำเร็จในอาชีพการประเมินสัตว์วิเศษของเขา ดูได้จากรายงานการประเมินที่เขาสร้างขึ้นสำหรับไข่กลายพันธุ์ของท่านเจ้าเมือง

ดังนั้น ตันซุนไม่ต้องการให้เรื่องนี้บานปลายอีกต่อไป เขาไม่ต้องการที่จะเห็นความวุ่นวายในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะยุติเหตุการณ์นี้โดยเร็วที่สุด

“หัวหน้าหวัง ในฐานะหัวหน้าสมาคม มันเป็นความจริงที่ว่าท่านประมาทเกินไป ท่านต้องให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านมากขึ้นในอนาคต ไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นที่การฝึกฝนทักษะของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ ท่านต้องไม่ลำเอียงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ตันซุนกล่าว

แม้จะฟังดูเหมือนเป็นการชี้แนะ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการประกาศกับทุกคนว่าสิ่งต่าง ๆ ควรจบลงที่นี่

หวังจีเข้าใจความหมายโดยนัยได้โดยธรรมชาติ เนื่องจากผู้ประเมินตันกำลังเสนอทางออกให้เขา เขายอมรับทันทีโดยพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างแน่นอนและรับรองว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

ข้างในใจ เขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เขารำพึงว่าในที่สุดเขาก็ผ่านพ้นความทุกข์ยากนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม วิบากกรรมที่หวังจีต้องเผชิญยังไม่หมดเพียงเท่านี้

ตันหลินขมวดคิ้วไม่พอใจกับผลลัพธ์ แต่เนื่องจากพ่อของเธอได้ออกปากพูดไปแล้ว เธอไม่ควรพูดอย่างอื่น

หวังจีสังเกตเห็นสีหน้าของตันหลิน เขาจึงตะคอกออกมา

"เร็วเข้า แจ้งผู้ประเมินหลินว่าความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว ผู้ประเมินตันหลินได้คืนคุณสมบัติของเขาในฐานะผู้ประเมินทางการแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องสอบ ใช่แล้ว ห้องโถงประเมินของผู้ประเมินหลินจะต้องเปิดใหม่เช่นกัน ให้ผู้จัดการแผนกพลาธิการเลือกห้องโถงที่ใหญ่ขึ้นสำหรับผู้ประเมินหลินด้วย!”

หวังจีรีบแก้ไขสิ่งต่าง ๆ อย่างน้อย ๆ หลังจากที่ตันซุนได้ยินการเตรียมการของเขา เขาพยักหน้ารับทราบและตันหลินก็คลายสีหน้าลง

จากนั้นตันซุนก็เข้าหากู่เมียงจงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์กู่ เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว เมื่อหลินจินออกมา พวกเรามาดื่มด้วยกันมั้ย?”

กู่เมียงจงพยักหน้า เขาได้วางแผนที่จะแนะนำหลินจินให้รู้จักกับตันซุน เขาหวังว่ามันจะช่วยขยายเครือข่ายของหลินจินให้กว้างขึ้น

“ใช่แล้ว อาจารย์กู่ ท่านคงไม่รู้เรื่องนี้ ข้าบังเอิญได้ภาพวาดของแท้ของท่านที่เมืองเมเปิ้ลด้วยล่ะ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด