ตอนที่ 7 ไข่จิตวิญญาณที่ไม่ธรรมดา
เวลา 10.00 น. สิ่งแรกที่ซู่ไปทำเมื่อเขาตื่นขึ้นคือเดินไปดูไข่จิตวิญญาณอันล้ำค่าของเขา เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่ามันยังปลอดภัยดี
"ฮะ?!" เขาอุทานขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
บอลแสงสีม่วง และเขียวภายในไข่เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อคืนนี้เล็กน้อย ในทางตรงข้ามบอลแสงภายในวัสดุจิตวิญญาณกลับลดลง
กล่าวอีกนัยหนึ่งไข่จิตวิญญาณดูดซับลูกบอลแสงจากวัสดุจิตวิญญาณ หากเป็นกรณีนี้ เขาสามารถดึงบอลแสงออกจากวัสดุจิตวิญญาณ และใส่ลงไปในไข่จิตวิญญาณได้โดยตรงหรือเปล่า? เขาคิดเกี่ยวกับมันและตัดสินใจทดลองกับสิ่งอื่นก่อน
บทนำ: [ไข่ไก่ที่ปฏิสนธิแล้ว… สามารถฟักได้]
เมื่อมองดู ซูไป่พบว่าคุณสมบัติของไข่นี้เลอะเทอะมาก มีทั้งคุณสมบัติไม้ น้ำ และดิน หลังจากคิดดูแล้ว เขาดึงบอลแสงสีฟ้าขนาดเท่าลิ้นจี่สองลูกออกจากน้ำแล้วกดลงในไข่
“เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ฉันสามรถถ่ายโอนบอลแสงจากสัตว์อสูรได้ไหมน่ะ”
เมื่อมองดูต้นกล้ากระเทียมที่ปลูกที่หน้าหน้าต่าง เขาเอื้อมมือออกไปและตบมัน ในมือของเขามีลูกบอลแสงจางๆปรากฏขึ้น และต้นกล้ากระเทียมสีเขียวก็เหี่ยวเฉาลงเล็กน้อย
“ฉันคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับจิตสำนึก หากไม่มีจิตสำนึกในตัวเอง ฉันจะสามารถดึงบอลแสงออกจากร่างกายของพวกมันได้”
เขาออกไปที่สนามและลองอีกครั้ง วันนี้เขาอยู่บ้านคนเดียว เพราะพ่อแม่ไปทำงาน ส่วนน้องชายไปโรงเรียน วันนี้ไม่มีคนอื่นที่บ้าน เขาสามารถทดลองได้ตามต้องการ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาเกือบจะแน่ใจว่าเดาถูกแล้ว ตราบใดที่วัตถุยังไม่มีจิตสำนึก เขาก็สามารถดึงบอลแสงออกมาได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบกินอาหารเช้า จากนั้นก็ไปยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ และบรรจุไข่จิตวิญญาณของเขาเข้าไปข้างใน เขาขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขับรถไปที่ภูเขาด้านหลังพร้อมกับกระเป๋าเป้ของเขา (คำว่า “สกู๊ตเตอร์” เท่าที่ผมหามาและเทียบกับการบรรยายในเรื่องน่าจะหมายถึงพวกจักรยายนต์ไฟฟ้านะครับ เพราะเท่าที่อ่านมามันมีการซ้อนท้ายด้วย)
ที่นั่นมีอ่างเก็บน้ำเล็กๆ ชื่อว่า คอนสทรัค เรซเซอร์วาร์ สถานที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ แต่มีคนเพียงไม่กี่คนที่ออกไปที่นั่นในขณะนี้ อย่างไรก็ตามก็มีการเคียร์สถานที่ทำให้ไม่มีสัตว์อสูรี่ทรงพลัง
ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ซูไป่ก็มาถึงที่หมายของเขา เขาตระหนักว่าที่แห่งนี้เป็นป่าดึกดำบรรพ์จริงๆ และต้นไม้ทั้งหมดก็หนาพอๆ กับแขนของคน
เขาหาสถานที่ลับดาคน แล้วนำไข่จิตวิญญาณออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะถูมือขณะมองขึ้นไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าเขา (จริงๆ ตรงนี้มีมุกประมายว่า ขออนุญาตดึงบอลแสงออกจากคุณน่ะ ถ้าคุณไม่ตอบแปลว่าอนุญาต แต่พอแปลออกมาแล้วดูแปลกๆ จะคิดเป็นภาษาไทยมาเล่นแต่ก็กลัวไม่ฮา เลยเอาออกละกัน)
เมื่อมองไปที่ลูกบอลไฟสีเขียวในมือ เขาเปิดฝาตู้ฟักอย่างกระตือรือร้นและกดลูกบอลแสงเข้าไป
เมื่อลูกบอลแสงละลายเข้าไป ซูไป่สังเกตอย่างระมัดระวัง ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ามันใช้ได้ และมันดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย ซูไป่เอื้อมมือไปหยิบลูกบอลแสงจากต้นไม้เพิ่มและใส่ลงไปในไข่จิตวิญญาณของเขา
ต้นไม้: ???
ด้วยความเบิกบานใจ เขาแบกไข่จิตวิญญาณไว้บนหลังราวกับว่ามันเป็นทารกที่มีค่า และถ่ายโอนบอลแสงจากต้นไม้สู่ไข่ต้นแล้วต้นเล่า
5 โมงเย็น เขาก็หยุด ไม่ใช้เพราะต้องกลับบ้านเท่านั้น แต่ไข่จิตวิญญาณไม่สามารถดูดซับลูกบอลแสงได้อีกต่อไป ดูเหมือนจะอิ่มแล้ว
เมื่อมองไปที่ไข่จิตวิญญาณในตู้ฟัก ซูไป่ก็รู้สึกพึงพอใจมาก ถ้าบอลแสงที่อยู่ไข่จิตวิญญาณในตอนเช้ามีขนาดเล็กเท่าแสงหิ่งห้อย ตอนนี้พวกมันมีขนาดเท่ากับหลอดไฟขนาดเล็ก
เขาเชื่อว่าหากใช้วิธีนี้ต่อไป ไข่จิตวิญญาณที่ฟักออกมาจะทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก เขากลับบ้านอย่างตื่นเต้น และเห็นว่ายังไม่มีใครกลับมา
หลังจากคิดเกี่ยวกับมันแล้ว เขาใช้เงินที่เหลือเพื่อซื้อแก่นคริสตัลคุณสมบัติพิษ ในป่ามีพืชที่มีพิษน้อยเกินไป ดังนั้นจึงต้องซื้อแก่นคริสตัล เพื่อให้ไข่จิตวิญญาณดูดซับ คุณสมบัติพิษในแก่นคริสตัลถูกสงวนไว้ และเขาสามารถถ่ายโอนบอลแสงไปยังไข่จิตวิญญาณได้โดยตรง
หลังจากที่คุณสมบัติพิษถึงระดับอิ่มตัว ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้และหยุดข่มเหงไข่จิตวิญญาณที่น่าสงสารของเขา (คือถ้าไข่มี 2 คุณสมบัติก็ต้องใส่ให้อิ่มทั้ง 2 คุณสมบัติ ถ้ามี 3 ก็ต้องอิ่มทั้ง 3)
ขณะพักผ่อนอยู่บนเตียง เขาหยิบมือถือขึ้นมาเล่น เขายุ่งทั้งวันโดยไม่ได้อ่านแชทด้วยซ้ำ
ข้อความสองสามข้อความแรกเป็นคำอวยพรวันเกิดจากเพื่อนสนิทหลายคน และยังมีข้อความถามว่าการฟักตัวของสัตว์อสูรของเขาราบรื่นหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีครูและเพื่อนบางคนในชั้นเรียนของเขาได้ส่งคำทักทายที่คล้ายกัน
เขาคิด แล้วตอบทุกคนตรงๆ (รูปภาพ) (รูปภาพ) “ขอบคุณที่เป็นห่วง ไข่จิตวิญญาณของฉันเข้าสู่ระยะฟักตัวปกติแล้วและน่าจะฟักออกมาหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อฟักแล้วฉันจะพาไปให้ทุกท่านได้ดู”
ไม่นานก็มีคนตอบกลับมา
ครูหวัง: “ไม่เลว ไม่เลว จากประสบการณ์ของฉัน นักเรียนซูไป่ทำได้ดีในทุกด้าน ถึงจุดที่เป็นเลิศ ไข่จิตวิญญาณของคุณดูสดใสและมีชีวิตชีวา ฉันเชื่อว่าสัตว์อสูรที่ฟักออกมาจะค่อนข้างดี นักเรียนซูไป่ ดูแลไข่จิตวิญญาณของเธอให้ดี แล้วอย่าลืมตั้งใจเรียนด้วย…”
ครูสอนภาษาอังกฤษของเขา ฮั่วเจีย: "ทำได้นะ นักเรียซูไป่ ฉันตั้งตารอที่จะได้เห็นสัตว์ที่ฟักออกมา แต่อย่าลืมการเรียนนะ~"
...
หยางโจว: "ยินดีด้วย! พรุ่งนี้ฉันก็จะมีไข่วิญญาณของตัวเองเหมือนกัน ฮี่ฮี่~"
เฉิน ลู่เชว: "ยินดีด้วย ยินดีด้วย +1"
หลิว เหวิ่ยเหวิ่ย : "ยินดีด้วย ยินดีด้วย +1"
...
...
กั่วตง : "นั่นคือไข่จิตวิญญาณของนักเรียนซูไป่? มันมีคุณสมบัติไม้ และพิษ? มันดูธรรมดามาก คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าวัสดุแรกเริ่มคืออะไร?"
นักเรียน A: "ใช่ ฉันสงสัยนิดหน่อย นักเรียนซูไป่บอกได้ไหม"
นักเรียน B: “ใช่ มันดูธรรมดาเกินไป ไข่จิตวิญญาณของนักเรียนเฉิน ลู่เชวไม่เพียงมีเขาเท่านั้นแต่ยังมีแสงอีกด้วย ไข่ใบนี้ดูธรรมดาเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกันใช่ไหม?”
เฉิน ลู่เชว: "???"
เมื่อเธอกลับถึงบ้าน และนอนลง เฉิน ลู่เชวก็ตกใจเมื่อเห็นข้อความเหล่านี้ ทำไมพวกเขาพูดถึงเธอ?
พวกเขายังพูดหยาบคายเช่นนี้ได้อย่างไร? หากพวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดจาไพเราะอย่างไร ก็ควรที่จะเงียบปากไป
ไข่จิตวิญญาณของซูไป่ดูธรรมดาเมื่อมองจากภายนอก และใครก็ตามที่มีความรู้สักหน่อยก็จะรู้ว่าวัสดุแรกเริ่มนั้นอาจจะไม่ค่อยดีนัก พวกเขาไม่ควรจะพูดถึงเรื่องนี้
เธอสงสัยว่าคนเหล่านี้แค่ขาดความฉลาดทางอารมณ์หรือว่าพวกเขาจงใจทำเช่นนี้ ท้ายที่สุด นักเรียนซูไป่มีผลการเรียนที่ดี พวกเขาเลยไม่มีโอกาสเยาะเย้ยเขา อย่างไรก็ตาม ทำไมพวกเขาถึงใช้เธอเป็นการเปรียบเทียบ? พวกเขาพยายามที่จะหว่านความบาดหมางระหว่างพวกเรา?
เธอกัดฟันแน่นและกำมือแน่น เธอต้องการพาสัตว์อสูรของเธอ เสี่ยวไป่ไปสอนบทเรียนพวกนั้น
ซูไป่ : "วัสดุแรกเริ่มของฉันแย่มากจริงๆ มันคือแก่นคริสตัลระดับทหารขั้น 2 ควีนออฟธอร์น"
อย่างไรก็ตาม ซูไป่ยังคงสงบนิ่งโดยไม่รู้สึกโกรธหรือเขินอาย แค่ความจริงที่ว่าจิตใจของเขาอยู่ในวัยยี่สิบ ทำให้เขารู้สึกเปิดกว้างต่อเรื่องดังกล่าวมาก
เขาไม่สามารถโทษครอบครัวของเขาเองได้ และรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของเขามากที่ยอมให้เขาซื้อควีนออฟธอร์น พวกเขาให้เงินที่หามาอย่างยากลำบากแก่เขา และเขาก็รู้สึกขอบคุณพวกเขามาก ท้ายที่สุด มันยากสำหรับทุกคนในโลกนี้ที่จะปฏิบัติต่อเขาแบบนี้
สำหรับคนเหล่านี้ เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถต้อนโต้ทุกคนได้ เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเกลียดเขา ท้ายที่สุดเขาไม่มีเงิน
นอกจากนี้ ตอนนี้เขาอยู่ในโลกที่ต่างไปจากชีวิตก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาก็ยิ่งเฉยเมยกับเรื่องนี้มากขึ้น ตราบใดที่เขาต้องการ แม้ว่าหินจะถูกนำมาใช้เป็นวัสดุแรกเริ่ม สัตว์อสูรของเขาก็จะได้รับการปลูกฝังให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
เขาค่อนข้างชอบเวลาที่คนอื่นที่เกลียดเขาและไม่สามารถกำจัดเขาได้ เมื่อพวกเขาเห็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเขา การแสดงออกของพวกเขาจะน่าสนใจมากอย่างแน่นอน
กั่วตง: "ฉันรู้! มันดูธรรมดาเลย มันจะไม่สามารถเข้าถึงระดับแม่ทัพได้ ดูเหมือนว่าซูไป่จะยอมแพ้ในการเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพ และเน้นการเรียนแทน”
เพื่อนร่วมชั้น A: "น่าเสียดาย ฉันคิดว่าฉันจะมีโอกาสแข่งขันกับซูไป่"
เพื่อนร่วมชั้น B: "น่าเสียดายจริงๆ"
ในที่สุด พวกเขาก็ได้เปรียบเหนือซูไป่ คนเหล่านี้ไม่สามารถยับยั้งจิตวิญญาณที่อวดดีของพวกเขาและเปิดเผยความรู้สึกเหนือกว่าของพวกเขา การเยาะเย้ยของพวกเขาไม่มีวี่แววว่าจะจบลง แม้ว่าซู่ไป๋จะออกจากแอปพลิเคชั่นรับส่งข้อความไปนานแล้ว
เฉิน ลู่เชว: "วัสดุแรกเริ่มเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัจจัยที่กำหนดศักยภาพของจิตวิญญาณ เราไม่สามารถระบุได้ว่าจิตวิญญาณมีศักยภาพต่ำเมื่อยังไม่ฟักออกมา ... "
คำพูดของเธอดูเหมือนจะไม่รบกวนพวกเขาและไม่มีใครสนใจเลย
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ครูประจำชั้นก็พูดว่า "กั่วตงและคนอื่นๆ ฉันจะตรวจการบ้านของเธอพรุ่งนี้"
ครูสอนภาษาอังกฤษ: "คุณมีคำศัพท์หลายคำที่ต้องท้องจำ ถ้าพรุ่งนี้เธอจำไม่ได้ ฉันจะโทรหาพ่อแม่ของคุณ"
กั่วตง : "…" ไอ้บ้าเอ๊ย! เขาลืมไปได้อย่างไรว่าครูอยู่ในกลุ่มนี้ มันจบลงแล้ว
ทั้งกลุ่มตกอยู่ในความเงียบลึก