ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 44 ซูฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 46 ร่างยักษ์ที่ทะลุผ่านชั้นเมฆ

STBI : ตอนที่ 45 ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง


6 วันต่อมา

ไป๋ตงหลิน ได้ยืนอยู่ใกล้ใจกลางเกาะแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังเดินทาง เขาได้เผชิญหน้ากับการต่อสู้หลายสิบครั้ง อีกทั้งยังได้พบเจอผู้มีความสามารถเฉกเช่นเดียวกับ ซูฉี และ เกือบจะฆ่าเขาได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการฟื้นฟูที่ทรงพลังของเขา เขาสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยกลยุทธ์ การบาดเจ็บก่อนจากนั้นก็ฟื้นฟูแล้วเอาชนะ

ยกเว้นบางคนที่พ่ายแพ้โดยเขาและล่าถอยกลับไป คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ล้วนบดขยี้ป้ายช่วยชีวิต และ หายไปโดยตรง กระทั่งมี 2-3 คนที่โหดเหี้ยม และ ถูกเขาทุบตีจนตายภายในที่เกิดเหตุ

เขาไม่ใช่คนกระหายเลือด เพราะแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะไร้ทัดเทียมและมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้น เขาจึงได้ระเบิดพลังออกมาทุกครั้ง และ ไม่สามารถหยุดต่อสู้ระหว่างทางได้ ทันทีที่เมื่อเขารู้ว่าคู่ต่อสู้ไม่ได้ใช้ป้ายหยกช่วยชีวิต มันก็สายเกินไปแล้ว

แต่เขาไม่ได้รู้สึกผิดอะไร เพราะนี่เป็นทางเลือกของเขาเอง ซึ่งเขาก็เคารพทางเลือกของคนอื่น สำหรับหลาย ๆ คนที่เลวร้าย การถูกกำจัดอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!

นี่คือเสน่ห์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋า

กลิ่นอายพลังในร่างของ ไป๋ตงหลิน ได้กลายเป็นเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขาเดินไปมาระหว่างเส้นทาง เขาก็ระมัดระวังรอบตัวของเขา ในเวลานี้ หมอกสีดำยังคงลดตัวลง จนเหลือเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ใจกลางเกาะเท่านั้น หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ที่นี่คือรอบชิงสุดท้ายนั่นเอง

คาดว่าในปัจจุบันจะเหลือคนเพียงไม่กี่ร้อยคน อีกทั้งพื้นที่ยังค่อนข้างมีจำกัด ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเลยหากจะมีใครกระโดดออกมาจากพุ่มและโจมตีเขาในเวลานี้

ณ ใจกลางของเกาะ เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กที่ดับแล้ว ภูมิประเทศเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะท้ายที่สุด หลายเกาะก็ก่อตัวขึ้นจากการบีบอัดของเปลือกโลก การมีภูเขาไฟตั้งอยู่บนเกาะถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ

เพียงแต่ในขณะนี้ ภูเขาไฟที่ดับแล้วในสายตาของ ไป๋ตงหลิน ก็ได้เปลี่ยนไป

กึก—

มีเสียงดังเกิดขึ้น พร้อมกับแรงสั่นสะเทือนใต้ฝ่าเท้าของเขา เห็นได้ชัดว่า ปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วกำลังจะปะทุ!

แมกม่า จำนวนนับไม่ถ้วน กำลังไหลออกมา มันแมกม่าร้อนสีแดงก็ได้พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายพันเมตร และ ในขณะเดียวกัน ก็มีควันหนาทึบและเถ้าถ่านปกคลุมท้องฟ้าเหนือเกาะในทันที

ในช่วงเวลากลางวันแสก ๆ ปัจจุบันได้มืดลงอย่างกระทันหัน และ แมกม่าที่พ่นออกมา ก็สาดกระจายไปทั่ว สำหรับ แมกม่าที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายพันเมตร ก็ได้เริ่มตกลงมา แตกกระจายไปทั่วทั้งเกาะราวกับฝนดาวตก

สิ่งนี้คล้ายกับวันสิ้นโลก!

ไป๋ตงหลิน มองดูด้วยท่าทางสงสัย เขาได้หลีกเลี่ยงการปะทะ และ มองดูอย่างครุ่นคิด :

“นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกใช่มั้ย ภูเขาไฟที่มอดดับไปแล้ว จะมาปะทุถูกเวลาในตอนนี้ได้ยังไง?”

“หากไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แสดงว่ามีคนตั้งใจทำในเรื่องนี้ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไงก็ตาม!”

เหล่านักพรตเต๋า มีวิธีการแปลก ๆ มากมาย ดังนั้น เขาจึงไม่ได้แปลกใจว่าจะมีความสามารถเช่นนี้อยู่

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำยังไงถึงจุดประกายภูเขาไฟที่มอดดับแล้วให้ปะทุขึ้นมาได้ แต่เขาก็เข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่าย

ในเวลานี้ หินหนืด เริ่มแผ่กระจายไปทั่วใจกลางของเกาะ ป่าไม้ที่หนาแน่น จำนวนมาก ล้วนถูกไฟคลอก จนทำให้ใจกลางของเกาะสว่างไสวอย่างรุนแรง

ที่ด้านนอกของใจกลาง ก็มีหมอกดำหนาปกคุลม พวกเขาไม่มีทางหลบหนีออกไปได้ ดังนั้นหลายคน จึงได้เปิดเผยตัวออกมา

เหล่านักพรตเต๋าบางคน พยายามที่จะหลบหนีจากแมกม่า และ บางคนก็พยายามต่อสู้อย่างดุเดือด

เพร้ง!

ฟวั่บ!

“ตาย!”

“ตายซะ!”

ขณะที่ แมกม่า กำลังกลิ้งไปมา เปลวไฟแห่งการต่อสู้ก็ลุกโชติช่วงอย่างต่อเนื่อง

สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมการต่อสู้ จนทำให้ใครบางคนพบกับจุดจบที่น่าเศร้า และ บางครั้งก็ถูกเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวหายตัวไปในทันที

ไป๋ตงหลิน ได้เฝ้ามองอย่างสงบ เขาได้หมุนเวียนเทคนิคกายหยกขาวชำระล้างอย่างเต็มที่ ทำใหร้า่งกายของเขาเปล่งประกายต่อเนื่อง แมกม่าที่ไหลออกมา ได้เผาไหม้รองเท้าของเขาไปแล้ว ทำให้เขายืนเท้าเปล่าอยู่ในหินหนืด

“ฟุ่บ!”

ขณะที่เขากำลังยืนเท้าเปล่า เขาก็คำรามออกมา พร้อมกับร่างของเขาที่หายไป จากนั้น เขาก็พุ่งเข้าหา เหล่านักพรตเต๋า ที่โจมตีใส่เขา

หมัดเจ็ดหนองน้ำ ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากการต่อสู้หลาย 10 ครั้งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของเขา ก็ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ในเวลานี้ เขาสามารถใช้ออกด้วยทักษะที่หลากหลายทำให้เขามีความพริ้วไหวที่มากยิ่งขึ้น

ภายใต้พลังประหลาดของเขา ทุกย่างก้าวของเขาล้วนทรงพลัง เหล่านักพรตเต๋าที่พุ่งเข้าหาเขา ต่างถูกเขาทุบตีภายใน 20 กระบวนท่า

เหล่านักพรตเต๋า ที่เห็นว่าเขาแข็งแกร่งมาก บางคนก็ได้ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเขา

ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายได้ยิ่งขึ้น เฉพาะเมื่อผู้แข็งแกร่งถูกกำจัดเท่านั้น ความหวังจึงจะตกมาเป็นของพวกเขา

“ฆ่า!”

คนอื่นอาจจะกลัวการต่อสู้แบบกลุ่ม แต่ ไป๋ตงหลิน ไม่ได้กลัว เขาเลิกเป็นฝ่ายตั้งรับแล้วต่อสู้กับทั้งสองคน

ปั้ง ตุบ ตับ!

พวกเขาทั้งสามคนได้แลกหมัดกันอย่างดุเดือด และ คลื่นกระแทกจากกระบวนท่า ได้ทำให้หินหนืดนับไม่ถ้วนล้วนถูกบดขยี้

ในการปะทะกันของพวกเขา มีภาพติดตาปรากฏขึ้นทุกที่ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด ไป๋ตงหลิน ได้ใช้ กระบวนการเดิม คือ บาดเจ็บ ฟื้นฟู แล้วเอาชนะ

มือขวาของ ไป๋ตงหลิน ได้ถูกตัดออกด้วยดาบเล่มนึง เขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว โดยใช้กระดูกที่แตกหักของเขา แทงตรงไปที่หน้าอกของหนึ่งในนั้นโดยทันที ร่างของอีกฝ่ายได้กลายเป็นแสงสีขาวและหายไป

หลังจากใช้ กระดูกมือขวาแทงไปที่หน้าอกของ หนึ่งในนั้น เขาก็ใช้มือซ้ายเป็นคมมีดฟันไปที่ลำคอของ นักพรตเต๋าที่ถือดาบโดยตรง ร่างของอีกฝ่าย ได้กลายเป็นแสงสีขาวและหายไป

เขาได้ดึงมือกลับมา และ หยิบโอสถรักษาออกมาพร้อมกับกลืนลงไปในท้อง แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจการต่อสู้ของพวกเขา แต่เขาก็จำเป็นจะต้องรักษาเบื้องต้น

อาการบาดเจ็บของเขาได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และ ฝ่ามือที่ถูกตัดขาดก็ได้งอกขึ้นมาใหม่

เขามองไปยังพื้นที่โดยรอบ มีคนกำลังต่อสู้กันอยู่ทุกที่ บางคนก็ล้มลงเป็นครั้งคราว ทว่าทุกคนในปัจจุบัน ต่างทุ่มกำลังอย่างสุดตัวในการต่อสู้

จากการประเมินของเขา ในเวลานี้ เหลือผู้เข้าร่วมไม่ถึง 500 คน ความเร็วนั้นรวดเร็วมาก คนเกือบครึ่งถูกกำจัดในระยะเวลาอันสั้น

และ ในเวลานี้เอง ก็มีคนยักษ์ปรากฏตัวและหมายจะเอาชีวิตของเขา นี่คือคนยักษ์อย่างแท้จริง เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้เทคนิคใด แต่อีกฝ่ายมีส่วนสูงมากกว่า 4 เมตร!

ทั่วร่างของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยแมกม่าที่ไหลผ่านราวกับเพิ่งเดินออกมาจากขุมนรก

ไป๋ตงหลิน เลิกคิ้วแน่น เขาได้ใช้เท้าเปล่ากระทืบพื้นจนทำให้ดาบบนพื้นกระเด้งขึ้นมาในมือของเขา เขาได้ถือดาบในมือซ้ายและขวาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ ร่างของคนยักษ์โดยทันที

ยักษ์ตัวนี้ทำให้เขานึกถึงสัตว์ประหลาดหัวหมาป่าบนภูเขาตอนนั้น ในการรับมือกับศัตรูตัวฉกาจเช่นนี้ การใช้อาวุธย่อมได้เปรียบกว่าการใช้มือเปล่าอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ การต่อสู้ อันดุเดือด ก็กำลังจะเกิดขึ้นบนยอดของภูเขาไฟ ซูฉี ที่ยืนเท้าเปล่าบนหินหนืด ได้มองไปที่ด้านหน้าของนางอย่างดุเดือด

ไม่ไกลจาก ซูฉี มีบุรุษผมแดงที่มีกลิ่นอายไม่ธรรมดา เขายืนอยู่บนแมกม่าที่มีหินหนืดล้อมรอบ

“ซูฉี เจ้านี่น่าทึ่งมากจริง ๆ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน มีผู้คนถูกพิษของเจ้าไปไม่ต่ำกว่า 200 คน!”

“ใคร ๆ ก็บอกว่าเจ้าเป็นจ้าวแห่งพิษ แต่ข้าเกรงว่า คงจะไม่มีใครรับรู้ว่าเจ้ายังซ่อนพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้เอาไว้!”

ชายคนนี้ดูผ่อนคลาย ราวกับว่าเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับศัตรู แต่กำลังพูดคุยกับสหายของเขา

“หึ่ม ซวนเย่ ข้าจะไปเทียบกับเจ้าที่สามารถจุดประกายไฟของภูเขาไฟที่มอดดับนี้ได้อย่างไร”

“หยุดพูดไร้สาระแล้วมาสู้กัน!”

น้ำเสียงของ ซูฉี เต็มไปด้วยความเย็นชา ราวกับว่านางคร้านที่จะพูดคุยกับชายหนุ่มตรงหน้า เทคนิคลับได้ถูกนำออกมาใช้ และ ร่างของนางก็ได้หายไปต่อสู้กับชายคนนั้น

ฉากเดียวกัน ได้เกิดขึ้นทุกที่ในใจกลางเกาะเล็ก ๆ ตอนนี้ คนที่เหลืออยู่ ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น คนที่แข็งแกร่งโดยแท้จริง หรือ ชนะมาด้วยกลอุบายไร้สิ้นสุด

“ฆ่า!”

ไป๋ตงหลิน ได้กระโดดขึ้นสูง โดยถือดาบทั้งสองข้างไว้ในมือ จากนั้นเขาก็กระโจนใส่และเจาะดวงตาของ ชายร่างยักษ์อย่างดุเดือด

ชายร่างยักษ์ ที่ข้อเท้าขวาถูกตัดไป ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เขาได้ถูกปลายดาบแทงเข้าที่ตาในทันที

จึก!

ดาบยาวได้ติดอยู่ที่กะโหลกศีรษะของอีกฝ่าย ในเวลานี้ การแสดงออกของ ไป๋ตงหลิน ได้เปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ถึงความกดอากาศต่ำที่มาจากทางด้านหลัง ดูเหมือนว่า เจ้ายักษ์ตัวนี้คิดจะโอบรัดเขา

ก่อนที่อีกฝ่ายจะประสบความสำเร็จ ไป๋ตงหลิน ก็ละทิ้งดาบในมือ และ ถีบไปที่ร่างของอีกฝ่าย เพื่อกระโดดหลบหนี

หากเขาถูกอีกฝ่ายโอบรัดได้ เกรงว่าอีกฝ่ายคงใช้พละกำลังทั้งหมดในการบีบรัดกล้ามเนื้อของเขา

หลังจากหลบหนีออกมา เขาก็ถอยหลังไป 2-3 ก้าว และ มองไปที่ ชายร่างยักษ์ที่ดึงดาบออกมาพร้อมกับคำรามด้วยท่าทีที่เจ็บปวด เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก การป้องกันของชายคนนี้น่ากลัวเกินไป ผิวหนังของเขาค่อนข้างหนา และ มันยากที่จะฆ่าอีกฝ่ายได้

หลังจากคิดอยู่ครู่นึง ไป๋ตงหลิน ก็หยิบกระบองขนาดใหญ่ออกมาจากแหวนมิติ มันมีสีดำและดูแข็งเป็นอย่างมาก

นี่คืออาวุธวิเศษที่เขาได้รับมาจากการจับฉลากนอกพระราชวัง ดังนั้น อย่าได้ถามว่าเหตุใดกล่องทองเหลืองถึงสามารถดึงกระบองขนาดใหญ่นี้ออกมาได้ เพราะมันคือ กล่องมิติ

กระบองนี้มีน้ำหนักหลายพันจิน และ ยามที่มันปรากฏขึ้นในมือของ ไป๋ตงหลิน ก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

ไป๋ตงหลิน ได้ถือกระบองของเขาและเริ่มเปิดฉากโจมตี ร่างของเขาได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของ ชายร่างยักษ์ และ ซัดกระบองกระแทกเข้าใส่ศีรษะของ ชายร่างยักษ์อย่างดุเดือด!

ท่ามกลางเสียงอันน่าสะพรึงกลัว ร่างของ ชายร่างยักษ์ ได้ซวนเซในทันที

ตุบ!

การล้มลงของชายร่างยักษ์นี้ ได้ทำให้สนามรบอันดุเดือด เงียบไปครู่นึง จนทำให้หลายคนเพ่งมอง

ชายร่างยักษ์ได้ถูกทีบตีจนล้มลงไปกับพื้น อีกฝ่าย ได้หมดสติ พร้อมกับกลายเป็นแสงสีขาวหายไปจากโลกใบเล็ก

เมื่อมองไปที่ กระบองหนาม ในมือของเขา ไป๋ตงหลิน ก็รู้สึกตกใจ

อาวุธนี้ใช้งานง่ายก็จริง แต่ ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเขา

ในเวลานี้ การต่อสู้อันดุเดือดในสนามรบก็ใกล้สิ้นสุดลง เหล่าผู้คนนับร้อยในเวลานี้ ไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนเขา

เพราะการทุบตีชายร่างยักษ์คนนั้นได้ทำให้หลายคนรู้สึกตกใจ

ฟู่วว—

ไป๋ตงหลิน ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความผ่อนคลาย

อาศัยความสามารถในการฟื้นฟูที่ผิดปกติของเขา เขาย่อมสามารถเข้าร่วมกับนิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋าได้

ดังนั้น ก้าวแรกของเส้นทางของเขากำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด