ตอนที่แล้วการกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 1 โชคชะตาของฉันไม่บอกแบบนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 3 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว (2)

การกลับมาของฮีโร่ระดับภัยพิบัติ (The Return of the Disaster-Class Hero) ตอนที่ 2 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว!


ตอนที่ 2 พวกแกจะต้องชดใช้ ไอ้พวกสารเลว!

มีสำนวนโบราณกล่าวไว้ว่า “อย่าให้สัตว์ที่มีขนสีดำเข้าบ้านคุณเป็นอันขาด”

สำนวนนี้โดยทั่วไปจะหมายความว่า อย่าไว้ใจคนอื่นมากเกินไป เพราะบุคคลเหล่านั้นสามารถแทงข้างหลังคุณได้อย่างหน้าตาเฉย

หลังจากนั้น

ลี กอน เป็นชายหนุ่มที่ค่อนข้างที่จะไว้วางใจขนนุ่มๆที่อยู่ระหว่างอุ้งเท้าของพวกสัตว์ประหลาดมากกว่าจะไว้วางใจเพื่อนมนุษย์ของเขาซะอีก

เขาไม่เคยคาดหวังสิ่งตอบแทนอะไรมามายจากพวกเขาเลย

อย่างไรก็ตาม ไอ้พวกชั่วที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษ พวกมันก็ได้สิ่งนี้มาก็เพราะเขา เขาจึงอยากให้คนพวกนั้นอย่างน้อยก็ปฏิบัติกับเขาอย่างยุติธรรม

“ขอบคุณนะ กอน พวกเราเคลียร์หอคอยปีศาจนี้ได้ก็เพราะนายเลย”

หอคอยปีศาจงั้นหรอ

มันคือรังงูที่ใหญ่อย่างกับสนามฟุตบอลส่วนตัวที่สร้างขึ้นบนแผ่นทวีปยูเรเซีย และที่แย่กว่านั้นคือพวกปีศาจพวกนี้เลือกที่จะทำรังอยู่ทางเหนือของกรุงโซลนี่แหละเว้ย

โลกทั้งใบต่างต้องคร่ำครวญให้กับพลังของเรดอาย และที่เลวร้ายไปกว่านั้น ปีศาจตัวนี้เริ่มรู้สึกว่ากองกำลังของมันเริ่มถูกกำจัดไปในเอเชียและยุโรป มันเลยส่งกองกำลังข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปที่อเมริกา เพราะแบบนั้น ปีศาจตัวนี้จึงเป็นศัตรูร่วมกันของมนุษยชาติทั้งหมด มันเป็นปีศาจที่โหดร้ายที่สุดตัวนึงที่สามารถกวาดล้างมนุษยชาติได้เลย

โดยปกติแล้ว พวกขี้แพ้พวกนั้นจะไม่กล้าเข้าไปในถ้ำของพวกปีศาจที่ถูกสาปนี่ แต่ในตอนนี้มันต่างไปจากเดิมแล้ว เพราะการปรากฎตัวของ ลี กอน แทบไม่ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสแม้แต่จะคิดถึงเรื่องการจัดการกับพวกปีศาจ

“ฮ่าๆๆ พวกเราจะได้รางวัลอย่างงามเลยล่ะถ้าเราทำสำเร็จ!”

“นี่จะเป็นการบุกโจมตีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวิติศาสตร์ของมนุษยชาติ! แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เราเป็นวีรบุรุษแล้ว”

“พวกเราน่าจะเรียกเงินได้อย่างน้อยสักแสนล้านวอน นายคิดว่าไง”

ลี กอน ถุยน้ำลายขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน พวกเขากำลังที่จะเข้าไปที่หอคอย

“เราต้องขอวอยเชอร์เข้าพักที่โรงแรมเจ็ดดาวในฮาวายฟรีสักสิบปีสิ้”

“อะไรนะ”

ประเทศส่วนใหญ่จะต้องได้รับอิสระจาก IMF ต้องขอบคุณเรดอายเลย

“…!”

ในขณะที่คนเหล่านี้กำลังเข้าไปในหอคอย เหล่ามนุษยชาติต่างก็พากันอธิษฐาน ทุกคนอธิษฐานขอความตายอย่างไม่เจ็บปวด และนี่คือการพูดถึงความสิ้นหวังที่พวกเขากำลังเผชิญ

ทุกอย่างเกิดขึ้นตอนวันสุดท้ายของศตวรรษที่ 20 ปีศาจหัวปลาหมึกเข้ามารุกรานโลกจากทางฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน

<อารยธรรมที่ไม่ทราบชื่อยื่นข้อเสนอ “ถ้าพวกคุณยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็จงมอบเมืองของพวกคุณให้กับเราซะ”>

<เริ่มการโหวต! “สหภาพยุโรปจะยอมมอบพลเมืองหนึ่งล้านคนให้กับพวกปีศาจในฐานะนักโทษหรือไม่”>

<สหรัฐอเมริกากล่าวว่า “พวกปีศาจพวกนี้ต้องการเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นปศุสัตว์เพื่อที่จะไปเป็นแหล่งอาหารของพวกมัน เราไม่สามารถยอมรับข้อเรียกร้องของพวกเขาได้”>

<จีนยอมจำนนต่อกลุ่มผู้รุกรานเพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยและดินแดนเอาไว้>

<ผู้คนกำลังหนีขึ้นไปบนภูเขา “ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ฉันจะต้องถูกจับไปเป็นเชลยแน่”>

ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาได้พยายามทำให้มนุษยชาติยังคงอยู่ได้โดยการเปิดตัวอาวุธนิวเคลียร์ แต่ถึงอย่างนั้น ต่อหน้าของปีศาจปลาหมึก มันก็เป็นเพียงแค่ดอกไม้ไฟกระจอกๆเท่านั้น พวกสัตว์ปีศาจจะได้เต้นรำไปพร้อมกับทำลายเมืองนี้ไปด้วยเป็นแน่

มันเป็นเพราะว่า ณ เวลานี้มันมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นผู้ตื่นของพลังคนที่สิบสามได้ปรากฎตัวขึ้นมาบนโลกนี้อีกครั้ง ผู้ตื่นของพลังที่สามารถสังหารปีศาจเหล่านี้ได้ ผู้ที่ทุกคนคาดหวังว่าจะให้กอบกู้โลกคืนกลับมา แต่ทว่าความคาดหวังก็มักจะแตกต่างจากความเป็นจริง

“ฮ่ะ! นี่นายอยากอยู่โรงแรมเจ็ดดาวฟรีสิบปีขนาดนั้นเลยหรอ นายแน่ใจแล้วรึไงว่าต้องการแค่นั้นน่ะ”

“นี่นายได้ไปรึป่าวตอนที่ถูกเรียกตัวครั้งที่แล้วน่ะ”

“ใช่สิ นายก็ไปใช้เวลาของนายแล้วก็ปล่อยให้พวกปีศาจฆ่าคนพวกนั้นไปซะ นี่นายไม่รู้หรือไงว่าถ้าผู้คนเริ่มสิ้นหวังเราก็จะยิ่งเรียกร้องรางวัลใหญ่ขึ้นได้นะ”

คนพวกนี้ก็เป็นแค่คนที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษเท่านั้นแหละ จริงๆแล้วส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ไอ้พวกเศษสวะนั่นแหละ

“นี่ ลี กอน ฉันว่านายอย่าเรื่องมากเลยดีกว่าน่า ทีหลังก็ให้พวกเราเป็นคนเจรจาของรางวัลเองสิวะ”

​“เผื่อนายจะได้เอาเงินไปทำหน้านายให้มันหล่อเหลาขึ้นบ้างไง”

พวกเขาทำหน้าขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าที่อัปลักษณ์ของ ลี กอน

“ฉันรู้ว่านายไม่สบายน่า อย่าหักโหมเลยดีกว่า”

ผู้ชายคนนั้นเอามือวางบนไหลของ ลี กอน และเยอะเย้ยเขา

“ต่อให้นายจะแข็งแร่งแค่ไหน นายก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดานั่นแหละ”

“พวกเราจะไปฆ่าเรดอาย นายจะยืนดูเราเฉยๆก็ได้นะ”

ทั้งสิบสองคนมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ถึงแม้ว่า ลี กอน จะเป็นผู้ตื่นของพลังเหมือนกัน แต่เขาก็แตกต่างจากผู้ตื่นพลังคนอื่นๆ

“นายไม่ได้รับความสามารถอะไรมาจากพวกเทพหนิ”

อย่างไรก็ตาม ความคิดของทั้งสิบสองคนก็อยู่ได้เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น

***

ที่ชั้น 100 ชั้นสุดท้ายที่บอสปรากฎตัว

“ไอ้บ้าเอ้ย! อะไรวะเนี่ย… ล้อเล่นรึไงวะ”

“วิ่งเร็ว! นี่มันเป็นไปไม่ได้”

“ถ้าพวกเราวิ่งหนี ประชากรทุกคนบนโลกนี้จะต้องถูกฆ่านะ!”

“ก็ชั่งหัวพวกมันสิวะ! สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพวกเราต้องอยู่รอดโว้ย!”

มนุษยชาติยกย่องพวกแกเป็นคนที่แข็งเเกร่งที่สุดในโลก แต่ไอ้พวกบ้านี่เลือกที่จะหนีงั้นหรอ กลัวจนหมดสติไปแล้วหรือไง

แม้พวกเขาจะเป็นผู้ที่ได้รับพลังมาจากเทพ แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะเรดอายได้

แต่ ลี กอน แตกต่างออกไป

“เฮ้ย! นี่แกเสียสติไปแล้วรึไง จะไปไหนวะ!”

“นี่แกอยากตายรึไง!”

ลี กอน วิ่งหน้าตั้งเข้าไปหาบอสปีศาจตัวนั้นราวกับว่าเขากำลังหักหน้าคนอื่นอยู่

เขาทำมันด้วยตัวคนเดียว

ควาง-จิ๊ง!

การต่อสู้สุดดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้น

ในที่สุดเขาก็ตัดคอของปีศาจและหัวของปีศาจก็หล่นลงกับพื้น ลี กอน ได้เด็ดหัวของเรดอาย และในตอนนั้น ปีศาจที่จะนำมนุษยชาติไปสู่ความสิ้นหวังก็ได้พินาศลง

แต่ทว่า ลี กอน ไม่สามารถออกจากหอคอยได้ แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเพราะการต่อสู้กับเรดอาย

งั้นทำไมกันล่ะ?

“อ่า! ไอ้บ้านั้นเข้ามาถูกจังหวะแล้วก็ผลักฉัน”

ถูกต้องเลย

เขาตกลงไปในกับดัก มันเป็นกับดักที่โหดที่สุดที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยากจะหนีออกมาได้

ลี กอน ไม่เคยลืมความรู้สึกของคนที่ผลักเขาลงไปจากข้างหลัง ถ้านั่นยังไม่แย่พอ เขาจดจำความเจ็บปวดของการที่ถูกแทงข้างหลังได้ดีเลย แค่นั้นก็มากเกินพอที่เขาจะสู้ไหวแล้ว เพราะการที่เขาต่อสู้กับเรดอายมันทำให้เขาอ่อนแรงลงมาก

“ว้าว! พอดีเป๊ะเลยแฮะ ทำไมพวกนั้นไม่บอกฉันตั้งแต่แรกที่มาที่นี่กันนะ ตอนที่ฉันต่อว่าพวกนั้นมันตามฉันมาไม่ทันกันด้วยซ้ำ”

ภายในของ ลี กอน รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกไฟเผาไหม้จากการถูกทรยศ เขาอ้วกออกมาเป็นเลือดจากการที่ถูกมีดแทงทะลุปอด ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเลือกโอกาสนี้เพื่อที่จะฆ่าเขาซะ เพราะตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด

‘ไอ้พวกสารเลว’

เสียงหัวเราะดังลั่นระเบิดออกมาจากปากของเขา

นี่พวกแกไม่ชอบการที่ได้ทำงานด้วยกันรึไง หรือพวกแกแค่ไม่อยากใช้พลังของตัวเองช่วยคนอื่นกัน

ลี กอน ไม่เคยกลัวความตาย แต่เขารู้สึกรังเกียจกับการประทำของคนพวกนั้นเข้าไส้

“ถ้าฉันจะตายก็วางยาพิษใส่ไก่ทอดให้ฉันกินซะยังจะดีกว่า อย่างน้อยก็น่าจะอร่อย ไอ้พวกเวรเอ้ย”

ไม่ใช่ทั้งสิบสองคนหรอกที่เป็นคนทรยศ

‘มีแค่บางคนเท่านั้นแหละที่อยากจะฆ่าฉัน​‘

สิ่งที่ ลี กอน เห็นก็เริ่มเลื่อนลางขณะที่เขากำลังกัดฟันพูด

แต่ทันใดนั้น….

“กิ๊งงงงงงงงง!”

‘!’

ปีศาจหัวปลาหมึกปรากฎตัวขึ้นข้างหลังเขา และมันกำลังค่อยๆเข้ามาหาเขา เมื่อ ลี กอน มองไปที่ด้านหลังของปีศาจตัวนั้น เขาเห็นปีศาจอีกหลายหมื่นตัวตามมันมา

‘อ่า! ไอ้ระยำเอ้ย’

สิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่านั้นคือ คนอื่นๆกลับหนีปีศาจทั้งหมดเพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้ ยังไม่หมดแค่นั้น ทันทีที่ ลี กอน ตกลงมาที่กับดักนี่ ความสามารถทุกอย่างของเขาก็ถูกพรากเอาไป

สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือใช้มีดหั่นเนื้อต่อสู้เพียงเท่านั้น เป็นเพราะเขามีแขนเหลือแค่ข้างเดียว นั่นเลยเป็นเพียงทางเลือกเดียวของเขาที่สามารถทำได้และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาพูดคำต่อไปนี้

“อ้าา นี่คือสิ่งที่ฉันได้จากการที่ฉันกินปีกไก่หมดงั้นหรอ”

ลี กอน รู้ว่าเขาไม่สามารถเลี่ยงความตายได้เพราะแขนซ้ายขอเขาก็ขาดออก

แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความเขาจะต้องตายแบบนั้น เขาเป็นถึงมนุษยชาติที่แข่งเเกร่งที่สุดที่สังหารเรดอายด้วยตัวคนเดียว

สายตาของเขาเห็นแสงของใบมีดที่ถูกฟันลง ณ ตรงนั้น

“คิ๊กกกก!”

ใบมีดของเขาส่องแสงขณะที่เขาฟันมันลงไปที่ปีศาจปลาหมึก

“คู รูง กู๊งงง!”

“คี๊กกกกก!”

เขายังคงสังหารศัตรูของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จนลืมว่าเวลาเดินหน้าไปถึงไหนแล้ว

ถ้าเขาไม่ฆ่าพวกปีศาจพวกนี้ทั้งหมด ถ้าเขาไม่ฉีกปากของพวกมันออกซะ เขาเองก็จะต้องกลายเป็นอาหารให้กับพวกมัน และมันก็จะกลายเป็นจุดจบที่น่าอับอายของเขา เขาเลยต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่าไม่ต้องสนอะไรแล้วหลังจากนี้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยอะดรีนาลีนที่เต็มเปี่ยม เส้นประสาทของเขาและหัวใจของเขาเต้นไม่หยุด

มันนานแค่ไหนแล้วนะตั้งแต่ที่เขาเริ่มสังหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขา

[นี่… นี่มันไร้สาระสิ้นดี… แกมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”]

มันควรจะเป็นหอคอยที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถเคลียร์ได้ แต่ ลี กอน สามารถฆ่าปีศาจทั้งหมดในนี้ได้

[ดะ…เดี๋ยวก่อนนะ! มีใครอยู่ที่นี่งั้นหรอ!]

“นายสามารถเรียกร้องทุกอย่างที่นายต้องการได้เลยล่ะ”

ปุ๊กกก!

เมื่อศัตรูตัวสุดท้ายถูกสังหารลงกับดักนั้นก็ถูกทำลาย

และท้ายที่สุด ลี กอน ก็ล้มลง

เขารู้สึกทรมาณและเหนื่อยล้ากับการสังหารเหล่าปีศาจที่พยายามจะฆ่าเขา เขารู้สึกเหมือนกันเวลาผ่านไปหลายปีในขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่ มันเป็นเหมือนราวกับปาฏิหาริย์ที่เขายังรอดมาได้จนถึงตอนนี้

แต่ตอนนี้เขาได้ตายไปแล้ว ไม่สิ! เขาคิดว่าเขาตายไปแล้ว

เขาแน่ใจแล้ว

* * *

“รอก่อน”

“เฮ้ นายโอเคมั้ย”

ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้ ลี กอน ยังมีชีวิตอยู่

เขาไม่รู้เลยว่าทำไม

เมื่อเขาออกมาจากหอคอย เขาก็ได้พบกับรูปร่างที่เขาคุ้นเคย

‘สิ่งมีชีวิต’

แสงแดดจ้าทำให้เขาแสบตาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ ลี กอน ก็เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น พวกเขามีรูปร่างที่ดูแข็งแรงดูมัวๆ แต่ยังไงก็ตาม เขาได้เห็นแขน ขา ตา จมูก ปาก และรูปร่างที่เป็นรูปร่างที่คุ้นเคย เขาไม่คิดว่าพวกนั้นจะเป็นปีศาจ แต่ว่า...

“เฮ้ ฉันถามว่านายโอเคมั้ย”

“พวกแกต้องเป็นปีศาจที่เป็นร่างมนุษย์แน่เลย” ลี กอน โวยวายออกมา

“หะ ห้ะะะ”

ตู้ม!

นักล่าที่อยู่ใกล้กับหอคอยกรีดร้องออกมาเพราะ ลี กอน ที่ยังคาบมีดเอาไว้ที่ปาก โยนมีดใส่พวกเขา

ตู้ม!

“อ้ากกก! นี่นายทำอะไรของนายเนี่ย”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกเราไม่ใช่ปีศาจนะโว้ย!”

นักล่ารู้สึกตกใจมาก

แค่ตอนนี้พวกเขาถูกโจมตีจากพวกปีศาจที่คาดไม่ถึงมันก็แย่มากพอแล้ว และตอนนี้ยังมีคนแปลกหน้าที่ออกมาจากหอคอยมาโจมตีพวกเขาอีก!

“อะไรวะเนี่ย ไอบ้านี่สวมหน้ากากแปลกๆ… จะยังไงก็ชั่ง! รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ!”

“อะไรนะ เขาเป็นมนุษย์ แล้วเขาก็ออกมาจากหอคอยงั้นหรอ ข่าวหน้าหนึ่งทุกช่องจะต้องพูดถึงเขาแน่! พวกเขาจะต้องบ้าแน่ๆ! มาดูกันว่าเขาเป็นใคร!”

“นายตายบอดรึไง เขาไม่ได้ออกมาขากหอคอยเว้ย เขาอาจจะเป็นแค่คนที่อยู่แถวนี้ก็ได้ เมื่อวานนายไม่เห็นข่าวรึไงที่บอกว่ามีผู้ชายหลายคนมาเดินอยู่แถวนี้น่ะ”

ชายทั้งสองคนถกเถียงกัน มันทำให้ ลี กอน เอียงหัวด้วยความมึนงง

เขายังคงอยู่ใกล้กับรังของเรดอาย

‘ไม่ควรมีใครที่จะเข้าใกล้หอคอยนั่น’

ลี กอน เริ่มทบทวนความจำของเขาก่อนการโจมตีบนหอคอย เขาแน่ใจว่าพื้นที่แถวนี้ควรจะว่างเปล่ามาเป็นเวลาหลายปีแล้วแม้ว่าหอคอยจะถูกเคลียร์ การตัดสินใจครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับการที่พลังงานถูกปล่อยออกมาจากพวกปีศาจ

‘รัฐบาลเกาหลีจะไม่เพิกเฉยต่อภัยอันตรายนี้แน่’

แน่นอนว่า ลี กอน ถูกขังเอาไว้อยู่ในหอคอยเป็นระยะเวลาไม่รู้จบ เมื่อกับดักเริ่มทำงาน เวลาและสติของเขาก็เปลี่ยนไปภายในห้องนั้น

‘ถ้าฉันคำนวนถูกต้อง อย่างน้อยเวลาในหอคอยนั่นก็น่าจะผ่านมาหลายร้อยปีแล้วสิ’

เวลาในหอคอยแตกต่างจากเวลาภายนอก น่าจะมากกว่าเวลาจริง นี่น่าจะเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงมีคนอยู่ไกล้หอคอยนี่

‘ทำไมฉันถึงได้รู้สึกถึงพลังเวทย์มนต์จากมนุษย์ล่ะ’

‘การต่อสู้ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของ ลี กอน เป็นอัมพาต แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์มนต์ที่มาจากชายสองคนที่อยู่ตรงหน้า นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าเริ่มมีบางอย่างผิดปกติ’

‘นอกจากฉันและคนอื่นๆ มนุษย์คนอื่นก็ไม่ควรใช้พลังเวทย์ได้หนิ’

ตามที่เขาคาดไว้ สองคนนี้คงต้องเป็นปีศาจในร่างมนุษย์แน่ๆ นั่นเป็นสาเหตุที่เขาพยายามจะฆ่าพวกเขา

“อ้ากกกกก!”

นักล่าที่กำลังจะหนีก็ล้มลงกับพื้น พวกปีศาจหมาป่าที่แยกย้ายกันไปเมื่อครั้งที่หอคอยในตำนานพังทลายลงมันกลับมา

“คู รูง กู๊งงง!”

นักล่าตะโกนด้วยความตกใจ

“บ้าเอ้ย! พวกมันกลับมาแล้ว!”

“ตามที่คาดไว้พวกมันไม่มีทางที่จะยอมแพ้ให้กับเหยื่อแน่!”

หมาป่าสีดำประมาณยี่สิบตัวมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา

พวกเขาเห็นหมาป่าสีแดงที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าฝูง

มันจะเป็นปาฏิหาริย์มากสำหรับผู้ใช้ระดับสูง หรือผู้ตื่นของพลังคนไหนก็ตาม ถ้าพวกเขาสามารถรอดจากการถูกโจมตีจากปีศาจมากมายพวกนี้ได้

ในท้ายที่สุด นักล่าก็กัดฟันสู้และยกอาวุธขึ้น

“ไม่ว่าจะยังไง! ตอนนี้ถ้ามันเป็นแบบนี้ ก็ออกไปสู้เหมือนกับ ลี กอน! ออกไปทำให้ดีที่สุดเพื่อโลกนี้!”

“โอ้ท่าน ลี กอน นิม ผู้ยิ่งใหญ่ โปรดมอบพลังให้แก่พวกเราด้วยเถอะ!”

พวกเขากำลังพูดถึงเขา มันทำให้ ลี กอน ยิ่งสับสนมึนงง

ทำไมพวกนั้นถึงเรียกเขาในสถานการณ์แบบนี้ล่ะ

เขาคิดไม่ออกเลย

‘พวกเขาเป็นมนุษย์’

ไม่มีทางที่พวกปีศาจจะพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้น

การมองเห็นของ ลี กอน เริ่มค่อยๆกลับมาเป็นปกติอย่างช้าๆ เขารีบหันมองไปทางอื่นประสาทสัมผัสของเขายังคนแข็งทื่อ และการมองเห็นของเขาก็ยังไม่กลับมาเต็มที่สักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะขัดขวางไม่ให้เขาเดินไปได้

‘ฉันต้องออกไปจากที่นี่’

เขาอยากที่จะฆ่าใครบางคน แต่ว่าตอนนี้มันมีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า บางสิ่งที่สำคัญมากๆ

มันกำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น

“เฮ้! นี่นายบ้าไปแล้วรึไง นายไปไม่ได้นะ!”

หนึ่งในนักล่าตะโกนออกมาเพราะเขาเห็นปลายทางที่ ลี กอน กำลังมุ่งหน้าไป

“นายอยากตายรึไง”

“อะไรนะ” ลี กอนถาม

“นายไม่เห็นปีศาจที่อยู่ตรงหน้านายรึไง!” นักล่าตอบ

ทันใดนั้น เลือดก็ไหลออกจากใบหน้าของนักล่า เมื่อ ลี กอน หันไปมองพวกเขา พวกหมาป่าก็พุ่งเข้าหาเขาทันที เขี้ยวที่แหลมคมของพวกหมาป่าเล็งไปที่คอของเขา

“อ้ากกก!”

“ระวัง!”

ชายหนุ่มทนดูกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ เขาและนักล่าอีกคนจ้องตากัน

แต่ทว่า…

“ไอ้โง่เอ้ย”

เสียงดังขึ้นขณะที่หมาป่ากำลังหอน

“แก๊ง!”

“แก๊ง แก๊ง!”

“! !”

น่าล่ากรีดร้อง

“อ้ากกก!”

ตู้ม!

พวกหมาป่ากำลังถูกบดขยี้ พวกมันกระเด็นไปรอบทิศทางราวกับว่าถูกทิ้งลงถังขยะ

ดูเหมือนว่าชายสวมหน้ากากจะรู้เรื่องหมาป่าแล้ว

“แม่งเอ้ย! ฉันอยากจะปล่อยพวกแกไปจริงๆเลย เพราะตอนนี้ฉันกำลังยุ่ง! เลิกกวนฉันได้แล้วไอ้พวกโง่ไร้ประโยชน์เอ้ย!” ลี กอน พูดด้วยความโกรธ

กระทืบ!

“…!”

มันทำให้นักล่าตกใจมาก

“ผู้ใช้ระดับสูงบางคนยังต้องใช้เวลานานเพื่อจะฆ่าปีศาจพวกนี้ แต่เขากลับฆ่าพวกมันง่ายๆงี้เลยเนี่ยนะ!”

อันที่จริงผู้ชายคนนี้ฟันหัวหมาป่าอัลฟ่าได้โดยการฟันเพียงครั้งเดียวด้วย

เด็กหนุ่มคนนั้นพูดคำบางคำออกมาโดยไม่รู้ตัว

“เวรเอ้ย! เขามันโคตรบ้า”

ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น เขาก็ได้สบตากับ ลี กอน เด็กนั่นสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ

‘เขาได้ยินฉันหรอ’

เสื้อผ้าของชายตรงหน้าขาดรุ่งริ่ง เขาดูเหมือนสัตว์ร้ายบนภูเขาที่สกปรก ดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวของเขาสามารถมองเห็นได้จากผมยาวที่ปิดบังใบหน้าของเขา

ตัวตนของชายคนนี้ชั่งลึกลับเหลือเกิน

อย่างไรก็ตาม นักล่ารู้ว่าชายผู้นี้จะเป็นผู้ที่พาเขาออกไปจากที่นี่ได้ ตอนนี้พวกเขามีหวังที่จะออกไปจากที่นี่ทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว

แต่ว่า…

ชายคนนั้นรู้สึกหงุดหงิดและเริ่มถอนหายใจ และมันทำให้พวกนักล่าตัวสั่นด้วยความกลัว

ท้ายที่สุด ลี กอน ก็เดินเข้าไปหาพวกนักล่าที่กำลังเขาทรุด

พวกเขามั่นใจ

‘เขาได้ยินที่เราด่าเขาแน่’

พวกเขามั่นใจว่าพวกเขาต้องเผชิญชะตากรรมเหมือนพวกหมาป่าพวกนั้นแน่ๆ

‘แย่แล้วล่ะ! ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ดีนะ”

เมื่อเงาของชายคนนั้นเข้ามาใกล้พวกเขา…

“เฮ้ย” ลี กอนพูด

พวกนักล่ารีบก้มหัวลง

“พวกเราขอโทษครับ! เราขอโทษครับ!”

“ขอโทษทีน้า แต่ฉันต้องการอาหารหน่อยน่ะ” ลี กอนพูดขัดพวกเขา

“อะ อะไรนะ”

วีรบุรุษที่กำลังหิวโซแทบจะล้มลงตรงหน้าของพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด