ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 37 สถานที่ทดสอบโชคชะตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 39 เจตจำนงค์อันแรงกล้า

STBI : ตอนที่ 38 การท้าทายที่เต็มไปด้วยอันตราย


ไป๋ตงหลิน ได้ดึงมือของเขาออกมา และ หยิบ เหล็กสีน้ำเงิน ชิ้นนึงออกมาได้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้จัก แต่มันก็สมควรเป็นวัสดุที่มีค่าเป็นอย่างมาก

“เยี่ยม!”

เขาได้โยนมันใส่เข้าไปในแหวนมิติและเอื้อมมือเข้าไปในกล่องสุ่มต่อ

โชคไม่ดีที่ในครั้งนี้ เขาได้ดึงลูกแก้วสายฟ้าออกมา สิ่งนี้ ได้เรียกสายฟ้าออกมาฟาดผ่าร่างกายของเขาโดยตรง

ในเวลานี้ กระบวนการฟื้นคืนที่แข็งแกร่ง ก็ได้ดำเนินการต่อไป มันทำให้ ความเร็วในการฟื้นตัวของ ไป๋ตงหลิน เพิ่มมากขึ้น

อันตรายเหล่านี้ ไม่ได้ฆ่าเขาทุกครั้งที่โจมตี กระทั่งพิษบางชนิด ก็ไม่ได้ทำอันตรายแก่เขาจนถึงตาย ซ้ำยังให้พลังที่เพิ่มขึ้นแก่เขาแทนอีกด้วย

หลังจากผ่านไป 500 ครั้ง ไป๋ตงหลิน ก็พบว่า ยิ่งเขาดึงมันออกมามากเท่าไหร่ อัตราส่วนของรางวัลต่อบทลงโทษก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แหวนมิติของเขา เต็มไปด้วยสิ่งของมีค่ามากกว่า 200 ชิ้น

เมื่อเขายื่นมือเข้าไปในกล่องนี้ต่อ ก็มีเหตุบังเอิญปรากฏขึ้น กล่องสุ่มทองเหลือง ได้ปิดตัวลง

“อะไร ขี้เหนียวจัง ฉันกะว่าจะสุ่มต่ออีกสักหน่อย!”

ไป๋ตงหลิน ขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับว่า เขากำลังเล่นอยู่ในบ่อนการพนัน และ เล่นจนบ่อนพนันไม่มีที่จะจ่ายเขา

“จะไม่เปิดให้ฉันต่อใช่มั้ย?”

เขาได้โคจรพลังหมัดเจ็ดหนองน้ำอย่างเต็มที่และซัดเข้าไปที่ร่างของกล่องทองเหลืองในทันที

หลังจากชกกำปั้นที่ทรงพลังออกไปใส่กล่อง กล่องทองเหลืองนี้ ก็ไม่แม้แต่จะสั่นไหว หรือทิ่งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย แม้แต่เสียงการปะทะ ก็ยังถูกดูดเข้าไป

เขาได้สั่นศีรษะ อย่างไม่มีทางเลือก และ ได้ตัดสินใจเดินเข้าไปในพระราชวังอย่างช้า ๆ เขาได้มองย้อนกลับไปที่ กล่องทองเหลือง อีกครั้ง แต่มันก็ยังคงปิดสนิทอยู่เช่นเคย

ทันทีที่ ไป๋ตงหลิน เข้าไปในพระราชวัง กล่องทองเหลือง ก็ได้เปิดปากออกเหมือนเดิม

ราวกับว่า เจ้ากล่องทองเหลืองนี้มีความคิดเป็นตัวของมันเองและไม่ต้องการปล่อยให้ ไป๋ตงหลิน ครอบครองทุกสิ่งอย่างภายในกล่องไปเพียงผู้เดียว

ภายในพระราชวังขนาดใหญ่

ไป๋ตงหลิน สัมผัสได้ถึงแสงสว่างที่อยู่ข้างหน้าเขาแกว่งไปมาอยู่ชั่วขณะ กระทั่ง เขาได้เห็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่

ในปัจจุบัน เขาพบว่าตัวเองยืนอยู่บน อัฒจันทร์ ที่มีลานขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ซึ่ง เหม่ยหงหยิง ชายชรา และ เหล่านักพรตเต๋า ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระวัง

“นี่…สถานการณ์ในตอนนี้คืออะไร?”

เขาได้จ้องมองไปที่ผู้คนด้านหน้าลานขนาดใหญ่ หลายคนรู้สึกผงะ เมื่อได้ยินเสียงนี้

“เจ้ายังไม่ตาย?!”

ดวงตาที่เบิกกว้างและมีเสน่ห์ของ เหม่ยหงหยิง ได้สั่นไหวเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางตกใจกับความตายและการฟื้นคืนชีพของ ไป๋ตงหลิน

สิ่งนี้ยิ่งทำให้ ในใจของ เหม่ยหงหยิง รู้สึกปั่นป่วน นางแน่ใจว่า ไป๋ตงหลิน ได้ตายลงในเวลานั้น เพราะจิตวิญญาณของเขาได้สลายหายไป อีกทั้ง พันธะโลหิต ก็ยังถูกคลายออกโดยอัตโนมัติ นางในฐานะ ผู้ควบคุมพันธะโลหิต ย่อมไม่มีทางดูผิดพลาดไปได้

แต่ทว่าคนที่ตายไปแล้วกลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งต่อหน้านาง? นี่คืออะไร ฝาแฝดงั้นหรือไม่?

เหม่ยหงหยิง ได้มองไปที่ ไป๋ตงหลิน และ กล่าวพูดอย่างช้า ๆ :

“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป ว่ากันว่าเหล่าคนที่ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะพลังกาย จะมีร่างกายและจิตวิญญาณที่ทนมาก เห็นได้ชัดว่า เจ้าเป็นดั่งในคำร่ำลือ ช่างน่านับถือมากจริง ๆ!”

ไป๋ตงหลิน ยิ้มเล็กน้อย และ ไม่ต้องการอธิบายอะไรมากเกินไป ขอบเขตร่างกายของเขา ยังคงอยู่ในขีดจำกัดของร่างมนุษย์

เพราะปัจจุบัน เขายังขาดทักษะบ่มเพาะพลังกายอยู่ เพียงแต่ เมื่อเขาเข้าสู่นิกาย มันก็ไม่ยากเย็นที่จะบินขึ้นสู่สรวงสวรรค์ด้วยพื้นฐานพลังกายในปัจจุบันของเขา

“คุณหนูเหม่ย ณ จุดนี้ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องตั้งตนเป็นศัตรูกัน อีกทั้งพวกเรายังไม่เคยมีความเกลียดชังอย่างสุดซึ่งกันมาก่อน มันจะดีกว่าหากพวกเรามาร่วมมือกัน”

“สำหรับสถานที่อันตรายเช่นนี้ หากท่านรู้อะไร ก็โปรดบอกข้าที บางทีพวกเราอาจจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้”

ไป๋ตงหลิน ได้เผยรอยยิ้มออกมา แน่นอนว่ามันเป็นรอยยิ้มจอมปลอม ในใจของเขา ได้ครุ่นคิดบางอย่าง หากมีโอกาส เขาจะฆ่าหญิงชั่วคนนี้ เพราะถ้าไม่ใช่ว่าเขามีร่างกายที่เป็นอมตะ เขาคงถูก หญิงชั่ว นางนี้ ฆ่าตายไปแล้ว

เหม่ยหงหยิง ที่ได้ยิน ได้เอามือปิดปากและกล่าวออกมา“เหอ เหอ คุณชายไป๋ ช่างน่าสนใจมากจริง ๆ ซึ่งข้าเองก็เห็นด้วยกับความร่วมมือของพวกเรา หลังออกจากพระราชวังชาไห่แล้ว ข้าจะเลี้ยงสุราดี ๆ พร้อมกับตอบแทนคุณชายด้วยความโปรดปรานอย่างหาที่สุดมิได้”

เฮ้ คิดจะใช้มารยาล่อลวงฉันงั้นหรือไม่?

ไป๋ตงหลิน ยิ้มและพยักหน้า“คุณหนูเหม่ยช่างคิดรอบคอบเสียจริง เพียงแต่ หากคุณหนูเหม่ยต้องการตอบแทนข้าด้วยความโปรดปรานเช่นนั้น มิใช่ว่าพวกเราจะต้องรอดชีวิตออกไปจากพระราชวังชาไห่ให้ได้ก่อนหรอกเหรอ?”

คนสองคนที่มีความคิดต่างกันพวกเขาได้สื่อสารกันด้วยรอยยิ้มที่ดูสนุกสนาน

เหล่านักพรตเต๋า ที่อยู่ด้านข้าง ได้มองไปที่ ไป๋ตงหลิน อย่างดูถูก เจ้าบ้านี่ คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีชั่วร้ายคนนี้ รนหาที่ตายเสียแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขายังไม่ได้ฟื้นความแข็งแกร่งที่เพียงพอในตอนนี้ และ ไม่มีโอกาสเอาชนะชายชราคนนั้นได้ พวกเขาก็ไม่มีทางอยู่เฉย และ พุ่งออกไปต่อสู้จนตัวตายเพื่อล้างแค้นให้กับความอัปยศและน่าสลดใจของพวกเขา

หลังจากได้ยินข้อมูลจากปากของ เหม่ยหงหยิง ไป๋ตงหลิน ก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน

ศูนย์กลางของลานขนาดใหญ่นี้ จะสุ่มรีเฟรชสมบัติ และ จะแนะนำข้อมูลของสมบัติโดยทั่วไปด้วย เพียงแต่ คุณจะต้องเข้าท้าทายบางอย่าง หากประสบความสำเร็จ คุณก็จะสามารถรับเอาสมบัติและเข้าสู่ด่านถัดไป เพียงแต่หากล้มเหลว ก็จะตาย

ในเวลานี้ มีกระบี่สีเงินเข้มขนาดใหญ่ห้อยอยู่ตรงกลางของลานใหญ่ เมื่อมองเข้าไปที่กระบี่ ข้อความบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของ ไป๋ตงหลิน

กระบี่ปี้ป๋อ ธาตุน้ำ สมบัติวิญญาณระดับกลาง

การแสดงออกของ ไป๋ตงหลิน ได้เปลี่ยนไป มันเป็น อาวุธวิญญาณ อีกอย่างจะต้องรู้ว่าแม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังธรรมดาทั่วไปในดินแดนทารกในครรภ์หยวน ก็ยังไม่มีสิ่งนี้

อาวุธวิเศษนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นสมบัติวิญญาณที่เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณและสติปัญญา สมบัติแต่ละชิ้นล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ทำให้มันเป็นที่ต้องการของเหล่านักพรตเต๋าอย่างมาก

อาวุธที่คนธรรมดาทั่วไปใช้ถูกเรียกว่า ‘อาวุธระดับมนุษย์’ ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ได้แบ่งอาวุธวิเศษออกเป็น : มนุษย์,วิญญาณ,ปราชญ์,เต๋า และ อมตะ

โดยแบ่งออกเป็นระดับ ล่าง,กลาง และ สูง โดยที่นี่มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างแต่ละระดับ ซึ่งกล่าวได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก

แม้แต่ ผู้บ่มเพาะพลังดินแดนสร้างร่างจิตวิญญาณจำนวนมาก ก็ยังมีเพียงแค่อาวุธวิญญาณระดับต่ำ ดังนั้น การปรากฏตัวของ กระบี่ปี้ป๋อ นี้ จึงทำให้ หัวใจของ ไป๋ตงหลิน รู้สึกสั่นไหว

เพียงแต่น่าเสียดาย ที่มีใครบางคนได้ลงไปท้าทายด่านนี้แล้ว ซึ่ง ส่วนที่เหลือ ไม่สามารถเข้าร่วมได้

ในเวลานี้เอง มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ปรากฏขึ้นที่ด้านล่าง จากนั้นร่างที่กลายเป็นซากศพก็ล้มตัวลง

ล้มเหลว!

กระบี่ปี้ป๋อ ได้สั่นไหวและหายไปพร้อมกับศพของนักพรตเต๋าที่ท้าทาย

ทุกคนบนอัฒจันทร์แสดงท่าทีสงสารออกมา และ มองไปที่ กระบี่ปี้ป๋อ

ในเวลานี้ แสงสว่างได้ปรากฏขึ้นที่ใจกลางของลานขนาดใหญ่ และ สมบัติอีกชิ้นก็ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ

มันเป็นขวดหยกขาวที่มี หยดน้ำสีทองเปล่งประกาย และ ทันใดนั้น ก็มีข้อความปรากฏขึ้นในใจของทุกคน

โลหิตมังกร! โลหิตมังกร 1 หยด!

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อพูดถึงสิ่งมีชีวิตอย่างมังกร นี่ก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่า

ไป๋ตงหลิน ไม่ได้เคลื่อนไหว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าโลหิตมังกรนั้นล้ำค่า แต่มันก็ค่อนข้างไร้ประโยชน์ที่จะครอบครองมันไว้

ชายชรา ที่ยืนอยู่ด้านข้าง เหม่ยหงหยิง ได้กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “คุณหนู ได้โปรดให้บ่าวชราคนนี้ลงไปเอาโลหิตมังกรมาให้ท่าน!”

เมื่อเห็น หน้าตาที่ดูลังเลของ เหม่ยหงหยิง ผู้เฒ่าหลิว ก็กล่าวพูดอีกครั้ง“ในอดีต ท่านพ่อของคุณหนูเป็นคนช่วยชีวิตชายชราคนนี้เอาไว้ ดังนั้น ชีวิตของตาเฒ่าคนนี้เป็นของตระกูลเหม่ย ไปตั้งนานแล้ว”

“เข้าใจแล้ว ผู้เฒ่าหลิว ระวังตัวด้วย!”

ผู้เฒ่าหลิว ได้พยักหน้า และ กระโดดลงไปข้างล่าง ทันใดนั้น ระลอกคลื่นก็กวาดผ่านร่างของเขาจนทำให้ร่างของเขาหายไป

“คุณหนูเหม่ย ไม่ต้องกังวลไป ผู้เฒ่าหลิวคนนี้ ดูแข็งแกร่งมาก ย่อมไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับเขา!”ไป๋ตงหลิน ได้ปลอบปะโลมอยู่ด้านข้าง

ส่วน เหม่ยหงหยิง ได้พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ

“เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่า โลหิตมังกรนี้ มีบทบาทอย่างไร ดูเหมือนว่าคุณหนูเหม่ยค่อนข้างอยากจะได้มันมาครอบครอง!”

เหม่ยหงหยิง ได้เหลือบมองไปที่เขาและกล่าวออกมา “โลหิตมังกรนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก มันเป็นเครื่องมือในการหลอมกลั่น การเล่นแร่แปรธาตุ ฯลฯ สำหรับตระกูลของข้า โลหิตมังกรนี้สามารถนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ต้องขออภัยที่ข้าไม่สามารถบอกรายละเอียดกับคุณชายได้”

ไป๋ตงหลินยิ้มและไม่ถามอะไรมาก

หลังจากระยะเวลาถ้วยชาสิ้นสุด ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากนั้น ผู้เฒ่าหลิว ก็ปรากฏตัวออกมา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแขนขวาของเขาหัก กระทั่งลมหายใจยังรวยริน ทว่าเขายังมีชีวิตรอดกลับออกมา

ในเวลานี้ ขวดหยกที่ลอยอยู่บนอากาศ ค่อย ๆ ลอยมาอยู่ตรงหน้าของ ผู้เฒ่าหลิว ซึ่ง ผู้เฒ่าหลิว ได้รับมันมาอย่างตื่นเต้น และ กระโดดขึ้นไปบนอัฒจันทร์ พร้อมกับ มอบโลหิตมังกรให้กับ เหม่ยหงหยิง :

“คุณหนู ข้านำมันมาให้ท่านได้แล้ว!”

เหม่ยหงหยิง รับขวดหยกมาด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับ หยิบโอสถรักษาออกมาช่วยเหลือผู้เฒ่าหลิวในการรักษาอาการบาดเจ็บ

เหล่าผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่โดยรอบ เมื่อเห็นว่า ผู้เฒ่าหลิวได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับ ได้รับ โลหิตมังกรมา ทันใดนั้น พวกเขาก็มองหน้ากัน และ ริ่เริ่มความคิดที่จะแก้แค้น

ทว่า เหม่ยหงหยิง รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขา นางได้เหลือบมองไปที่พวกเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม พร้อมกับ เรียก กระบี่บินสีโลหิตออกมา กระบี่บินนี้ คล้ายกับว่ามันมีชีวิต และ มันได้ร่ายรำอยู่บนอากาศ

อาวุธวิเศษ!

กระบี่บินนี้ เป็นอาวุธวิเศษเล่มนึง แม้ว่าคุณภาพของมันจะด้อยกว่า กระบี่ปี้ป๋ออาวุธวิญญาณระดับกลาง แต่มันก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังของอาวุธวิญญาณอย่างแท้จริง

เหม่ยหงหยิง ได้ซุกซ่อนพลังบางอย่างเอาไว้

หลังจากเห็นสิ่งนี้ เหล่านักพรตเต๋า ได้เผยสีหน้าที่น่าเกลียดออกมา พวกเขาได้ล่าถอยออกไปและไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ เหม่ยหงหยิง เพราะกลัวจะถูก กระบี่ที่เป็นอาวุธวิญญาณ ตัดศีรษะ

ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในลานขนาดใหญ่ ระลอกคลื่น และ สมบัติได้ปรากฏออกมา มันเป็น หลอดหยกสีดำที่มีขนาดเท่ากับนิ้ว

จากนั้น ข้อมูลเหล่านี้ ก็ผุดขึ้นในใจของทุกคน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ การแสดงออกของ ไป๋ตงหลิน ดูตื่นเต้นอย่างมาก

พลังเหนือธรรมชาติ-เนตรจิตวิญญาณ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด