ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 35 ตัวตลกเพียงคนเดียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 37 สถานที่ทดสอบโชคชะตา

STBI : ตอนที่ 36 พระราชวังชาไห่


ผู้หญิงในชุดขาวได้แตะฝ่ามือของนางลงบนแผ่นดินเหนียวสีแดง

ทันใดนั้น แผ่นดินเหนียวสีแดงก็พลันแตกสลายในทันที!

ฟุ่บ—

ทันใดนั้น รอยเส้นโลหิตสีแดงก็ปรากฏขึ้นตรงใจกลางของพื้นที่ และ มันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจนหลายคนไม่ทันได้ตอบสนอง

หลังจากเส้นโลหิตเหล่านี้บิดเบี้ยวอยู่พักนึงไม่นานพวกมันก็หายไป

จากนั้นทะเลทรายแห่งนี้ก็บังเกิดปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดเป็นครั้งคราว เมฆสีดำได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสายฟ้าจำนวนมากที่ฟาดผ่าลงมาภายในพื้นที่จนทำให้นักล่าสมบัติจำนวนมากถูกฟ้าผ่าตาย

ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่าทัศนียภาพเบื้องหน้าของเขากำลังมืดมน เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงแสงสว่างอีกครั้ง เขาก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู่ที่ทะเลทรายอีกต่อไป แต่ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่ไม่รู้จัก

ที่นี่มีพระจันทร์สีโลหิตแขวนอยู่บนท้องฟ้า และ ผืนดินก็เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเปียกโชกไปด้วยโลหิต

สถานการณ์นี่มันอะไร นี่มันค่อนข้างแปลกเกินไปแล้ว?

นอกจาก หญิงสาวในชุดขาวและชายชราแล้ว เหล่านักพรตเต๋าจำนวนมาก ต่างตื่นตระหนกอย่างแท้จริง

ไป๋ตงหลิน ได้ตัดสินใจเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลง

แน่นอนว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครเคลื่อนไหว จนพี่ชายฝาแฝดอย่าง ซานเหวิ่น ได้ตะโกนใส่ผู้หญิงในชุดขาว :

“เจ้าทำบ้าอะไรกัน?”

หญิงสาวในชุดขาวยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่ทุกคนและกล่าวออกมา :

“เจ้าพวกทาสทั้งหลาย จงจำไว้ว่านายของพวกเจ้าคนนี้มีชื่อว่า เหม่ยหงหยิง!”

หลังจากที่ เหม่ยหงหยิง พูดจบ นางก็หันหลังกลับมาและส่งยิ้มเล็กน้อย “สำหรับคำถามที่ว่าที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้คือสถานที่ที่พวกเจ้าใฝ่ฝันจะเข้ามาหรอกเหรอ ‘พระราชวังชาไห่’ !”

“เจ้ากำลังพูดบ้าอะไร!?”

“หรือว่าตำนานเป็นความจริง! พระราชวังชาไห่ มีอยู่จริง!”

ทุกคนดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลังจากได้รับคำยืนยันจากปากของ เหม่ยหงหยิง หลังจากได้รับข่าวว่า เหม่ยหงหยิง ต้องการเข้าไปในทะเลทราย พวกเขาจึงได้ส่งคนใกล้ชิดเข้าไปติดตามอยู่ใกล้ ๆ

พวกเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าทุกอย่างจะราบรื่น และ มีโอกาสได้เข้าสู่ พื้นที่ลับในตำนานอย่างง่ายดาย!

ทุกคนได้พลันสงบลงและมองไปที่ พวก เหม่ยหงหยิง ทั้งสองอย่างชั่วร้าย ในเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่จำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป โดยเฉพาะหญิงสาวคนนี้ที่รู้จัก พระราชวังชาไห่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด มันจะดีกว่าที่จะฆ่านางซะ!

เหล่าผู้บ่มเพาะพลังล้วนมองหน้ากัน จากนั้น ผู้ฝึกยุทธ์บางคนก็กระโดดขึ้นไปและเตรียมจะขย้ำใส่ เหม่ยหงหยิง!

เหม่ยหงหยิง ไม่ได้หลีกเลี่ยงหลังจากเห็นสิ่งนี้ กลับกันนางได้ยืนนิ่งอยู่กับที่

ท่าพยัคฆ์คำรณนี้ที่มีพลังเพียงพอที่จะฆ่า เหม่ยหงหยิง ทันใดนั้น มันก็พลันหยุดชะงักกลางอากาศ พลังงานจำนวนมากได้พลันหายไป และ แทนที่ด้วยนักพรตเต๋าที่ปลดปล่อยทักษะคนนี้ได้ล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

“อ๊ากก!”

นักพรตเต๋าวัยกลางคนนี้ได้กรีดร้องออกมา อักขระพลังสีแดงได้ปรากฏขึ้นบนผิวหนังของเขา และ ขยับเขยื้อนไปมาราวกับว่ามันมีชีวิต

เพียงใช้เวลาไม่นาน นักพรตเต๋าวัยกลางคน ก็ถูกสูบโลหิตไปจนหมด โลหิตจำนวนมากได้ถูกสูบลงไปในใต้ดินและย้อมให้ผืนดินแห่งนี้กลายเป็นสีแดงเดือดมากยิ่งขึ้น

เหล่านักพรตเต๋าที่เห็นฉากนี้ได้ล่าถอยออกมาอย่างหวาดกลัว เสียงกรีดร้องนั้นดูเจ็บปวดอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า นักพรตเต๋าวัยกลางคนนั้นจะต้องทุกข์ทรมานเพียงใด

ใบหน้าของ ซานเหวิ่น ซีดไปด้วยความตกใจและเขาได้กล่าวถามอย่างสั่นเครือ“จะ…เจ้าทำอะไรลงไป?”

ใบหน้าของ เหม่ยหงหยิง ล้วนแสดงสีหน้าไม่แยแส กลับกันนางกลับมองด้วยสายตาที่เย็นชาแทน :

“เจ้าพวกโง่! คิดว่าข้าคนนี้จะประมาทและปล่อยข่าวสำคัญเช่นนี้ให้หลุดออกไปง่าย ๆ จริง ๆ งั้นหรือไม่?”

“ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของข้า ตอนนี้พวกเจ้าตกอยู่ภายใต้อาณาเขตโลหิตของข้าแล้ว!”

เหล่านักพรตเต๋าเหล่านี้ล้วนมีสีหน้าที่น่าเกลียด

ไป๋ตงหลิน สัมผัสร่างกายของเขาอย่างระวัง และ พบว่ามีพลังงานจาง ๆ ในโลหิตของเขาอย่างแผ่วเบา ซึ่งเขาไม่ได้สนใจสิ่งนี้มากนัก

แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ตั้งใจโจมตีมัน กลับกัน เขาต้องการเฝ้าดูอยู่เบื้องหลัง เหม่ยหงหยิง คนนี้ ว่าต้องการจะทำอะไรต่อไป

นอกจากนี้ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะออกไปจากที่นี่อย่างไร มันคงจะยากลำบากไม่ใช่น้อยหากเขาต้องติดอยู่ที่นี่

เหม่ยหงหยิง ได้สร้างอาณาเขตโลหิตขึ้นมา ทำให้ชีวิตและความตายของคนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความคิดของนาง ดังนั้น พวกเขาในเวลานี้ จึงไม่ต่างไปจากทาสผู้ซื่อสัตย์

หลังจากกำมือเล็กน้อยและชี้ไปที่ทิศทางนึง เหล่านักพรตเต๋าหลายคนก็ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยโดยไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน

หลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึงถ้วยน้ำชา ทุกคนก็มาถึงทางแยก

ทางแยกนี้แบ่งออกเป็นสองทาง ที่แปลกก็คือ ที่ด้านหน้านี้ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต ซึ่งทำให้ทุกคนไม่สามารถมองผ่านหมอกโลหิตเหล่านี้ได้

เหม่ยหงหยิง ได้หยุดลง และ เหลือบมองไปบนทางแยกเหล่านั้น ก่อนที่จะสุ่มชี้ไปที่เหล่านักพรตเต๋าด้านหลังของนาง

“เจ้า! ไปสำรวจทางซะ!”

ใบหน้าของ นักพรตเต๋าที่ถูกเลือก ได้เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด แต่เขาไม่กล้าขัดขืน นักพรตเต๋าวัยกลางคนที่เสียชีวิตอย่างอนาถก่อนหน้านี้ ล้วนยังเป็นภาพติดตาของเขา

แม้ว่าเขาจะลังเลที่จะก้าวเดิน แต่เขาก็เดินไปข้างหน้า ไม่นานหลังจากเข้าไปในหมอกโลหิต ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น และ ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใด ๆ ต่อไป

มองเห็นฉากนี้ เหม่ยหงหยิง ขมวดคิ้วแน่น พันธะโลหิตในการเหนี่ยวนำกับเจ้าของร่างนี้ได้หายไปในทันที ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะจบชีวิตลงแล้ว

นี่เป็นการสุ่มใช้คนเพื่อเบิกทางเพื่อดูอันตราย

เมื่อรู้เช่นนี้ เหล่าสีหน้าของนักพรตเต๋าเหล่านี้ได้เปลี่ยนไป ในที่สุดพวกเขาก็รู้จุดประสงค์ของปีศาจสาวคนนี้ ที่แท้ ก็ต้องการให้พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกเส้นทาง!

น่าเสียดาย ที่ตอนนี้พวกเขาไม่อาจขัดขืนได้ จึงทำได้เพียงแต่ปฏิบัติตามคำสั่งเพียงเท่านั้น

ฉากเดียวกันได้ปรากฏขึ้นในมุมของพื้นที่นี้ และ เหล่านักพรตเต๋าหลายคนก็เจอทางแยกระหว่างทาง

เลือก 1 ใน 2

หากเลือกถูกก็รอด! หากเลือกผิดก็ตาย!

ทุกคนได้ก้าวเดินไปข้างหน้า จนในที่สุด พวกเขาก็พบกับทางแยกอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นทางแยกสามทาง!

เหม่ยหงหยิง ได้สุ่มเลือก นักพรตเต๋าอีกครั้ง นักพรตเต๋าที่ถูกส่มเลือกขาของเขาค่อนข้างอ่อนแรงและทรุดตัวลงกับพื้น เพราะเหล่านักพรตเต๋าที่ถูกเลือก ล้วนไม่มีใครโชคดีพอที่จะรอดออกมาได้เลย

เหม่ยหงหยิง ขมวดคิ้วแน่นและกล่าวพูดอย่างเย็นชา :

“ถ้ายังไม่อยากตาย ก็รีบเข้าไปเร็วเข้า!”

นักพรตเต๋าผู้โชคร้าย ได้เดินไปข้างหน้าด้วยร่างกายที่สั่นเทา เขาจะยังทำอะไรได้อีก? หากเขาเลือก ก็ยังมีโอกาสรอด 1 ใน 3 แต่หากไม่ เขาก็จะตายในทันที!

นักพรตเต๋าคนนี้ได้เดินเข้าไปในหนึ่งเส้นทางที่เลือก หลังจากข้ามหมอกโลหิตไป เขาก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ดูเหมือนว่า นักพรตเต๋าคนนี้จะโชคร้ายจริง ๆ

เหม่ยหงหยิง ได้ชี้คนต่อไป คราวนี้ คน ๆ นี้มีโอกาสรอดครึ่งต่อครึ่ง โชคดีที่นักพรตเต๋าคนหลังเลือกเส้นทางที่ถูกต้องและไม่ตาย

จากนั้นทุกคนก็เดินต่อไปจนสุดท้าย เมื่อเจอทางแยก เหม่ยหงหยิง ก็สั่งให้คนของนางก้าวออกไป ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่าเขาไม่ได้โชคดี แต่เป็นเพราะ เหม่ยหงหยิง จงใจ เพราะ อีกฝ่าย ไม่ได้เลือกเขาเลยสักครั้ง ดังนั้น เขาจึงได้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ

หลังจากข้ามพรมแดนหมอกโลหิตไป ก็ไม่มีทางแยกอีก ซึ่งหมอกโลหิตนี้ก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าของทุกคนก็คือกำแพงสูงตระหง่านที่สร้างขึ้นจากเหล็กที่ไม่เป็นที่รู้จัก

บนกำแพงเหล็กนี้ มีหลุมดำลึก ที่เหมือนกับ รูอยู่ 10 รู และ ทุกคนในปัจจุบันก็เข้าใจความหมายของมันเป็นอย่างดี

จะต้องมีผู้เสียสละชีวิตอีก 9 ราย!

ทางเข้า 10 ทาง มีทางเดียวเท่านั้นที่รอด ที่เหลือคือทางตัน!

เหม่ยหงหยิง ไม่ได้ส่งคนทั้ง 10 เข้าไปพร้อมกัน แม้ว่า นางจะมีเหล่าผู้บุกเบิกเส้นทางอยู่มากกว่า 40 คน แต่นางก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะนางไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ดังนั้น นางจึงได้เริ่มลองส่งคนเข้าไปทีละคน แต่คราวนี้ ไม่ค่อยโชคดีมากนัก คน 7 คน ได้เสียชีวิตลงในครั้งนี้

ทว่า เหม่ยหงหยิง ยังคงมีท่าทีสงบ ในขณะที่ เหล่านักพรตเต๋า ที่เหลือ ต่างหน้าถอดสี เมื่อเห็น สหายเต๋า ของตนเอง ต้องตกตายไปทีละคน

ทุกคนได้เดินผ่านทางเดินอันมืดมิดและเดินออกจากหลุมไปพบกับแสงสว่างตรงหน้าของพวกเขา ที่นี่คือพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสว่างไสว

ในพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่นี้ มีพระราชวังสีดำตั้งอยู่ตรงใจกลางของพื้นที่

สิ่งนี้สร้างมาจากเหล็กที่ไม่เป็นที่รู้จัก และ สะท้อนกลิ่นอายที่ดูเย็นยะเยือกออกมา

ในความเป็นจริง ทางออกถ้ำ ยังคงอยู่ห่างจากพระราชวังหลาย 10 ลี้ และ มีป่าทึบกั้นระหว่างทั้งสอง อาจเป็นเพราะพระราชวังใหญ่เกินไป จึงทำให้ ระยะทางข้างหน้าระหว่างพวกเขากับพระราชวังดูใกล้กันอย่างมาก

เหล่านักพรตเต๋าบางคน ได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นแสงพุ่งตรงไปทางพระราชวัง แต่ในขณะที่เขาออกจาพื้นดิน เขาก็ถูกบดขยี้ด้วยรูปแบบที่มองไม่เห็นและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เห็นได้ชัดว่าในอากาศมีข่ายอาคมต้องห้ามสลักเอาไว้ และ พวกเขาทำได้เพียงเดินผ่านป่าทึบแห่งนี้ไปทางพระราชวังเพียงเท่านั้น

แม้แต่ เหม่ยหงหยิง ที่สงบเงียบขรึม มาโดยตลอด ก็ยังมีสีหน้าเคร่งขรึม ดูเหมือนว่า ป่าทึบแห่งนี้จะไม่ธรรมดา

เหล่านักพรตเต๋าที่เหลือกว่า 30 คน หรือมากกว่านั้น ได้เดินเข้าไปในป่าทึบภายใต้การชี้นำของ เหม่ยหงหยิง เหล่านักพรตเต๋า พวกนี้ไม่ได้โง่เขลา พวกเขาย่อมสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ข้างหน้า ดังนั้น พวกเขาทั้งหมด จึงค่อนข้างระมัดระวังตัวและใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด

หลังจากเข้าไปได้ไม่นาน ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างกระทันหัน มีช่องว่างขนาดเล็กปรากฏขึ้นในพื้นที่ และ มันได้ชนเข้ากับร่างของนักพรตเต๋าโดยที่เขาไม่ทันสังเกตุเห็น นักพรตเต๋าคนนี้ ได้ก้าวเดินไปไกล หลาย 10 ก้าว ก่อนที่จะล้มลงอย่างกระทันหันและร่างถูกแยกออกเป็นสองส่วนในทันที

ทุกคนต่างมีสีหน้าที่น่าเกลียด พวกเขารู้สึกว่าการป้องกันของพวกเขานั้นไร้ความหมายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับรอยแยกมิติอวกาศ

ป่าทึบแห่งนี้แฝงไปด้วยอันตรายจำนวนมาก!

จะตายหรือมีชีวิตรอดทั้งหมดขึ้นอยู่กับโชค!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด