ตอนที่แล้วผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 10
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 12

ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 11


ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 11

"ไม่ใช่หรอกครับ ผมแกะสลักเอง" เซี่ยเยี่ยนตอบอย่างใจเย็น

"แก๊........" เหวินอี้ผิงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าและทำได้เพียงชี้หน้าเซี่ยเยี่ยน

หลิวเสวี่ยเอ๋อร์วางหินเรเควี่ยมลงและสวมแว่นกันแดดอีกครั้ง เธอส่ายหน้าให้กับความเพ้อฝันของหนุ่มนักศึกษาที่เบื้องหน้า เธอเห็นว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา แค่ไม่ซื้อมันเสียก็จบแล้ว

"ไอ้หนู เงินน่ะมันไม่ได้หากันง่ายๆหรอกนะเว้ย เก็บข้าวของแล้วไสหัวไปซะ ไม่อย่างฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอแก!" เหวินอี้ผิงโบกมือไล่ราวกับกำลังไล่แมลงวัน

"นี่คนสวย ที่บ้านเธอคงเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นใช่รึเปล่า?" เมื่อเห็นว่าลูกค้ากำลังจะจากไป เซี่ยเยี่ยนก็เริ่มวิตก หินเรเควี่ยมนี้จะขายออกกับคนที่ล่ำซำเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต่อให้วางขายไปเป็นปีก็คงขายไม่ออก ในเมื่อบนร่างของหญิงสาวคนนี้มีกลิ่นอายธาตุอันเดดติดอยู่จางๆ เธอก็เป็นลูกค้าเหมาะมาก เขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้ยังไงกัน!

"ไอ้หนู แกพูดว่าไงนะ? บ้านแกน่ะสิที่เกิดเรื่องร้าย! คิดว่าฉันไม่กล้าอัดแกงั้นเรอะ!" เหวินอี้ผิงโพล่งออกมาทันที เขาย่อมไม่รู้จุดประสงค์ที่หลิวเสวี่ยเอ๋อร์มาที่นี่ เขาคิดว่าเธอแค่มาหาซื้อของโบราณก็เท่านั้น

หลิวเสวี่ยเอ๋อร์หยุดชะงักก่อนจะหันกลับมา เธอถอดแว่นกันแดดออกอีกครั้ง สีหน้าของเธอดูประหลาดใจไม่น้อย หลังจากจ้องหน้าเซี่ยเยี่ยน เธอก็ย่อตัวลงและหยิบสร้อยหินขึ้นมาถามว่า "สิ่งนี้ให้ผลอย่างที่คุณพูดจริงๆ?"

ทั้งเหวินอี้ผิงและพี่หูต่างก็ตกตะลึง แม้หลิวเสวี่ยเอ๋อร์จะไม่ได้ตอบคำถามของเซี่ยเยี่ยน แต่การกระทำของเธอก็ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายพูดไม่ผิด

"ใช้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์" เซี่ยเยี่ยนยิ้มอย่างมั่นใจ

"คุณไปได้ของสองชิ้นนี้มาจากไหน?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ถาม

"ผมแกะสลักเอง ทำไมเหรอ?"

"คุณเชี่ยวชาญในการดูโหงวเฮ้งหรือฮวงจุ้ยงั้นเหรอ?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ถามอีก

"ไม่ใช่ แต่ของพวกนี้ช่วยจัดการเรื่องที่บ้านคุณได้แน่" เซี่ยเยี่ยนยิ้ม

"ต้องทำยังไง?"

"แค่ซื้อกลับไปก็พอ" เซี่ยเยี่ยนตอบ 'แค่ซื้อก็พอแล้วน่าแม่คุณ ทำไมถามซะเยอะเลย!'

"ฉันจะซื้อ" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์เปิดกระเป๋าสตางค์และหยิบเงินออกมาปึกหนึ่งยื่นส่งให้เซี่ยเยี่ยน "นี่หนึ่งหมื่นหยวน คุณลองนับดูก่อน" พูดจบก็หยิบสร้อยหินทั้งสองเส้นเก็บใส่กระเป๋า

'เฮ้ยขายได้จริงดิ?'

พี่หูอ้าปากค้าง 'หินแกะสลักก้อนเท่านิ้วโป้งเม็ดเดียวขายได้ถึงห้าพันเลยเหรอ? ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้กำลังจะละลายเงินเล่นใช่รึเปล่า? หรือเธอเกิดตกหลุมรักเสี่ยวเซี่ยขึ้นมา?'

"เสวี่ยเอ๋อร์อย่าถูกมันหลอกนะ!" เหวินอี้ผิงรีบพูดขึ้น ครั้งนี้แม้แต่เขาก็ยังลืมจะตอบสนอง 'ซื้อของแบบนี้อะนะ? เธอคงไม่จ่ายเงินไปมั่วซั่วเพราะแค่พวกเรารวยหรอกใช่มั้ย?'

"ฉันรู้" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ตอบสั้นๆ

เซี่ยเยี่ยนค่อยๆนับเงินภายใต้สายตาที่จ้องมาของเหวินอี้ผิงและพี่หู จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า "ถ้าปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะตัวบุคคลก็ให้เขาสวมสร้อยเอาไว้ ถ้าเป็นที่พื้นที่ของบ้านก็ให้เปิดประตูและหน้าต่างไว้ จากนั้นเดินวนรอบบ้านพร้อมสร้อยหินสักสองสามรอบ จากนั้นก็ให้แขวนไว้ที่หลังประตูหลัก"

จากนั้นเขาก็ก้มลงไปหยิบถุงผ้า เก็บมีดแกะสลักเข้าไป และยืนขึ้นเตรียมจะจากไป

"รอเดี๋ยว" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์รีบเรียกเขาเอาไว้

"อะไรเหรอ? ผมรับเงินมาและคุณก็ได้ของไปแล้ว ขอพูดก่อนนะว่าผมไม่รับคืนเงิน!"

"คุณช่วยมาดูที่บ้านให้ฉันหน่อยได้รึเปล่า? ถ้าเกิดว่าสร้อยพวกนี้มันไม่ได้ผลล่ะ?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์มองหน้าเขาพลางถามออกไป

"ไม่จำเป็นหรอก ของมันใช้ได้ชัวร์ๆ" เซี่ยเยี่ยนพูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม

"สินค้าของคุณไม่มีบริการหลังการขายเหรอ? ฉันจะไปตามหาคุณได้ที่ไหนถ้ามันใช้ไม่ได้ผล?"

"นี่....." เซี่ยเยี่ยนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย และเขาก็คิดว่าคำพูดของหญิงสาวนั้นสมเหตุสมผล แม้จะรู้ว่าสร้อยเรเควี่ยมนั้นจะต้องได้ผลแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจหลังจากซื้อสินค้าของเขาไป แต่เซี่ยเยี่ยนไม่คิดที่จะเปิดเผยสถานะนักศึกษาของเขาต่อหญิงสาว เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า "ผมไปดูกับคุณก็ได้ ถ้ามันได้ผลแล้วผมก็จะกลับ"

"ดีล!" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ยิ้ม

พี่หูที่ยืนดูอยู่ด้านข้างรู้สึกพูดอะไรไม่ออก 'ไอ้น้องเอ๊ย นายน่ะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เงินอยู่ในมืทอนายแล้วแท้ๆ ชิ่งหนีก็จบเรื่อง บริการหลังการขายงั้นเหรอ? ไอ้ของแบบนั้นจะไปมีในตลาดค้าของโบราณได้ยังไง? ถึงตอนนั้นคงน่าอายมากที่ต้องไปยืนเถียงกับลูกค้าหลังถูกจับได้ว่าย้อมแมวขาย!'

เซี่ยเยี่ยนบอกลาพี่หูและออกจากตลาดค้าของเก่าไปพร้อมกับหลิวเสวี่ยเอ๋อร์และเหวินอี้ผิง เมื่อเดินออกมาเหวินอี้ผิงก็พูดขึ้นว่า "เสวี่ยเอ๋อร์ รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมไปเอารถมารับ"

หลังมองเห็นเหวินอี้ผิงมุ่งหน้าไปทางลานจอดรถ หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็หันมามองเซี่ยเยี่ยน "คุณรู้เรื่องที่บ้านของฉันได้ยังไง?"

"บอกไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก" เซี่ยเยี่ยนตอบอย่างไม่เต็มใจ

"คุณชื่ออะไร?" ได้ยินคำตอบของเขา เธอก็เปลี่ยนหัวข้อ "ให้ฉันแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน ฉันชื่อหลิวเสวี่ยเอ๋อร์"

"เซี่ยเยี่ยน"

"เซี่ยเยี่ยน นายยังเป็นนักศึกษา?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ถาม

"อืม"

"มหาลัยไหน?"

"นี่....." หลิวเสวี่ยเอ๋อร์สวมกระโปรงสั้นและเสื้อแขนกุด ต้นขาและต้นแขนอันขาวผ่องของเธอจึงเผยออกมา และกลิ่นหอมอ่อนจางจากร่างของเธอก็ทำให้เขาสติหลุดลอยไปเล็กน้อย

"ไม่เป็นไร" ในเมื่อเซี่ยเยี่ยนรับปากจะไปกับเธอแล้ว มันก็คงไม่เหมาะสมนักถ้ายังจี้ถามต่อไป

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เหวินอี้ผิงก็ขับรถแลนด์โรเวอร์มาจอดที่ด้านหน้าของพวกเขา "ร้อนโครต รีบขึ้นมาเถอะ"

เซี่ยเยี่ยนไปนั่งที่เบาะหลัง เขายกมือลูบเบาะหนังอันแสนสบาย ลมเย็นๆจากแอร์รถที่เป่ามา เซี่ยเยี่ยนถอนหายใจให้กับชีวิตอันอู้ฟู่นี้

"บ้านนอก!" เหวินอี้ผิงที่เหลือบมองกระจกหลังพลันพึมพำออกมา

แม้เขาจะพูดเบามาก แต่เซี่ยเยี่ยนก็ยังได้ยิน แต่เขาเพียงแค่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ 'ไม่ต่างจากในหนังเลยแฮะ พวกคนที่ขับรถดีๆก็ไม่จำเป็นว่าจะเป็นคนดีเสมอไป ถ้าฉันหาเงินได้มากพอ ก็คงซื้อรถได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคนประเภทนี้'

หลิวเสวี่ยเอ๋อร์เปิดประตูหลังอีกด้านก่อนจะไปนั่งข้างเซี่ยเยี่ยน กลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้หัวใจและทำให้เขานึกถึงเรือนร่างของอันเสี่ยวหรู 'ตัวเธอหอมจัง สงสัยจังว่าระหว่างสองคนนี้ หน้าอกใครจะใหญ่กว่ากัน? หลิวเสวี่ยเอ๋อร์หรืออันเสี่ยวหรู?'

เขาแอบเหลือบมองก่อนจะตัดสินว่าอันเสี่ยวหรูใหญ่กว่า แต่ถึงอย่างนั้นหลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็งานดีไม่แพ้กัน "คัพซีชัวร์!"