ตอนที่แล้ว559 - ยังเหลืออีกนิดหน่อย 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป561 - ข้อเสนอ 

560 - ความลับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ 


กำลังโหลดไฟล์

560 - ความลับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเข้าใจสถานการณ์ของโลกและไม่ต้องการแก้ไขอะไร เขาจึงเลือกที่จะทำเย่ฟ่าน

“ยังมีใครอีกไหม?”

เย่ฟ่านอายเล็กน้อยและเปิดปากพูดอะไรบางอย่าง หลายคนอยากจะหัวเราะเมื่อเห็นสภาพของเขา เด็กคนนี้ผนึกไปกี่คนแล้ว?

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและกล่าวว่า

"ไม่เป็นไร ปล่อยพวกเขาออกมาให้หมด"

เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปล่อยบุตรศักดิ์สิทธิ์สำรองหลี่รุ่ยออกมา

“เย่ฟ่าน…”

หลี่รุ่ยตะโกนด้วยความโกรธ ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวเขาก็รีบชักกระบี่ออกมาหมายจะสังหารเย่ฟ่าน

ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ไม่พูดอะไรมาก เขาสะบัดมือเบาๆพร้อมกับม้วนตัวหลี่รุ่ยเข้ามาในแขนเสื้อโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาส่งเสียงร่ำร้องอีก

ทุกคนตะลึงงัน เย่ฟ่านไม่เพียงแต่จับตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเท่านั้น แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์สำรองก็ยังถูกเขาจับตัวไปด้วย

ในตอนนี้ใบหน้าของผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาสามคนถูกเย่ฟ่านที่เป็นเพียงเด็กน้อยจับตัวไว้ เรื่องนี้ทำให้ใบหน้าของพวกเขาถูกฉีกอย่างยับเยิน

“หมดแล้วใช่ไหม?”

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงคิดว่าคงไม่มีใครอีกแล้ว แต่ก็ยังถามออกมาเพื่อให้แน่ใจ

เย่ฟ่านส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า รู้สึกเขินอายเล็กน้อยซึ่งทำให้ปากของหลายคนกระตุกและมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงพูดไม่ออกและอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเย่ฟ่านอีกครั้ง

ในระยะไกลอันเหมียวอี้ก็ปิดปากและหัวเราะ ดวงตาอันงดงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของนางจ้องมองเย่ฟ่านด้วยความสนใจ

แม่ชีชุดขาวและหนอนไหมสวรรค์สีทองก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆด้วยความเข้าใจเช่นกัน

“พี่กู่…”

องค์ชายเซี่ยถอนหายใจ แม้แต่ตัวเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเย่ฟ่าน

เหยาเยว่กงยิ้มและพูดว่า "นี่คือปีศาจร้ายอย่างแท้จริง"

ครั้งนี้เย่ฟ่านได้ปล่อยหญิงสาวจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงออกมาทั้งหมด

ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวใบหน้าของพวกนางก็เต็มไปด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโสมากมายรวมทั้งอาจารย์ของพวกนางที่ส่ายหน้าอยู่ด้านข้างพวกนางจึงเลือกที่จะเงียบและไม่พูดอะไรอีก

"ในที่สุดก็จบลงแล้ว"

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงพึมพำกับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าเย่ฟ่านปราบปรามผู้คนมากมายได้อย่างไร

“ข้าหวังว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้อาวุโสจะสั่งให้เด็กน้อยคนนี้ปล่อยศิษย์ของข้าออกมา” ในตอนนี้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงมีสีหน้าร้อนใจเล็กน้อย

"ยังไม่หมดอีกเหรอ?!" ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงมีสีหน้าขุ่นเคือง

คนอื่นอดไม่ได้อีกแล้ว พวกเขาส่งเสียงหัวเราะดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะเดียวกันบุตรศักดิ์สิทธิ์ สตรีศักดิ์สิทธิ์ และผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ก็มองไปที่เย่ฟ่านด้วยสีหน้ายกย่อง

“ผู้ชายคนนี้เลวเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาไปข่มเหงผู้คนไว้มากมายแค่ไหน” ดวงตากลมโตของจี้จื่อเยว่โค้งงอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว จากนั้นนางก็เขย่าแขนของจี้ฮ่าวเยว่และพูดว่า

"โชคดีที่ไม่มีพี่ชายอยู่ข้างใน"

จี้ฮ่าวเยว่พูดไม่ออกและเหลือบมองน้องสาวอย่างขุ่นเคือง เพราะคำพูดนี้เป็นความจริงที่หักล้างไม่ได้

ในตอนที่เย่ฟ่านจับตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง หากไม่ใช่ว่าเขาคือพี่ชายของจี้จื่อเยว่ตัวเขาคงถูกจับไปด้วยเช่นกัน

คราวนี้เย่ฟ่านหยิบน้ำเต้าสีม่วงออกมา ทันทีที่น้ำเต้าปรากฏขึ้นใบหน้าของผู้คนของตระกูลเจียงก็เปลี่ยนไปในทันที หลังจากนั้นเจียงอี้เฉินก็ถูกโยนออกมาในสภาพทุลักทุเลอย่างถึงที่สุด

แม้แต่ทายาทของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงก็ยังถูกกดขี่ ผู้คนมากมายต้องการส่งเสียงหัวเราะ แต่พวกเขาไม่สามารถรวบรวมความกล้าได้

เจียงอี้เฉินยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ ทันทีที่เขามองเห็นผู้อาวุโสจากตระกูลของตัวเองและเย่ฟ่านเขาก็รีบเปิดปากขึ้นทันที

พลั่ก!

เจียงอี้เฟยพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับตบปากน้องชายของตัวเองอย่างรุนแรง การกระทำนี้ก็เพื่อปกป้องเจียงอี้เฉิน เขาเชื่อว่าด้วยคุณความดีของเย่ฟ่าน บรรพบุรุษผู้เฒ่าคงไม่ลังเลที่จะฆ่าน้องชายของเขาเพื่อเอาใจเย่ฟ่าน

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงจ้องไปที่เย่ฟ่านอย่างขบขัน เพราะเขาพบว่าเย่ฟ่านยังคงมีสีหน้าลังเล

“อย่าบอกนะว่ายังไม่หมด”

“คนสุดท้ายแล้วจริงๆ!”

เย่ฟ่านเกิดความกดดันเป็นอย่างมาก แม้ว่าเหตุการณ์นี้เขาจะไม่ได้รับอันตราย แต่การจับตัวสตรีหลายคนไว้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นชมอย่างแน่นอน

บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์หลายคนเหลือบมองกันและกัน พวกเขารู้สึกว่าไอ้เด็กเวรนี้ไม่ใช่ตัวดีอะไร เขาเกิดมาเพื่อเป็นดาวร้ายของทายาทดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะเหล่าสตรีทั้งหลาย

เย่ฟ่านหยิบม้วนคัมภีร์ที่ผนึกไว้ในกระบี่วัชระออกมาจากความว่างเปล่า ภายในภาพวาดนั้นมีหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขาด้วยท่าทางสง่างาม

เมื่อภาพวาดนี้ปรากฏขึ้นแม้แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงก็ยังอุทานด้วยความตกใจ

สมบัติชิ้นนี้แม้จะไม่ใช่อาวุธเต๋าสุดขั้วแต่ก็เคยเป็นอาวุธประจำกายของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงผู้ล่วงลับซึ่งเป็นสหายเก่าของเขา

"แม้แต่เทพธิดาจื่อเซี่ยที่เข้าสู่ภาพวาดภูเขาแม่น้ำแล้วก็ยังถูกเขาจับตัวได้!"

"นี่คือตัวอ่อนเต๋าโดยกำเนิดร่างศักดิ์สิทธิ์ที่มีโอกาสเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะมากที่สุด”

"ต่อให้ตัวอ่อนเต๋าไม่สามารถเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะได้ ในอนาคตหากนางมีบุตร บุตรของนางจะต้องกลายเป็นทารกเซียนอย่างแน่นอน"

"ชัว"

สตรีศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์สีม่วงถูกปลดปล่อยออกจากภาพวาดภูเขาแม่น้ำ

แม้ว่านางจะเป็นตัวอ่อนเต๋าที่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่การถูกขังอยู่ในภาพวาดเป็นเวลาหลายวันก็ยังทำให้นางเกิดความไม่พอใจเล็กน้อย

“น่าเสียดายที่น้องชายเย่จะไม่มีโอกาสได้รับทารกเซียนแล้ว…” หลี่เหอซุยพึมพำเบาๆ

หลายคนตกตะลึงเป็นอย่างมากกับคำพูดของเขา นั่นแสดงให้เห็นว่าการที่เย่ฟ่านจับตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงไว้ เจตนาของเขาคงชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด!

“หลี่เหอซุยไอ้สารเลว เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร?!” เย่ฟ่านอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา

ในตอนนี้ใบหน้าของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์พฤหัสบดีม่วงบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด ตัวอ่อนเต๋าคืออนาคตของดินแดนลบกลางตะวันออก พวกเขาจะปล่อยให้เย่ฟ่านทำลายนางได้อย่างไร

ในตอนนี้ผู้ที่โกรธแค้นที่สุดย่อมเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง

เดิมทีจื่อเซี่ยนั้นถูกวางไว้เพื่อให้เป็นภรรยาในอนาคตของเขา แต่นางกลับข่มเหงเขามาตั้งแต่เด็ก

และตอนนี้เมื่อเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคู่หมั้นของเขาปรากฏขึ้น ไม่ว่าความจริงมันจะเป็นเช่นไร เขาก็กลายเป็นไอ้โง่ในสายตาของคนอื่นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

สตรีศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงจื่อเซี่ยเดิมทีมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อนางมองเห็นใบหน้าของบุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงนางกลับโมโหขึ้นมาทันที

"เจ้ากำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไร!"

ในห้องโถงอันงดงาม ผู้คนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจก่อนจะยิ้มแย้มออกมา

“อันที่จริงหากให้เย่ฟ่านแต่งงานกับตัวอ่อนเต๋ากก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน เรื่องนี้ค่าสนับสนุนอย่างเต็มที่” ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“ผู้อาวุโสเรื่องนี้…”

ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงมีความลำบากใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าสามารถเก็บเรื่องนี้ไปคิดได้ แต่ข้าจะเล่าความลับบางอย่างให้เจ้าทุกคนฟังจริงๆแล้วจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นก็เป็นร่างเซียนโบราณที่ได้บำเพ็ญคู่กับตัวอ่อนเต๋า

หลังจากที่บำเพ็ญเต๋าคู่กันแล้วความแข็งแกร่งของพวกเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด และนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้จักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นและภรรยาของเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะได้รวดเร็วที่สุด”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทุกคนก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ในโลกนี้หากจะบอกว่ามีใครที่มีความเข้าใจต่อจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นก็คงเป็นเจียงไท่ซู

เขาถูกขังอยู่ในภูเขาสีม่วงนานถึง 4000 ปี ในระหว่างนั้นภูเขาสีม่วงจะต้องถูกเขาขุดค้นจนหมดสิ้น ไม่ว่าความลับอันยิ่งใหญ่อะไร สุดท้ายมันก็คงตกเป็นสมบัติของเขา

คำพูดนี้สั่นคลอนแม้แต่จิตใจของปรามาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง เดิมทีเขาต้องการที่จะให้หลานชายของเขาที่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แต่งงานกับจื่อเซี่ย

แต่คนที่รู้จักบุตรไม่มีใครเกินบิดา หลานชายของเขาเป็นเศษสวะมากแค่ไหนมีหรือที่เขาจะไม่รู้ การบังคับจื่อเซี่ยให้แต่งงานกับหลานชายของเขานั้น แม้แต่ตัวเขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

หากว่าวันหนึ่งจื่อเซี่ยได้แต่งงานกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต การที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงจะกลายเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออกก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น

และที่สำคัญที่สุดคือเย่ฟ่านไม่มีที่ให้พึ่งพาอะไร หากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงแสดงไมตรีจิต การจะรักเย่ฟ่านเข้ามาเป็นศิษย์ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด