ตอนที่แล้ว532 - นับแต่นี้ไม่มีฮวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป534 - การตัดสินใจของอวิ๋นซี

533 - สิบเท่า 


1443 - สิบเท่า

“ฮ่าฮ่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจริงๆ!”

ใครบางคนอดไม่ได้จึงคำรามออกมาด้วยเสียงหัวเราะโดยไม่ปิดบัง

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีฮวงอีกต่อไป มีเพียงสือฮ่าวมนุษย์ธรรมดาสามัญเท่านั้น!”

การกระทำครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ผู้คนมากมายที่นำของขวัญมาส่งล้วนแสดงความยินดีออกมา

“ท่านพ่อ…เราจะจากไปแบบนี้เหรอ” หญิงสาวในชุดสีเขียวถามพร้อมกับลังเลใจ

“อย่าบอกนะว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่? เจ้าคิดจะแต่งงานกับพวกตระกูลสือจริงๆ? แม้ว่าจะเป็นเขา แต่ตอนนี้เขาพิการไปแล้วเขาไม่สามารถคุกคามพวกเราได้อีกต่อไป!” ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าว

ปรมาจารย์ของหลายนิกายหันหน้ากลับพวกเขาสนทนากันเบาๆ แม้ว่าเสียงของพวกเขาจะไม่ดัง แต่ก็ยังมีบางคนที่ได้ยินพวกเขา

สือฮ่าวเงยหน้าขึ้นมองไปทางนั้นและเห็นชายวัยกลางคนผมสีดำที่กระจัดกระจายอยู่ด้านหลัง รัศมีพลังของเขาค่อนข้างน่าประทับใจ

นี่คือปรมาจารย์นิกายหยกงาม ในตอนแรกพวกเขาเป็นมิตรกันมากโดยต้องการที่จะสานความสัมพันธ์กับตระกูลสือผ่านการแต่งงาน

นอกจากนี้ยังเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำของมหาอำนาจโบราณ การแต่งงานระหว่างสองตระกูลจึงทำให้ผู้คนมากมายชื่นชมและอิจฉา

ด้านข้างของชายวัยกลางคนเป็นหญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวเงียบสงบและงดงาม สือฮ่าวจำได้ว่านางมีชื่อว่าลู่จู มารยาทของนางถือได้ว่าโดดเด่น

“ยัยหนูกลับกันเถอะ ในตอนแรกข้ากังวลว่าอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” ปรมาจารย์นิกายหยกงามกล่าว

เสียงของเขาไม่ดัง แต่คนอื่นสามารถได้ยินอย่างชัดเจน เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังความรังเกียจที่อยู่ในน้ำเสียงต่อตระกูลสือเลย

สือฮ่าวรู้ว่าคนๆนี้เป็นคนหน้าซื่อใจคด

ในความเป็นจริงถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขากลัวสือฮ่าว มหาอำนาจต่างๆในสามพันแคว้นจะไม่มีทางมาเยี่ยมเขาอมตะอย่างแน่นอน

เมื่อมองจากมุมนี้หมายความว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่เคยขัดแย้งกับสือฮ่าวมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ซุ่มโจมตีเขาในอาณาจักรวิญญาณหรือในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาออกมาขอโทษ

ตอนนี้เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทัศนคติของพวกเขาจึงเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ ก่อนหน้านี้มีผู้คนมากมายที่ทำตัวเหมือนกับประมุขนิกายหยกงาม

เมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังคงยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองมากในห้องโถงใหญ่ของตระกูลฉิน พวกเขาสนทนากับสือจื่อหลิงและฉินอี้หนิงพูดคุยเรื่องการแต่งงาน

แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าสือฮ่าวพิการไปแล้ว พวกเขาจึงเปิดเผยธาตุแท้ออกมา แม้กระทั่งแสดงความดูถูกสือฮ่าวราวกับว่าเมื่อสักครู่นี้พวกเขาไม่เคยคุยกันในเรื่องการแต่งงานมาก่อน

เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีของตัวเองมัวหมองไปแล้ว ก่อนหน้านี้ปรมาจารย์นิกายผู้รุ่งโรจน์ต้องการให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับศัตรูเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อมานึกดูอีกครั้งเขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง

“เหอนี่เป็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจริงๆ เจตจำนงของสวรรค์ลงเอยเช่นนี้” ใครบางคนหัวเราะออกมาโดยไม่พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไว้

“ขอลาแล้ว” ปรมาจารย์นิกายหยกงามยังมีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเขาพาลูกสาวของเขาลู่จูบินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง

ฮวงพิการไปแล้วเขากลายเป็นคนธรรมดา นี่เป็นข่าวใหญ่อย่างยิ่ง! สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถสงบลงได้ตามธรรมชาติ มีบางคนที่รู้สึกเสียใจกับอัจฉริยะอย่างสือฮ่าว

แต่ก็มีผู้คนมากมายยินดีกับหายนะของเขา พวกคนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นศัตรูกับสือฮ่าว พวกเขามีความสุขมากที่เรื่องราวลงเอยเช่นนี้

มีบางคนที่ไม่แยแสเนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาเพียงแค่เฝ้าดูจากด้านข้างอย่างเงียบๆ

“ไปกันเถอะเราต้องสนใจอะไรกับขยะคนหนึ่ง”

ใครบางคนกล่าวออกมาตรงๆต่อหน้าของสือฮ่าวโดยไม่รู้สึกหวาดกลัวเขาอีกต่อไป

“เราไม่ควรมีท่าทีอย่างนี้กับเขา นี่เป็นถึงอัจฉริยะแปรปรวนสวรรค์ แต่ในที่สุดการบ่มเพาะของเขาถูกทำลายลง! มันช่างน่าสมเพชจริงๆ” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าว

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความเห็นอกเห็นใจอย่างแน่นอนเพราะใบหน้าของนางเบ่งบานไปด้วยรอยยิ้ม นี่เป็นการเยาะเย้ยเสียดสี

“ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่เราลืมไว้ในตระกูลฉิน” ในเวลานี้ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งดวงตาสดใสมองไปในทิศทางของสือฮ่าว

ตอนนี้ฉินอี้หนิงกัดริมฝีปากของตัวเองดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ลูกชายคนโตของนางน่าสงสารจริงๆเรื่องนี้ทำให้นางทำใจยอมรับไม่ได้

ในขณะเดียวกันคนเหล่านี้ยังขว้างก้อนหินใส่เขาเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้อารมณ์ของนางแย่ลงไปอีก

“สหายเต๋าเจ้าลืมอะไรไว้ในตระกูลฉิน” ใครบางคนเล่นตามน้ำไปด้วย

“สมบัติล้ำค่าหายากบางอย่างข้าลืมไว้ในห้องโถงของตระกูลฉิน” คนๆนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพูดถึงของขวัญล้ำค่าจากเมื่อก่อน มรดกบางส่วนถูกส่งมาที่ตระกูลฉินเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพวกเขาและสือฮ่าว ดังนั้นพวกเขาจึงนำของขวัญชิ้นใหญ่มาที่นี่

เมื่อเขาพูดแบบนี้ทุกคนก็เข้าใจ พวกเขาก็ต้องการสมบัติเหล่านั้นคืนเช่นกัน

“ข้าลืมไปได้ยังไง? ข้าก็ทิ้งบางอย่างไว้ที่นั่นด้วย”

“ถูกต้องข้ารีบมากเกินไป ข้าลืมเอาของบางอย่างกลับมาจริงๆ”

ผู้คนมากมายรีบตะโกนออกมาว่าพวกเขาต้องการของขวัญล้ำค่าเหล่านั้น เรียกได้ว่าปากและหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจริงๆ

“ถูกแล้วเราลืมบางสิ่งไปด้วย” ปรมาจารย์นิกายหยกงามที่แต่เดิมพาลูกสาวของเขาบินกลับไปแล้วแต่เขาก็รีบกลับมาอย่างรวดเร็ว

เฮง!

ในเวลานี้เซียนอมตะฉินปรากฏตัวอีกครั้งทำให้สถานที่แห่งนี้หนาวเหน็บลงทันที ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบไม่มีใครกล้าเอ่ยวาจาอีกต่อไป

มีผู้คนไม่น้อยรู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะรู้ว่าสือฮ่าวนั้นพิการไปแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่กล้าโจมตีเขาอมตะที่มีพลังระดับผู้อมตะที่แท้จริง

ในเวลานี้ความโกรธเกรี้ยวของเซียนอมตะฉินถูกแสดงออกมาแล้ว หลายคนที่นี่จึงรู้สึกขาดความมั่นใจ

“ถ้าเจ้าไม่คืนสิ่งของเหล่านั้นก็ถือว่ามอบให้กับคนพิการนั้นเถอะ” แม้ใครบางคนจะไม่กล้าทวงถามสิ่งของเหล่านั้นกลับคืนแต่พวกเขาก็ไม่วายแวะกัดสือฮ่าวเขี้ยวหนึ่ง

แน่นอนว่าในขณะที่พวกเขากล่าวคำนี้พวกเขาก็รีบออกจากตระกูลฉินอย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีเวลาอีกหนึ่งเดือนถึงจะพิการ”

ในเวลานี้ก่อนที่จะมีใครก้าวออกจากห้องโถงของตระกูลฉินเสียงเย็นชาของสือฮ่าวก็ดังเข้าหูของทุกคน

“ เจ้าจะทำอะไรได้ในเมื่อตำหนักเซียนยังอยู่ 'มีคนตะโกนออกมา

“สามพันแคว้นมีกฎของตัวเองนี่ไม่ใช่ที่ที่จะให้เจ้าแสดงความโอหังออกมาได้!” ใครบางคนรีบเสริมขึ้นทันที

อย่างไรก็ตามใบหน้าของผู้คนก็เปลี่ยนไปมากขึ้นเริ่มขาดความมั่นใจและรู้สึกไม่สบายใจอย่างแท้จริง เป็นเพราะพวกเขาเกือบลืมไปแล้วจริงๆว่าฮวงยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนที่จะ 'แสดงความบ้าคลั่งอย่างเต็มที่'

ฮ่อง!

ในช่วงเวลานั้นสือฮ่าวก็ลงมืออย่างรวดเร็ว มือขวาของเขาเอื้อมออกไปด้านนอกห้องโถงของตระกูลฉิน

อา…

ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองนับสิบคนของตำหนักเซียนที่อยู่ด้านนอกนั้น ถูกฝ่ามือของเขาบดขยี้ดับสูญทั้งกายและวิญญาณโดยไม่อาจต่อต้านได้

“เจ้ากล้า!” มีหลายคนที่ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

ไม่มีใครคิดว่าฮวงจะยังคงโหดเหี้ยมขนาดนี้ เขาถึงกับกล้าลงมือสังหารผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักเซียนจนหมดสิ้น

“เจ้าเจ้าเจ้าเจ้าและเจ้า พวกเจ้าทุกคน…” สือฮ่าวชี้ให้เห็น

“ให้เวลาพวกเจ้าสามวันของขวัญต้องมาปรากฏในตระกูลฉินมากกว่าเดิมสิบเท่าห้ามขาดไปแม้แต่ส่วนเดียว อย่าให้ข้าต้องไปตามเก็บด้วยตัวเองไม่เช่นนั้นโลหิตของพวกเจ้าจะไหลเป็นท้องธาร ตอนนี้ไสหัวไปได้แล้ว!”

สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชาเขาเฝ้ามองท่าทีของคนเหล่านี้มานานแล้ว คนพวกนี้คิดว่าคำสาปทำลายอมตะจะสามารถทำอะไรเขาได้จริงๆ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด