ตอนที่แล้ว557 - รอปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์มาแสดงความเคารพ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป559 - ยังเหลืออีกนิดหน่อย 

558 - เย่ฟ่านและบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย


กำลังโหลดไฟล์

558 - เย่ฟ่านและบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ในห้องโถงไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงแม้แต่คำเดียว คำเรียกร้องที่บอกว่าต้องการให้ฆ่าเย่ฟ่านไม่มีอีกแล้ว แม้ว่าทุกคนจะไม่ยินยอมแต่พวกเขายังจะทำอะไรได้

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสามคน ปีศาจเฒ่าชั่วร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้สามคน และราชันย์รัตติกาลทมิฬของภาคกลางถูกเขาฆ่าตายหมดแล้ว

คนเหล่านั้นเพียงคนเดียวก็สามารถทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงหน้าซีดด้วยความกลัว  แต่พวกเขาทั้ง 16 คนกับถูกฆ่าตายง่ายๆ คนที่อยู่ในห้องนี้ยังจะสามารถพูดอะไรได้อีก?

“แค่ช่วยเหลือราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงเพียงคนเดียวเขาก็รอดพ้นจากหายนะทั้งปวง…” ใครบางคนบ่น

เจียงอวิ๋นเปิดปากของเขาและกล่าวว่า

"เมื่อสักครู่นี้มีศัตรูมากมายแค่ไหนพวกเจ้าก็น่าจะรู้ดี เย่ฟ่านช่วยชีวิตบรรพบุรุษด้วยยามังกรที่แท้จริง ของชิ้นนี้มีมูลค่ามากกว่าต้นกำเนิดบริสุทธิ์สิบล้านจินด้วยซ้ำ หากเป็นพวกเจ้ายอมตัดใจเสียสละได้หรือไม่!"

“ยาศักดิ์สิทธิ์มังกรที่แท้จริง…”

หลายคนได้ยินสี่คำนี้ก็ตกใจจนพูดไม่ออก พวกเขาเคยได้ยินว่าเย่ฟ่านครอบครองยากิเลนศักดิ์สิทธิ์แล้วต้นหนึ่ง เขาไปได้ยามังกรศักดิ์สิทธิ์มาได้อย่างไรทำไมไม่มีใครรู้? !

อย่างไรก็ตามข้อสรุปของพวกเขาก็จบลงอย่างรวดเร็ว เย่ฟ่านเป็นถึงปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์น้อย การที่เขาจะได้รับของแปลกๆจากต้นกำเนิดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแตกตื่นอะไร

ร่างกายของโอหยางเย่เหี่ยวเฉา แม้ว่าผู้คนจะหวาดกลัวต่อราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง แต่เขาที่มีขาข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในประตูนรกแล้วไม่ได้มีความกลัวเหมือนกับคนอื่น เขาก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวว่า

"ชายชราคนนี้ขอให้ ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ให้ความยุติธรรม"

"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?" เจียงไท่ซูเหลือบมองอย่างเย็นชา

โอหยางเย่กล่าวว่า

"ร่างเซียนโบราณคนนี้หลอกลวงข้าผู้สืบสกุลของข้าจนได้รับต้นกำเนิดสวรรค์ไปมากมาย การที่เขาทำเช่นนั้นมันเป็นความสามารถของเขาเราไม่อาจจะตำหนิได้ แต่คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ที่เขาขโมยไป ขอให้ราชันศักดิ์สิทธิ์มอบคืนให้เรา”

เย่ฟ่านยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เหลือบมองเขาอย่างดูถูกและกล่าวว่า

"เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร ลูกหลานของเจ้าไร้ความสามารถเอง ส่วนคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์เป็นของเจ้าอย่างนั้นหรือ ทำไมเรื่องนี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน?”

“ความขัดแย้งระหว่างเจ้ากับลูกหลานของข้าตัวข้าที่เป็นผู้อาวุโสไม่ต้องการยุ่งเกี่ยว แต่คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ที่เจ้าขโมยไปเจ้าต้องคืนมาเดี๋ยวนี้”

โอหยางเย่มีท่าทางข่มขู่คุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ

เย่ฟ่านไม่ได้แสดงอาการลนลานหรือไม่พอใจอะไร เขายิ้มและกล่าวว่า "เมื่อใดที่คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์กลายเป็นสมบัติของตระกูลโอหยางเจ้า นี่คือคัมภีร์ที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ตกทอดไว้ให้ลูกหลาน เจ้าพูดแบบนี้ไม่ละอายใจหรือไง?"

"ศิลปะต้นกำเนิดในโลกนั้นเป็นของตระกูลต้นกำเนิดสวรรค์พวกเรา ต่อให้คัมภีร์เล่มนี้ไม่ได้เป็นของตระกูลข้าตั้งแต่เริ่มต้น มันก็ไม่ควรตกอยู่ในมือคนนอกเช่นเจ้า” โอหยางเย่คำราม

เย่ฟ่านชำเลืองมองเขาแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าพูดอย่างนั้นทำไมข้าไม่เคยได้ยินว่าเจ้าไปข่มขู่คุกคามเอาคัมภีร์ต้นกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เลย!”

“ผู้สืบสกุลของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์นั้นหายสาบสูญไปนานหลายปีแล้ว...เป็นไปได้ว่าคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์อาจจะถูกบรรพบุรุษของเจ้าขโมยไป” ทายาทรุ่นเยาว์ของตระกูลขุนนางศิลปะต้นกำเนิดเสียงสนับสนุน

"ฮึ!"

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงพ่นลมอย่างเย็นชา และทำให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นซีดเผือด เขารีบหุบปากและไม่กล้าพูดอะไรอีก

"เรื่องคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์นั้นข้ารู้ดีว่าตระกูลโอหยางของเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์เล่มนี้เย่ฟ่านไปได้มาจากไหนข้าก็รู้ดีเช่นกัน" ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงกล่าวเช่นนี้ย่อมถือเป็นข้อสรุปแล้ว

โอหยางเย่เปิดปากของเขา แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก หากว่าเขายืนอยู่ในฝ่ายที่ชอบทำเขาย่อมคิดจะโต้เถียงต่อไป แต่เขาเป็นคนที่ขาดเหตุผลในตอนนี้หากทำการโต้เถียงอีกก็มีโอกาสสูงที่เจียงไท่ซูจะตบเขาจนตาย

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเงียบ ไม่มีใครพูดถึงความแค้นของพวกเขากับเย่ฟ่านอีก

"ข้าได้ยินมาว่าเย่ฟ่านมีเรื่องไม่สบายใจกับตระกูลจี้ ข้าอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ ข้าไม่รู้ว่าจะมีที่ว่างสำหรับการเจรจาหรือไม่"

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงหันไปมองราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้

"เรื่องนี้หมิงเจี้ยนมีความลำบากใจอยู่บ้าง เด็กน้อยคนนี้เคยได้ศึกษาเนื้อหาในคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าของพวกเรา ไม่ใช่ว่าผู้เยาว์ต้องการที่จะหาเรื่องเขา แต่พวกเราไม่สามารถปล่อยเขาไปได้จริงๆ" ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ

"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้" ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงพยักหน้า จากนั้นมองไปที่เย่ฟ่านและกล่าวว่า

"ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็บอกราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จี้ให้สบายใจว่าเจ้าจะไม่เปิดเผยความลับของคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าให้ผู้ใดทราบ?"

เย่ฟ่านรู้ว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่ากำลังช่วยเขา เขาย่อมมีความสำนึกในเรื่องนี้ และเขารีบประสานมือกล่าวว่า

"ข้าขอสาบานต่อเต๋าสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ หากข้าเปิดเผยเนื้อหาในคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าให้ผู้อื่นทราบ ขอให้ข้าตายอย่างทุกข์ทรมาน"

“ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จี้เจ้าพอใจหรือไม่” ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงพยักหน้าจากนั้นมองไปที่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ และกล่าวต่อไปว่า

"ถ้าเขาเปิดเผยเนื้อหาในคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าข้าจะเป็นคนลงโทษเขาเอง"

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ยังจะพูดอะไรได้ ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบเป็นที่พักพิงให้กับเย่ฟ่านแล้ว ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดของเขาคือการพยักหน้าเท่านั้น

“เจ้าเด็กกะล่อน…”

ในฝูงชนที่อยู่ห่างไกลจี้จื่อเยว่ในชุดสีม่วงกัดฟันและจ้องไปที่เย่ฟ่านอย่างไม่พอใจ

จี้ฮ่าวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า "จื่อเยว่ ทำไมเจ้าถึงเหยียบเท้าข้า?"

“โอ้ ข้าก้าวผิด” จี้จื่อเยว่แลบลิ้นพร้อมกับเคาะหัวของตัวเองเบาๆ

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงยังคงพูดต่อไปโดยหันศีรษะไปมองที่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง

"เย่ฟ่านขัดแย้งกับสาวกรุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง?"

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด แล้วกล่าวว่า

“ในความเป็นจริงเขากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมากนัก นี่เป็นเพียงเรื่องของเด็กๆ”

พูดกันตามตรง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเพียงปรารถนาหม้อวิเศษของเย่ฟ่านจนทำให้เกิดความขัดแย้งตามมา แต่การจะพูดมากไปก็รังแต่จะทำให้ตัวเองขายหน้าเปล่าๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ” ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงกล่าวกับเย่ฟ่าน

"ทุกอย่างอยู่ภายใต้คำสั่งของราชาสวรรค์ผู้อาวุโส"

ใบหน้าของเย่ฟ่านดูจริงจังแต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงปกป้องเขาอย่างเห็นได้ชัด นับจากนี้ชีวิตของเขาจะสะดวกสบายขึ้นมาก

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงหันไปมองปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและกล่าวว่า

"ให้พวกเขาแก้ปัญหาความคับข้องใจของรุ่นน้องด้วยตัวเอง เจ้าคิดว่าไง?"

ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า เขาจะพูดอะไรได้?

แต่ทันใดนั้นลมหอบใหญ่ก็พัดเข้ามาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ นกสีทองขนาดยักษ์บินลงมาที่พื้นก่อนจะกลายร่างเป็นชายชราคนหนึ่ง

ชายชราผู้ยิ่งใหญ่สวมชุดคลุมสีทองปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง ผมสีทองยาวของเขาราวกับไฟลุกโชน สายตาของเขาดุดันแต่เขาก็ยังประสานมือแสดงความเคารพต่อราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงโดยไม่พูดอะไร

เจียงอวิ๋นเห็นดังนั้นจึงถามว่า

"ราชาเผิง เจ้ามีธุระอะไร?"

ราชาเผิงสวรรค์สง่างามและตรงไปตรงมา เขาประสานมือแสดงความเคารพราชันศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้งก่อนจะชี้ไปที่เย่ฟ่านและกล่าวว่า

“เด็กน้อยคนนี้จับหลานชายของข้าไป ขอให้ราชาสวรรค์ผู้อาวุโสสั่งให้เขาคืนหลานชายของข้ามา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้และกล่าวว่า

"บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราก็ถูกเด็กน้อยคนนี้จะไปเช่นกัน ขอให้ผู้อาวุโสสั่งให้เขาปล่อยคนด้วย”

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเย่ฟ่านปราบปรามผู้ยิ่งใหญ่สามคนภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่อถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพวกเขาก็ยังแสดงสีหน้าแปลกๆ

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเหลือบมอง เย่ฟ่านและกล่าวว่า

"ปล่อยพวกเขา"

เย่ฟ่านอมยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะหยิบเตาเทพอัคคีออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด