ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่2: Alpha Test

ชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่1: ผู้พิทักษ์


ตอนที่1: ผู้พิทักษ์

วันที่ 1 มกราคม คริสต์ศักราช 2022 ฉันยังจำได้ดีถึงภัยพิบัติที่ได้ทำลายประเทศต่างๆลงทีละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่อ่อนแอที่สุด ร่ำรวยที่สุด หรือประเทศมหาอำนาจก็ตาม ไม่มีใครที่ถูกไว้ชีวิตทั้งนั้น ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกพังทลายลงจากโรคระบาด ไฟป่า ภาวะโลกร้อน และความโกลาหลมากมายที่ถูกส่งลงมาบนโลกนี้

ภัยพิบัตินี้ส่งผลให้ประชาชนอย่างน้อย 75% ของทั้งโลกต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ธุรกิจต่างๆเริ่มทรุดตัวลงทีละแห่ง บังคับให้ผู้ประกอบการต้องปิดบริษัทตัวเองลงและเชิญพนักงานออก ส่งผลให้เกิดอัตราการว่างงาน 60% เป็นอย่างต่ำ นักเรียนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ต้องเรียนออนไลน์ภายในบ้าน ทำให้เด็กเริ่มเกิดอาการเครียดจากการที่พวกเขาไม่สามารถออกจากบ้านไปทำสิ่งที่ต้องการได้

เวลาผ่านไป ภัยพิบัติได้สุ่มเกิดขึ้นตามประเทศต่างๆจากทั่วทั้งโลกอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ นักวิทยาศาสตร์ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา เหล่าสาวกอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อหาคำตอบ สำนึกผิดและขอการให้อภัยต่อพระเจ้าของเขา สาวกของเหล่าปีศาจเริ่มก่อความโกลาหล พวกเขาขโมยของอย่างไม่รู้จบ ทำลายสมบัติ และทำท่าทางของปีศาจ

แต่ไม่ว่าผู้คนจะหาคำตอบอย่างไร จะหามากแค่ไหน หาที่ไหน และมีคนตามหาคำตอบมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครได้รับคำตอบเลย

วันเวลาผ่านไป ผู้คนได้ล้มตายลงทีละคนจากการเกิดภัยพิบัติ ความยากจน ความหิวกระหาย และอาชญากรรม ทำให้ความเชื่อที่จะเกิดความหวังของมวลมนุษยชาติเริ่มจางหายไปในใจของพวกเขา ผู้คนได้ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่และตัดสินใจดับความทุกข์ด้วยการจบชีวิตตัวเอง

วันที่ 1 ธันวาคม คริสต์ศักราช 2022 ประชากรบนโลกเสียชีวิตลงทั้งสิ้น60% จาก 7.8พันล้านคนลดเหลือ 3.1พันล้านคน รวมผู้คนทั้งสิ้น 4.7พันล้านคนได้เสียชีวิตลงจากความทุกข์ยากภายในสิบเอ็ดเดือน

ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครคาดหวัง ไม่มีใครเชื่อ แต่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์แรกในเดือนธันวาคม บางอย่างได้ปรากฏขึ้นเป็นความหวังของมนุษยชาติ อำพันได้ปรากฏขึ้น และจุดประกายความหวังขึ้นในใจของเหล่าผู้คน

วันที่ 7 ธันวาคม คริสต์ศักราช 2022 บริษัทอาร์ชิออนได้ประกาศเกี่ยวกับอำพันที่อยู่ๆก็ปรากฎขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง เป็นความหวังของมวลมนุษย์ในขณะที่ออกประกาศทั่วโลก

“เราได้รับคำทำนาย!!” ประธานบริษัทอาร์ขิออน นอมเรล กล่าว

“คำทำนายที่พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดเผย ผลพวงที่มาจากความละโมบของมนุษย์ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ความโลภได้ทำลายโลกที่งดงามครั้งแล้วครั้งเล่า”

“มนุษย์ต้องได้รับสิ่งตอบแทนจากการกระทำ”

“ทำลายโลกและโลกก็จะหันกลับมาทำลายคุณ”

“แต่ไม่ต้องกลัวไป ภัยพิบัติเหล่านี้จะจบลงในวันสุดท้ายของปี ความทุกข์ทรมานของมนุษย์จะจบลง” นอมเรลกล่าว

“พระเจ้าได้ให้โอกาสในการไถ่บาปที่ได้กระทำต่อโลกกับเราเป็นครั้งสุดท้าย เว้นแต่ลัทธิซาตาน พวกเขาควรโดนเผาด้วยไฟของนรกและกลายเป็นเถ้าถ่านในวันสุดท้ายของปี ปีศาจพวกนั้นจะต้องกลายเป็นขี้เถ้าเมื่อพวกมันเห็นแสงตะวันของวันใหม่ ในขณะที่เหล่ามนุษย์เริ่มต้นปีใหม่ สร้างบทเริ่มต้นบทใหม่ และสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้นมา!”

“พระเจ้าได้บัญชาสี่คำพิพากษาแห่งสวรรค์ให้กับโลกใบนี้ ดังนี้”

[1. จะไม่มีใครทำลายโลกอีก] “มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะมอบให้กับผู้ที่ทำลายโลก”

[2. ในระยะเวลา3ปี จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน] “มีเพียงพนักงานบริษัทอาร์ชิออนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางไปหว่านเมล็ดพันธุ์เพื่อฟื้นฟูโลก และส่งเสบียงอาหาร ของใช้จำเป็นแก่ผู้คนทั่วโลก

[3. มนุษย์จะต้องเล่นเกมที่ชื่อว่า GUARDIAN] “มนุษย์ต้องเข้าไปเล่มเกมเสมือนจริงในระยะเวลากักตัว3ปี GUARDIAN เป็นเกมที่จะทำให้ผู้เล่นมีความรู้สึกอยากปกป้องโลก สร้างมาจากผู้รุกราน ภัยพิบัติและการทำลายล้าง เป็นเกมแนว single player ที่ๆมนุษย์สามารถกลายเป็นพระเจ้าได้

[4. อย่างน้อยที่สุดต้องคงเหลืออยู่หนึ่ง]

อย่างน้อยในหนึ่งโลกจะต้องมีชีวิตรอดในเกมช่วงระยะเวลา3ปี ถ้าผู้พิทักษ์ทั้งหมดล้มเหลวในการปกป้องโลก เมื่อนั้นโลกจะถึงจุดจบที่แท้จริง

“มาเริ่มเกมกันเถอะ” นี่เป็นคำพูดสุดท้ายของนอมเรลก่อนที่เขาจะหันหลังและสิ้นสุดการออกอากาศ คำพูดของเขาทำให้ความหวังของมนุษยชาติถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นพนักงานของอาร์ชิออนก็ได้เริ่มทำงานแจกจ่ายอาหาร ของใช้จำเป็น และที่สำคัญคือแคปซูลเกมสำหรับทุกๆคน

วันที่1 มกราคม คริสต์ศักราช 2023 ทุกๆคนรอคอยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเกม GUARDIAN พวกเขาเข้าไปในเกมและรอเวลาเปิดเซิร์ฟที่จะถึงในเร็วๆนี้

พวกเขารู้สึกมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพวกเขาเห็นโลกใบนี้ พวกเขาจะสร้างและปกป้องมัน อเล็กซานเดรีย อาธีน่ารู้สึกอย่างนั้นเช่นกันเมื่อเธอก้าวเข้ามาในโลกนี้เป็นครั้งแรก แต่เธอคงไม่รู้เลยว่าเธอคิดผิดขนาดไหน เพราะมันคือจุดเริ่มต้นการต่อสู้อันไม่รู้จบกับผู้พิชิตในตลอดระยะเวลา3ปี ที่ได้เปลี่ยนเธอจากเด็กนักเรียนธรรมดาจนกลายเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด

ระยะเวลา3ปีนั้นไว้เหมือนกะพริบตา เหลืออีกเพียงห้าชั่วโมงก็จะถึงจุดสิ้นสุดในช่วงเวลา3ปี แต่เหล่าผู้พิทักษ์ได้ลดจำนวนมอนสเตอร์และปีศาจลงนับแสนตัว พวกมันพยายามที่จะบุกรุกโลก พวกเขานึกถึงสี่คำพิพากษาแห่งสวรรค์ ต้องดิ้นรนเพื่อปกป้องโลกและพยายามซื้อเวลาการรอดชีวิตให้ยาวออกไปแม้เพียงนาทีเดียวก็ตาม

ห้าชั่วโมงช่างยาวนานเหมือนเป็นวัน เมื่อมนุษย์ดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด พวกเขาต่อสู้กับคลื่นมอนสเตอร์ครั้งแล้วครั้งเล่า

เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมง ผู้คนเริ่มถูกเตะออกจากเกมที่พวกเขาได้สร้างและปกป้องเอาไว้ โลกใบนั้นได้ถูกทำลายลงทีละส่วน ทีละส่วน ตอนนี้หลายๆคนเริ่มกังวลถึงคนที่เหลือที่ต่อสู้อยู่ในเกม พวกเขาอธิษฐานต่อพระเจ้าอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆผู้คนก็เริ่มหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะรอดชีวิตจากบททดสอบนี้หรือจะถึงจุดจบที่แท้จริง

“ทำไมฉันถึงต่อสู้อย่างหนักอยู่คนเดียว” คนที่เหลืออยู่เริ่มบ่นพึมพำ พวกเขาสูญเสียความหวังเมื่อได้เห็นคลื่นมอนสเตอร์ที่วิ่งเข้ามาในโลกอย่างไม่สิ้นสุด

“ฉันว่าฉันทำมามากพอแล้ว” ความเหน็ดเหนื่อยเริ่มปรากฏขึ้นบนดวงตา พวกเขาเริ่มยอมแพ้และหยุดการต่อสู้

“แน่นอนว่ายังมีคนอีกมากที่ยังสู้ต่อ แต่ฉันพอแล้ว” ทุกคนที่คิดจะยอมแพ้พึมพำออกมา พวกเขาพยามยามปลอบใจตัวเองโดยคิดว่ายังมีคนอีกเป็นพันๆคนที่กำลังต่อสู้เพื่อโลกของพวกเขา

เหลือเวลาอีกเพียงสามสิบนาที แต่ไม่มีใครคาดหวัง มีเพียงเด็กสาวคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงดิ้นรน เธอคือผู้พิทักษ์คนสุดท้ายบนโลก ไม่มีใครรู้ว่าเธอคือคนสุดท้ายที่ยังคงเล่นเกมอยู่ และตัวเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังคงอยู่และใช้ความตั้งใจทั้งหมดที่เธอมีเพื่อกำจัดมอนสเตอร์ที่เหลือ

เด็กผู้หญิงที่ราวกับเทพธิดาผู้ผ่านการต่อสู้มานับพันครั้ง เธอใส่ชุดเกราะสีดำสนิท กำลังกวัดแกว่งดาบคาตานะเล่มใหญ่ที่โชกไปด้วยเลือด แม้ว่าจะมีกองศพของมอนสเตอร์นับแสนตัวอยู่ข้างหลังเธอ แม้ว่าเธอจะเหนื่อยจากการต่อสู้มากขนาดไหน ทำให้ผมของเธอนั้นยุ่งเหยิง แต่ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอกลับฉายความเร่าร้อน ริมฝีปากของเธอเผยรอยยิ้มอันสดใสแม้ว่าเธอจะใช้คาตานะในการพยุงตัวเองไว้ก็ตาม แล้วมองตรงไปยังข้างหน้า

“นี่คือทั้งหมดที่คุณมีหรือไง!” เธอตะโกนใส่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

ข้างหน้าของเธอคือชายหนุ่มหน้าตาดีที่ดูแล้วอายุน่าจะพอๆกับเธอ นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมมงกุฎบนเส้นผมสีดำสนิทกำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยดวงสีแดงเข้ม

“ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ได้มาเพื่อสู้กับเจ้า พลังของเจ้าในตอนนี้อยู่ได้ไม่ถึง10วินาทีด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นพูดขึ้นโดยที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างสบายอารมณ์

“เราจะไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะต่อสู้ไม่ใช่หรือไง” เธอพูด ดูเหมือนว่ากำลังรอที่จะต่อสู้กับผู้ชายคนนี้ ความตื่นเต้นเร่าร้อนเริ่มปรากฏในดวงตาของเธอ

แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร กลับกัน เขาสะบัดมือไปที่ข้างหน้าของเด็กสาวและเกิดลมกระโชกอย่างรุนแรงพัดผ่านเธอไป

เธอกำลังสงสัยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่แล้วเธอก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นของอากาศที่สะอาดขึ้นราวกับว่ากลิ่นของศพมอนสเตอร์นับแสนได้หายไป

เธอหันไปมองรอบๆตัว และนั่นทำให้เธอตกตะลึง ข้างหลังของเธอไม่มีแม้แต่ศพของมอนสเตอร์หรือเลือดแม้เพียงหยดเดียว สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงหญ้าและมันดูเหมือนว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นเลย

“ถ้าหากคุณไม่ได้มาที่นี่เพื่อสู้ แล้วคุณคือใคร?” เด็กสาวมองไปรอบๆตัวอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถาม

“ชื่อของข้าไม่ได้มีความสำคัญอะไร เพียงแต่ ข้าคือผู้ที่เกลียดชังในพระเจ้า” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากบัลลังก์ของเขาแล้วหายตัวมายืนอยู่หน้าเด็กสาวในระยะประชิด

“คุณเป็นใคร” เธอถาม ตกใจกับการเทเลพอร์ตที่คาดไม่ถึง เธอถอยหลังออกเล็กน้อยแล้วกระชับดาบในมือแน่น

“ข้าเป็นใครน่ะหรือ? เหมือนกันกับเจ้าละมั้ง หรือจะบอกว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่ร่วงหล่นดีล่ะ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด