ตอนที่แล้วบทที่ 4 : เธอเคยถูกวางแผนใส่ร้ายโดยคนโง่เง่าในชาติที่แล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 : ตบหน้า

บทที่ 5 : ช่างน่าแปลกใจที่หานจงหลีไม่เปิดเผยความจริงออกไป


บทที่ 5 : ช่างน่าแปลกใจที่หานจงหลีไม่เปิดเผยความจริงออกไป

ลู่ม่านยิ้มเย็ม แม่ของลู่ฉี เซี่ยชิงหยาง เป็นนางมารที่ทำลายครอบครัวของเธอ และตอนนี้ลู่ฉีก็เป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของลู่ม่านและเหอเจิ้งไป๋

แต่ลู่ม่านไม่สนใจอีกต่อไป เธอไม่สงสารตัวเองที่ถูกคนแบบนั้นทิ้งไป ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการมีเพียงให้พวกมันชดใช้กับสิ่งที่พวกมันวางแผนและทำร้ายเธอในชาติก่อน!

ยิ่งลู่ม่านพูดมากเท่าไหร่รวมกับสายตาอันเหยียดหยามของเธอที่จ้องมองมา เหอเจิ้งไป๋ยิ่งรู้สึกละอายมากขึ้นเท่านั้น

“ตั้งแต่ที่พวกคุณสองคนแอบคบกัน ฉันก็คิดว่าเราเลิกกันไปแล้ว แต่คุณก็หน้าด้านมากพอที่จะยืนอยู่ตรงนี้แล้วกล่าวหาว่าฉันเป็นคนทรยศ?”

“หยุดกล่าวหากันได้แล้วนะ!” ลู่ฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

ถ้าพวกเขาอยู่กันตามลำพังหละก็ เธอคงไม่รู้สึกอะไรที่ใช้เหอเจิ้งไป๋เพื่อกดดันลู่ม่าน แต่ตอนนี้ลู่ม่านไม่สนใจเหอเจิ้งไป๋อีกต่อไป และลู่ฉีก็ไม่ต้องการให้ตัวเองถูกประณามว่าเป็นคนที่ทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่นด้วย

“ถึงพี่จะเป็นคนหนึ่งที่พยายามยกระดับตัวองแต่กลับทำความผิด แล้วนี่พี่กำลังพยายามกลบเกลื่อนและใส่ร้ายพวกเราอยู่นะ!”

“ใส่ร้าย?” ทันใดนั้นลู่ม่านก็ปล่อยหานจงหลีและคราวนี้เขาก็ไม่ได้รั้งเธอไว้ แต่กลับจับผ้าขนหนูของเธอแทนเพื่อกันไม่ให้มันร่วงลงมา ลู่ม่านก้าวไปยืนประจันหน้ากับลู่ฉี จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปคว้าสร้อยคอที่ลู่ฉีสวมอยู่และถอดมันออก

การกระทำของลู่ม่านนั้น เรียกได้ว่ากะทันหันและเหนือความคาดหมายของลู่ฉี เธอไม่คิดเลยว่าลู่ม่านจะถอดสร้อยของเธอออก จึงไม่ได้ระวังตัวแต่อย่างใด

ลู่ม่านหยิบจี้บนสร้อยคอขึ้นและแสดงให้พวกเขาเห็น ด้านหลังของจี้สลักชื่อ เหอเจิ้งไป๋และลู่ฉี เป็นภาษาจีน ที่ถูกล้อมรอบด้วยรูปหัวใจ

เมื่อความจริงถูกแสดงอยู่ตรงหน้า ข้อแก้ตัวใดๆที่เหอเจิ้งไป๋และลู่ฉีพยายามอ้างก็ไร้ประโยชน์

เป็นไปได้ไหมที่ทั้งคู่จะแกะสลักจี้แบบนั้นไว้เล่นๆ?

อย่ามาล้อเล่น! ไม่ใช่ทุกคนจะโง่นะ

“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ให้พวกคุณจัดการกันเองเถอะ” ตำรวจผู้หยึ่งพูดขึ้น และหันกลับไปถามลู่ม่านว่า

“คุณลู่ คุณอยู่ที่นี่มาตลอดหรือเปล่า”

“ใช่” ลู่ม่านถอยกลับมายืนข้างหานจงหลี และโอบเอวของเขาไว้ และด้วยอะไรบางอย่าง หานจงหลีเลือกจะไม่พูเปิดเผยความจริงออกไป เขาเพียงก้มหน้ามองเธอพร้อมรอยยิ้มบางบนใบหน้า

ลู่ม่านยิ้มรับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่เขาไม่เปิดเผยความจริง แต่นั่นก็ได้ช่วยเหลือเธออย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอคะ?” ลู่ม่านถาม

ก็ในเมื่อเธอไม่อยู่ที่นั่น การถามแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ

“แขกที่พักอยู่ห้องข้างๆถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว” ตำรวจอธิบาย

“ตายจริง ฉันอยู่ที่นี่มาตลอด ถ้าไม่เชื่อ สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดแถวนี้ได้” ลู่ม่านกล้าพูดเช่นนี้เพราะเธอรู้ดีว่า กล้องวงจรปิดบริเวณนี้ของโรงแรมไม่ทำงาน

ในชาติก่อน หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ลู่ฉีได้ไปหาเหอเจิ้งไป๋ทันที และบังเอิญว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเหอ ดังนั้น หากเหอเจิ้งไป๋ต้องการอะไร ที่เขาต้องทำมีเพียงแค่พูด เขาพึ่งโทรหาตำรวจหลังจากที่เขาช่วยลู่ฉีจัดการกับหลักฐาน

ตอนนี้ลู่ม่านกำลังเดิมพันอยู่ โดยหวังว่าทุกอย่างจะเป็นแบบเดียวกับในชาติที่แล้ว และเมื่อสังเกตุเห็นท่าทางแปลกๆของตำรวจ เธอก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอกำลังเดิมพันนั้นถูกต้องแล้ว

“แต่มีอย่างหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจสักเท่าไหร่.... ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องข้างๆนั่น ทำไมคุณถึงมาที่นี่?” ลู่ม่านมีสีหน้าที่สับสน

และก่อนที่ตำรวจจะได้ตอบอะไร ลู่ฉีก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “พี่บอกให้ฉันมาพบผู้กำกับที่นี่ไม่ใช่เหรอ?”

ลู่ม่านยิ้มเยาะเย้ย ลู่ฉีคงตัดสินใจแน่แล้วว่าจะให้เธอเป็นแพะรับบาป

“ฉันไม่ค่อยเข้าใจนัก ฉันเป็นแค่ผู้ช่วย ฉันจะมีธุระอะไรกับผู้กำกับได้ หรือคุณกำลังบอกว่า ฉันอยากจะมีบทบาทในหนังเป็นของตัวเองเหรอ?” ลู่ม่านกล่าวพร้อมยกโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด