ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 311 เชื้อโรค!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 313 สามเดือนต่อมาเป็นไปตามแผน

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 312 ข้อเสนอของเผ่ามังกร


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 312  ข้อเสนอของเผ่ามังกร

เมื่อรอได้สักพักเผ่ามังกรที่เป็นทูตก็เดินเข้ามาในเต็นท์ ทันทีที่เห็นหน้าผมก็แปลกใจเหมือนกันนึกว่าจะเป็นมังกรตัวใหญ่แบบที่ผมแปลงร่างสะอีก แล้วพอเจ้านี่เข้าเต็นท์ไม่ได้ผมเลยออกไปคุยด้านนอกแทน

แต่ว่า

สิ่งที่คิดเอาไว้มันผิดไปเยอะ

มังกรนะยังเป็นอยู่ แต่รูปร่างเล็กเหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิดเพียงแต่ว่าร่างกายยังเป็นมังกรอยู่เท่านั้นเอง อธิบายยากเหมือนกันว่าหมอนี่เหมือนกับอะไร

เข้ามาได้ไม่นานเผ่ามังกรก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย

“ยินดีมากครับที่ได้มาพบกันท่าน”

“อ่า”

มังกรเงยหน้าขึ้นมาและเอามือแตะอกตัวเอง

“ข้ามีนามว่า โรแลนด์ มีตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพของเผ่ามังกรที่เป็นตัวแทนมาเจรจากับท่านโดยตรง หวังว่าท่านดรารอน์แห่งทวีปเดเชียจะพอใจกับการมาของข้า”

“แน่นอน”

การพูด การจาของเจ้านี่เหมือนกับกำลังบอกว่าจงดีใจสะที่ข้าเดินทางมาเองชัดๆ

เหอะ! นี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือไงว่ากองทัพตัวเอง… ไม่สิ! พวกเผ่ามังกรมันรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองกำลังเจอกับสถานการณ์แบบไหน ไม่งั้นพวกมันไม่เข้าเจรจาก่อนแบบนี้หรอก

“ถ้างั้นพวกเราก็มาเข้าเรื่องกันดีกว่าท่านโรแลนด์ เรื่องที่ทางเดินทางมาข้าคงพอเดาได้ว่าเป็นเรื่องของพืชที่ตายไปหมดทั่วทวีป แต่ว่า เรื่องที่ท่านอยากเจรจากับข้าเพียงสองคนข้าไม่เข้าใจว่าท่านต้องการอะไร”

โรแลนด์แสยะยิ้ม

“สมแล้วที่เป็นท่าน… อันดับแรกเรื่องเจรจาของข้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพืชทั้งหมดจริงๆ เพราะทางข้าได้รู้ข่าวมาว่ามันเป็นฝีมือของท่าน แต่ก่อนที่จะไปเข้าเรื่องที่สองข้าต้องการยืนยันอะไรกับท่านก่อนได้หรือไม่”

“แน่นอน ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็น”

“ข้าต้องการรู้ว่าพืชที่ทวีปแห่งนี้สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เมื่อไหร่… ไม่สิ! มันสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”

แววตาที่โรแลนด์มองมาทางผมจริงจังมาก

ตามจริงเรื่องเวลาทางผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะเมื่อชาติก่อนใช้ไปกับเกราะหลายที่เป็นประเทศคู่สงคราม แต่ระยะเวลาที่สภาพแวดล้อมกลับมาเป็นปกติมันก็ต่างกันออกไป บ้างก็หนึ่งปี บ้างก็สามปี บ้างก็สิบปี ด้วยเหตุผลแบบนั้นทางผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

แต่จะตอบไม่รู้ก็ไม่ได้ด้วยสิ… งั้นตอบไปก่อนแล้วกัน

“เรื่องนั้นข้าคงบอกไม่ได้”

“ทำไมละ???”

ผมชูนิ้วชี้ขึ้นไปทันที

“อันดับแรกเลยข้าจะตอบหรือไม่ตอบมันก็เรื่องของข้า ท่านคิดว่าตัวเองเป็นใครคิดว่าเวลานี้เผ่าตัวเองยังอยู่จุดสูงสุดถามใครคนนั้นต้องตอบอีกหรือไง”

“คะ ครับ… เรื่องนั้นข้าต้องขอโทษด้วย”

โรแลนด์ทำหน้าเจ็บใจแต่ก็ตอบขอโทษออกมา

ท่าทางแบบนั้นเจ้านี่คงไม่ได้อยากจะขอโทษจริงๆ หรอก แต่เพราะไม่มีทางเลือกต่างหากเลยต้องพูดออกมา

หึ!

“ถ้างั้นก็มาเข้าเรื่องสองกันเลย”

“เชิญ”

“เรื่องที่สองที่ข้าต้องการคุยกับท่านคนเดียวเพราะทางเผ่ามังกรของเรามีข้อเสอนมาให้ท่าน เพราะแบบนะ-”

เหอะ! ข้อเสนอ… ถ้าให้ข้าเดาข้อเสนอคือให้ข้าถอนกำลังรบกลับไปสินะ”

“ระ เรื่องนั้นมันก็ใช่…” ‘ไม่คิดเลยว่าเจ้านี่จะรู้แผนของพวกเราด้วย’

“ขอปฏิเสธ!”

“เอ่ะ” โรแลนด์อุทานเสียงแปลกใจ “ท่านไม่ลองฟังสักหน่อยกะ-”

“ไม่มีหูหรือไงข้าบอกไปแล้วไม่มีคืนคำแน่นอน ตอนนี้คิดว่าเผ่ามังกรคงรู้แล้วสินะว่าสถานการณ์มันเป็นยังไงเพราะอย่างงั้นทางเลือกของเผ่ามังกรตอนนี้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น ส่วนทางเลือกเป็นอะไรข้าคงไม่ต้องพูดอะไร”

โรแลนด์สีหน้าเสียทันทีหลังจากได้ฟังไป

ที่ผมพูดไปเมื่อครู่มันก็เป็นความจริงที่ผมต้องการพูด ในตอนนี้เผ่ามังกรกำลังเข้าช่วงวิกฤตกันแล้วเมื่อเจอเชื้อโรคทำลายพืชไป แต่พวกมันยังมีหน้ามาเสนอข้อเสนอให้ผมถอนกำลังรบกลับอีก ไม่คิดเลยว่าจะคิดแผนบ้าบอเช่นนี้ออกมาได้

ถ้าตามที่ผมเข้าใจในตอนนี้ทางเผ่าพันธมิตรของเผ่ามังกรก็คงเริ่มเปลี่ยนสีกันบ้างแล้วพวกมันเลยร้อนตัวกันแบบนี้ ถ้าไม่เป็นแบบนั้นโรแลนด์คงไม่ตกใจหลังจากผมปฏิเสธทันทีแบบนั้นหรอก

หลังจากปฏิเสธไปแล้วทางโรแลดน์ก็พยามยื้นข้อเสนอเพิ่มมาอีก แต่ทางผมก็ตอบกลับไปว่า [ปฏิเสธ] ทั้งหมด ไม่ตอบรับอะไรเลยสักอย่างเพราะข้อเสนอที่พวกมันยื้นมาก็ให้ถอนทัพออกไปทั้งนั้น

หลังจากคุยกันได้สักพัก

“ท่านกลับไปเถอะ ยังไงข้าก็ไม่กลับเด็ดขาด”

ผมชี้นิ้วไปที่ประตูทางออกระหว่างพูดไป

โรแลนด์รีบลุกทันทีแต่ไม่ได้ไปทางประตู

ฟุบ!

เข่าทั้งสองข้างของโรแลนด์สัมผัสลงกับพื้นด้านหน้าของผม

“ขอร้องละครับ ช่วยถอนกำลังเถอะ”

เหอะ!

เสนอไม่ได้เลยข้อร้องสินะ แต่สำหรับเผ่ามังกรที่รักศักดิ์ศรีที่เป็นเผ่าเหนือสุดของห่วงโซ่อาหารมาคุกเข่าขอร้องแบบนี้ก็ไม่เลว เจ้านี่อาจจะใช้งานได้ หึหึ!

“เอาแบบนี้ไหมละ…”

“ครับ???”

โรแลน์ทำหน้างุนงง

จากนั้นผมก็บอกความจริงเกี่ยวกับสายเลือดในตัวไป ร่วมถึงเรื่องราชามังกรที่ได้รู้มาจากความทรงจำของโอรอสด้วย

หลังจากที่ได้ฟังไปโรแลดน์ก็แสดงสีหน้าสงสัยทันที

“ต่อให้เป็นท่านข้าคงเชื่อไม่ได้”

อื้ม! คิดเอาไว้แล้วต้องได้คำตอบแบบนี้กลับมา อยู่ๆ มีคนมาบอกเรื่องอะไรแบบนี้เป็นผมเองก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ว่า ที่พูดให้ฟังไม่ได้อยากให้หมอนี่เชื่อหรอก มันเป็นการใช้งานต่างหาก

หลังจากบอกไปหมอนี่ต้องพยามค้นหาความจริงหรือไม่ก็ไม่รายงานหรือพูดให้ใครฟัง จากนั้นจากความไม่เชื่อมันก็จะกลายเป็นความสงสัย พอเริ่มสงสัยยังไงก็ต้องหาเหตุผลเพื่อมาสนับสนุนเรื่องนั้น พอเรื่องมันเป็นแบบนั้นความแคลงใจก็จะเริ่มเกิดขึ้นในเผ่ามังกรขึ้นมาเองที่ราชาองค์ปัจจุบันขโมยตำแหน่งมา

อีกอย่าง

หลังจากที่ได้เล่าให้โรแลนด์ฟังหมอนี่ก็แสดงท่าทางตกใจออกมาอย่างขัดเจนเมื่อได้ยินว่าราชาองค์ปัจจุบันไม่ได้สืบทอดตำแหน่งแบบปกติแต่ขโมยมาจากพ่อและพี่ชายของตน ถ้าเกิดแม้แต่คนระดับหมอนี่ยังไม่รู้แปลว่าเผ่ามังกรจำนวนมากก็คงไม่รู้เช่นกัน

ไม่คิดเลยว่าจะได้วางระเบิดเวลาแบบนี้

“ถ้าไม่เชื่อก็เชิญกลับไปได้เลย!”

“แต่…”

“ไม่มีการเจรจาอะไรทั้งนั้น หลังจากนี้ถ้าเผ่ามังกรต้องการเจรจาสิ่งที่ข้าต้องการได้ยินก็คือ [ยอมแพ้] หรือ [@#$#@$%#$@$^#] เท่านั้น”

“ครับ… ถ้างั้นข้าขอตัว”

โรแลนด์ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที

หลังจากโรแลนด์ออกไปได้ไม่นานทาร์รอสที่ยืนอยู่หน้าเต็นท์ตั้งแต่ที่โรแลดน์เดินทางเข้ามาก็เดินเข้ามาในเต็นท์ ตัวผมที่รู้อยู่แล้วว่าหมอนี่จะเดินเข้ามาก็เลยไม่ได้ลุกไปไหนเพราะรู้อยู่แล้วว่าหมอนี่ยืนรอจากพลังเวทย์ที่สัมผัสได้

“เมื่อกี้เจ้านั่นคุยอะไรกับเจ้าบ้าง?”

หลังโดนถามผมก็มองหน้าทาร์รอสแบบไม่ขยับปากเพราะมีความคิดจะตอบ

ตอนนี้ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องตอบหมอนี่เลยสักอย่าง ตำแหน่ง! หน้าที่! อำนาจ! พลัง! ทุกอย่างของผมเหนือหมด ทำไมต้องตอบคำถามของคนที่อยู่ต่ำกว่าด้วย

“สีหน้าแบบนั้นไม่คิดจะตอบสินะ”

ถูกต้อง!

เข้าใจแบบนี้เรื่องง่ายขึ้นเยอะเลย ทางข้าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องตอบเจ้าเลยสักอย่างทำไมต้องตอบด้วย

“ข้าไม่มีความจำเป็นต้องตอบอะไร”

“เรื่องนั้นมันก็จริง งั้นข้า-”

“แต่ยังไงสะมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องปิดบัง”

ทาร์รอสที่กำลังจะเดินออกไปหันกลับมาทันที

แต่ถึงจะหันกลับมาใบหน้าของหมอนั่นก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ขนาดอ่านใจไม่ได้ผมยังรู้เลยว่าหมอนั่นกำลังสบถด้านผมอยู่ในใจแน่นอน

แต่ช่างเถอะ…

หลังจากนั้นทาร์รอสก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามผมก็เล่าเรื่องเกือบทั้งหมดให้ฟัง ที่บอกว่าเกือบทั้งหมดก็เพราะไม่ได้เล่าเรื่องช่วงท้ายที่ผมมีสายเลือดราชามังกรให้ฟัง เพราะไม่อยากอธิบายอะไรให้มันยุ่งยาก

เมื่อฟังจบ

“เข้าใจแล้ว งั้นข้าขอตัวไปบอกพวกที่รอก่อน”

“อ่า”

เมื่อฟังจบทาร์รอสก็พูดออกมาแบบไม่ถามอะไรแล้วเดินออกไป

พวกที่รอที่พูดถึงก็น่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าอื่นๆ ที่กำลังหนักใจกันนั่นแหละ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่พวกนั้นจะหนักใจที่ทูตเผ่ามังกรขอเจรจากับผมคนเดียวแบบนั้น

แต่ทว่า

ผมคิดว่าตอนนี้ผมอาจจะมีปัญหาแล้วก็ได้ ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นการตั้งระเบิดเวลาให้เผ่ามังกรมันตีกันเอง แต่ก็ลืมคิดไปว่าถ้าพวกนี้สงสัยมันอาจจะ… ไม่หรอก! ถ้ามีเผ่าไหนในกลุ่มต่อต้านคิดแข็งข้อขึ้นมาก็แค่ใช้ดรารอน์อธิปไตยมันก็จบ

หึ! ไม่เป็นปัญหาเลย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด