ตอนที่แล้ว535 - ต่อสู้กับลิงศักดิ์สิทธิ์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป537 - การโจมตีภูเขาสีม่วงครั้งที่สาม

536 - ราชาวานร 


กำลังโหลดไฟล์

536 - ราชาวานร

ในระยะไกล เย่ฟ่านไม่ได้บินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่มองออกไปนอกป่าไผ่พร้อมกับหลี่เหอซุย แม้ว่าสถานการณ์ตรงนี้จะน่ากลัวถึงขีดสุดแต่พวกเขาไม่อาจปล่อยให้ผลประโยชน์ที่ควรจะเป็นหลุดมือไปได้

ตอนนี้นักพรตมังกรแดงก้าวไปข้างหน้า เขายื่นมือที่แห้งเหี่ยวราวกับขาไก่เข้าหาลำคอของเซียนวานร

ทันทีที่เขาลงมือผู้สูงสุดหลายคนที่อยู่ในบริเวณนี้ล้วนใบหน้าเปลี่ยนสีด้วยกลัวว่านักพรตผู้เต็มไปด้วยอันตรายจะแย่งชิงของวิเศษหนีไป

เซียนวานรก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเช่นกัน เส้นขนสีทองทั่วทั้งร่างของมันตั้งตรง พลังศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างกายของมันระเบิดออกมากลายเป็นดวงไฟสีทองเก้าดวง

"กฎเซียนวานรเก้าแปลง!"

นักพรตมังกรแดงไม่กล้าลงมือโดยประมาท มือที่แห้งเหี่ยวของเขาเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกรและยื่นเข้าหาเซียนวานรอีกครั้ง

ผู้คนต่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่าทำไมนักพรตมังกรแดงถึงรู้จักทายาทของราชาอมตะตัวนี้ แต่มันไม่มีเวลาให้พวกเขาคิดมาก สิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้คือรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อน

“บูม!”

ดวงตาอัคคีสีทองของเซียนวานรส่องแสงด้วยความโกรธ การปะทะกันเมื่อสักครู่นี้ทำให้กำปั้นของมันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและกระตุ้นความโกรธแค้นของมันถึงขีดสุด

เวลานี้เซียนวานรเคลื่อนที่ไปข้างหน้าราวกับสายฟ้าสีทอง! พลังอันน่ากลัวของมันโหมกระหน่ำเข้าหานักพรตมังกรแดงและทำการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ของเซียนวานรถูกปลดปล่อยออกมาซ้อนทับกันมากขึ้นเรื่อยๆและทุกครั้งพลังของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากครั้งก่อน

“บูม!”

บนท้องฟ้าแสงสีทองและสีแดงโถมเข้าหากันอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อเซียนวานรปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ซ้อนทับกันมากขึ้นเรื่อยๆนักพรตมังกรแดงก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเผยร่างมังกรที่แท้จริงของตัวเองออกมาต่อสู้

ผู้คนที่อยู่ด้านล่างหวาดกลัวถึงขีดสุด นี่คือเซียนวานรเทพนักรบจากสมัยโบราณ แม้แต่นักพรตมังกรแดงที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดยังยากที่จะหาความได้เปรียบได้!

ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ สวีเทียนเซี่ยงและจักรพรรดิเซี่ยจากภาคกลางก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พวกเขาลงมือสร้างค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อทำการดักจับเซียนวานรไม่ให้สร้างความวุ่นวายไปมากกว่านี้

ถึงกระนั้นหัวใจของพวกเขายังคงสั่นระรัวด้วยความกลัว แม้ว่าพวกเขาจะมีระดับการบ่มเพาะทัดเทียมกับนักพรตมังกรแดง แต่หากเปลี่ยนให้พวกเขาไปต่อสู้กับเซียนวานร พวกเขาอาจจะถูกฆ่าตายไปนานแล้ว

ในตอนนี้สถานการณ์บนฟ้าพลิกผันอย่างที่ทุกคนไม่สามารถคาดเดาได้ นักพรตมังกรแดงเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งพร้อมกับกระแทกกำปั้นเข้าหาเซียนวานรจนร่วงลงมาจากท้องฟ้า

"บูม"

เซียนวานรถูกซัดลงมากระแทกพื้น เมื่อมันลุกขึ้นมาอีกครั้งผู้คนก็มองเห็นว่าเส้นขนสีทองที่เคยส่องสว่างของมันได้มืดสลัวลงเล็กน้อย

ทันใดนั้นมือสีแดงขนาดใหญ่ก็กดลงมาจากท้องฟ้าโดยไม่เปิดโอกาสให้เซียนวานรตั้งหลักได้

ทุกคนอยู่ในความโกลาหล นักพรตมังกรแดงคนนี้เป็นใครกันแน่ หากว่าเขาสามารถจับตัวเซียนวานรได้สำเร็จ มันอาจจะเป็นภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่ของดินแดนรกร้างตะวันออก

เซียนวานรแผดเสียงด้วยความโกรธ หางตาของมันเบิกกว้างปลดปล่อยแสงสีทองที่สว่างเจิดจ้า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นมันก็ฉวยโอกาสยื่นมือเข้าหาทวนสีแดงที่ฝังอยู่ในหน้าอกของเทพธิดา

แคร่ก!

ทวนสีแดงเข้มถูกดึงออกมาอย่างหักโหมทำให้โลหิตของเทพธิดาที่อยู่ในต้นกำเนิดฉีดออกมาตามรูของต้นกำเนิดสร้างความตกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก

ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ จี้ตงเหนิง สวีเทียนเซี่ยงและจักรพรรดิเซี่ยต่างแสดงออกถึงความตื่นตระหนก พวกเขาไม่รอช้ารีบปิดกั้นการกระทำของเซียนวานรทันที

บูม!

ไอสังหารซัดสาดออกมาเหมือนคลื่นทะเลคลั่ง แม้ว่าทวนสีแดงเล่มนี้จะแตกหักไปแล้ว แต่ทันทีที่มันอยู่ในมือของเซียนวานรพลังของมันก็ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง!

นักพรตมังกรแดงที่ทำการโจมตีอย่างบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ได้หยุดความเคลื่อนไหวไปแล้ว

ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคนเขาได้ยื่นมือเข้าหาเศษซากต้นกำเนิดสวรรค์ที่อยู่บนพื้นก่อนจะเปลี่ยนให้มันเป็นของเหลวและบินเข้าหาเทพธิดาผู้อาภัพ

ในทันใดนั้นเลือดที่ไหลออกมาตามรูของคมทวนก็ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์

ในตอนนี้แผ่นหลังของทุกคนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เซียนวานรที่ครอบครองอาวุธปีศาจอยู่ในมือนั้บแทบจะเป็นเหมือนพยัคฆ์ติดปีก มันทำให้สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายถึงขีดสุด

ฉี่!

เซียนวานรถือทวนสีเลือดพุ่งไปข้างหน้า เป้าหมายของมันตอนนี้คือนักพรตมังกรแดงที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาผู้คนทั้งหมด

หากเป็นคนธรรมดาพวกเขาไม่มีทางที่จะต่อต้านเซียนวานรและอาวุธปีศาจตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยง

แต่ใครคือนักพรตมังกรแดง?

นักพรตมังกรแดงยังคงมีท่าทางสงบ นิ้วของเขาส่องแสงเจิดจ้า ในทันใดนั้นเลือดของเทพธิดาที่ไหลออกมาจากต้นกำเนิดสวรรค์ก็รวมตัวกันกลายเป็นกระบี่เล็กๆเล่มหนึ่ง

“เฉียง!”

เซียนวานรก็ไม่ได้หลบเลี่ยงเช่นกัน ทวนโบราณที่อยู่ในมือของมันดูเหมือนจะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว และรัศมีการสังหารที่ไม่มีใครเทียบได้นั้นช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า

มันมีกลิ่นอายสังหารที่น่าสยดสยองราวกับว่าครั้งหนึ่งมันเคยทำลายโลกอันยิ่งใหญ่มาแล้ว

มันไม่ใช่อาวุธเต๋าสุดขั้วอย่างแน่นอน แต่พลังที่รุนแรงของมันก็เพียงพอที่จะเขย่าโลกทั้งใบให้สั่นไหว กลิ่นอายแห่งการสังหารนี้เพียงพอที่จะกดดันอาวุธทุกชิ้นที่อยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์

เซียนวานรแสดงความดุร้ายออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยทวนเลือดอันทรงพลังในมือ มันจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจและส่งเสียงคำรามด้วยภาษาโบราณ

นักพรตมังกรแดงไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าด้วยความประมาท ร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นมังกรขนาดใหญ่อีกครั้งพร้อมกับยื่นกรงเล็บเข้าหาทวนสีแดงอย่างหักโหม

ปะ!

แสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงทองระเบิดขึ้นเขย่าทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ให้สั่นไหว ทวนสีแดงเล่มนี้น่ากลัวถึงขีดสุดและมันยังคงแทงเข้าหาร่างกายของนักพรตมังกรแดงด้วยพลังที่ไม่ลดลง

นักพรตมังกรแดงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดราวกับมังกรคำรามบนท้องฟ้า กรงเล็บข้างนึงของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักและมันทำให้เลือดของเขาสาดกระจายไปทุกทิศทาง

“ปัง!”

แต่ในขณะที่เซียนวานรกำลังได้ใจ จู่ๆหางมังกรขนาดใหญ่ก็ฟาดเข้าไปที่ด้านข้างลำตัวของมันอย่างรุนแรง

การโจมตีครั้งนี้เกินความคาดหมายของมันอย่างยิ่งและส่งเซียนวานรให้กระเด็นออกไปไกลหลายร้อยวา

โครม!

ร่างกายของเซียนวานรฝังเข้าไปในพื้นศิลาอันแข็งแกร่งของเมืองศักดิ์สิทธิ์ ในเวลาอันสั้นมันยังไม่สามารถลุกขึ้นได้

“แส้มังกรโลหิตนั้นเป็นอาวุธที่นักพรตมังกรแดงปรับแต่งเป็นการส่วนตัว หากไม่ใช่ว่านักพรตมังกรแดงเป็นเพียงผู้สูงสุด ป่านนี้อาวุธของเขาคงกลายเป็นอาวุธสุดขั้วไปแล้ว!”

จักรพรรดิ์เซี่ยสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ ความแข็งแกร่งของนักพรตมังกรแดงสุดที่เขาจะต้านทานได้

“โฮก!”

เซียนวานรผู้กล้าหาญคำรามด้วยความโกรธ มันใช้ทวนแตกหักพยุงร่างของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของมันแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บมากแค่ไหน

ไกลจากสนามรบผู้คนมากมายต่างก็สนทนากันด้วยความหวาดกลัว

ในสถานการณ์ตอนนี้ หากนักพรตมังกรแดงมังกรแดงไม่สามารถเอาชนะลิงปีศาจตัวนี้ได้ เมืองศักดิ์สิทธิ์จะต้องถูกลบล้างออกไปจากภาคเหนืออย่างแน่นอน

“ในโลกใบนี้มีพระพุทธเจ้า(ยูไล)แล้ว บางทีเจ้าลิงนั่นอาจจะเป็นซุนหงอคงจริงๆก็ได้?”

นี่คือคำพูดของผังป๋อ มันดังขึ้นท่ามกลางเสียงสนทนาของผู้คนมากมายจึงไม่มีผู้ใดสนใจคำพูดของเขา

เย่ฟ่านก็รู้สึกแบบเดียวกัน ดูเหมือนว่าลิงในตำนานจะฟื้นคืนชีพแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าเซียนผู้ยิ่งใหญ่ของอีกฟากหนึ่งในทะเลแห่งดวงดาวจะทยอยปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ?

และในเวลานี้สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น ทวนที่เคยเป็นสนิมกลับพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหารที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้น

“วิญญาณอาวุธฟื้นขึ้นมาแล้ว พี่ฉีหลง(มังกรแดง)ให้เราช่วยเหลือเจ้าอีกแรง!”

ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ไม่มีเวลาแบ่งแยกฝ่าย หากพวกเขาปล่อยให้อาวุธวิเศษชิ้นนี้ฟื้นคืนชีพกลับมานั่นจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ของโลก

สวีเทียนเซี่ยง และจักรพรรดิเซี่ยก็ไม่ได้อยู่เฉย เพียงแค่เซียนวานรก็น่ากลัวมากพอแล้ว หากปล่อยให้มันหนีไปพร้อมกับอาวุธที่ชั่วร้ายนี้ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดหายนะมากแค่ไหน

“พวกเจ้าถอยไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”

นักพรตมังกรแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แส้มังกรโลหิตบินกลับเข้าสู่มือของเขาในขณะที่แสงสีแดงระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง

“ร่างเก้ามังกรที่แท้จริง!” ผู้อาวุโสหลายคนอุทาน

สุดยอดศิลปะขั้นสูงสุดของเผ่าพันธุ์อสูรซึ่งหายสาบสูญไปหลายพันปีแล้ว ในที่สุดก็ถูกแสดงออกมาในครั้งจากนักพรตมังกรแดงผู้ลึกลับ

แม้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของเซียนวานรจะน่ากลัวถึงขีดสุด แต่มันก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัยซึ่งแตกต่างจากนักพรตมังกรแดงที่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดของดินแดนรกร้างตะวันออก

นักพรตมังกรแดงบดขยี้ท้องฟ้าด้วยมือทั้งสอง ในขณะนี้ท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่ก็แยกออกจากกัน

“ไม่เพียงแต่สามารถแสดงร่างเก้ามังกรที่แท้จริงเท่านั้น เขายังฝึกฝนจนแทบจะถึงระดับสมบูรณ์แล้วด้วย!”

ยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายใบหน้าซีดขาว ในสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาไม่แน่ใจแล้วว่าเซียนวานรและนักพรตมังกรแดงผู้ใดจะเป็นภัยพิบัติต่อพวกเขามากกว่า

เซียนวานรสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ทันใดนั้นมือของมันก็กวาดไปด้านหน้าและรอยแยกของประตูมิติที่มีความสูงกว่าสองวาก็เปิดออก

“อย่าปล่อยให้มันข้ามความว่างเปล่า! นี่คือทายาทสิ่งมีชีวิตอมตะพวกเราไม่สามารถปล่อยให้มันหนีไปได้”

ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ สวีเทียนเซี่ยง จักรพรรดิเซี่ยดำเนินการโจมตีจากระยะไกลโดยไม่เปิดโอกาสให้เซียนวานรนี้ไปได้

เซียนวานรมีความเด็ดขาดอย่างยิ่ง มันพุ่งเข้าหาประตูมิติโดยใช้แผ่นหลังของตัวเองรองรับแรงกระแทกจากการโจมตีของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ตรงๆ

ในขณะเดียวกันหางของมันก็กวาดเอาต้นกำเนิดแปลกๆที่ใช้ปิดผนึกเทพธิดาพร้อมกับเศษเสี้ยวต้นกำเนิดสวรรค์มากมายที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเข้าไปในประตูมิติด้วย

“ไอ้ลิงสาระเลว นั่นมันต้นกำเนิดสวรรค์ของข้า!” เย่ฟ่านกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

แคร้ง แคร้ง แคร้ง!

แต่ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน จู่ๆก็มีเสียงระฆังดังขึ้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด