บทที่ 45 สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับคนป่าอย่างเขาไหม?
หลี่เหลียงเดินเข้ามา
เขากวาดตามองทั่วห้องเรียนก่อนจะหยุดที่ลู่เจ๋อ
เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศกำลังตึงเครียด หลี่เหลียงก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น? มองฉันทำไม? ในใจฉันประหม่ามาก แต่ข้างนอกฉันกำลังยิ้มสู้อยู่นะ”
“พรืดดด!”
คำพูดของหลี่เหลียงทำลายบรรยากาศตึงเครียดในห้องเรียนทันที และนักเรียนก็อดหัวเราะไม่ได้
“เหล่าหลี่เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อก่อนเขาไม่ซนขนาดนี้ เขาติดเชื้อจากพี่เจ๋อรึเปล่า”
“ใช่ เป็นความผิดของพี่เจ๋อ!”
ลู่เจ๋อ “???”
ฉันเป็นใคร? ฉันอยู่ที่ไหน? ฉันงงไปหมดแล้ว
ลู่เจ๋อรู้สึกว่าเขากำลังตกเป็นเป้า
เมื่อเห็นบรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้น หลี่เหลียงก็หัวเราะก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ทุกคนรู้กฎดีอยู่แล้วใช่ไหม นี่เป็นการแข่งขันครั้งแรกกับโรงเรียนอื่น ต่อด้วยห้องเรียนอื่น และในห้องเรียนของเราเอง ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถทำงานร่วมกันได้ดี ยิ่งโรงเรียนเรามีอันดับสูงเท่าไร เราก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรมากขึ้นเท่านั้น ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถการกระจายทรัพยากรได้มากขึ้นระหว่างแต่ละห้องเรียน”
“ในส่วนของเมล็ดพันธุ์…คะแนนของพวกเธอมีความสำคัญมากต่อคะแนนของโรงเรียน การที่เธอทำคะแนนได้ดีก็เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเธอเองและโรงเรียนด้วย”
หลี่เหลียงมองไปที่ลู่เจ๋อ สวี่หยาง และซูเฟิง
ทั้ง 3 คนพยักหน้า พวกเขาต้องการได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อรับประกันโควตา
“โอเค ไปที่สนามฝึกเดี๋ยวนี้ รถบัสที่จะพาพวกเธอขึ้นยานอวาศจอดอยู่ที่นั่น”
เขาได้พูดทุกอย่างไปหมดแล้ว
ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้ว
เขาเชื่อว่าลูกศิษย์ของเขาจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง
ทุกคนลุกขึ้น
สวี่หยางเดินไปหาลู่เจ๋อ “ลู่เจ๋อ คราวนี้ซูเฟิง ลีโอ และฉันจะตั้งทีมล่า 3 คน ด้วยพลังของนาย นายคงจะไปที่ที่อันตรายกว่าเรา ดังนั้นเราจะไม่ตามนายไป”
ลู่เจ๋อยิ้ม “ไม่เป็นไร ที่ที่ฉันจะไปไม่เหมาะกับพวกนายหรอก”
ลู่เจ๋อกำลังวางแผนรวบรวมส่วนผสม ไปคนเดียวสะดวกกว่าแน่นอน
มุมปากของสวี่หยางกระตุก แม้ว่านี่จะเป็นความจริง แต่ก็ยังเจ็บ!
ลีโอหัวเราะ “เหอเหอ สวี่หยางเป็นนักรบป้องกันตัวระดับ 9 แล้ว ทีม 3 คนของเราต้องได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน!”
ส่วนซูเฟิง เธอก้มหน้าเดินตามอย่างเงียบ ๆ ดูประหม่าเล็กน้อย…
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสนามฝึก
มีรถบัสสีดำจอดอยู่ 10 คัน ทั้งหมดใช้เครื่องยนต์ต้านแรงโน้มถ่วงทำให้รถสามารถบินได้
สำหรับเครื่องยนต์ต้านแรงโน้มถ่วงคืออะไร?
ลู่เจ๋อรู้สึกว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนป่าอย่างเขาเลย
นี่เป็นเรื่องของนักวิชาการ ไม่ใช่เขา!
หลังจากขึ้นรถบัสแล้ว รถบัสก็เริ่มมุ่งหน้าไปยังสถานีอวกาศที่เขตชานเมือง
สถานีอวกาศค่อนข้างเหมือนกับสนามบิน
แต่เปลี่ยนจากเครื่องบินเป็นยานอวกาศ
มียานอวกาศทุกประเภทจอดอยู่ที่นั่น ทั้งของภาครัฐและเอกชนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเผ่าพันธุ์ต่างดาว
ภายใต้การแนะนำของบุคลากรสถานีอวกาศ พวกเขาก็ขึ้นยานอวกาศขนาดเล็กที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้พวกเขา มันลอยขึ้นและบินไปยังยานอวกาศขนาดใหญ่ที่จอดอยู่นอกโลก
ลู่เจ๋อและคนอื่น ๆ นั่งดูดาวเคราะห์หลานเจียงค่อย ๆ เล็กลง ทุกคนตื่นเต้นมาก
เมื่อมองดูอวกาศที่มืดมิดและดาวเคราะห์ขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอล ในที่สุดลู่เจ๋อก็รู้ตัวว่านี่เป็นความจริง
จักรวาลนั้นไร้ขอบเขต ดวงดาวและกาแล็กซี่ปล่อยสีสันสดใสที่จับใจเขาได้เพียงแรกมอง
มันเป็นฉากที่เหมือนฝัน
มนุษย์น่าทึ่งมาก! ลู่เจ๋อมองออกไปและถอนหายใจ
แต่มนุษย์เป็นเพียงเผ่าพันธุ์ที่เล็กจิ๋วในจักรวาลทั้งหมด
ไม่ช้า เมื่อดาวเคราะห์ของพวกเขามีขนาดเท่าลูกปัด เงาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบดบังแสงดาว
เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นยานอวกาศขนาดมหึมากำลังขวางทางขึ้นสวรรค์ของพวกเขา
“นักเรียนทั้งหลายโปรดระวัง ยานกำลังจะเข้าสู่ยานแม่เต๋อหลุน 1 กรุณาอย่าเดินไปมา” เสียงทุ้มเอ่ยเตือน
“ฉันกลัวแทบตาย ฉันคิดว่าเราเจอสลัดอวกาศ…”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกจากดาวบ้านเกิด ตื่นเต้นมาก”
“ไม่ต้องกลัว นี่ก็เป็นครั้งแรกของฉันด้วย และฉันก็ยังง่วงเหมือนเดิม”
“…”
ไม่ช้า ยานแม่ก็ได้เปิดอุโมงค์ทางเข้าและยานขนาดเล็กก็บินเข้าไปด้านในที่จอดยาน
ครืด!
ประตูยานเปิดออก
กลุ่มนักเรียนเดินออกมา
ยานจอดที่สนามบินยาว 10 กิโลเมตร มียานลำเล็ก ๆ ลงจอดอย่างต่อเนื่อง และมีนักเรียนในเครื่องแบบต่าง ๆ ลงจากยานอื่น ๆ
ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบยานของพวกเขา
หลังจากนั้นคนจากแผนกการศึกษาก็พาพวกเขาไปที่รถบัส ที่จะตรงไปด้านในของยานแม่
ลู่เจ๋อมองออกไปนอกหน้าต่างรถบัส
โอ้ นี่มันยานอวกาศหรือเมืองบินได้
รถบัสแล่นไปครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงที่หมาย
ลู่เจ๋อมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย ทุกอย่างดูเหมือนหนังไซไฟ
สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์ตรวจสอบขนาดใหญ่ นักเรียนทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ถ้ามีคนทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าแบบไฮเทคมาสอบแทนคนอื่นผ่านไปได้ คงจะเป็นเรื่องน่าตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแผนกการศึกษา ดังนั้นแม้แต่ DNA ก็จะถูกตรวจสอบด้วย
-------------------------