ตอนที่แล้ว98 - เขาบอกให้ผมแทงเขาเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป100 - นางฟ้าจะต้องประทับใจในตัวฉันอย่างแน่นอน

99 - ผู้ป่วยทางจิตคนใหม่


กำลังโหลดไฟล์

99 - ผู้ป่วยทางจิตคนใหม่

วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ

รถพยาบาลขับเข้าไปในโรงพยาบาลจิตเวชชิงซานพร้อมไฟฉุกเฉินที่กระพริบอยู่ตลอดเวลา

แพทย์และพยาบาลวิ่งขึ้นไปบนรถเข็นเปลฉุกเฉินอย่างชำนาญ

“คนไข้อยู่ที่ไหน”

พวกเขาคุ้นเคยกับโรงพยาบาลจิตเวทชิงซานมากเกินไป

ความคุ้นเคยก็เหมือนได้กลับไปโรงพยาบาลของตัวเอง

พวกเขาแทบจะจินตนาการได้เลยว่าผู้ป่วยต้องเป็นเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินเสียงรถพยาบาลเฉินเซียงก็รู้สึกโล่งใจ เขารู้สึกว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่และในที่สุดก็ไม่ต้องตาย เขายอมรับว่าเขาทำผิดพลาด ถ้าเขาสนใจเพียงเล็กน้อย เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น

แพทย์และพยาบาลที่ผลักรถเปลฉุกเฉินเห็นเฉินเซียง กำหน้าท้องของเขาและหลินฟ่านยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดวงตาของพวกเขาแสดงความผิดหวังออกมาเล็กน้อย

มันไม่ใช่เขา

“ผอ.ฮ่าว คนไข้รายนี้เป็นผู้ป่วยทางจิตคนใหม่หรือเปล่า?” หมอถาม

หากเป็นผู้ป่วยทางจิตพวกเขาต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการป้องกันเมื่อคนไข้ถูกนำขึ้นรถพยาบาลอย่างกะทันหัน หากปล่อยให้พวกเขามีอิสระอาจเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นก็ได้

เฉินเซียงกล่าวว่า "หมอ ผมไม่ได้ป่วยทางจิต โปรดช่วยผมด้วย ผมรู้สึกหนาวไปทั้งตัว"

หมอไม่สนใจเฉินเซียง แต่มองไปที่ผอ.ฮ่าว ที่นี่มีเพียงผอ.เท่านั้นที่บอกว่าใช่หรือไม่ใช่

ผอ.ฮ่าว ไม่ตอบแต่พยักหน้าเบา ๆ

หมอดูเคร่งขรึมสั่งการให้ลูกน้องของเขาจัดการเฉินเซียงด้วยความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ผู้ป่วยทางจิตจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบ้า

ทฤษฎีนี้ถูกต้อง

ในตอนที่ทุกคนกำลังสนใจกับการปฐมพยาบาลเฉินเซียง หลินฟ่านก็จับจ้องไปที่เตาแก๊สพร้อมกับชี้ให้เหล่าจางลงมือให้เร็วที่สุด

เหล่าจางเข้าใจความหมายของหลินฟ่าน เขารีบยัดเตาแก๊สขนาดเล็กเข้าไปในอกเสื้อพร้อมกับหันหลังเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าหน้าอกของเหล่าจางจะโปนแต่ด้วยความละมุนของเหตุการณ์ทำให้ไม่มีใครสังเกตุเขา

"ผมอยากนอนแล้วๆ" หลินฟ่านกล่าวและเดินออกไปข้างนอก

ผอ.ฮ่าวกล่าวตามหลังว่า "หลินฟ่านคุณอย่ารู้สึกไม่ดีเลยนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ พวกเราทุกคนเข้าใจ"

"อืม ผมรู้" หลินฟ่านพูดจบก็เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานั้นหมอและพยาบาลของโรงพยาบาลจิตเวชก็มองผอ.ฮ่าวด้วยความชื่นชมและเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีกครั้ง

พวกเขาเชื่อว่าตราบใดที่ผอ.ฮ่าวอยู่ที่นี่ เรื่องทุกอย่างจะถูกจัดการอย่างง่ายดาย

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาแล้วกระซิบเบาๆว่า

"ผอ.เด็กหนุ่มคนนั้นคือนักทฤษฎีสามัญสำนึกที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้หรือเปล่า"

“ผมไม่มีความหมายอื่นใด แต่จากประสบการณ์หลายปีของผม ผมรู้สึกว่าสภาพจิตใจของเขาอาจมีปัญหาเล็กน้อย ผมต้องทดสอบเขาก่อนที่เขาจะสร้างปัญหาให้เรามากกว่านี้?”

ผอ.ฮ่าวตบไหล่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและกล่าวว่า

"วิสัยทัศน์ของคุณดีเสมอมา"

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกล่าวอย่างนอบน้อม

"ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผอ.สอนผมมาดี"

ผอ.ฮ่าว พยักหน้าอย่างพึงพอใจ คำพูดก่อนหน้านี้ของเขาก็เพียงเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาเช่นนี้อยู่แล้ว

ในตอนกลับมาที่ห้องทำงานผอ.ฮ่าวก็กดโทรศัพท์โทรออกอย่างรวดเร็ว

เขาโทรหาอาจารย์ใหญ่เฉินเซียงและต้องการคุยกับฝ่ายตรงข้ามเป็นการส่วนตัว

“ผอ.ฮ่าวสบายดีไหม เฉินเซียงเป็นยังไงบ้าง ผมพูดได้เลยว่าเขาเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยสอน แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก แต่ความรู้เชิงทฤษฎีของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก

ผมรู้สึกว่าวิทยาลัยของเราสามารถร่วมมือกับโรงพยาบาลชิงซานเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ของผมได้ช่วยเหลือคนไข้เหล่านั้นอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการตกงานอีกด้วย"

อาจารย์ใหญ่ฉินกำลังวาดฝันอย่างสวยงาม

สาขาวิชาทฤษฎีสามัญสำนึกคือหลักสูตรที่เขาคิดค้นขึ้นเอง และถือได้ว่าเป็นหลักสูตรเพิ่มเติมในวิทยาลัย ในอนาคตหากนักเรียนคนใดสามารถมีชื่อเสียงระดับนานาชาติได้ ผู้ก่อตั้งก็จะมีชื่อเสียงเช่นกัน

ผอ.ฮ่าวกล่าวว่า “พี่ฉินผมต้องขอโทษพี่ด้วยแต่ลูกศิษย์คนโปรดของพี่ทำให้ตัวเองต้องไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว เรื่องนี้อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณ ไม่ว่าคุณทำอะไรอยู่ขอให้คุณถอนตัวทันทีก่อนที่มันจะสายเกินไป”

"คุณหมายถึงอะไร?"

“คุณพอจะมีเวลาว่างไหมผมอยากคุยกับคุณที่โรงพยาบาลชิงซานของผม”

“ขอบคุณสำหรับคำเชิญ ผมจะไปแน่นอนถ้ามีโอกาส แต่คุณยังไม่ได้บอกเลยว่ามีอะไรเกิดขึ้น”

ผอ.ฮ่าวไม่คิดจะพูดอะไรต่อและกดตัดสายทันที มีความรู้สึกว่ารุ่นพี่ของเขาอาจจะมีความจำเป็นในการรักษาอย่างเร่งด่วน

………….

ภายในรถพยาบาล.

“หมอครับ ผมก็เป็นหมอเหมือนกัน แต่ผมสอนวิชาทฤษฎีสามัญสำนึก อย่ามองว่าผมได้รับบาดเจ็บ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ เท่านั้น”

เฉินเซียงสื่อสารกับแพทย์ ตอนนี้เขาถูกมัดแขนมัดขาอย่างแน่นหนามันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

“ผมเชื่อคุณ” หมอบอก

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร หมอก็เต็มใจที่จะเชื่อใจผู้ป่วยทางจิต ผอ.ฮ่าวเคยติวเข้มกับพวกเขาในเรื่องนี้ไว้แล้วดังนั้นพวกเขาจะไม่มีทางละเลยอย่างเด็ดขาด

“หมอ ทำไมผมถึงรู้สึกหนาวๆ หรือว่ามีดมันแทงเข้าไปในลำไส้ใหญ่ของผม” เฉินเซียงถาม

"คุณจะไม่เป็นไร" คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้ม

โดยปกติแล้วหมอของประเทศจีนมักจะมีนิสัยเย็นชาและไม่ให้เกียรติคนไข้เท่าไหร่ แต่มันต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อพวกเขาพบกับผู้ป่วยจิตเวช

เฉินเซียงเริ่มเกิดความรู้สึกแปลกๆจากรอยยิ้มที่เป็นมิตรของหมอและพยาบาลในรถ

“หมอครับ ทำไมผมรู้สึกว่าพวกคุณทำเหมือนผมเป็นผู้ป่วยจิตเวช”

เขาได้รับการศึกษาเรื่องจิตเวชมาอย่างลึกซึ้ง มันทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าหมอและพยาบาลพวกนี้กำลังมองว่าเขาเป็นผู้ป่วยทางจิต

หมอและพยาบาลทุกคนมองไปที่เฉินเซียง ความหมายในดวงตาของพวกเขาดูชัดเจนมาก คุณเป็นคนป่วยทางจิตไม่ใช่หรือ?

แน่นอน.

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่จิตแพทย์ของชิงซาน แต่พวกเขาก็มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาหลายสิบปีแล้ว เรื่องพื้นฐานแบบนี้อย่างน้อยๆพวกเขาก็ต้องเรียนรู้มาบ้าง

“ฮ่าฮ่า เป็นไปได้ยังไง คุณจะเป็นคนไข้จิตเวชได้อย่างไร คุณไม่ต้องห่วงอีกเดี๋ยวเราจะไปถึงโรงพยาบาลแล้ว วางใจได้เลยว่าหมอในโรงพยาบาลของเราทุกคนจะช่วยเหลือคุณจนสุดความสามารถ” หมอคนนั้นพยายามปลอบใจ

เฉินเซียงรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่าอีกฝ่ายมองว่าเขาเป็นโรคจิต

“ผมไม่ได้โรคจิตสักหน่อย” เขาต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่ผู้ป่วย

"พวกเรารู้." หมอและพยาบาลพยักหน้าพร้อมกัน

"คุณไม่รู้อะไรเลยต่างหาก" เฉินเซียงกล่าว

“ใช่ เราไม่รู้ เราไม่รู้อะไรเลย” คุณหมอพยักหน้าอย่างหนักแน่น

เขารู้สึกว่าผู้ป่วยรายนี้ค่อนข้างจะรับมือยาก ถ้าเป็นหลินฟ่านและเหล่าจาง พวกเขามักจะนอนนิ่งอยู่ตรงนั้นและมองมาที่คุณด้วยรอยยิ้มหลังจากที่พวกเขายอมรับว่าคุณไม่ได้ป่วยทางจิต

แต่ตอนนี้ผู้ป่วยรายนี้ค่อนข้างรับมือได้ลำบากเห็นได้ชัดว่าอาการของเขารุนแรงกว่าหลินฟ่านมาก

เฮ้อ!

แน่นอนว่ายังคงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างผู้ป่วยทางจิตและผู้ป่วยธรรมดา เช่นเดียวกับการเปรียบเทียบระหว่างเด็กที่เชื่อฟังกับเด็กที่ไม่เชื่อฟัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด