498 - ผู้อมตะที่แท้จริงของเก้าสวรรค์สิบพิภพ

1809 - ผู้อมตะที่แท้จริงของเก้าสวรรค์สิบพิภพ

ในความเป็นจริงชายวัยกลางคนได้เปิดใช้งานอาวุธขั้นเซียนทำให้มันฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่

วังทองแดงปะทุด้วยแสงเซียนที่ไม่มีที่สิ้นสุดโดยต้องการปราบปรามและสังหารสือฮ่าว

โชคดีที่สือฮ่าวมีกระบี่เซียน วัตถุโบราณชิ้นนี้แข็งแกร่งมากสามารถต้านทานอาวุธขั้นเซียนทุกประเภทได้ นั่นคือเหตุผลที่สือฮ่าวพกกระบี่เล่มนี้ไปทุกที่

ฮ่อง!

กระบี่เซียนขยายใหญ่ขึ้นหลายหมื่นจ้าง มันทอดตัวราวกับขุนเขาขนาดยักษ์อยู่บนท้องฟ้า

แดง!

ประกายไฟปลิวไปทุกทิศทาง กระบี่ขนาดยักษ์ส่องประกายกระทบกับวังทองแดงทำให้มันสั่นสะเทือนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและดังกึกก้องแทบจะทำให้สวรรค์ถล่มลงมา

สนิมทองแดงสีเขียวปลิวไปทุกทิศทาง ในชั่วพริบตานั้นแสงเซียนก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง

ปู!

ชายวัยกลางคนคนนั้นกระอักเลือดออกมาไม่หยุด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกโจมตี แต่พลังของกระบี่เซียนนั้นรุนแรงเกินไปทำให้เขาบาดเจ็บโดยตรง

สือฮ่าวหรี่ตาจ้องไปที่วังทองแดงและตรวจสอบมัน เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียนนี้ถูกปิดผนึกไว้ไม่แสดงพลังเต๋าอมตะที่ควรจะมี

สิ่งนี้ทำให้เขาหวั่นไหวในขณะเดียวกันก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้สือฮ่าวจ้องไปข้างหน้าดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยแสงเย็น หากพลังเต๋าอมตะถูกระงับจริงๆเขาจะทุ่มเทพลังทุกอย่างเพื่อสังหารสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในวังทองแดงนั้น

หากวังทองแดงมีเซียนอมตะที่แท้จริงสิงสถิตอยู่สือฮ่าวจะสั่งหารเขาอย่างแน่นอน! เป็นเพราะเขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อนิกายนี้เลยแม้แต่น้อย

ในระหว่างการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างพวกเขาไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย แต่ตอนนี้พวกเขากล้าจะลอบสังหารเขา

ฮ่อง!

ด้านหลังสือฮ่าวมีปีกสีทองคู่หนึ่งปรากฏขึ้นปีก มันคือปีกของคุนเผิง อีกทั้งเขายังปลดปล่อยสระสายฟ้าที่อยู่ในหว่างคิ้วออกมาเพื่อให้มันแสดงพลังสายฟ้าปกคลุมร่างกายของเขาไว้

ต้นหลิวขนาดใหญ่สีทองก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา! ในช่วงเวลานั้นสือฮ่าวได้ยกระดับตัวเองขึ้นสู่สถานะที่ทรงพลังที่สุดจากนั้นก็เข่นฆ่าออกไปโดยตรง

เนื่องจากพวกเขาทั้งสองฝ่ายฉีกหน้าลงมือกันแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเก็บรั้งด้วยความมีมารยาทไว้อีกต่อไป?

เขาจะฆ่าพวกมันโดยตรงใครจะสนว่าคนๆนี้เป็นใคร ใครจะสนล่ะว่าตำหนักเซียนนั้นทรงพลังหรือไม่? ในเมื่อพวกมันกล้าเป็นศัตรูกับเขาพวกมันจะต้องตาย

หลังจากปลดปล่อยศักยภาพของร่างกายทั้งหมด สือฮ่าวก็เข้าสู่สถานะที่ทรงพลังที่สุดของเขา

ด้วยกระบี่เซียนในมือเขาขยับปีกที่น่ากลัวของเขาซึ่งมันถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าพร้อมกับรอยประทับเวลา ทั้งยังได้รับการสนับสนุนด้วยกิ่งหลิวสีทอง

เขาพุ่งเข้าไปในวังทองแดงโดยต้องการพิสูจน์ความเป็นชายกับอีกฝ่ายในครั้งเดียว

“บังอาจ!”

ชายวัยกลางคนตกใจกลัว คนผู้นี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ? เขาพยายามทำอะไร?!

ไม่ว่าศัตรูต้องการจะทำอะไรเขาก็ต้องต่อต้านมันโดยธรรมชาติ!

ฮ่อง!

ทั้งสองปะทะกันรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

ในความเป็นจริงเป้าหมายของสือฮ่าวที่มุ่งหน้าเข้าหาวังทองแดงก็เป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือสังหารชายวัยกลางคน

จากนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบวังทองแดงดูว่ามีผู้อมตะที่หลับใหลอยู่ข้างในหรือไม่ ถ้ามีเขาก็จะสังหารคนผู้นั้นโดยตรงและจะไม่ให้โอกาสเขาตื่นขึ้นมา!

หากความสงสัยของเขาถูกต้องนี่เป็นโอกาสที่หายากมาก

เปง!

แม้ว่าชายวัยกลางคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง แต่เมื่อต่อสู้ในระดับเดียวกันเขาก็ไม่สามารถเทียบได้กับสือฮ่าวเลย หมัดสายฟ้ากระแทกเข้าใส่ร่างกายของเขานับสิบครั้งจนกระเด็นกลับหลัง

แม้ว่าชายวัยกลางคนจะปลดปล่อยพลังลึกลับของวังทองแดง แต่ด้วยความสามารถของเขานั้นไม่เพียงพอ ทำให้เขาไม่อาจใช้พลังของมันได้อย่างสูงสุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วเขาจึงไม่อาจทำอะไรได้มากนัก แม้ว่าในเบื้องต้นเขาจะรักษาอาการบาดเจ็บไปได้พอสมควรก็ตาม

กา!

ภายใต้เศษเสี้ยวเวลาอายุของเขาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ฮ่อง!

การโจมตีครั้งสุดท้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกคุนเผิงขนาดยักษ์ที่อยู่เบื้องหลังสือฮ่าว มันครอบคลุมทุกสิ่งเช่นเดียวกับใบมีดขนาดยักษ์สองอันทำให้ร่างกายของเขาถูกตัดแยกออกเป็นสี่ชิ้น

เลือดสีแดงฉีดกระจายไปทุกที่ ชายวัยกลางคนของตำหนักเซียนกรีดร้องอย่างน่าสังเวชด้วยความเจ็บปวดโดยที่ไม่อาจป้องกันตัวเองได้

ไม่แม้แต่วังทองแดงที่เขานำมาก็ไม่อาจช่วยชีวิตเขา ต้องเข้าใจว่านี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่เซียนของสือฮ่าวมันก็ไม่อาจทำอะไรได้

ปู!

กระบี่เล่มยักษ์ของสือฮ่าวตกลงมาจากท้องฟ้า ชายวัยกลางคนกลายเป็นสายฝนโลหิตหายไปจากสถานที่แห่งนี้

แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้รับใช้และไม่ใช่ผู้มีอำนาจสูงสุดที่แท้จริง แต่เขาก็ยังเป็นคนจากตำหนักเซียน ชีวิตของเขาจึงมีค่าไม่น้อยเขาจึงพกของวิเศษบางอย่างซึ่งสามารถช่วยชีวิตเขาได้ แม้เขาจะไม่อาจหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บสาหัสก็ตาม

สำหรับวังทองแดงเขาไม่สามารถนำมันกลับไปได้

เจิ้งเจิ้งเจิ้ง…

รัศมีดาบสั่นสะเทือนสวรรค์ สิ่งเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาโดยต้นหลิวสีทองด้านหลังสือฮ่าว กิ่งก้านของต้นหลิวกลายเป็นเส้นตรงอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนคมกระบี่ ทุกเส้นพยายามเจาะเข้าไปในทางเข้าวังโบราณที่เปื้อนสนิมทองแดงสีเขียว

ต๋อง!

พลังแห่งความโกลาหลถูกปลดปล่อยออกมา วังทองแดงสั่นสะเทือนสนิมทองแดงสีเขียวหลุดออกเป็นชิ้นๆ มันปลดปล่อยแสงหมอกริบหรี่ด้วยพลังกฎแห่งเต๋าที่น่าสะพรึงกลัว

สือฮ่าวตกตะลึงอยู่ข้างในและรีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้นยังยกกระบี่เซียนในมือขึ้นมาขวางหน้า

แย่แล้ว!

สือฮ่าวรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอย่างมาก สิ่งที่เรียกว่าอาณาจักรวิญญาณไม่สามารถระงับพลังเซียนอมตะได้เลย ตอนนี้มีพลังที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากภายในวังทองแดง

สิ่งนี้เกินขีดจำกัดของสิ่งที่เขาสามารถทนได้ นี่คือพลังของผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ?

ในเวลาเดียวกันวังทองแดงก็สุกใสสนิมทองแดงสีเขียวดูเหมือนจะหายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงกฎแห่งเต๋าเท่านั้นที่หลอมรวมกันพร้อมที่จะบดขยี้ทุกสิ่ง

ทางเข้าวังทองแดงไม่มืดมนอีกต่อไปเพราะสนิมกระจัดกระจายออกไปหมดแล้ว ตอนนี้มันส่องสว่างด้วยแสงสีทองของพลังเซียน

เราสามารถเห็นเปลวไฟที่ลุกขึ้นจากภายในพระราชวังโบราณ ความผันผวนที่น่าตื่นตาตื่นใจของมัน ทำให้สือฮ่าวใบหน้าซีดเผือดร่างกายเย็นเฉียบ

“เจ้าหนูเจ้าหยิ่งผยองเกินไป เจ้าคิดว่าตำหนักเซียนเป็นสถานที่แบบไหน? เจ้ากล้าที่จะโจมตีข้าด้วยหรือ?”

เสียงอันโอ่อ่าดังขึ้นมันเต็มไปด้วยคลื่นแห่งความเย็นชา ไอสังหารที่ถูกปลดปล่อยออกมาแทบจะทำให้สวรรค์เบื้องบนพังทลาย

สือฮ่าวตกใจมาก นี่คือพลังแห่งเซียนอมตะที่แท้จริงหรือว่ามันเป็นวิญญาณของวังทองแดงกันแน่?

มันยากสำหรับเขาที่จะบอก

"เจ้าเป็นใคร?" สือฮ่าวถาม

“ผู้อมตะที่แท้จริงที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในโลกนี้” เสียงนั้นเยือกเย็นมากและโหดเหี้ยม เขากล่าวออกมาอย่างใจเย็น

สือฮ่าวถอนหายใจ ตอนนี้สิ่งต่างๆกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่เลวร้าย เขาควรจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างไร?

ผู้อมตะที่แท้จริงนอนหลับไหลอยู่ในวังทองแดงแห่งนี้จริงๆหรือ?

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งของผู้อมตะที่แท้จริงนั้นเกินกว่ากฎข้อบังคับของอาณาจักรวิญญาณ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะ กำจัดคนผู้นี้ ไม่มีทางที่จะเขาจะต่อต้านได้