ตอนที่แล้ว482- คำเตือนของบรรพบุรุษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป484 - มุ่งหน้าสู่เกาะอสูรอีกครั้ง

483- พบกันอีกครั้ง


1794 - พบกันอีกครั้ง

เขายังคงหวนนึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์ เมื่อเขาสูญเสียกระดูกสูงสุดไปเด็กสาวก็ยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอและดูแลเขาเป็นอย่างดี

หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ฉลาดและเฉลียวคนนั้นเขาอาจจะเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว

ที่ผ่านมาสือฮ่าวช่างน่าสมเพชจริงๆ พลังโลหิตทั้งหมดของเขาเหือดแห้งแม้กระทั่งจิตใจที่เสื่อมถอยความจำทุกอย่างถูกลืมจนหมดสิ้น

ในขณะเดียวกันเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นมักจะร้องไห้ย้ำกับเขาเสมอว่าเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เขาต้องจำได้ว่าเขาเป็นใครเขาไม่สามารถลืมได้เลยว่านางก็คืออาหมัน

ต่อมาสือฮ่าวถูกส่งไปที่หมู่บ้านหินผาและเขาก็ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกเลย

“อาหมันมาถึงอาณาจักรที่สูงขึ้นพร้อมกับปู่ของข้า ก่อนหน้านี้ท่านบังคับให้ปู่ของข้าเข้าคุกและยังให้นางอยู่ที่นี่ทำให้นางรู้สึกลำบากใจอย่างยิ่ง!” ใบหน้าของสือฮ่าวเริ่มดุดันขึ้น

“เจ้าควรเข้าใจด้วยว่าในครอบครัวใหญ่ทุกแห่งจะมีคนหลากหลายประเภท แม้ว่าดอกไม้งดงามจะเต็มไปด้วยกลิ่นหอม แต่ก็อาจมีแมลงได้เช่นกัน” เซียนอมตะฉินกล่าว

ยิ่งไปกว่านั้นเซียนอมตะฉินยังบอกสือฮ่าวอีกว่าในตอนนั้นหลังจากที่สือจื่อหลิงปะทุขึ้นด้วยความโกรธเนื่องจากความขัดแย้งของชายสิบห้าและผู้คนจากตระกูลฉิน เซียนอมตะฉินก็ได้ลงมือสังหารผู้คนที่ปลุกปั่นความขัดแย้งจนหมดสิ้นแล้ว

“แล้วอาหมันล่ะ” สือฮ่าวถามอีกครั้งใบหน้าของเขายังคงมืดครึ้ม

ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินปู่ของเขาพูดว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติของอาหมันนั้นยอดเยี่ยมเกินไป ตระกูลฉินจึงรับนางไว้เป็นศิษย์

สือฮ่าวต้องการมาที่นี่เพื่อช่วยอาหมันอยู่ตลอดเวลา สำหรับเขานั่นคือคนที่สำคัญที่สุดในวัยเด็ก

เมื่อเขาสูญเสียกระดูกสูงสุดทุกคนก็ละทิ้งเขา พ่อแม่และปู่ย่าตายายไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา มีเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ใจดีคนนั้นคอยดูแลเขาตลอดเวลา

นางร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะที่นางเตือนเขาว่าเขาเป็นใครเขาไม่สามารถลืมนางได้

“ นางสบายดีพรสวรรค์ตามธรรมชาติของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก ในขณะเดียวกันหลังจากที่ข้าจัดการกับคนที่สร้างปัญหาให้กับปู่ของเจ้านางก็ปลอดภัยมากขึ้น

ต่อมานางได้กลับมาอยู่กับแม่ของเจ้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดปู่ของคุณก็มาเยี่ยมที่นี่และพานางไป” เซียนอมตะฉินกล่าว

ในที่สุดสือฮ่าวก็สงบลง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขากังวลมาโดยตลอดและกลัวว่าอาหมันจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตจากการลงมือของคนตระกูลฉิน

เขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วชีวิตของพ่อแม่ของเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายที่นี่ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงคนนั้นมันยากที่จะบอกได้

“ท่านพ่อท่านแม่!”

หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็ได้พบสือจื่อหลิงและฉินอี้หนิง เขาจึงตะโกนออกมาดังดัง

"ลูกข้า!" ฉินอี้หนิงอุทานด้วยความประหลาดใจ จากนั้นน้ำตาของนางก็ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว

สือจื่อหลิงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกลั้นน้ำตาของเขา เขาเดินเข้าไปกอดลูกชายคนโตอย่างหนักแน่น สาเหตุที่เขากลับมาเพราะเขารู้ว่าลูกชายทั้งสองอาจจะกลับมาหาเขาที่นี่

ความไม่พอใจระหว่างเขาและตระกูลฉินถูกลบออกไปนานแล้วเพราะผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้รับการจัดการโดยเซียนอมตะฉิน

“เด็กน้อยเป็นเจ้าจริงๆ เจ้าจากไปหลายปีแล้ว! ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีก!” ฉินอี้หนิงร้องไห้เสียงดังและกอดสือฮ่าวไว้ในอ้อมแขนของนาง

สิ่งเหล่านี้เป็นอารมณ์ที่ถูกแสดงออกมาจากภายใน นางรู้สึกเหมือนปล่อยสือฮ่าวให้อยู่โดดเดี่ยวมาโดยตลอด พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันมากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉินฮ่าวเป็นคนแรกที่กลับมา พร้อมกับบอกพวกเขาเกี่ยวกับการกระทำและความสำเร็จของพี่ชายในชายแดนรกร้างทำให้นางตกใจและหวาดกลัว

“ลูกข้าเจ้าต่อสู้ในแดนรกร้างมีประสบการณ์กับความขมขื่นมากมายหลังจากนี้เจ้าอย่าได้ไปอีกเลย!” ฉินอี้หนิงร้องไห้ไม่เต็มใจที่จะปล่อยสือฮ่าวกลัวว่าเขาจะหายไปในพริบตา

สือจื่อหลิงทั้งซาบซึ้งและมีความสุขเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วถึงความสำเร็จของสือฮ่าว เขาต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของอีกด้านหนึ่งโดยกวาดล้างศัตรูทั้งหมดชื่อของเขาถูกเล่าขานจนเป็นตำนาน!

ในสายตาของเขาลูกชายคนโตของเขาเดินไปในเส้นทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ในอนาคตเขาจะต้องเป็นตำนานที่ไร้พ่ายอย่างแน่นอน!

พวกเขาร้องไห้และหัวเราะมีเรื่องมากมายที่พวกเขาบอกเล่าแก่กัน นี่จะเป็นค่ำคืนแห่งการรวมตัวที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยความสุข

ฉินห่าวก็มายืนที่ด้านข้าง เขารู้สึกมืดมนอย่างยิ่งเพราะเขาถูกส่งออกจากเมืองจักรพรรดิ์ก่อนเวลา ทำให้เขาพลาดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายไม่สามารถเป็นพยานได้ว่าโลกนี้กำลังสั่นคลอนจากการต่อสู้ครั้งใหญ่

เขาได้รู้แล้วว่าพี่ชายของเขาท้าทายสวรรค์มากแค่ไหนจากเซียนอมตะฉิน สือฮ่าวทายาทรุ่นเยาว์ของตระกูลจักรพรรดิ์ทั้งหมดที่ข้ามมาในฝั่งนี้ นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

แม้ว่าเขาจะมั่นใจมาตลอด เข้าใจว่าในอนาคตเขาจะต้องเหนือกว่าพี่ชายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ฉินฮ่าวทำได้แค่ถอนหายใจ

เขารู้ว่าพี่ชายคนนี้กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครในรุ่นเดียวกันสามารถทัดเทียมได้อีกต่อไป

อย่างน้อยที่สุดผู้ฝึกฝนขอบเขตการปลดปล่อยตนเองที่อายุน้อยขนาดนี้เขาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน นี่คือคนที่จะผงาดขึ้นกลายเป็นผู้อมตะคนแรกในยุคอันยิ่งใหญ่นี้!

ในสองวันนี้สือฮ่าวได้เล่าเรื่องราวมากมายให้พ่อกับแม่ของเขาฟัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชายแดนรกร้าง รวมไปถึงประสบการณ์ที่เขาต้องพบเจอตั้งแต่ขึ้นไปอาณาจักรที่สูงกว่า

ในระหว่างขั้นตอนนี้ฉินอี้หนิงบางครั้งก็มีความสุขและตื่นเต้นนางถอนหายใจด้วยความชื่นชมต่อความก้าวหน้าที่น่าตกใจของลูกของนาง

ในบางครั้งเรื่องราวของสือฮ่าวก็ทำให้น้ำตาของนางไหลออกมาด้วยความเศร้าโศก เพราะเส้นทางของสือฮ่าวนั้นยากเกินไป แม้เขาจะมีชื่อเสียงและความแข็งแกร่งแต่สิ่งที่เขาต้องแลกนั้นก็เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน

“ท่านพ่อท่านแม่ เมื่อท่านปู่มาที่นี่ท่านพาอาหมันไปที่ไหน”

สือฮ่าวหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเขาอยู่ที่นี่มาสองวันแล้วตอนนี้จึงต้องออกไปตามหาสองคนนั้น เขาไม่สามารถผ่อนคลายได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อเขาพูดถึงประเด็นนี้ใบหน้าของพ่อแม่ของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

"มันคืออะไร? เกิดอะไรขึ้น?" สือฮ่าวขมวดคิ้วหัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความรู้สึกไม่ดี

“ เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ปู่ของเจ้าได้ไปที่เกาะอสูรและได้รับโลหิตของราชาปีศาจ เมื่อเร็วๆนี้มีสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา

ดังนั้นอาหมันจึงแอบเดินทางไปยังเกาะอสูรเพื่อต้องการหาทางแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น ในท้ายที่สุดพวกเขาก็กระตุ้นสิ่งแปลกๆที่อยู่ในเกาะแห่งนั้น ทำให้ทั้งสองคนติดอยู่ในเกาะไม่สามารถออกมาได้”

"อะไร?" สือฮ่าวตกใจไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เขาต้องรีบไปช่วยเหลือทั้งสองคน

เขาเข้าใจชัดเจนกว่าใครๆว่าส่วนลึกสุดของเกาะอสูรนั้นน่ากลัวเพียงใด

ย้อนกลับไปตอนนั้นแม้แต่เขาก็ยังถูกสาปจนเกือบจะเสียชีวิต

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในส่วนลึกของเกาะอสูรมีหลุมฝังศพขนาดใหญ่ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของราชาปีศาจหรือเป็นของผู้อมตะคนไหน มันแปลกประหลาดเกินไป!

สือจื่อหลิงถอนหายใจ ก่อนหน้านี้เขากังวลอย่างหาที่เปรียบมิได้จึงรีบไปที่นั่น เป็นผลให้เขาและฉินอี้หนิงเกือบตายจากคำสาปในที่สุดต้องให้เซียนอมตะฉินดำเนินการเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเป็นการส่วนตัว

“ข้าจะไปเกาะอสูร!” สือฮ่าวกล่าว

“ก็จะไปช่วยท่านปู่ด้วย!” ฉินฮ่าวกล่าว หลังจากเขากลับมาเขาก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้เขาต้องการที่จะออกไปพร้อมกันกับสือฮ่าว

สือฮ่าวส่ายหัวโดยไม่ต้องการให้เขาตกอยู่ในอันตราย เป็นเพราะสถานที่นั้นแปลกเกินไปมีบางสิ่งผิดปกติ

ในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้ก่อนที่เมิ่งเทียนเจิ้งจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ

มีบุคคลสามคนที่ใกล้จะบรรลุความเป็นอมตะหรืออาจกล่าวได้ว่าพวกเขาทุกคนบรรลุความเป็นอมตะไปแล้ว แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจมีชีวิตรอดสืบไป พวกเขาคือเย่เฉียนหยู ม่ออู๋เต้าและราชาปีศาจ!

ครั้งนี้สือฮ่าวต้องการไปที่ด้านล่างของสถานที่แห่งนั้น

ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นเขารู้ว่าเขาสามารถมุ่งหน้าไปที่นั่นและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

ฉินฮ่าวรู้สึกค่อนข้างกระวนกระวายและยืนยันที่จะไปให้ได้ เขาเคยทำตัวเดื้อรั้นจนเป็นเหตุให้ท่านปูได้รับความเดือดร้อนตอนนี้เขาต้องการชดเชยในสิ่งที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามสือฮ่าวยังคงส่ายหัวปฏิเสธไม่ปล่อยเขาไปด้วยเพราะสถานที่นั้นอันตรายเกินไปพวกเขาพี่น้องมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถไปได้

คำพูดของเขาชัดเจนว่าคนที่อยู่ต้องคอยดูแลพ่อแม่ ถ้าฉินฮ่าวไปเขาก็จะอยู่ที่นี่ ฉินฮ่าวก้มศีรษะลงเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ สือจื่อหลิงและฉินอี้หนิงต่างก็รู้สึกประหม่ากลัวว่าจะมีอะไรอันตรายเกิดขึ้นกับสือฮ่าว

สำหรับลูกชายคนโตพวกเขารู้สึกละอายใจเสมอ เมื่อทั้งสองคนเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยพวกเขาก็มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาภาวนาอยู่ตลอดเพี้ยงขอให้ลูกของพวกเขาปลอดภัยเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด