ตอนที่แล้ว427- การต่อสู้ของอัจฉริยะที่แปรปรวนสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป429- การปรากฏตัวของอัศวินแห่งความตาย

428- ทองคำที่แท้จริงต้องไม่กลัวไฟ


1739 - ทองคำที่แท้จริงต้องไม่กลัวไฟ

การมาถึงของคนเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คนของอีกฝ่ายจริงจัง แต่กลับทำให้ดวงตาของผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์บางคนเปล่งประกายเหมือนหมาป่าหิวโหยที่มองเห็นเหยื่ออันโอชะ

พวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นกำลังจะทำการสังหารครั้งใหญ่!

ยิ่งมีผู้คนออกมาจากเมืองจักรพรรดิ์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้การแสดงออกของคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งดูสดใสมากขึ้น

เป็นเพราะถ้าพวกเขากำจัดคนพวกนี้ในการต่อสู้เก้าสวรรค์จะถูกบังคับให้ลงสู่เส้นทางแห่งการทำลายล้าง

“ฆ่าผู้สูงสุดก่อนค่อยฆ่าพวกตัวเล็กตัวน้อย!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูด ในสายตาของเขาคนรุ่นหลังไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย

ตราบใดที่พวกเขาสังหารเมิ่งเทียนเจิ้งและคนอื่นๆสถานการณ์ใหญ่จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าจะพูดออกมาเช่นนี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะทำโดยประมาทเพราะทั้งสองฝ่ายมีอาวุธเซียนเช่นเดียวกัน ในการต่อสู้ครั้งนี้หากฝ่ายใดได้รับชัยชนะก็จะเป็นชัยชนะที่ข่มขืนอย่างแน่นอน!

นั่นคือพลังที่น่าตกใจ!

“ข้าคิดว่าเราควรเริ่มจากปลาตัวเล็กๆ พวกเราปรารถนาที่จะลงมือสังหารเหล่าอัจฉริยะที่แปรปรวนสวรรค์ของเก้าสวรรค์ทั้งหมด!” อัจฉริยะหนุ่มจากต่างมิติคนหนึ่งกล่าวด้วยความหยิ่งผยอง

ผมยาวของเขากระจัดกระจายไปข้างหลังดวงตาปลดปล่อยสายฟ้าเย็นยะเยือกเขามาจากหนึ่งในตระกูลจักรพรรดิ

เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรปลดปล่อยตนเอง เขามาที่นี่เพื่อจัดการกับสือฮ่าวโดยเฉพาะ!

แม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่ยอดเยี่ยม แต่ใบหน้าของเขาก็ยังดูเด็กอยู่

“ทำไมต้องทำเรื่องทุกอย่างให้ยุ่งยากข้าจะสังหารผู้คนจากเก้าสวรรค์ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวเอง แค่มองพวกมันเพียงชั่วคู่ข้าก็รู้สึกรำคาญตาแล้ว!” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวด้วยความหยิ่งผยอง

สิ่งมีชีวิตสูงสุดไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้พวกเขามีพฤติกรรมโอ้อวดต่อไป

ผู้ฝึกฝนของเมืองจักรพรรดิ์จ้องมองด้วยความโกรธ ผู้คนจากอีกฝั่งหยิ่งเกินไปและดูถูกพวกเขาอย่างสมบูรณ์

เมิ่งเทียนเจิ้งถอนหายใจ แม้ว่าจะมีคนเดินออกจากเมืองจักรพรรดิ์มากมาย แต่ถ้าพวกเขาจะสู้กันจริงๆพวกเขาก็น่าจะได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก

เขาต้องการที่จะหยุดเด็กรุ่นหลังพวกนี้ไม่ให้เผชิญหน้ากับศัตรู

อย่างไรก็ตามมีผู้คนไม่น้อยที่มีความดุร้ายกันอย่างมาก พวกเขายินดีที่จะตายในสนามรบไม่ยินยอมหันหลังให้กับศัตรู พวกเขาคำรามโดยตรงและก้าวออกไป

ถ้าพวกเขากลัวความตายพวกเขาก็คงไม่ได้เดินออกจากเมืองจักรพรรดิตั้งแต่แรก บรรดาผู้ที่กล้าออกมาพวกเขาเพิกเฉยต่อชีวิตและความตายมานานแล้ว

ใบหน้าของเมิ่งเทียนเจิ้งนั้นบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงและต้องการให้ผู้คนเหล่านั้นกลับไปที่เมืองจักรพรรดิ

“ข้าแค่อยากจะต่อสู้พิสูจน์ว่าความกล้าหาญของข้ายังคงมีอยู่ แม้ว่าข้าจะเทียบกับฝ่ายตรงข้ามไม่ได้แต่ข้าก็ไม่ยอมแพ้! ทหารของเมืองจักรพรรดิจะไม่ยอมจำนนเราจะต่อสู้จนถึงที่สุด!”

นักรบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งกล่าวด้วยความกล้าหาญก่อนจะเดินมุ่งหน้าเข้าหาศัตรู

คนข้างหลังอ้าปากค้างอยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหยุดเขา แต่สุดท้ายทุกคนก็เงียบลง

หลายคนรู้ว่าเขาทำสิ่งนี้เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น แม้ว่าเขาจะตายเขาก็จะไม่ยอมแพ้โดยพูดแทนคนที่อ่อนแอและลังเลในเมืองจักรพรรดิ์

เขาใช้เลือดของตัวเองเพื่อทำให้ผู้ที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิ์ที่ลังเลและประหม่าลุกขึ้นสู้ เพราะพวกเขาไม่เหลือทางให้ถอยอีกต่อไปแล้ว

มีบางคนที่คิดว่าเขาโง่เขลา แต่ก็มีหลายคนที่มีการแสดงออกที่ซับซ้อนและหวั่นไหวในใจ มีผู้ฝึกฝนหลายคนที่ดวงตาเปล่งประกายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาถูกปลุกขึ้นมาแล้ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้ทำให้ผู้คนมากมายในเมืองจักรพรรดิ์ไม่มีความลังเลต่อไป!

“เฮ้ฮ่าฮ่า…” ในอีกด้านหนึ่งทุกคนคำรามด้วยเสียงหัวเราะ พวกเขาแสดงออกถึงการดูถูกเหยียดหยามถ้อยคำเย้ยหยันพรั่งพรูออกมา

“น่าหัวเราะจริงๆ เจ้าเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งอย่างนั้นหรือ? ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็จะสนองให้อย่างสาสม เพียงห้าหมัดข้าจะสังหารเจ้าด้วยห้าหมัดเท่านั้น!”

หลายคนในเมืองจักรพรรดิรู้สึกโกรธเกรี้ยว แม้แต่ผู้คนที่ไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้ในตอนแรกก็เช่นกัน

“เข้ามาเถอะ หากเจ้าต้องการเข้าสู่เมืองจักรพรรดิเจ้าต้องข้ามกระดูกข้าไปก่อน ในขณะเดียวกันคนที่กล้าหาญอย่างเรามีจำนวนเป็นพันล้านทุกก้าวที่เจ้าก้าวเข้ามาพวกเจ้าจะต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส!” ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นกล่าวอย่างใจเย็น

เขามาสู้กับโดยตั้งใจที่จะตายตั้งแต่แรก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นหวั่นไหวได้!

"ฆ่า!"

ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ดำเนินการโดยจุดประกายศักยภาพในชีวิตของเขาทันที เขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ระเบิดด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สุกใสเข่นฆ่าออกไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก ชายวัยกลางคนคนนั้นแม้ว่าเขาจะดูไม่แก่ชราแม้แต่น้อย

แต่เขาก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองคนหนึ่ง

มิฉะนั้นเขาจะติดตามผู้สูงสุดมาที่นี่ได้อย่างไรความแข็งแกร่งของเขาแทบจะไม่มีให้เห็นในระดับอาณาจักรปลดปล่อยตนเองอีกแล้ว!

หมัดและฝ่ามือชนกันเสียงดังกึกก้องราวฟ้าผ่า ร่างมนุษย์ที่บินไปมาปะทะกันอย่างรุนแรงดังก้องไปทั่วทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ในเวลาเดียวกันก็มาพร้อมกับความเปล่งประกายของโลหิต

ในระหว่างการต่อสู้ขั้นแตกหักผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิ์ไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่ชัด

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานแขนของเขาก็ถูกตัดออกจากร่าง นอกเหนือจากนั้นเพียงแค่การแลกหมัดครั้งแรกเขาก็กระอักเลือดออกมาได้รับบาดเจ็บสาหัส

เปง!

ความสดใสกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า

ในท้ายที่สุดเมื่อหมัดของชายวัยกลางคนของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงมันก็ระเบิดผ่านแสงป้องกันของผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น หมัดผ่านร่างของเขาทำให้ชีวิตของเขาสิ้นสุดลง

ปู!

โลหิตสาดกระจายไปทั่วสนามรบ ร่างของเขาถูกฉีกออกจากกันเป็นชิ้น

การเคลื่อนไหวของผู้เชี่ยวชาญจากต่างมิติรวดเร็วเหมือนสายฟ้าเขาตัดหัวผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิออกจากร่างก่อนที่จะบดขยี้วิญญาณดั้งเดิมของเขาให้ดับสูญ

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าคนอย่างเจ้าเข้ามาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเอาชีวิตตัวเองมาทิ้ง เศษสวะอย่างเจ้าไม่แตกต่างจากสุนัขและไก่ในสายตาของข้า!”

ชายวัยกลางคนต่างมิติคำรามด้วยเสียงหัวเราะขณะที่เขาหิ้วศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่จากเมืองจักรพรรดิ์

เขาฉีกยิ้มเผยให้เห็นฟันขาวเรากับหยก มันเป็นรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมเต็มไปด้วยความอำมหิตอย่างยิ่ง

ระหว่างขั้นตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น

อา..!

บนกำแพงเมืองจักรพรรดิผู้คนนับไม่ถ้วนกรีดร้องออกมา คลื่นแห่งความโกรธแค้นลุกโชนอยู่ภายในใจของพวกเขา โลหิตของพวกเขาเดือดพล่านคล้ายกับจะระเบิดออก

“ข้าจะไปเองไม่ว่าจะอย่างไรต้องสังหารฆาตกรคนนั้น!”

“แม้ว่าเราจะเทียบกับพวกมันไม่ได้ แต่เราก็ต้องต่อสู้อย่างเลือดเย็นจนถึงที่สุด!”

ดวงตาของทุกคนกลายเป็นสีแดงคำรามออกมาด้วยความโกรธ

เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้พูดอะไรเขายังคงนิ่งเงียบอยู่ เขารู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นต้องการใช้ความตายของเขาเพื่อจุดชนวนความกล้าหาญของผู้คนที่ยังลังเลแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขาด้วยวิธีนี้

“เฮ้สิ่งมีชีวิตของเมืองจักรพรรดิ์อ่อนแอเกินไปการฆ่าแบบนี้ไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกถึงความสำเร็จเลย” ชายวัยกลางคนคนนั้นหัวเราะเยาะโดยไม่สนใจความโกรธของทุกคน

“เจ้าพูดพอแล้วหรือยัง? มาเถอะการลงมือของข้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็เพียงพอที่จะสังหารเจ้านับสิบคน!” สือฮ่าวพูด

แม้ว่าเขาจะดูสงบมากที่ภายนอก แต่ตอนนี้จิตใจของเขาพลุ่งพล่านยิ่งกว่าในระหว่างการต่อสู้กับอันหลานซะอีก

“ฮวงเจ้าเป็นของข้า!” ในอีกด้านหนึ่งเด็กหนุ่มสายเลือดจักรพรรดิกล่าวขึ้นมา เขาคือทายาทของตระกูลจักรพรรดิที่อยู่ในอาณาจักรแยกตนเองขั้นสูงสุด เขามาที่นี่เพื่อจะสังหารสือฮ่าวโดยเฉพาะ

สือฮ่าวไม่ได้ให้ความสนใจเขา สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้นและกล่าวว่า

“ถ้าเจ้ากลัวตายก็อย่ามาแสดงตัวในทะเลทรายแห่งนี้!”

“ทำไมข้าจะไม่กล้าล่ะ? เจ้าก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง? ก่อนหน้านี้ถูกจับเป็นเชลยอยู่ในฝั่งของข้า? วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าเอง!” ชายวัยกลางคนคนนั้นพูดด้วยสีหน้าครึ้มอกครึ้มใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด