ตอนที่แล้วบทที่ 608 น่าปวดหัว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 610 เริ่มปฏิบัติการ

บทที่ 609 ทำบุญเพื่อชดใช้บาป(ตอนฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

บทที่ 609 ทำบุญเพื่อชดใช้บาป

จี้เฟิงพอจะรู้อยู่บ้างเกี่ยวกับความดื้อรั้นของหยางหยู แต่เขาก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้ชายคนนี้จะดื้อรั้นจนน่าหงุดหงิดขนาดนั้น และเป็นความดื้อรั้นที่โง่เขลาในสายตาคนทั่วไปด้วย

เป็นเพราะเขาชื่นชมทักษะของอีกฝ่าย จึงยอมเข้าคุกมากกว่าจัดการกับ WX ซึ่งนี่ทำให้จี้เฟิงทั้งตลกทั้งโกรธ

อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงจำเป็นต้องช่วย เพราะแผนการในอนาคตของเขายังคงต้องพึ่งหยางหยู และจี้เฟิงก็เริ่มรู้สึกสนใจคนที่เขาไม่เคยพบอย่าง WX เช่นกัน ทำให้คนอย่างหยางหยูชื่นชอบและยอมติดคุกได้ขนาดนี้ WX ต้องไม่ธรรมดา อย่างน้อยทักษะของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก

จี้เฟิงเกิดปิ๊งไอเดียบางอย่าง... ถ้าเกิดแผนการของเขาได้ทั้งสองคนนี้มาพร้อมกันเลยล่ะ?!

ดังนั้นจี้เฟิงจึงคิดหาวิธี ว่าพอจะมีวิธีใดบ้างที่สามารถช่วยให้หยางหยูไม่ต้องติดคุกและยังทำให้ WX ที่เขาไม่เคยเจอมาเข้าร่วมแผนการของเขาได้ในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคาดหวังของจี้เฟิงในตอนนี้เท่านั้น เพราะถ้า WX ที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อนมีนิสัยที่แย่มาก จี้เฟิงก็ไม่รังเกียจที่จะส่งอีกฝ่ายเข้าคุกด้วยมือของเขาเอง!

หลังจากที่ออกมาจากห้องสอบสวน จี้เฟิงก็อดคิดไม่ได้ การช่วยเหลือหยางหยูนั้นไม่ยาก ตราบใดที่เขาสามารถจับ WX ได้ ก็ถือว่าหยางหยูได้ชดใช้บาปด้วยการทำบุญ* เขาเชื่อว่าเจิ้งหยวนซานก็ไม่ติดหากจะต้องปิดตาข้างหนึ่ง

แต่ปัญหาในตอนนี้คือ ไม่เพียงแต่จะต้องช่วยหยางหยูออกไปเท่านั้น แต่ยังต้องแน่ใจว่า WX จะไม่เป็นอะไรด้วย ซึ่งเงื่อนไขที่ย้อนแย้งกันนี้ค่อนข้างยาก

จี้เฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้พลางเดินไปที่สำนักงานของศูนย์กักกัน กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าเขาได้มาถึงแล้ว เจิ้งหยวนซานกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานและสูบบุหรี่ ในมือของเขาถือหนังสือพิมพ์อยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะสบายใจมาก

“ลุงเจิ้ง!” จี้เฟิงทักทายด้วยรอยยิ้มและเดินเข้าไป

“เป็นยังไงบ้าง?” เจิ้งหยวนซานถามด้วยรอยยิ้ม

จี้เฟิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ผมล่ะกลัวผู้ชายคนนี้จริงๆ เขาดื้อรั้นมาก ผมแทบจะระงับความโกรธไม่ได้!”

เจิ้งหยวนซานส่ายหัวและยิ้มก่อนจะพูดว่า “ตอนที่เราสอบปากคำก็อารมณ์นี้เลย หยางหยูสารภาพว่าเขาได้ทำผิดจริง และเราก็ยื่นข้อเสนอให้เขาทำบุญเพื่อชดใช้บาป แต่เขากลับปฏิเสธเสียงแข็ง จะเป็นจะตายก็ไม่สน! เขาไม่มีท่าทีจะให้ความร่วมมือเลย ความดื้อรั้นของเขามันทำให้เราปวดหัวมากจริงๆ!”

“ทำบุญเพื่อชดใช้บาป?” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เจิ้งหยวนซานก็มีความคิดตรงกันกับเขา!

“ใช่ พูดให้เข้าใจง่ายๆคือเขาต้องทำประโยชน์เพื่อชดใช้ความผิด!” เจิ้งหยวนซานส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “พูดตามตรง ระดับของแก๊งรีดไถไซเบอร์นี่มันแข็งแกร่งเกินไป และตำรวจไซเบอร์ของเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนั้นเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่ได้รับเชิญมาจากมหาวิทยาลัยสหพันธ์และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆก็ไม่สามารถไล่ตามฝ่ายตรงข้ามได้เลย มีเพียงหยางหยูเท่านั้นที่ทำได้ ดังนั้นเพื่อเป้าหมายหลัก เราจึงให้โอกาสหยางหยูชดใช้ความผิดโดยใช้ความสามารถของตัวเองให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม!”

“ลุงเจิ้งยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้หรอครับ” จี้เฟิงรู้สึกมีหวัง เขาเอ่ยถามทันที

“ใช่ ฉันยังไม่ได้ส่งเรื่องของหยางหยูเข้าระบบ! ฉันกำลังรอให้หยางหยูเปลี่ยนใจ!” เจิ้งหยวนซานพยักหน้าเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวและยิ้มอย่างเหนื่อยใจ “แต่น่าเสียดายที่มันนานมากแล้วเขาก็ยังไม่เปลี่ยนใจ เราเลยตั้งใจว่าจะไม่รอเขา และมีแผนจะรับสมัครผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์คนอื่นๆ หรือทางเลือกสุดท้ายก็คงต้องยื่นเรื่องกับกระทรวงให้เขาส่งผู้เชี่ยวชาญมา!”

นี่เป็นเพราะเห็นแก่ใบหน้าของจี้เฟิง เจิ้งหยวนซานถึงได้พูดมากขนาดนี้ อันที่จริงข้อมูลเหล่านี้คือความลับการทำงานของตำรวจ และถ้าจี้เฟิงเอาเรื่องนี้ไปพูดข้างนอกก็เท่ากับว่าความลับรั่วไหล สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นจี้เฟิงหรือเจิ้งหยวนซานต่างก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ!

“ลุงเจิ้ง ผมก็ขอพูดตรงๆเหมือนกัน พ่อของหยางหยูเป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ แต่นั่นก็เป็นเพียงเหตุผลเล็กๆ เพราะจริงๆแล้วหยางหยูนั้นมีประโยชน์กับผมมาก!” จี้เฟิงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “เมื่อครู่นี้ผมได้คุยกับหยางหยู เขายินดีที่จะให้ความร่วมมือทำบุญชดใช้บาป...”

“โอ้?!”

ในแวบแรก เจิ้งหยวนซานรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็เข้าถึงคีย์หลักของเรื่องนี้ทันที “จี้เฟิง ด้วยทัศนคติที่ดื้อรั้นขนาดนั้นของหยางหยู เขาคงไม่ได้ตอบตกลงง่ายๆทันทีหรอกใช่มั้ย? เธอได้ไปสัญญาอะไรไว้รึเปล่า?”

“สมกับที่เป็นนายตำรวจริงๆ!” จี้เฟิงกล่าวชมด้วยรอยยิ้มและยกนิ้วให้กับเจิ้งหยวนซานก่อนจะพูดว่า “ถูกแล้ว ผมสัญญาอะไรบางอย่างกับหยางหยูจริงๆ ผมบอกเขาว่าตราบใดที่เขาชดใช้ความผิดด้วยการช่วยเหลือตำรวจในการจับกุมแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์แก๊งนี้ ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่ไม่เป็นไร แต่...”

เจิ้งหยวนซานขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่จี้เฟิง แต่ไม่ได้พูดอะไร

จี้เฟิงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ คำบางคำแม้ว่าจะรู้กันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาตรงๆได้ พวกเขาก็ทำได้เพียงเข้าใจไปโดยปริยาย

“ถ้าการไปจับแก๊งอาชญากรไซเบอร์ครั้งนี้ แล้วมีคนหนีรอดไปได้ซักคนสองคน มันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากนัก...” เจิ้งหยวนซานลุกขึ้นยืน และเหมือนจะพึมพำกับตัวเอง “เฮ้อ สิ่งต่างๆในโลกล้วนมีข้อบกพร่อง จะให้มันสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างคงไม่ได้...”

จี้เฟิงยิ้มและรีบกล่าวทันที “ลุงเจิ้ง ขอบคุณมาก!”

จี้เฟิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยกับความเข้าใจในเรื่องนี้ของเจิ้งหยวนซาน เมื่อนึกถึงความดื้อรั้นของหยางหยู ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะบอกเจิ้งหยวนซานเรื่องของ WX เช่นกัน...

“เธอจะขอบคุณฉันเรื่องอะไร? ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเธอซักหน่อย!” เจิ้งหยวนซานยิ้มและพูดว่า “แต่ถ้าเธออยากจะขอบคุณ ฉันคิดว่าเธอไปเกลี้ยกล่อมหยางหยูให้เริ่มทำสิ่งที่เขาควรจะทำให้เร็วที่สุดเลยดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องยื่นเรื่องขอผู้เชี่ยวชาญกับกระทรวง ไม่อย่างนั้นตำรวจเจียงโจวของเราคงได้ถูกตราหน้าว่าไร้ความสามารถ”

จี้เฟิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่เขารู้อยู่แก่ใจว่าเจิ้งหยวนซานได้มอบหนี้บุญคุณก้อนใหญ่ให้เขาอย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับเจิ้งหยวนซาน นี่อาจเป็นอีกครั้งที่เขาต้องยกมือขึ้นมาเพื่อปิดตาข้างเดียว แต่สำหรับจี้เฟิง นี่เป็นครั้งแรกที่บิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว...

หนี้บุญคุณแบบนี้จะต้องชดใช้คืนไม่ช้าก็เร็ว และมันจะต้องใช้คืนเป็นสองเท่าเมื่อถึงเวลานั้น

ทีนี้ก็เหลือแค่ว่าจะจ่ายคืนด้วยอะไร?

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อหรืออาสองอีกครั้ง คราวนี้เกรงว่าจะถูกตำหนิชุดใหญ่เมื่อกลับไป!

เฮ้อ—! ไอ้บ้าหยางหยูเอ๊ย!

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาในใจ เมื่อหยางหยูออกมา เขาจะต้องใช้งานผู้ชายคนนี้ให้หนัก ไม่อย่างนั้นมันจะคู่ควรกับราคาที่สูงแบบนี้ได้ยังไง?

“ลุงเจิ้ง เราจะเริ่มกันเมื่อไหร่!” จี้เฟิงออกจากความคิดของตัวเองและถามขึ้น

“แน่นอนว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี! ยิ่งเราปราบปรามแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ได้เร็วเท่าไหร่ ผลดีก็จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่ายเร็วขึ้นเท่านั้น!” เจิ้งหยวนซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จี้เฟิงพยักหน้า “งั้นผมจะไปคุยกับหยางหยู งั้นก็ขอฝากที่เหลือให้ลุงเจิ้งจัดการแล้วกันนะครับ!”

หลังจากทั้งสองตกลงกันแล้ว จี้เฟิงก็ไปที่ห้องสอบสวนอีกครั้ง และเห็นว่าหยางหยูยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้านิ่งๆ ทันใดนั้นจี้เฟิงก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เขากัดฟันและพูดกับหยางหยู “เอาล่ะ! เตรียมตัวให้พร้อม!”

“ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นนอกเสียจากว่าคุณจะยอมรับเงื่อนไขของฉัน!” หยางหยูกล่าว

จี้เฟิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขากัดฟันและพูดว่า “ได้ ฉันยอมรับเงื่อนไข...”

“จริงเหรอ?” หยางหยูยังคงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “คุณสามารถรับประกันได้ใช่มั้ยว่า WX จะไม่เป็นอะไร?!”

“มานี่มา!” จี้เฟิงยิ้มและกวักมือเรียก

“อะไร” หยางหยูงุนงง แต่ก็ยืนขึ้นและโน้มตัวเล็กน้อย

ฟึ่บ—!

ทันใดนั้นจี้เฟิงก็คว้าคอหยางหยูและกดเขาลงบนโต๊ะ! กำลังของจี้เฟิงนั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน ด้วยร่างกายที่ผอมแห้งของหยางหยูจะเป็นคู่ต่อสู้ของจี้เฟิงได้อย่างไร หยางหยูไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้นรน ได้แต่ร้องคร่ำครวญส่งเสียงอู้อี้ออกมาโดยที่ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย

“หยางหยู นายฟังให้ดีนะ ฉันจะถามนาย อีกฝ่ายทำงานกันเป็นทีมใช่มั้ย?” จี้เฟิงกัดฟันถามเสียงเย็น

“ใช่!” หยางหยูตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของจี้เฟิง จึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“WX เป็นเพียงแค่หนึ่งในนั้นใช่มั้ย” จี้เฟิงถามต่อ

“ใช่ๆ!” หยางหยูรีบตอบ “แต่ถึงอย่างนั้น WX เป็นคนที่มีเทคนิคสูงที่สุดในแก๊งนั้น คนอื่นๆกระจอกมาก!”

“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้นายจงฟังฉันให้ดี เมื่อนายร่วมมือกับตำรวจ อย่างแรกคือค้นหาที่อยู่ IP ของคนอื่นๆก่อน และถ้าหากนายพบว่า WX อยู่กับพวกนั้น ก็ให้บอกรอง ผอ.เจิ้งอย่างเงียบๆ ขอย้ำนะว่าเงียบๆ! แต่ถ้าพบว่า IP ของพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ให้บอกรอง ผอ.เจิ้งไปตามปกติ และปล่อย WX ไว้คนเดียวแบบนั้นก่อน จนกว่านายจะพ้นข้อหาและออกมา ได้ยินมั้ย?!” จี้เฟิงสั่ง

แม้ว่าหยางหยูจะเป็นเด็กเนิร์ดที่ดื้อรั้น แต่เขาไม่ใช่คนโง่ เขาถามทันทีว่า “จี้เฟิง คุณมีเหตุผลที่ทิ้ง WX ไว้คนเดียวใช่มั้ย?”

“ด้วยวิธีนี้ นายสามารถมั่นใจได้ว่า WX นั้นจะไม่เป็นไร!” จี้เฟิงปล่อยหยางหยูและพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ในเมื่อนายชื่นชอบ WX มากนัก ก็ต้องแนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยสิ! จริงมั้ย?”

หยางหยูไตร่ตรองอย่างรอบคอบสักพักก่อนจะลูบคอและพยักหน้า “ฉันสัญญา!”

จี้เฟิงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะพูดว่า “แล้วถ้านายยังลีลาอีกล่ะก็ มาดูกันว่าฉันจะมีวิธีจัดการกับนายยังไง จำเอาไว้ให้ดี!”

แม้ว่าหยางหยูจะรู้จักจี้เฟิงมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเห็นจี้เฟิงพูดจาดุดันข่มขู่เขาขนาดนี้มาก่อน มันทำให้เขารู้สึกตกใจและพยักหน้าอย่างรีบร้อน “ฉันจะจำไว้!”

จี้เฟิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และหันหลังกลับ

....................

เมื่อจี้เฟิงออกจากศูนย์กักกัน เขาได้โทรหาหยางเต๋อจ้าวระหว่างขับรถกลับ เขาไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับ WX เขาเพียงแต่บอกว่าหยางหยูได้ก่ออาชญากรรมจริงๆ แต่เขาก็เกลี้ยกล่อมให้หยางหยูเห็นด้วยที่จะทำบุญเพื่อชดใช้บาป และถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไร เขาก็สามารถออกมาได้ในไม่ช้า

หยางเต๋อจ้าวรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เพราะเขารู้ว่าการจัดการเรื่องให้ออกมาในรูปแบบนี้ได้นั้นยากแค่ไหน ถ้าเป็นตัวเขาเอง อย่าพูดถึงการเกลี้ยกล่อม เอาแค่ตัวเขาเองจะเข้าไปเยี่ยมหยางหยูในศูนย์กักกันยังไงก่อน เว้นเสียแต่ว่าเขาจะก่ออาชญากรรม แต่เขาอาจจะถูกขังเดี่ยวก็ได้ และถ้าเป็นแบบนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเจอหยางหยู!

จี้เฟิงกล่าวลาสองสามคำอย่างไม่เป็นทางการและกดวางสายไปอย่างรวดเร็ว เพราะตอนที่เขาคุยสายอยู่กับหยางเต๋อจ้าวนั้นมีอีกสายโทรเข้ามา

เขาจอดรถข้างถนนอย่างรวดเร็วและมองจอโทรศัพท์ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าโทรศัพท์นั้นมาจากเจิ้งหยวนซานที่เพิ่งแยกจากกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

“ครับลุงเจิ้ง..” จี้เฟิงรับสายทันที

“จี้เฟิง รองผู้อำนวยการของเธอได้ยินยอมให้ความร่วมมือเพื่อชดใช้ความผิดแล้ว และตอนนี้อีกฝ่ายกำลังโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเครือข่าย คราวนี้รองผู้อำนวยการหยางต้องทำงานเพื่อชดใช้ความผิดแล้วล่ะ...” ทันทีที่พูดจบ เจิ้งหยวนซานก็วางสายไป

จี้เฟิงเข้าใจทันทีว่าหยางหยูได้เริ่มติดตาม IP ของแก๊งอาชญากรไซเบอร์แล้ว และการที่เจิ้งหยวนซานโทรมาหาเขาก็เพื่อเป็นการบอกให้เขาเตรียมตัวไว้ให้พร้อม

“เร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?!”

จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและกดโทรศัพท์ ต่อสายหาอี้ซิงเฉินทันที “เหล่าอี้ คุณอยู่ที่โรงงานยาหรือเปล่า?... โอเค! คุณจัดคนมาไว้ให้ฉันซักสองสามคน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”

…จบบทที่ 609~❤️

*ทำบุญเพื่อชดใช้บาป (สำนวน) หมายถึง รับผิดชอบต่ออาชญากรรม มุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์เพื่อชดใช้ความผิด

ตัวอย่างอื่นๆเช่น “ครั้งนี้ฉันทำผิดพลาดเล็กน้อย ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันได้ชดใช้ความผิดพลาดในครั้งนี้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด