ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 52 : จากห้วงเหวลึก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 54 : ตระกูลหลินจบสิ้นแล้ว!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 53 : เสียงที่ดังไปทั่วอาณาจักรฉีซาน พายุกำลังใกล้เข้ามา!


ตอนที่ 53 : เสียงที่ดังไปทั่วอาณาจักรฉีซาน พายุกำลังใกล้เข้ามา!

ตูม ตูม ตูม!

ท้องนภายังคงปลดปล่อยเสียงดังสนั่นที่แสนเย็นชาออกมา สะท้อนก้องกังวานไปทั่วทุกที่ในอาณาจักรฉีซาน

“เสียงอะไรกัน?”

“มีใครบางคนกำลังตามหาสกุลหลิน?”

บัดนี้ในอาณาจักรฉีซาน ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา

เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น ต่างก็พร้อมใจกันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที ในเวลานี้ ผู้บ่มเพาะมากมายต่างเหาะขึ้นกลางอากาศพร้อมกับมองไปยังทิศจุดเริ่มต้นของเสียงที่ไกลออกไป ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกตื่นตระหนก ม่านตาหดแคบเหลือเท่าปลายเข็ม

ไกลออกไป ปรากฏลำแสงขนาดมหึมาทอแสงขึ้นบนฟ้า ดูราวกับเสาค้ำยันสรวงสวรรค์และผืนโลก

ตลอดทั้งความยาวของมัน ดูราวกับเส้นหมึกสีดำกำลังแบ่งแยกท้องสีครามและพื้นดินเบื้องล่างออกเป็นสองส่วน แม้จะอยู่ห่างไกลออกไปนับล้านๆลี้ แต่ผู้คนก็ยังสามารถสังเกตเห็นได้ถึงปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวแพร่สะพัดออกมา

“นี่? สิ่งนี้เกิดขึ้นในดินแดนรกร้าง?”

“ใครกัน? ใครกันที่ทรงพลังได้ถึงเพียงนี้? หรือว่ามีปิศาจตนใดปรากฏตัวขึ้น?”

เหล่าผู้บ่มเพาะทั้งหลายของฉีซานต่างก็ออกมาจากการกักตัว ไม่ว่าจะเด็กหนุ่มหรือแก่เฒ่า ก่อนจะพบเห็นเสาขนาดยักษ์ต้นนั้นโดยมิได้คาดคิด ใบหน้าของพวกเขาต่างแสดงออกซึ่งความตกใจถึงขีดสุด

และสถานที่ทั้งหลายที่พบเห็นเหตุการณ์นี้ต่างก็อยู่แสนไกลห่างจากดินแดนรกร้างทั้งสิ้น

ส่วนผู้คนที่อยู่ใกล้กับแดนรกร้าง พวกเขาทำได้เพียงปิดหูให้แน่นหนาเท่านั้น ถึงกระนั้น เพราะพลังปราณที่แฝงมา พวกเขาถึงกับกระอักเลือดคำโต ในหมู่คนเหล่านั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นพวกแรกๆ ย่อมเป็นตระกูลเซียวอย่างมิต้องสงสัย เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ใกล้กับแดนโบราณนี้มากที่สุด....

ก้อนเมฆดำมืดปกคลุมท้องฟ้า เสาแสงต้นมโหฬารก็อยู่มิไกล ปราณปิศาจมากมายคล้ายหมอกควันกระจายไปทั่ว ราวกับโลกกลายเป็นเมืองผีห่า มืดหมองหม่นมัว ในความว่างเปล่า มีเสียงกรีดร้องของวิญญาณลอยมาตามสายลม กลิ่นอายแปลกประหลาดน่าหวาดเกรงอยู่ทั่วทุกพื้นที่

เซียวซุ่ยที่บัดนี้ถูกพันด้วยแถบผ้าและมีเปลวไฟสีขาวลุกท่วมอยู่ทั่วตัว เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นมาเพื่อมองไปยังท้องฟ้าด้วยสีหน้าแสนอัปลักษณ์ ทันใดนั้น ปรากฏเป็นร่างเงาของบางสิ่งขึ้นจากลำแสง

“ข้าคือนายเหนือแห่งหุบเหวลึก!”

ปราณปิศาจนับไม่ถ้วนเดือดพล่านตามมา ใต้หล้าเกิดเงามืดบดบังไปทั่ว แม้กระทั่งท้องฟ้าก็ดูราวกับสยบยอมก้มหัวให้แก่เขา

เสียงดังลั่นและชัดเจน ผู้คนในอาณาจักรฉีซานต่างได้ยินอย่างชัดแจ้ง ใบหน้ามีเพียงอารมณ์แตกตื่นราวกับพบเห็นฉากของจ้าวปิศาจก้าวเดินออกมาจากยุคสมัยบรรพกาล ไอปราณชั่วร้ายอาละวาดไปทั้งฟ้าดิน

พริบตาถัดมา ภูผาและธาราสั่นสะเทือน เพียงสะบัดมือครั้งเดียว สุริยันจันทราก็หมองมัว

จอมยุทธทั้งหลายเห็นฉากที่ปรากฏด้วยความตะลึงงัน แม้แต่อาณาจักรข้างเคียงยันสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงอันเก่าแก่นี้ ร่างชราภาพของบางสิ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเพ่งมอง “เขา” ให้ชัดเจน อย่างไรเสีย เขาที่ลอยอยู่เหนือห้วงเหวไร้ก้นกลับมิได้สนใจมนุษย์คนใดทั้งนั้น

สายตาของเขาจับจ้องอยู่เพียงทิศที่ตั้งของตระกูลหลิน ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

“ข้าจะให้พวกเจ้า ตระกูลหลินแห่งอาณาจักรฉีซานได้มีเวลาเตรียมตัว”

“ข้าจะละเว้นแค่เจ้าสวะน้อยที่คู่ควรเป็นอาหารของข้าและแท่นบูชาห้าสีเท่านั้น”

“เมื่อข้าออกจากการกักตัว ข้าจะเหยียบย่ำพวกเจ้าทั้ง

หมดให้จมธรณี!”

“ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตให้มีความสุขเสีย!”

เสียงของเขาดูยิ่งใหญ่ ราวกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั้งอาณาจักรฉีซาน และในเวลาเดียวกับ เส้นทางสีดำสนิทก็พุ่งออกมาจากเสาแสงและไปหยุดอยู่ใกล้กับเมืองต้าหยาน

ระยะทางของมันข้ามผ่านพื้นที่ยาวกว่าสิบล้านลี้!

มนุษย์ทั้งหลายทำได้เพียงมองเส้นทางที่ปรากฏขึ้นด้วยใจตื่นตระหนก ประกาศิตบางอย่างครอบคลุมเส้นทางนี้อย่างช้าๆ

เมื่อประกาศิตจารึกลงในถนนที่เกิดขึ้นจนหมดสิ้น จากนั้นร่างเงาของเขาก็จางหายไป ความกดดันที่แสนหนักหน่วงเริ่มคลายลงทีละน้อย

คนตระกูลเซียวทั้งหมดก็ทรุดกายลงทันที พวกเขาคุกเข่าลงแทบพื้นดินโดยมิได้สนใจภาพลักษณ์ของตนแม้แต่น้อย ก่อนจะหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เซียวซุ่ยก็เช่นกัน ทั่วร่างเขาหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมา

ช่างเป็นความรู้สึกอันแสนคุกคามยิ่งนัก นี่คือการประกาศศึกระหว่างจ้าวห้วงเหวลึกกับตระกูลหลิน!

ไม่เพียงแค่ตระกูลเซียวเท่านั้น หลังจากช่วงเวลาแห่งความตกตะลึงผ่านพ้นไป สีหน้าของผู้อาวุโสจากตระกูลมากมายในอาณาจักรฉีซานก็แปรเปลี่ยนไป

จ้าวหุบเหวไร้ก้น! เจ้าของกระแสเสียงนั้นคือจ้าวหุบเหวไร้ก้น!

ในฐานะของผู้อาวุโสจากตระกูลที่อยู่มาอย่างยาวในอาณาจักรฉีซาน เขาย่อมรู้จักดีถึงการมีอยู่ของจ้าวแห่งห้วงเหวผู้นั้นดี ที่แห่งนั้นไม่ใช่แค่น่ากลัวอย่างสามัญ หากแต่กล่าวได้ว่าน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด! อย่าได้กล่าวถึงการจะเข้าไปยังหุบเหว แม้แต่การจะเหยียบย่างไปยังส่วนลึกของแดนรกร้างที่เก่าแก่โบราณก็นับว่ากระทำได้ยากเย็นยิ่ง

“จ้าวห้วงเหวไร้ก้น? มิใช่ว่าเขาสิ้นชีพไปนานแล้วหรือ? รึว่าข่าวลือนั้นจะเป็นเท็จ?”

“เขามีชีวิตมานานเพียงใดแล้ว?”

อาณาจักรฉีซานบัดนี้ สีหน้าของตระกูลนับไม่ถ้วนช่างน่าเกลียดนัก นามจ้าวห้วงเหวมิใช่รับรู้ได้โดยสามัญทั่วไป

ในยุคสมัยหนึ่ง คำนี้ถือเป็นคำต้องห้ามเสียด้วยซ้ำ!

ย้อนกลับไปในตอนนั้น ตระกูลใหญ่ของอาณาจักรฉีซานบางส่วนเพิ่งมาตั้งรกรากที่นี่ แต่จ้าวหุบเหวนั้นปรากฏมาก่อนแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขากำเนิดขึ้นเมื่อใด ข้อมูลทั้งหลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานนานมาเท่านั้น

พลังของจ้าวห้วงเหวเป็นข้อมูลที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ!

ในอดีต ตอนที่ตระกูลใหญ่ทั้งหลายส่งผู้แข็งแกร่งที่สุดของตนเข้าไปยังหุบเหวไร้ก้นเพื่อพูดคุยกับเขา คนเหล่านั้นก็ได้ต่อสู้กับเขาเช่นกัน แต่ทว่า ไม่ว่าคราใดที่การต่อสู้เริ่มขึ้น มนุษย์จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคาบเสมอ! ไม่มีผู้ใดจะหาญกล้าเทียบเคียงกับเขาคนนั้นได้ ในอาณาจักรฉีซาน การคงอยู่ของเขานับว่าเป็นสิ่งต้องห้าม เขาทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไปถึงระดับอาณาเขตเหนือครามเสียด้วยซ้ำ!

ในตระกูลโบราณนั้น ชายชราเพียงเงยหน้าขึ้นและมองความเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า เขายื่นแขนออกไป ก่อนสายลมชุ่มฉ่ำสายหนึ่งพัดฝ่ามือก่อให้เกิดรอยเปียกชื้นบนนั้น

“พายุใหญ่กำลังจะพัดกระหน่ำเข้าสู่อาณาจักรฉีซานเสียแล้ว...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด