ตอนที่แล้ว177-178
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป181-182

179-180


กำลังโหลดไฟล์

1/4

Ep.179

“เธอบาดเจ็บนี่”

ฉู่เซวียนเดินเข้ามา มองอันหยุนหลานอย่างเป็นห่วงเป็นใย

เอาจริงๆอาการของอันหยุนหลานค่อนข้างย่ำแย่ มันไม่ใช่แค่พลังจิตที่เหือดแห้งเท่านั้น แต่ยังมีบาดแผลหลายแห่งตามตัว ได้แต่หมอบกับพื้น ขยับเขยื้อนไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อันหยุนหลานเห็นฉู่เซวียนเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอกลับเริ่มแดงซ่าน ลืมเลือนอาการบาดเจ็บ เอ่ยปากว่า “ขอบคุณที่ช่วยฉัน”

ฉู่เซวียนส่ายมือ เอ่ยว่า “ฉันแค่บังเอิญเจอเธอพอดีก็เท่านั้น มาเถอะ ฉันจะเชื่อมพวกกระดูกที่หักให้ ปล่อยมันทิ้งไว้แบบนี้ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี”

“อืม” อันหยุนหลานรับคำเบาๆ ค่อยๆหลับตาลง ขนตายาวของเธอพริ้วไสว

เห็นภาพนี้ จู่ๆฉู่เซวียนเกิดอาการใจสั่นเล็กน้อย

อันหยุนหลานเดิมเป็นผู้หญิงสวยอยู่แล้ว แม้ตอนนี้หน้าเธอจะซีดเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยสภาพที่น่าเวทนา ทำให้ฉู่เซวียนรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นมัน

อี้อี้เฝ้ามองฉากนี้ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น นั่งเงียบไม่เอ่ยคำใด

“ทนหน่อยนะ” ฉู่เซวียนกระแอม โยนความคิดฟุ้งว่านในใจทิ้งไว้เบื้องหลัง กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ต่อมา อันหยุนหลานสัมผัสได้ถึงฝ่ามืออันแสนอบอุ่นค่อยๆยื่นเข้าหาเธอ ชั่วขณะหนึ่งทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นแข็งทื่อ

รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของชายหนุ่ม ใบหน้าของอันหยุนหลานแดงเรื่อยิ่งกว่าเดิม

แม้อันหยุนหลานจะแก่กว่าฉู่เซวียนหลายปี แต่ยังไงซะเธอก็ยังเป็นผู้หญิง จึงอดเกิดอาการเขินอายขึ้นมาไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนไม่มีเวลาได้สนใจมัน ขณะนี้สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับซี่โครงที่หักของอันหยุนหลาน

ฉู่เซวียนควบคุมพลัง ถ่ายเทไปยังส่วนที่หักและแตกร้าวอย่างแม่นยำ เริ่มทำการผสานมัน

กริ๊ก!

ในที่สุด หลังเกิดเสียงดังฟังชัด กระดูกที่หักไปอีกทางก็ถูกย้ายกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม หญิงสาวกลั้นไม่ไหว เผลอร้อง อื้อ ขึ้นมาเบาๆ

ปากเธอเผยอเผยให้เห็นฟันสีเงินเรื่อ สองมือกำแน่นเล็บจิกเข้าไปในเนื้อหนัง ชัดเจนว่ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ฝ่ามือของเขาวูบไหวไปทั่วแผ่นหลังของอันหยุนหลาน หากมองไปคล้ายเห็นเป็นภาพหลอน ใช้เวลาไม่นาน กระดูกทุกท่อนที่หักหรือร้าวก็ได้รับการรักษา ที่เหลือก็แค่รอให้พวกมันสมานกัน

แน่นอน ระหว่างนี้ อันหยุนหลานไม่สามารถออกแรงหนักๆได้ ส่วนฉู่เซวียนเองก็ได้ทราบถึงจุดอ่อนของเขา ว่าแม้ตนจะครอบครองอบิลิตี้มากมาย แต่เขากลับไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บแก่คนอื่นๆได้เลย ดังนั้นตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะฟิวชั่นอบิลิตี้รักษาเก็บไว้สักสองสามท่า

“ฟู่ววว!” อันหยุนหลานถอนหายใจเบาๆ ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ เผยยิ้มให้ฉู่เซวียน “นายช่วยฉันไว้อีกแล้ว”

“ทำไม? อยากมอบร่างกายให้เป็นการตอบแทนงั้นหรอ?” ฉู่เซวียนถามด้วยรอยยิ้ม

ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของอันหยุนหลานผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ “ได้สิ ถ้านายต้องการ”

“แค่ก แค่ก” เห็นเธอเอาจริงทั้งๆที่เขาล้อเล่น ฉู่เซวียนไอเล็กน้อย ก่อนหันหลังแล้วเดินนำออกไป “เธอน่าจะเดินไหวแล้วถูกไหม ตามมาให้ทันล่ะ”

เดิมฉู่เซวียนคิดว่า อันหยุนหลานกำลังเครียดเลยคิดแก้สถานการณ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอยังเหมือนเดิม

ส่วนเรื่องที่เขาให้เธอเดินเอง เนื่องจากเป็นผู้ใช้พลังเลเวล 5 ความสามารถในการฟื้นฟูย่อมไม่ธรรมดา เวลานี้เธอน่าจะช่วยตัวเองได้แล้ว

อันหยุนหลานเฝ้ามองฉู่เซวียนค่อยๆเดินห่างออกไป ท่าทีมุ่งมั่นผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ สองหมัดกำแน่น เอ่ยพึมพำให้กำลังใจตัวเอง “ฮึ ฉันไล่ตามนายทันแน่ คอยดู”

2/4

Ep.180

“พี่สาว พี่ชื่ออะไรหรอ? แล้วไปรู้จักพี่ชายได้ยังไง?” อี้อี้ย่อมเห็นพฤติกรรมแปลกๆที่ อันหยุนหลานแสดงออกมา เลยเอ่ยถามเธออย่างอยากรู้อยากเห็น

สำหรับอันหยุนหลาน แม้ก่อนหน้านี้จะเห็นเต็มสองตาว่าพลังรบของอี้อี้มหาศาล อีกทั้งลึกๆยังมีความแคลงใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวเด็กสาวอีกต่อไป

เพราะถึงอย่างไรในความคิดของเธอ ฉู่เซวียนคือคนที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอมา ดังนั้นหากคนใกล้ตัวเขาจะเป็นเหมือนกัน จึงไม่น่าแปลกอะไร

อันหยุนหลานเฝ้ามองร่างของฉู่เซวียนที่ค่อยๆไกลออกไป คล้ายเกิดภาพความทรงจำในอดีตสะท้อนในแววตา เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันชื่ออันหยุนหลาน ได้เจอกับเขาเมื่อสองเดือนก่อน”

“สองเดือนก่อน?” ได้ยินแบบนั้น อี้อี้ลองนึกย้อนดู ก่อนแสดงสีหน้าว่านึกออกแล้ว “อ้อ งั้นพี่สาวคงเป็นคนที่ออกมาจากฐานมนุษย์พร้อมกับพี่ชาย ถูกไหม?”

เมื่อนึกย้อนไป และพบว่านั่นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ ฉู่เซวียนกลับมายังตงเฉิงพอดี บวกกับเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขาไปฐานมนุษย์มา จึงพอเดาได้ ว่าอันหยุนหลานคือผู้ใช้พลังระดับสูงที่เดินทางร่วมกันกับเขา

“ฐานมนุษย์?” ได้ยินคำนี้จากปากอี้อี้ อันหยุนหลานประหลาดใจเล็กน้อย

ทำไมถึงใช้คำว่าฐานมนุษย์? พูดเหมือนกับว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ยังไงยังงั้น?

ยังไงก็ตาม อันหยุนหลานเก็บความสงสัยนี้เอาไว้ในใจ เธอยิ้มและตอบว่า “ใช่แล้ว ตอนนั้นสหายคนหนึ่งของฉันอยากไปล่าสัตว์กลายพันธุ์ที่ภูเขาหมางซาน พวกเราเลยได้พบกัน”

“ตอนนั้นเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ พลังรบยังอยู่แค่เลเวล 4 แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนั้นเขาก็สามารถโค่นผู้ใช้พลังเลเวล 5 ได้แล้ว เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วในฐานเทียนหัว แถมเขายังได้รับฉายาว่าเทพมรณะด้วย!”

ได้ยินประวัติโดยย่อของฉู่เซวียน อี้อี้ไม่เพียงเผยอปากเล็กน้อย แต่ยังรู้สึกเหนือความคาดหมาย

เพราะเอาจริงแล้ว เหตุการณ์ที่ฉู่เซวียนประสบในฐานเทียนหัว เขาไม่เคยเล่ามันให้เธอกับเหล่าซอมบี้ระดับสูงฟังเลย

“ฮี่ฮี่ พี่ชายสุดยอดจริงๆ” อี้อี้ชื่นชมด้วยเสียงหัวเราะ เพราะอย่างไรเสีย ตอนฉู่เซวียนออกจากตงเฉิง พลังรบเขาอยู่แค่เลเวล 3 เท่านั้น

ทว่าใช้เวลาไม่นาน ปัจจุบันพลังรบกลับทะยานขึ้นมาอยู่ในระดับลอร์ดแล้ว

อัตราเร็วในการยกระดับเช่นนี้ ต่อให้เป็นอี้อี้ก็ยังรู้สึกทึ่ง แล้วบางที ในใจเธอตอนนี้ อาจประทับลงไปแล้ว ว่าฉู่เซวียนคือผู้ที่ร้ายกาจที่สุดในด้านพัฒนาการ

อันหยุนหลานเห็นเด็กสาวเงียบไปก็ยิ้ม แล้วเอ่ยว่า “ครั้งนั้น พวกเราไม่ได้เจอแค่คลื่นกองทัพสัตว์กลายพันธุ์ แต่ยังเจอคลื่นกองทัพหนูด้วย ฉันเกือบคิดว่าตัวเองต้องตายที่นั่นซะแล้ว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อันหยุนหลานอดหันกลับไปมองแผ่นหลังของฉู่เซวียนไม่ได้ แก้มเธอแดงขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า

“ตอนนั้น ในช่วงเวลาที่พวกเราสิ้นหวัง ฉู่เซวียนเลือกที่จะยืนหยัด สุดท้ายพลังรบในเลเวล 4 ของเขาก็สามารถสังหารราชาหนูเลเวล 5 ได้ แล้วหลังจากที่เขากลืนกินราชาหนูเข้าไป ก็สามารถยกระดับขึ้นเป็นเลเวล 5 ได้สำเร็จ”

อันหยุนหลานกล่าวถึงจุดนี้ก็เริ่มเหม่อลอย คล้ายถูกล่อลวงโดยความลึกล้ำและพลังรบอันทรงพลังของฉู่เซวียน

“เฮ้ พวกเธอสองคนจะมาได้ยัง?” ในตอนนั้นเอง ห่างออกไปไม่ไกล ฉู่เซวียนเมื่อเห็นว่าทั้งสองยังไม่ตามมา เขาก็หันหลังแล้วตะโกนเรียกพวกเธอ

“ฮี่ ฮี่ พี่ชายรอก่อน พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” อี้อี้ตอบด้วยรอยยิ้มร่า คว้ามืออันหยุนหลานเดินตามฉู่เซวียน

“เมื่อกี้พวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน?” เห็นทั้งสองเดินจูงมือ ฉู่เซวียนที่เดิมกังวลว่าอี้อี้จะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับผู้ใช้พลัง ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เอ่ยถามออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด