บทที่ 33 ความคิดที่กล้าหาญ
ลู่หลี่มองอลิซด้วยท่าทางซับซ้อน เธอไม่คิดเลยว่าอลิซจะใช้อาหารเป็นเครื่องมือ!
น่ากลัวมาก!
แต่เธอเป็นน้องสาวของลู่เจ๋อ และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของอลิซ แม้เธอจะรู้สึกรำคาญ แต่เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดทั้งสองจากการติดต่อกัน เธอทำได้แค่ดูทั้งสองแลกเบอร์กัน
โกรธมาก!
คิดผิดที่พาอลิซกลับบ้าน!
ลู่หลี่ตาเป็นประกาย ดูเหมือนว่าเธอต้องหาโอกาสบอกอลิซว่าเธอไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กับลู่เจ๋อ
ขณะเดียวกัน สมองของลู่เจ๋อก็ถูกครอบงำโดยอาหาร น้ำลายเกือบหก
ทั้ง 3 ทานอาหารเย็นเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่ละคนต่างก็มีความคิดที่แตกต่างกันในใจ อลิซยิ้มขณะที่เธอกล่าวคำลาและมุ่งหน้ากลับบ้าน
“ลู่เจ๋อ ล้างจานด้วย!” ลู่หลี่กัดฟันพูดก่อนจะขึ้นไปชั้นบน
ลู่เจ๋อ “???”
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเธออารมณ์ไม่ดี? ทำไม?
ลู่เจ๋อแตะคางแต่นึกไม่ออกว่าทำไม เขาเลยยอมแพ้
หลังจากล้างจาน ลู่เจ๋อก็กลับไปที่ห้องและเข้าไปในมิติล่าสัตว์
ลู่เจ๋อไม่เคยเห็นค่ำคืนของมิตินี้ เมื่อเขาเข้ามาทุกครั้งจะเป็นเวลากลางวันเสมอ ระยะเวลาที่ยาวที่สุดที่เขาเคยอยู่ในมิติคือ 3 ชั่วโมง ก่อนที่เขาจะถูกสัตว์ร้ายทรงพลังฆ่า
ปัก!
ลู่เจ๋อเตะกระต่ายตัวใหญ่ที่พุ่งเข้ามาทันทีที่เห็นอย่างไร้อารมณ์
“ฉันลู่เจ๋อ ไม่ภูมิใจในการเป็นนักฆ่ากระต่ายอีกต่อไป!”
“วันนี้! ตอนนี้…”
“ฉันจะโจมตีสัตว์ที่ทรงพลังกว่า!”
กระต่ายน้อยน่ารักไม่สามารถทำให้ลู่เจ๋อพอใจได้อีกต่อไป แม้กระทั่งโพรงกระต่าย
ท้ายที่สุด ลูกกลมที่เขาเก็บมาจากโพรงกระต่ายเพียงโพรงเดียวก็เพียงพอสำหรับการบำเพ็ญในแต่ละวัน ลูกแก้วสีแดงระดับต่ำสุดมีผลเพียงเล็กน้อยสำหรับเขา
ขณะนี้เขามีลูกแก้วสีแดงลูกเล็กมากกว่า 300 ลูกกองซ้อนอยู่ในมิติจิตใจ เขาไม่อยากใช้มันด้วยซ้ำ
ถึงเวลาล่าสัตว์ตัวอื่นแล้ว
ลู่เจ๋อคิดจะลองกับหมาป่าเขียวและสุนัขหุ้มเกราะ สำหรับสิงโตเพลิงที่มีพลังมากกว่า…ลู่เจ๋อยังต้องการมีชีวิตอยู่ให้นานขึ้นอีกหน่อย
หลังจากตัดสินใจเลือกเป้าหมายแล้ว ลู่เจ๋อก็เริ่มท่องไปในที่ราบที่มีหญ้าเขียวขจี
ในฐานะนักล่าที่มีประสบการณ์ แม้จะฆ่าแค่กระต่าย เขาก็ยังมีความตื่นตัวขั้นพื้นฐาน
เขากดดันประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเขาถึงขีดสุด มองดูหญ้าที่ค่อนข้างสูงด้วยสายตาเยือกเย็น
ไม่นานลู่เจ๋อก็ได้ยินเสียงแหลมคม
ขนคอเขาลุกพรึบขณะที่เขาเร่งฝีเท้าเป็นจนภาพเบลอและหายตัวไป
จากนั้น หญ้าที่เขายืนอยู่ก็ถูกฟันขสดด้วยใบมีดที่มองไม่เห็น รอยตัดนั้นเรียบมาก จะเห็นได้ว่ามีดที่มองไม่เห็นนั้นคมเพียงใด
เจอแล้ว!
ลู่เจ๋อยกยิ้ม เขามองดูหญ้าทางซ้ายที่สูงกว่าหนึ่งเมตร
เลือดลมเดือดพล่าน ร่างกายเขาเปล่งแสงสีขาวเจิดจ้า ลู่เจ๋อเตะพื้นและพุ่งไปที่ดงหญ้า
"วูฟฟฟ!"
หมาป่าเขียวสูง 1.5 เมตรหอนแล้วพุ่งออกจากดงหญ้า
ขนนุ่มลื่นปลิวไสวแม้ไร้ลม มันมีร่างกายที่ดุดันและแข็งแรง เช่นเดียวกับดวงตาสีเขียวที่เยือกเย็นและเฉียบคม
ต้องยอมรับว่าหมาป่าเขียวดูดีทีเดียว แต่ลู่เจ๋อไม่สนใจ
ทันใดนั้นลู่เจ๋อก็ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ หมาป่าเขียว
ขวับ!
ขาขวากลายเป็นแส้ ทำให้เกิดเสียงระเบิดขณะฟาดไปที่เอวของหมาป่า
แต่หมาป่าไม่กังวลเลย นัยน์ตาสีเขียวของมันฉายแววดุร้าย จากนั้นมันก็ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นปิดกั้น
อุ้งเท้าหน้าปะทะกับขาเรืองแสง
ตูม!
ทุกอย่างหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ท่วมพื้นที่
แรงดันลมระเบิดจากการปะทะกันของอุ้งเท้าและขามนุษย์แผ่ออกไปทุกทิศทาง หญ้าทั้งสูงและต่ำถูกพัดจนราบเรียบ จุดกึ่งกลางการระเบิดคือชายหนุ่มและหมาป่า
ทันทีที่หมาป่าขัดขวางขาของลู่เจ๋อ มันก็พ่นใบมีดลมสีเขียวจาง ๆ ใส่เข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าใบมีดลมนี้แข็งแกร่งกว่าใบมีดลมอันก่อน
หมาป่าเขียวเริ่มจริงจัง!
ดวงตาของลู่เจ๋อจดจ่อ เขาดึงขาขวากลับและใช้ท่าเท้าเพื่อหลบใบมีดลม ใบมีดลมฉีกเสื้อผ้าของลู่เจ๋อและสร้างเสียงใสกังวาลเมื่อกระทบเข้ากับร่างกายเขา
ก่อนที่ภาพติดตาของลู่เจ๋อจะหายไป ลู่เจ๋อก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือหัวหมาป่าเขียวแล้ว
แววตาของลู่เจ๋อเย็นชาขณะที่เขากำหมัดทุบไปที่หัวของหมาป่าเขียว
ตูม! ตูม!
แรงหมัดอันน่าสะพรึงกลัวที่มองไม่เห็นได้ทะลวงอากาศและพุ่งเข้าใส่หมาป่าเขียว
เมื่อลู่เจ๋อคิดว่าการโจมตีครั้งนี้จะสำเร็จ หมาป่าก็ส่องแสงสีเขียวและหายไปจากจุดนั้น แรงหมัดกระแทกพื้นทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ 2 หลุม เศษดินและหญ้าปลิวไปทุกที่
ลู่เจ๋อค่อย ๆ ร่อนลง เขามองหมาป่าเขียวที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรและเลียริมฝีปาก หมาป่าตัวนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง
ด้วยพลังปัจจุบันของเขา เขาควรจะสู้กับหลิงหวู่ระดับ 1 และ 2 ได้อย่างง่ายดาย แต่หมาป่าเขียวตัวนี้แข็งแกร่งกว่านั้น
แต่เขาเป็นเด็กเลือดร้อน!
ลู่เจ๋อยกยิ้มและโจมตีอีกครั้ง
"วูฟฟฟ!"
ลมหมุนวนรอบ ๆ หมาป่าเขียว เมื่อร่างของมันฉายแสงสีเขียว ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่งและพุ่งเข้าหาลู่เจ๋อ
ชายหนึ่งคนกับหมาป่าหนึ่งตัวปะทะกันกลางอากาศ แสงสีขาวและเขียวชนกัน และทุกครั้งที่ชนกันจะมีลมกระโชกแรงพัดผ่านทุ่งหญ้าโดยรอบ
หลังจากปะทะกันมากกว่าร้อยครั้ง มนุษย์และหมาป่าก็แยกจากกัน
ลู่เจ๋อเช็ดเลือดที่มุมปากออกแล้วมองรอยเล็บที่อยู่บนตัวเขา…ไอ้สารเลวนี่เร็วกว่าเขา!
หากมีแค่พลังเพียว ๆ ลู่เจ๋อคิดว่าเขาไม่มีทางแพ้หมาป่าเขียว แต่มันเร็วเกินไป มันหลบการโจมตีทั้งหมดของเขาและข่วนเขากลับทุกครั้ง
แม้เขาจะหลีกเลี่ยงจุดสำคัญได้ แต่การโจมตีของมันก็เยอะมาก ตอนนี้ลู่เจ๋อรู้สึกว่าเขาอาจถูกฆ่าโดยสัตว์ร้ายตัวนี้
ลู่เจ๋อมองหมาป่าที่อยู่ในสภาพเกือบจะสมบูรณ์ เขามีความคิดที่กล้าหาญ
หมาป่าเขียวไม่ต้องการให้เหยื่อได้มีเวลาพักหายใจ มันพุ่งเข้ามาอีกครั้งและยิงใบมีดลมออกจากปาก
ลู่เจ๋อหลบใบมีดลมแต่ไม่ได้หลบกรงเล็บหมาป่า
พลังป้องกันของร่างกายเขาสูงพอ ๆ กับพลังโจมตีของกรงเล็บหมาป่า แต่ถ้าลู่เจ๋อไม่หลบเลี่ยงจุดสำคัญ เขาอาจจะตายทันที
โดยไม่สนใจเลือดที่สาดกระเซ็นและความเจ็บปวด ลู่เจ๋อยิ้ม ดวงตาของเขาดูน่ากลัวเมื่อเขาจับกรงเล็บด้วยมือซ้ายและชกเขาที่เอวหมาป่าอย่างแรง
ในแง่ความเร็ว ลู่เจ๋ออาจสู้หมาป่าไม่ได้ แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะเขากำลังจะแลกชีวิตกับหมาป่าเขียวตัวนี้!
-----------------------------