ตอนที่แล้วตอนที่ 119 ที่แท้เขาคือเย่เทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121 ทำเงินได้ไม่ผิดกฎหมายย่อมรวย

ตอนที่ 120 ไม่ถึงแสนล้าน


กำลังโหลดไฟล์

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนได้เจอผู้ก่อตั้งบริษัทต้าเฟิงอย่างสวีเทียนจื้อ เขาเคยเห็นข้อตกลงการโอนหุ้นที่ระบบเตรียมไว้ให้แต่เขาคิดไม่ถึงว่าผู้ก่อตั้งจะเป็นพ่อของหลิวหรูเยียน

ถึงเขาจะชอบหลิวหรูเยียนแต่มันก็ไม่จำเป็นต้องทำให้สวีเทียนจื้อชอบเขาด้วย

ดังนั้นเขาจึงไม่ลุกจากเก้าอี้ตามที่เขาบอก แต่เพื่อไว้หน้าหลิวหรูเยียนเขาจึงยอมตอบคำถามสวีเทียนจื้อ “ฉันคือเย่เทียนเดียวกับที่ประธานสวีคิดอยู่นั่นแหละ”

“ถ้าแกบอกว่าก่อนหน้านี้แกซื้อหุ้นบริษัทต้าเฟิงของฉัน51%แล้วกลายเป็นผู้ควบคุมบริษัท ยัยลูกอกตัญญูเธอรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว? หรือว่าพวกแกร่วมมือกันโกงบริษัทต้าเฟิงที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก? คืนนี้พวกแกต้องให้คำอธิบายกับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันสวีเทียนจื้อจะไม่ยอมเลิกลาเด็ดขาด”

หลังพูดจบสวีเทียนจื้อที่โกรธจัดก็ฟาดไม้ค้ำหัวมังกรในมือใส่โต๊ะทำงานจนเกิดเสียงดัง’ปัง’

เนื่องจากเขาออกแรงมากเกินไปจึงทำให้อาการป่วยกำเริบอีกครั้งจนเดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว

ถ้าไม่ใช่เพราะอากุยที่เป็นบอดี้การ์ดให้เขามาหลายปีพยุงเขาทัน สวีเทียนจื้อคงได้ล้มลงพื้นและอับอายต่อหน้าเย่เทียนกับผางเหว่ยไปแล้ว

“โปรดระวังด้วยครับนายท่าน” อากุยพยุงสวีเทียนจุ้ยที่กำลังจะล้มให้ลุกขึ้น จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปด้วยความเคารพและทำเป็นหูหนวกตาบอก

“ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้น ฉันรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น” สวีเทียนจื้อที่กำลังอารมณ์เสียตำหนิอากุย

ไม่มีทางซะหรอก คนที่ไม่ค่อยพูดอย่างอากุยจะปีกกล้าขาแข็งเหมือนหลิวหรูเยียนและขัดเขาเพราะความโกรธได้ยังไง?

หลิวหรูเยียนรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นว่าพ่อกำลังเข้าใจเธอและเย่เทียนผิด เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องตัวเองหรือเย่เทียนให้ฟังยังไงดี

นอกจากนี้เธอพึ่งได้เจอเย่เทียนหลังเขาซื้อหุ้นไปแล้วด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนเห็นหลิวหรูเยียนทำหน้าเจอเรื่องยากจึงรู้สึกตลกที่เธอทำหน้าแบบนี้ เขาจึงอธิบายด้วยตัวเอง “ตอนนี้ฉันมีหุ้น 51%ของบริษัทต้าเฟิง ประธานสวีอยากฝังคำอธิบายอื่นไหม?”

“แก แก แก…”

สวีเทียนจื้อโกรธมากเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของเย่เทียนจนเกือบเหวี่ยงไม้เท้าไปฟาดเย่เทียนแล้ว เขาไม่กล้าพูดกับเย่เทียนเหมือนคนหนุ่มอีกต่อไป

เย่เทียนที่มาจากไหนไม่รู้กล้าดียังไงมาพูดกับเขาแบบนี้?

จากที่มันพูดเมื่อกี้ ถ้ามันต้องการฉันจะรักษาหุ้น20%นี้ไว้ได้อยู่ไหม?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สวีเทียนจื้อจึงระงับความโกรธลงและถามผางเหว่ยพร้อมมองไปทางเย่เทียนและหลิวหรูเยียน “อ้วนสาม เธอบอกฉันทีว่าเย่เทียนมีที่มายังไง แล้วผู้นำบริษัทผางอย่างเธอทำไมต้องเคารพเขาด้วย หรือว่ามีเหตุผลอื่นที่อ้วนน้อยเคารพเย่เทียน”

ตั้งแต่ที่สวีเทียนจื้อเห็นผางเหว่ยเปิดประตูให้เย่เทียนเดินเข้ามาก่อน เขาก็รู้แล้วว่าใครเป็นผู้นำและผู้ตาม

เย่เทียนเป็นผู้นำและผางเหว่ยเป็นผู้ติดตาม

ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายคนที่สามของตระกูลผางที่ชอบทำตัวขี้เล่นกลับเคารพเย่เทียนที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เรื่องนี้ทำให้สวีเทียนจื้อสับสนเป็นอย่างมาก เขาจึงถามขึ้นว่าบริษัทผางถูกเย่เทียนซื้อไปแล้วใช่ไหม

ผางเหว่ยที่กำลังเหม่ออยู่ถูกขัดด้วยความคิดของสวีเทียนจื้อ ถ้าไม่ถูกขัดซะก่อนเขาคงอดใจไม่ไหวที่จะถ่ายรูปไม่หน้าเชื่อตรงหน้าแล้วโพสต์ลงกลุ่มเพื่อน

ให้วงการธุรกิจไห่จิงและกลุ่มคนรวยรุ่นสองที่ พี่ใหญ่ของเขามีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆและยังโค่นสาวงามที่เป็นดั่งภูเขาน้ำแข็งได้โดยไม่ต้องพยายาม

คนที่เข้าใจผิดคิดว่าหลิวหรูเยียนเป็นพวกชอบเพศเดียวกัน ตาสุนัขของพวกมันต้องบอดแล้วแน่ๆ

ข่าวนี้คงเป็นระเบิดให้ความบันเทิงใหญ่กว่าเรื่องที่เย่เทียนซื้อไมบัคเอส600ซะอีก

ใครจะรู้ว่าสวีเทียนจื้อจะเรียกเขาอ้วนสามกับอ้วนน้อย แล้วแบบนี้เขาจะมีเวลาไปถ่ายรูปโพสต์ลงอีกได้ยังไง?

ผางเหว่ยทำได้แค่ถอนหายใจด้วยความโกรธ เขาไม่กล้าละเลยสวีเทียนจื้อที่เป็นผู้อาวุโสในวงการธุรกิจโดยตรง

ยังไงแล้วสวีเทียนจื้อและพ่อของเขาก็เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมาหลายปี อย่าให้สวีเทียนจื้อไปบ่นกับพ่อเขาเรื่องในคืนนี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นเขาคงห้องปวดหูไปอีกกนานแน่

“เอ่อ...ลุงสวีเรียกผมว่าผางเหว่ยไม่ก็อ้วนเหว่ยก็ได้นะครับ สำหรับตัวตนแท้จริงของพี่ชายก็อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ เขาคือผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมของบริษัทต้าเฟิงและเขายังก่อตั้งบริษัทบันเทิงและบริษัทเกมอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เขายังสร้างศูนย์กีฬาสาธารณะโดยไม่แสวงหากำไรบนที่ดิน 20 เฮกตาร์ในเขตพัฒนาภาคเหนือด้วย ส่วนอุตสาหกรรมหรือทรัพย์สินอื่นๆผมไม่รู้แล้ว อ๋อใช่ เวลาว่างพี่ชายชอบไปขายแพนเครป”

ผางเหว่ยบอกสวีเทียนจื้อทุกอย่างในสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเย่เทียน ​​แต่ว่าสวีเทียนจื้อจะเชื่อหรือเปล่าอันนี้เขาไม่รู้

หลังฟังการแนะนำสั้นๆของผางเหว่ย สวีเทียนจื้อก็ตกลงสู่ห้วงความคิด

จากนั้นเขาก็มองเย่เทียนซึ่งมีบรรยากาศแข็งแกร่งจนบดบังหลิวหรูเยียน สุดท้ายเขาก็ถามสิ่งที่เขากังวลที่สุด “เย่เทียน บอกฉันมาตามตรงว่านายมีทรัพย์สินเท่าไหร่”

เขาอยากดูว่าเย่เทียนคู่ควรกับหลิวหรูเยียนและตำแหน่งผู้ควบคุมแท้จริงของบริษัทหรือเปล่า

“ไม่มากเลย แค่ยังไม่ถึงแสนล้าน!”

เย่เทียนพูดอย่างเรียบเฉยแต่ขาของผางเหว่ยถึงกับหมดแรงจนเกือบคุกเข่าลง

ไม่มาก นี่คือไม่มากของมหาเทพ

ยังไม่ถึงแสนล้าน

เย็*แมร่ง

นี่เขาไปอยู่ไหนมา?

ฉันได้ยินอะไรผิดไปใช่ไหม?

โลกนี้มันกลายเป็นสีซีดตั้งแต่เมื่อไหร่?

เงินในกระเป๋าพี่ชายมีเป็นพันล้าน แต่เงินในกระเป๋าของพวกเราคนรวยรุ่นสองมีแค่หลักล้าน

เทียบกันไม่ติดเลยสักนิด

ตอนนี้จู่ๆเขาก็อยากจะแหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะสัก3ครั้งแล้วชวนเหล่าฉินไปกินอาหารร้านญี่ปุ่นที่ไปกินกันบ่อยๆ ถ้าเขาดื่มมากพอเขาอาจจะลืมเรื่องที่เย่เทียนพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจก็ได้

สวีเทียนจื้อที่อยู่ในวงการูรกิจมาหลายทศวรรษถึงกับต้องกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินคำตอบสบายๆเรื่องทรัพย์สินของเย่เทียน เขาพึ่งป่วยได้แค่ไม่กี่ปีทำไมถึงมีมหาเทพซ่อนตัวอยู่ในไห่จิงได้?

ไม่ถึงแสนล้าน อืม ลมหายใจไม่ได้เล็กเลย

ดูเหมือนว่าวิสัยทัศน์ของหลิวหรูเยียนไม่เหมือนใครและสามารถเลือกลูกเขยในอุดมคิตให้เขากับบริษัทต้าเฟิงได้แล้ว