ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 202 ทางแก้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 204 อานุภาพที่แปรเปลี่ยน

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 203 ค่ายทหาร


ตอนที่ 203 ค่ายทหาร

ณ ค่ายทหารของเมืองทาเลส

“ยินดีต้อนรับครับท่านไมล์ ข้ากำลังรอท่านอยู่เลย”

ดัสพูดขึ้นพร้อมก้มหน้าลงเล็กน้อยให้กับผม

หลังจากที่จัดการเรื่องพวกนายทุนเรียบร้อยผมก็เดินทางมาที่ค่ายทหารต่อทันที ตัวค่ายห่างออกจากเมืองเล็กน้อยทำให้เสียเวลาเดินทางพอสมควร บรรยากาศตอนนี้เริ่มมืดแล้ว แต่ก็ยังมีแสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ส่องอยู่บนท้องฟ้าอยู่บ้างให้เห็นประปราย

ตัวค่ายด้านหน้าเองก็เต็มไปด้วยพวกทหารที่เดินไปเดินมา หรือบางคนก็กำลังวิ่งเป็นขบวนเพื่อพากันฟิตร่างกายอยู่ เต็นท์สีขาวจำนวนมากกูถูกวางเอาไว้พร้อมกับมีครกไฟตามทางเดินเพื่อให้แสงสว่างภายในค่ายอย่างทั่วถึง

ด้านกำแพงก็ทำให้มาจากหินอย่างดีที่ลงทุนไปกว่า 2 ล้านเหรียญทอง และผลของกำแพงที่ออกมาก็น่าพอใจมากกว่าที่คิดพอสมควร คาดว่าอีกไม่กี่เดือนรอบเมืองทาเลสต้องเป็นกำแพงหินแข็งแรงแบบนี้แน่นอน เพราะกำแพงค่ายทหารตอนนี้ก็คล้ายๆ ตัวทดลองที่ผมทดสอบดูว่าจะสร้างกำแพงที่แข็งแรงต้องลงทุนเท่าไหร่

ถึงแม้ว่าพวกศัตรูจะบุกเข้ามาไม่ถึงกำแพงก็เถอะ เหอะๆ

หลังจากมองสำรวจบริเวณค่ายสักพักผมก็หันไปทางดัสที่ยืนอยู่ด้านหน้า โดยมีท่าทางหนักใจเล็กน้อยเพราะผมไม่ตอบอะไรมันกลับสักที

“อาวุธใหม่ของทางเราจะทดสอบวันนี้ใช่ไหม?”

ครับท่าน! ตอนนี้เราสั่งผลิตไปแล้ว 100 ชิ้น ถ้าครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดีคำสั่งผลิตเพื่อแจ้งให้เหล่าทหาร 100,000 ชิ้น สามารถทำเสร็จภายในสามวันตามที่ท่านต้องการแน่นอนครับ”

อื้ม! ทำได้ดีมาก งั้นพวกเราก็ไปดูการทดสอบของที่ว่ากันเลยถ้ามีมันละก็กองทัพของเราต้องมีกำลังรบเพิ่มขึ้นมากแน่นอน”

“ครับ”

คุยจบดัสก็เริ่มออกเดินเพื่อนำทางทันที โดยระหว่างที่เดินผ่านค่ายพวกทหารก็หยุดแล้วทำความเคารพผมหมด ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถสร้างกองทัพที่ใช้ระบบขั้นได้สำเร็จแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วการควบคุมทหารหลายแสนคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

….

…..

หลังจากที่เดินมาสักพักก็มาถึงจุดทดสอบที่พูดถึง สถานที่ทดสอบเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ที่มีทหารเผ่าพลังมนุษย์ทั้งหนึ่งร้อยคนยืนอยู่เป็นแถวหน้ากระดานอย่างสวยงาม แล้วในมือของพวกนั้นก็ถืออาวุธปืนเอาไว้ แต่มันไม่ใช่ปืนธรรมดา

ส่วนในจุดที่ห่างจากพวกทหารประมาณ 500 เมตร ก็เต็มไปด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่ประมาณสิบคนโอบตั้งเอาไว้อยู่หลายสิบท่อน บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าต้นไม้ของโลกนี้มันใหญ่เกินไปหรือเปล่า แต่ช่างเถอะตอนนี้มาสนใจการทดสอบก่อนดีกว่าเรื่องต้นไม้ปล่อยมันไป

“บอกทหารว่าถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มทดสอบได้เลย โดยเริ่มยิงจากหนึ่ง สิบแล้วก็ร้อย”

“ครับท่าน”

ผมหันไปสั่งดัสที่ยืนด้านข้างของผมทันทีเมื่อมาถึง จากนั้นดัสมันก็เดินไปตามคำสั่งที่ได้รีบโดยตรงเข้าไปหาพวกทหารทันที

ส่วนอาวุธชนิดใหม่ที่คล้ายปืนนั่นมันมีชื่อเรียกว่า ปืนเวทย์! อาวุธชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพราะได้ความรู้ใหม่จากพวกเอลฟ์เกี่ยวกับหินเวทย์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทวีป

หินเวทย์นั้นมันเป็นหินชนิดพิเศษที่มีพลังเวทย์อัดแน่นอนเอาไว้ด้านใน แต่ว่าด้วยความรู้ของมนุษย์เลยไม่รู้วิธีใช้พวกมันก็เลยเอามาทำเพียงเครื่องประดับเท่านั้น เพราะมันสวยงามราวกับเพรช

ถ้าให้เปรียบมันก็คงเป็นเหมือนกับทองหรือเพรชในโลกที่ผมจากมานั่นแหละ  แต่หลังจากที่ได้รู้วิธีดึงพลังเวทย์ออกมาใช้ผมก็มีความคิดใหม่ทันที แล้วก็เริ่มออกแบบปืนเวทย์ขึ้นมาโดยอิงจากปืนเป็นหลัก

แต่ครั้งนี้แทนที่จะใช้กระสุนปืนในการโจมตี กลับมาใช้พลังเวทย์จากหินเวทย์เป็นพลังงานแทนเพราะมันสะดวก แถมพวกทหารที่ไม่มีพลังเวทย์ก็ยังสามารถใช้ได้ด้วย ส่วนเรื่องพลังการทำลายของมันถ้าเป็นไปตามที่ผมคำนวณเอาไว้ละก็ หึหึ!

“ท่านไมล์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”

ดัสที่เดินกลับมาถึงผมก็พูดออกมาทันที แล้วพอมองไปยังพวกทหารก็มีทหารหนึ่งคนก้าวออกมาด้านหน้าเด่นกว่าทหารคนอื่นเอาไว้อยู่แล้ว และหมอนั่นก็กำลังมองมาทางผมเพื่อรอสัญญาณการเริ่มทดสอบ

จากนั้นผมก็พยักหน้าขึ้นลงเพื่อเริ่มแล้วทหารก็คนนั้นหันปลายกระบอกปืนเวทย์ตรงไปยังท่อนไม้ด้านหน้าทันที โดยหลังจากที่หันไปทหารก็เอาหินเวทย์ใส่ไปยังกลางปืนที่เป็นช่องบรรจุ ตามตัวอย่างการใช้งานที่ผมได้สอนไป

แล้ว

ตูม!!!!

การทดสอบอาวุธปืนเวทย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยเสียงที่ดังออกมากดังกว่าปืนปกติประมาณสองหรือสามเท่า แต่เรื่องเสียงไม่เท่าไหร่เพราะมันไม่ได้มีผลอะไรขนาดนั้น

หลังจากที่ผมการยิงก็มีแสงสีเขียวพุ่งเข้าไปยังจุดที่ท่อนไม้อยู่ทันที ทุกสายตาต่างก็จ้องมองไปที่มันเพื่อรอดูพลังการทำลายตัวผมเองก็มองไปเช่นกัน แต่ว่าเมื่อมันปะทะเข้ากับท่อนไม้ไปก็เกิดเรื่องที่มันไม่สมควรจะเป็นเกิดขึ้น

“นะ นี่มันเป็นไปได้ยังไง”

ผมมองไปที่ท่อนไม้ด้วยความแปลกใจหลังจากที่เห็นผลพลังทำลายที่มันออกมา  ซึ่งสภาพของท่อนไม้ที่โดนโจมตีไปนั่นมันแทบไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

เรื่องมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง???

นี่เราผิดพลาดงั้นเหรอ???

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด