ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 34 : เก็บค่าทำขวัญก่อนจากลา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 36 : ดังขึ้นอีก ร้องให้ดังขึ้นอีก!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 35 : หืม? มีสมบัติอยู่ตรงนั้น?


ตอนที่ 35 : หืม? มีสมบัติอยู่ตรงนั้น?

“ต้องขอบคุณท่านหลินเปาแล้ว หากมิใช่เพราะท่าน สกุลเซียวคงไม่ยอมให้พวกเราจากมาได้ง่ายดายนัก”  หลังออกมาจากตระกูลเซียวได้ ซวนชูแสดงความขอบคุณต่อตาแก่เปาอย่างนอบน้อม

ตาเฒ่าเปาเพียงโบกมือเล็กน้อย  “ไม่นับเป็นสิ่งใดได้  สกุลเซียวไม่ได้โง่งมถึงเพียงนั้น มิต้องอาศัยข้า พวกเจ้าก็ยังคงรอดมาได้อย่างปลอดภัย”

“หากจะต้องขอบคุณใครสักคน  ก็มอบมันให้เจ้าเซียนน้อยคนนี้เถิด  หากไม่มีเขา ข้าเกรงว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเท่าใดนัก”

หลินเปาหัวเราะออกมาเล็กน้อย เป็นที่แน่นอนแล้วว่าบัดนี้เขากำลังอารมณ์ดีอย่างยิ่ง  ก่อนหน้านี้ ตอนที่ปรากฏการณ์ปะทุขึ้น หลินซวนได้เปิดเผยเนตรสวรรค์นัยน์ตาหยินหยางออกมา แม้เขาเองจะไม่มีความรู้มากพอจะบอกได้ว่าดวงตาทั้งสามของหลินซวนนั้นมีอานุภาพเพียงใด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความลี้ลับและทรงพลังของมัน

เพียงชั่วขณะที่เขาได้เห็นแววตานั้น ราวกับถูกดูดไปใจกลางดาราจักร หมู่ดาวมากมายปรากฏขึ้นรอบกาย โลกทั้งใบสามารถคว้ามาไว้ในอุ้งมือได้ ความลับฟ้าดินคล้ายผุดขึ้นในจิตใจ

“ช่างน่าเสียดาย เหตุการณ์นี้จางหายไปเร็วยิ่งนัก ข้ายังเกาะเกี่ยวได้ไม่เต็มอิ่มเลย....”  ตาแก่เปาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมาเมื่อนึกถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหน้านี้

ดวงตาพบแสงสวรรค์ และกลิ่นอายรอบกายหลินเปาก็ทรงพลังขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พอสมควรทีเดียว ชัดเจนเลยว่าเขาได้รับโชคก้อนใหญ่พอตัว

“ฮ่าๆ กลับไปขวนครานี้ พวกตาแก่ที่เหลือต้องอิจฉาข้าอย่างแน่นอน!”  ตาเฒ่าเปาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ซวนชูและซวนหยานหรานเพียงมองกันและยกยิ้มเท่านั้น  ดวงตาของพวกนางเรืองแสงขึ้น และไอปราณรอบก็ปะทุออกมา โอกาสใหญ่ที่เกิดขึ้นพวกนางได้รับบางสิ่งเช่นกัน

ซวนชูมองไปยังทารกน้อยและอดจะทอดถอนใจออกมามิได้  เพียงแรกเกิดยังสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนใต้หล้าเช่นนี้  หากเติบใหญ่ต่อไป จะทำให้ทั่วหล้าสั่นสะท้านมากถึงเพียงไหนกัน?

ครานั้นที่นางมองนัยน์ตาของหลินซวน ราวกับมองเห็นโลกทั้งใบสยบอยู่แทบเท้า

ในอีกด้านหนึ่ง ซวนหยานหรานมิได้ใส่ใจสิ่งใดมากนัก  การได้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลเซียวนั้นราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถ่วงจมอยู่ในใจนางถูกยกออกไป

เด็กสาวลูบแก้มของหลินซวนเบาๆ และมองเขาหลับใหล

ตอนที่ได้เห็นดวงตาแวววาวเต็มไปด้วยประกายราวกับหมู่ดาวนั้น ใจของนางก็หลอมละลายให้แก่เขาเสียแล้ว

เด็กหนุ่มผู้นั้นย่อมต้องเป็นหลินซวนน้อยในวัยเยาว์แน่นอน  ช่างหล่อเหลาอย่างร้ายกาจยิ่ง

ทั้งสามต่างก็มีความคิดในใจแตกต่างกันไป แต่ล้วนเปี่ยมด้วยความสุขล้น  ส่วนหลินซวนที่ในขณะนี้นอนอยู่ในอ้อมแขนผู้อื่น เขากำลังมองไปรอบตัว ตอนนี้ดวงตาที่สามกลางหน้าผากเขานั้นไปปิดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนัยน์ตาหยินหยางก็กลับมาสู่รูปแบบม่านตาปกติ แม้หลินซวนจะไม่ได้เกรงกลัวผู้ใด  แต่การจะเก็บงำความสามารถไว้ก็ย่อมดีกว่าเปิดเผยออกไปทั้งหมดมิใช่หรือ?

‘มุมมองที่ได้รับจากทักษะนัยน์ตาหยินหยางช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!’  หลินซวนน้อยอุทานขึ้นในใจ

ในการมองเห็นของเขานั้น โลกรอบกายแตกต่างออกไปจากที่คนปกติได้เห็น

โดยปกติ หากเขามองไปยังป่าทึบเบื้องหน้า สิ่งที่เห็นจะมีเพียงสีเขียวจากต้นไม้ใบหญ้าตามธรรมชาติเท่านั้น  แต่เมื่อเขาใช้ทักษะนัยน์ตาหยินหยาง สิ่งต่างๆก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

สมุนไพรโอสถเรืองแสงสีเขียว ส่วนสิ่งที่เป็นอันตรายจะเปล่งแสงสีแดง

อักขระเต๋าที่ดูเก่าแก่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า และหินวิญญาณนับไม่ถ้วนถูกกลบฝังอยู่ใต้ดิน!

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อมองไปยังทิศทางของแดนรกร้างโบราณ เราสามารถมองเห็นถึงสถานที่ที่มีปราณวิญญาณกระจุกตัวกันอย่างเข้มข้น พบที่อยู่ของสัตว์อสูรทรงพลัง แม้กระทั่งสัญญาณของความโชคดีก็ปรากฏภายใต้สายตาของเขา!

ในรัศมีกว่าสามร้อยลี้ ข้อมูลของทุกสิ่งถูกแสดงแก่เขาด้วยทักษะนัยน์ตาหยินหยาง!

แม้กระทั่งปราณวิญญาณฟ้าดินก็ปรากฏตัวอย่างชัดเจนด้วยการมองเห็นของเขา!

ปราณวิญญาณฟ้าดินลอยอยู่ในอากาศ กระจายตัวอยู่ทุกที่ เปล่งแสงจางๆสีขาวนวลสบายตา

หลินซวนเบนสายตาไปยังอาวุโสหลิน ก่อนจะพบว่าร่างกายของตาแก่เปาผู้นี้ปกคลุมด้วยแสงบางๆหลายชั้นคล้ายมีผ้าม่านบังอยู่ เขาไม่สามารถจะมองทะลุเข้าไปได้

ส่วนร่างกายของซวนชูนั้นเต็มไปด้วยรูปแบบหลากหลายดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งนัก

แม้จะใช้ออกด้วยทักษะเนตรสวรรค์หรือนัยน์ตาหยินหยางก็ยังมิสามารถมองร่างของสองเฒ่าผู้นี้ให้ทะลุปรุโปร่งได้  ตอนนี้หลินซวนทำได้เพียงรับรู้ถึงอันตรายที่มากล้นเท่านั้น

“อืม...ดูเหมือนว่าระดับดินแดนปราณของข้าจะยังมิสูงมากพอ”

คิดได้ดังนั้น เขาก็เปลี่ยนไปมองยังแดนรกร้างแห่งนั้นต่อ

“ส่วนใหญ่ก็แค่สมบัติธรรมดาเท่านั้น อย่างไรเสีย ที่นี่ก็เป็นเพียงเขตแดนด้านนอกของดินแดนโบราณเท่านั้น”

ในระหว่างที่หลินเปาและคนอื่นๆยังคงใช้เวลาในการปรับสภาพร่างกายเนื่องจากการเลื่อนขั้นอยู่นั้น  หลินซวนก็ยังคงมองสำรวจไปทั่วรัศมีสายตาของเขาเพื่อค้นหาสมบัติในบริเวณโดยรอบต่อไป

รัศมีถึงสามร้อยลี้นับว่ามิใช่ชั่ว แต่หากเทียบกับความกว้างใหญ่ของแดนรกร้างแล้ว ก็นับได้ว่าเป็นแค่เพียงพื้นที่ส่วนเล็กๆของมันเท่านั้น

แต่ถึงแม้ว่าสมบัติเหล่านั้นที่หลินซวนค้นพบจะเป็นเพียงของสามัญในสายตาเขา แต่สำหรับผู้บ่มเพาะคนอื่นแล้ว นี่คือของมีค่าที่พวกยอมต่อสู่จนตัวตายเพื่อให้ได้มา!

สมบัติทั้งหลายนั้นถูกซ่อนอยู่ในมุมมืดและลึกลับทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น สุดปลายถ้ำที่ลึกลงไปถึงสิบลี้ ใจกลางบ่อหินหลอมเหลว ที่นั่นมีสาหร่ายวิเศษขึ้นอยู่หนาแน่น  สมบัติเหล่านี้ล้วนมีจิตวิญญาณในตัวเอง พวกมันเลือกที่จะซ่อนตัวในสถานที่ลึกลับและอันตรายเพื่อความอยู่รอด  แต่น่าเสียดาย ภายใต้สายตาของหลินซวนแล้วก็นับว่าไร้ประโยชน์ยิ่ง ที่อยู่ของพวกมันถูกเปิดเปลือยออกมาเหมือนตั้งอยู่แทบเท้าเบื้องหน้าเท่านั้น

หลินซวนขดตัวอยู่ในวงแขนของซวนหยานหรานและยังคงมองหาสิ่งที่น่าสนใจต่อไปเรื่อยๆ  เพียงชั่วพริบตาก่อนที่เขาจะละความสนใจจากแดนรกร้างนั้น จู่ๆประกายแสงแผ่วจางก็กะพริบผ่านสายตาเรียกความสนใจของเขา!

มันคือรัศมีแสงสีเทาบางเบา ซุกซ่อนอยู่ในมุมหนึ่งของแดนรกร้าง ชิดกับรอยต่อระหว่างดินแดนและสามัญเสียจนปกติแล้วคงไม่มีผู้ใดใส่ใจ  อย่างไรเสีย เมื่อเพ่งมองไปยังกลุ่มแสงนั้นให้ดี หลินซวนก็พบกับแท่นบูชาที่ทรุดโทรมแต่กลับเปล่งประกายแสงห้าสีออกมา!

หากเป็นเพียงแค่แท่นบูชาธรรมดา หลินซวนคงไม่ใส่ใจนัก เพราะถือว่ามันเป็นสิ่งของสามัญที่พบได้ทั่วไปเท่านั้น

แต่ว่า ในตอนที่หลินซวนจ้องมองไปยังบริเวณนั้น ดวงตาที่สามกลางหน้าผากของเขาก็เปิดขึ้นพร้อมสายประกายแสงสีทองเรืองรอง!!

เนตรสวรรค์เปิดออก นัยน์ตาหยินหยานทำงาน!  เพ่งมองกลุ่มแสงให้ดีก็ปรากฏเป็นอักขระบางอย่างจำนวนมาก!

อักขระเหล่านี้ล้วนดูเก่าแก่ดึกดำบรรพ์และไม่สมประกอบ แต่ถึงกระนั้น เวลาผ่านไปแสนนานเพิ่งใด พวกมันก็ยังคงทำงานอยู่!

นี่มัน.....มีสมบัติบางอย่างอยู่ที่แท่นบูชาผุผังนั่นอย่างนั้นหรือ?

มองเห็นเหตุการณ์นี้ หลินซวนอดไม่ได้ที่จะมุ่งความสนใจไปทันที!

5 3 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด