ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 48 ชาร์ลลี แซนเดอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 50 ตรวจเช็คความทรงจำ

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 49 ไม่เป็นที่ต้องการของใคร


วาเรี้ยน รู้สึกเจ็บปวดจากภายในร่างกายอย่างมาก กระดูกที่หัก กล้ามเนื้อฉีกขาด หลอดเลือดที่แตกก็ไม่สามารถหยุดเขาจากความต้องการที่จะยืนขึ้นของเขาได้

ชาร์ลลีหันกลับมาและเลิกคิ้ว ซาร่าห์และผู้คนต่างประหลาดใจ

“ฉัน” วาเรี้ยนรู้สึกเจ็บแสบร้อนจากลำคอในขณะที่เขาพยายามจะพูด

ผู้คนเงียบไม่มีใครพูดอะไรขณะฟังคำประกาศที่น่าขยะแขยงที่สุด

อันดับ 1 น่ะมีได้แค่คนเดียวถ้าจะต้องใช้อันดับ 1 ร่วมกับนายฉันขอตายดีกว่า ฉันจะเอาชนะนายและก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1

ชาร์ลลีอยู่ปีที่สาม ดังนั้นถ้าวาเรี้ยนจะทำตามที่เขาพูดจริงๆ เขาจะต้องเอาชนะชาร์ลลีให้ได้ก่อนที่ชาร์ลลีจะจบการศึกษา

ก่อนหน้านี้นักเรียนชื่นชมความกล้าหาญของวาเรี้ยนในการต่อต้านชาร์ลลี แต่ตอนนี้คำพูดของเขาดูเหมือนจะทำให้หลายคนไม่พอใจ

แม้แต่ซาร่าก็เงียบไป

ชาร์ลลีเป็นอันดับ 1 ตัวจริงอย่างเถียงไม่ได้ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เก่งที่สุด มีไหวพริบมากที่สุด

ระดับ 9 หลายคนและแม้แต่จักรพรรดิสองสามคนพูดในหลายโอกาสว่าเขาจะก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุด

เขาเป็นระดับ 4 เมื่อตอนที่เขาเข้าร่วมสถาบันในปีแรก ภายในสิ้นปีที่สองเขาอยู่ในระดับ 6 ส่วนใหญ่คาดว่าเขาจะเข้าสู่ระดับ 7 ในเวลาไม่เกินสองปี

เขาอายุเพียง 22 ปีและระดับ 7 บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์

'เขาไม่มีทางทำได้' ทุกคนคิดขณะมองไปที่วาเรี้ยน

ชาร์ลลีมองดูวาเรี้ยน ต่อจากนั้นก็ดูซาร่าห์ก็ส่ายหัว เขาเริ่มมองเห็นชาร์ลพร่ามัวมากขึ้น ห่างออกไป 50 เมตร 60 70 ...จนหายไป

มีเพียงเสียงของคนที่มามุงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ "ฉันหวังว่าทุกคนจะรู้ดีว่าถ้าคบหากับคนที่ท้าทายแซนเดอร์จะเป็นยังไง"

ทุกคนในฝูงชน รวมทั้งอาจารย์ตัวสั่น

มันจะกลายเป็นอีกเรื่องที่แตกต่างออกไปหากครอบครัวแซนเดอร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ครอบครัวแซนเดอร์เป็นผู้ปกครองโลกที่ไม่ได้สวมมงกุฎ จูเลียส แซนเดอร์ เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุด

หลายคนในรุ่นนี้เชื่อว่าเขาจะเหนือกว่าจักรพรรดิคนอื่นๆและไปถึงจุดสูงสุดของมนุษย์ มีแม้กระทั่งลัทธิที่เชื่อว่าเขาจะเป็นผู้กอบกู้มนุษยชาติ

ไม่ผิดที่จะบอกว่า จูเลียส แซนเดอร์ อาจเป็นมนุษย์คนที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีชีวิตอยู๋

เมื่อครอบครัวแซนเดอร์เติบโตขึ้น ประเด็นก็เปลี่ยนจากปัญหาของชาร์ลลี แซนเดอร์ เป็นปัญหาของแซนเดอร์

นักเรียนทุกคนอย่าไปร่วมทีมกับเขา ไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิตของพวกเขาโดยการร่วมทีมกับวาเรี้ยน

อาจารย์ซึ่งตอนแรกต้องการแอบช่วยวาเรี้ยนก็ล้มเลิกแผนไปเช่นกัน

ซาร่าห์มองไปที่วาเรี้ยนและส่ายหัวเธอจากไปอย่างเงียบๆ

แม้แต่อาดีร์ที่เข่าหักก็ยังคลานออกไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเพียงไม่กี่นาที มีเพียงวาเรี้ยนเท่านั้นที่ยืนอยู่ในทุ่งกว้าง

เขาสั่งการ "ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์"

{การต่อสู้ของคุณเป็นเรื่องส่วนตัว คุณต้องจ่ายค่ารักษาด้วยตัวคุณเอง ปัจจุบัน MP ของคุณคือ 0}

วาเรี้ยนอ่านข้อความแล้วหัวเราะ

ลากร่างที่หักของเขาเข้าไปในหอพัก

ประตูห้องของหอพักของเขาเปิดออกและเมื่อเปิดเข้าไปเขาไม่เจอใครเลย เห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมรุ่นของเขาไม่มีใครที่จะอยากแม้แต่จะคุยกับเขา

'ขอบคุณมากนะฉันจะได้ใช้ของส่วนกลางได้เหมือนของส่วนตัว'

วาเรี้ยนเข้าห้องน้ำและอาบน้ำ กระเป๋าสัมภาระของเขาถูกจัดเตรียมมาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่บ้านโดยอิชช่าแล้ว

เขาหยิบกล่องยาออกมาและใช้การรักษาขั้นพื้นฐานกับบาดแผลของเขา แม้ว่าจะไม่หายทันที แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 2 เขาจะหายในไม่กี่ชั่วโมง

วาเรี้ยนปิดหน้าต่างด้วยคำสั่งและสูดหายใจเข้าลึกๆ

เขาทรุดตัวลงบนเตียงและนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้

เป็นวันที่แย่ที่สุดในการเริ่มต้นสถาบันการศึกษา ก่อนที่เขาจะนอน การแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในการสื่อสารของเขา

{คุณถูกลงโทษ 20 คะแนนสำหรับพฤติกรรมก้าวร้าวของคุณ ทุกวันพิเศษจะเพิ่มคะแนน MP หนึ่งคะแนน}

"นั่นคือสิ่งที่ฉันรอคอยที่จะได้ยินมาตลอด" วาเรี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงประชด

เขาเหลือบมองเพดานและพยายามทำให้ตัวเองร่าเริง

เขาถูกแบนตั้งแต่มาวันแรก แม้ว่าเขาจะมองโลกในแง่ดี แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเขาจะโดดเดี่ยวจากทั้งนักศึกษาและอาจารย์

เขาอยู่คนเดียวอีกแล้ว

วาเรี้ยนยิ้มให้กับตัวเอง บางทีเขาอาจจะบ้าไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไร

ถ้าเขาคุกเข่าลงขอโทษสิ่งต่างๆ ก็คงไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้นวาเรี้ยนที่เขารู้จักก็จะหายไป

ศรัทธาในตัวเขาพังทลายในคืนนั้น เขายังคงฝันถึงคืนนั้นบ้างบางครั้ง เขาไม่เคยลืมว่าเขาตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวและไม่สามารถช่วยแม่ไว้ได้

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลิกพยายาม

แม้ตอนนี้ แม้จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีบางครั้งที่เขาต้องการเลิกทุกอย่างและกลับไปสู่ความมืดมิดของเขา

ที่จะอยู่คนเดียวอีกครั้ง ที่จะไม่ลองทำอะไรอีก เพื่อโน้มน้าวตัวเองว่าเขาไม่สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ ว่าความฝันของเขาเป็นเพียงความฝัน

วาเรี้ยนมีความคิดเหล่านั้นทั้งหมด แต่… มีบางอย่างในตัวเขาทำให้เขาต้องดำเนินต่อไป

ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นคำพูดสุดท้ายของแม่ของเขา แต่ตอนนี้เขาสามารถพูดได้ว่าส่วนใหญ่ของมันคือความปรารถนาที่จะมีชีวิตอีกครั้ง

คำพูดของเธอทำให้เขาได้รับแรงผลักดัน

เขาอยากจะเชื่อในตัวเองอีกครั้ง บางทีความฝันทั้งหมดของเขาอาจไม่ใช่แค่ภาพลวงตาของเขา

บางทีตลอดเวลาหลายปีที่เขาฝึกฝนอาจคุ้มค่า บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เขาภาคภูมิใจ

บางทีเขาอาจจะกลายเป็นผู้กอบกู้ อาจนำมาซึ่งความสงบสุข อาจจะ...

แต่วาเรี้ยนแค่ก้าวออกมาจากความซึมเศร้าแค่ก้าวเดียวหลังจากนั้นไม่นานเขาก็จะตกลงไปในห้วงความซึมเศร้าเหมือนเดิม สิ่งที่ทำให้เขาไม่เป็นแบบนั้นคือความก้าวหน้าและชัยชนะอย่างต่อเนื่องของเขา

ถ้าเขาล้มเหลว เขากลัวว่าเขาจะกลับไปเป็นแบบเดิม และครั้งนี้จะไม่มีอะไรดึงเขากลับมาได้

'ฉันต้องเข้มแข็ง' วาเรี้ยนให้กำลังใจตัวเอง

'ฉันมาไกลมากแล้ว ฉันไม่ต้องการที่จะนอนบนโซฟาโดยหวังว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกและหวังว่าปัญหาทั้งหมดของฉันจะได้รับการแก้ไขด้วยปาฏิหาริย์ การหายใจของวาเรี้ยนรุนแรงขึ้น

เขารู้สึกจุกในลำคอ เขานึกถึงความสิ้นหวังและความเหงาอย่างแท้จริงที่เขารู้สึก

'ฉันเชื่อในตัวเอง ฉันจะไม่ล้มเหลวอีกครั้ง ฉันจะไม่... ฉันจะไม่หยุดนิ่งเมื่อคนที่ฉันต้องการปกป้องกำลังตกอยู่ในอันตราย...ฉัน...' วาเรี้ยนค่อย ๆ หลับไป

ในเวลาต่อมาวาเรี้ยนพบว่าตัวเองตื่นอยู่ แต่ทุกอย่างก็มืดมิด เขาพยายามลืมตา เขาพยายามขยับร่างกาย

แต่ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนกับมีโซ่มาล่ามเขาอยู่

“อ๊ะ!” ในที่สุดวาเรี้ยนก็สามารถลืมตาได้

เขาพบว่าตัวเองอยู่ในโถงทางเดินที่คุ้นเคย มันคือโถงทางเดินของโรงเรียนประถมของเขา

เด็กสองสามคนกำลังล้อมรอบใครบางคน

"เฮ้!" วาเรี้ยนมองด้วยความประหลาดใจเมื่อเด็กคนนั้นเดินผ่านเขาไป

เขามองดูตัวเองและรู้ว่าตัวของเขาโปร่งใส

“นายแพ้แล้ว”

“นายคือคนที่คะแนนห่วยที่สุดในห้อง”

"นายใช้เวลาทั้งวันในโรงยิม และไปเรียนสายทุกวัน"

อย่างไรก็ตามการเยาะเย้ยเหล่านั้นฟังดูคุ้นเคย

วาเรี้ย เดินไปหาเด็กๆที่อยู่รอบๆใครบางคนและดวงตาของเขาเบิกกว้าง

เขาเห็นตัวเองตอนที่อายุ 13 ขวบเขาถูกทุบตีและฟกช้ำทั้งตัว

มีเด็กประมาณ 5 คนอายุเท่าเขาที่มีบาดแผลต่างกันไป แต่พวกเขารวมตัวกันและด่าเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะล้มลง

“รีบออกไปซะ นายมันน่ารำคาญ”

“ไม่ใช่ว่านายจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นเหมือนพ่อของนายหล่ะไปเป็นทหารแล้วตายอะ”

"ฮ่าๆๆๆ"

"ตี!"

วาเรี้ยนที่อายุน้อยก็ตบที่คางของเด็กแล้วผลักเขาออกไป

เสียงที่อ่อนวัยของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "อย่าดูถูกพ่อของฉัน"

ฉากนั้นน่าเกลียดและกลายเป็นการทะเลาะวิวาทของวาเรี้ยนวัยเด็ก แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงกว่าก็ตาม อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของเขาทั้งหมดถูกน็อกเอาต์

"สัตว์ประหลาด..."

“นายมันไอ้คนไม่เอา”

“ก็แค่ต่อสู้ตลอดทั้ง”

เด็กๆ ที่ชมการต่อสู้วิ่งหนีไปและด่าเขา

วาเรี้ยนวัยเด็กไม่ได้ต่อยหรือด่าพวกเขากลับไปเพราะพวกเขาไม่ได้ด่าพ่อของวาเรี้ยน

เขาเดินออกจากอาคารเรียนและนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เขามองดูเด็กทุกคนที่อายุเท่าเขาเล่นกับเพื่อนๆ พูดคุยกันและหัวเราะอย่างมีความสุข

แต่เขาไม่มีใครเลย เขากัดฟันและกำหมัด

'ฉันจำได้แค่คร่าวๆ แต่... วันนั้นฉันอยู่ที่นี้จริงๆ เดาว่าฉันถูกลิขิตให้อยู่คนเดียว วาเรี้ยนตามแวเรียนวัยเด็กออกไปและส่ายหัว

หนุ่มวาเรี้ยนพึมพำ “ฉันจะอยู่คนเดียว…..”

จากนั้นความอบอุ่นก็โอบล้อมเขาขณะที่เขารู้สึกว่ามีคนกอดเขาจากด้านหลัง

“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว” เธอพูด

วาเรี้ยนวัยเด็กหันกลับมา

ผมสีน้ำตาลยาวของเธอแตะคอของเขา และดวงตาสีทองของเธอจ้องมาที่เขา

วาเรี้ยนและวาเรี้ยนวัยเด็กต่างก็พูดพร้อมกัน

“เซีย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด