ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 31 : เซียวซุ่ยผู้โชคร้ายกระอักเลือด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 33 : ป่าดึกดำบรรพ์ สายตาจากห้วงเหวลึก!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 32 : เพียงปรายตามอง ตระกูลเซียวก็แทบล้มละลาย...


ตอนที่ 32 : เพียงปรายตามอง ตระกูลเซียวก็แทบล้มละลาย...

ในที่สุดดวงตาที่แสนน่าหวาดหวั่นดวงนั้นก็กระพริบปิดลง  หลินซวนที่ในที่สุดก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้แล้วอดมิได้จะรู้สึกยินดีอยู่พอสมควร

แม้เขาจะยังคงขยับตัวไม่ได้ แต่อย่างน้อยกว่าได้มองด้วยตาเนื้อของตนเองก็ดีกว่าการมองผ่านสัมผัสวิญญาณเป็นไหนๆ!

หากมองให้ดี นัยน์ตาหยินหยางที่เป็นม่านตาของเขานั้นมีฉากของการก่อร่างฟ้าดินอยู่  ส่วนดวงตาส่วนที่เหลือถ้าเพ่งมองให้ดีจะสัมผัสได้ถึงความโกลาหลและประกายแสงสีทองหมุนวนภายใน  หลินซวนค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ

กล่าวตามตรง นัยน์ตาหยินหยางและเนตรสวรรค์นั้นนับว่ามีการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่ เพียงแต่เขามิจำเป็นต้องเปลี่ยนจุดวางสายตา แค่ใช้ความคิดก็สามารถกระตุ้นการทำงานของทักษะแต่ละอย่างได้ตามใจนึกทันที

ด้วยความสามารถที่ได้รับมา เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวได้ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะด้านหน้า ด้านหลัง ซ้ายหรือขวา แม้กระทั่งในเงาก็ตามแต่...

ทุกอย่างในห้องโถงตระกูลเซียว บัดนี้อยู่ภายใต้การสังเกตของเขาทั้งสิ้น!

แม้กระทั่งขนทุกเส้นของนกที่บินห่างไปหลายลี้ทางด้านหลังของเขา ยิ่งกว่านั้น ด้วยทักษะทั้งสองนี้ หลินซวนถือได้ว่าไม่มีจุดบอดทางการมองเห็นโดยสิ้นเชิง!

ค่ายกล เส้นทางลับ เขตหวงห้ามทั้งหมดของตระกูลเซียว บัดนี้เขารับรู้ทุกสิ่งได้อย่างทะลุปรุโปร่ง!

“อะไรอยู่ตรงนั้นกัน?”

“ช่างเป็นค่ายกลที่แปลกประหลาดนัก”

“ดูเหมือนว่าห้องเก็บสมบัติของพวกเขาจะฝังอยู่ใต้ดินบริเวณนั้น มีค่ายกลกับดักวางอยู่อีกสามสิบหกชั้นด้วยกัน  คาดว่าคงมีของสำคัญมากอยู่ในนั้นสินะ”

“โอ้ นี่มันเหมืองหินวิญญาณระดับสูง!  ทางเข้าถูกกลบซ่อนด้วยวิธีนี้นี่เอง!”

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีผู้ใดรับรู้มาก่อน  ข้าไม่คิดเลยว่าสกุลเซียวจะร่ำรวยถึงเพียงนี้....”

หลินซวนกำลังขบคิดกับตัวเอง  ด้วยทักษะทั้งคู่ที่เขาได้รับมานั้น ทุกสิ่งของตระกูลเซียวย่อมอยู่ภายใต้สายตาทั้งหมดของเขา ไม่ว่างจะเป็นค่ายกลที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถจะต่อต้านเขาได้!  และยิ่งเขาควบคุมความสามารถนี่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของมันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น!

ด้านนอกตระกูลเซียว เมืองอู๋ตันในเวลานี้นั้นราวกับว่าเวลาเดินช้าลงเรื่อยๆ คล้ายกับกฎเกณฑ์ของโลกบริเวณนี้กำลังผิดแผกไป!  ครานี้ ชาวเมืองทั้งหลายกลายเป็นเหมือนกับผีดิบ เดินอย่างเอื่อยเฉื่อยไปมาบนท้องถนน ดวงตาไร้แวว

ท้ายที่สุด ไม่เพียงแค่คนตระกูลเซียวเท่านั้น แต่รวมถึงซวนชู ซวนหยานหราน และตาแก่เปาเองก็กำลังอยู่ในสภาวะที่สับสน คล้ายกึ่งหลับกึ่งตื่นในขณะนี้!

หากมีใครสักคนได้สติและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า ตงจะตกใจจนตายได้อย่างแน่นอน!  จะมีอัจฉริยะคนใดเลยสามารถพอจะสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้อีก!

“ทักษะเนตรสวรรค์ นัยน์ตาหยินหยางนี้...นับว่าใช้งานไม่ง่ายนัก ข้าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่กว่าจะสามารถควบคุมมันได้อย่างเต็มที่”

แม้เขาจะมองเห็นทะลุทะลวงทุกสิ่งได้ในเวลานี้ แต่ยังห่างไกลจากการใช้ทักษะที่ได้รับมาเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังทำลายนัก

แม้ความสามารถนี้จะตื่นขึ้น แต่ในความจริงแล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเมืองอู๋ตันล้วนเป็นเพราะระบบทั้งสิ้น  หากหลินซวนต้องการที่จะใช้พลังในการหยุดเวลานี้ เขายังคงต้องบ่มเพาะฝึกฝนไปอีกนาน

“แต่อย่างน้อยข้าก็ได้รับสิ่งใหม่ๆมาบ้างล่ะนะ”

“จะให้กลับไปมือเปล่าทั้งๆที่เดินทางมาถึงนี่แล้วก็ดูจะไม่ได้เสียด้วย...”

“ข้าจะเก็บเอาสมบัติบางอย่างที่น่าสนใจติดไม้ติดมือไปด้วยก็แล้วกัน  เอาล่ะ มาลองทดสอบทักษะใหม่ที่ได้มากันดีกว่า”

เพียงคิด เขาก็หายใจเข้าลึกและเบนสายตาลง จากนั้นพลังงานบางส่วนก็ไหลออกจากดวงตาของเขาและแทรกลึกลงไปยังพื้นเบื้องล่าง

…..

นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่หลินซวนได้ลองใช้งานทักษะเนตรสวรรค์นัยน์ตาหยินหยางที่เพิ่งได้รับมา   รอบตัวเขาตอนนี้ มนุษย์ทั้งหลายกำลังตกอยู่ในสภาวะมึนงงสับสน เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า  ในสถานการณ์ตอนนี้กลับมีร่างหนึ่งที่ยังคงสติได้อย่างเป็นปกติ

แกร๊ก!

เศษดินและหินร่วงหล่นกระทบพื้น เซียวซุ่ยที่โดนฝังอยู่ใต้ซากกำแพงขยับตัวเล็กน้อย ทั่วทั้งร่างของเจ็บปวดเกินทานทน และเขายังไม่สามารถจะลุกขึ้นมาได้  แต่หากมองไปจะเห็นว่าบัดนี้มีวงแหวนประหลาดดูเก่าแก่โบราณกำลังลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟสีขาวสว่าง และวงแหวนนี้กำลังสกัดกั้นมิให้สภาวะเวลาที่ถูกหยุดจากระบบกล้ำกรายเข้ามา แต่ดูเหมือนว่าสุดท้ายและกำแพงที่ขวางกั้นอยู่จะทนได้อีกมินานเท่าใดนัก

“เจ้าเด็กปิศาจนั่น...เกิดอะไรขึ้น....”  ใบหน้าของลูกเต่าแซ่เซียวบัดนี้น่าเกลียดยิ่ง

เขาค่อยๆขยับศีรษะขึ้นมามองไปยังห้องโถงของตระกูลตนเองอย่างช้าๆ  เมื่อเห็นว่ากาลเวลากำลังเดินช้าลง ใบหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง

ต้องรู้ก่อนว่าผู้คนที่อยู่ในโถงหลักตอนนี้นั้นนับว่าระดับการบ่มเพาะมิใช่ชั่ว  ล้วนแต่เป็นชนชั้นนำของสกุลเซียวทั้งสิ้น!

บางคนถึงขั้นก้าวสู่ดินแดนปราณชั้นกลาง และมีทะเลลมปราณของตัวเอง!  ด้วยพลังวิญญาณที่คอยปกป้องคุ้มครองร่างกายอยู่ พวกเขาควรจะสามารถต้านทานต่อพลังอื่นได้พอสมควร!

แต่ถึงกระนั้น บัดนี้พวกเขาราวกับผีดิบโง่งม เคลื่อนไหวเชื่องช้า และหมดสิ้นซึ่งความเป็นตัวของตัวเองโดนสิ้นเชิง!  ทุกสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าทารกปิศาจในอ้อมกอดของซวนหยานหรานปรายตามองมา!  และเมื่อนึกถึงสายตาคู่นั้น แม้แต่เซียวซุ่ยเองก็ทำได้เพียงสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว!

ช่างน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก!  ราวกับว่าเพียงมองมาก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้นในอากาศ สรวงสวรรค์และผืนแผ่นดินพังทลาย โลกทั้งใบกลับตาลปัตร!  เมื่อไหร่กันที่อัจฉริยะเช่นนี้กำเนิดขึ้นมาในสกุลหลิน?  แต่แล้ว เซียวซุ่ยก็ไม่ได้จมอยู่ในความคิดนานนัก เพราะว่า....

ฟุ่บ!

เสียงกระชากรุนแรงเกิดขึ้น และทั่วทั้งห้องโถงก็สั่นไหวราวกับถูกเขย่า!

ปราณวิญญาณฟ้าดินนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากพื้นเบื้องล่าง!

ปราณที่หนาแน่นเหล่านี้หมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนควบแน่นคล้ายภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ!

หลังจากช่วงเวลาแห่งความตกใจ  ใบหน้าของเด็กหนุ่มสกุลเซียวก็เปลี่ยนไป!  ปราณเหล่านี้...มิใช่ว่ามาจากเหมืองหินวิญญาณข้างใต้ตระกูลของเขาหรอกหรือ!

นอกจากเหล่าชนชั้นผู้นำไม่กี่คนของตระกูลเซียวแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าทารกคนนี้ค้นพบเหมืองหินวิญญาณข้างใต้ได้อย่างไร!  นี่นับเป็นปริมาณปราณวิญญาณเกินกว่าครึ่งที่ฝังตัวอยู่ในเหมืองข้างใต้นั่น!!  บัดนี้เซียวซุ่ยกำลังอยากจะกระอักเลือดตายให้รู้แล้วรู้รอด!

เหม่อมองไปยังทารกปิศาจคนนั้นจากระยะไกลเยี่ยงนี้  เด็กหนุ่มตระกูลเซียวทำได้เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เจ้าสัตว์ประหลาดน้อย! เป็นเพียงทารกแรกเกิดใยสามารถดูดซับปราณวิญญาณฟ้าดินได้มากถึงเพียงนี้!  ครานี้ ดูเหมือนว่าตระกูลเซียวจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่เข้าแล้ว  หวังว่า อย่างน้อยพวกเขาคงไม่ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวเสียก่อน...

แต่ละวินาทีผ่านพ้นไป ภายใต้ปรากฏการณ์ที่เกิดจากเนตรสวรรค์นัยน์ตาหยินหยาน ท้ายที่สุดแล้ววงแหวนของเซียวซุ่ยก็เริ่มไม่สามารถจะต้านทานเอาไว้ได้ และเปลวไฟก็มอดดับไปในที่สุด

เพียงเปลวไฟสุดท้ายจางหายไป สติทั้งหมดของเซียวซุ่ยก็เลือนลางลง ราวกับร่ายการของเขาถูกบังคับให้ตกลงสู่ห้วงแห่งความสับสน แล้วทุกอย่างก็ดับไป...

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด