ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 190 มาอยู่นี้ได้ยังไง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 192 ตกหลุมพราง

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 191 เหตุผล


ตอนที่ 191 เหตุผล

ช่วงเช้าของวันต่อมา

ณ ห้องอาหารคฤหาสน์ของไมล์

ภายในห้องเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีโต๊ะอาหารยาวตั้งเอาไว้อยู่ บนโต๊ะอาหารเองก็มีอาหารอยู่มากมายหลายชนิดยากจะอธิบายเพราะมันมีเยอะมาก ตามมุมห้องก็มีพวกคนรับใช้ทั้งชายและหญิงกำลังยืนกันอยู่เพื่อรอให้เจ้านายทานข้าว

ส่วนคนที่กำลังนั่งอยู่ก็มีสองคน มีไมล์และเวโรนิก้า ทั้งสองกำลังนั่งอยู่หัวโต๊ะและปลายโต๊ะในระยะห่างพอสมควรซึ่งกันและกัน ระหว่างที่กำลังกินอาหารอยู่ไมล์ก็มองไปที่เวโรนิก้าด้านหน้าแบบเป็นกังวล ‘เอายังไงกับยัยนี่ดีละเนี่ย???’

ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ที่ไมล์หาทางจัดการกับเธอเพื่อส่งกลับเมืองหลวงไปสะ เพราะถึงจะช่วยจัดการเรื่องของซิคฟรีสได้แต่ถ้ายังอยู่ต่อแบบนี้มันก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้ในไม่ช้าก็เร็ว จึงต้องหาทางพยามส่งตัวกลับอย่างเร่งด่วนแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางได้เลย

“องค์หญิงท่านต้องการอะไรกันแน่ถึงได้มาเมืองแห่งนี้?” ไมล์เริ่มเปิดประเด็นก่อนด้วยสีหน้าจริงจัง และหยุดกินอาหารทั้งหมดด้วยเช่นกัน

ทางด้านของเวโรนิก้าเมื่อโดนถามก็วางช้อนซ้อมทั้งหมดลง แล้วเริ่มแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพรางคิดในใจไปด้วยว่า ‘ในที่สุดก็ถามออกมาแล้วสินะ ไม่คิดเลยว่าจะเข้าเรื่องเร็วขนาดนี้สมแล้วที่เป็นบารอนไมล์ หึหึ!

เมื่อเงียบสักพักเวโรนิก้าก็เริ่มตอบแบบสีหน้าจริงจังเช่นกัน “ทางข้าก็ยังยืนยันแบบเดิม ถ้าท่านยอมแต่งงานด้วยข้าก็จะเดินทางกลับทันที”

“สรุปว่าเป้าหมายคือการแต่งการกับข้า”

“อ่า จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้แปลก แต่ว่าถ้าท่านไม่ยอมข้าก็คงต้องอยู่เมืองนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะถึงวันนั้น” เวโรนิก้าตอบแบบไม่ลังเลเพราะเรื่องนี้เองเธอก็เตรียมใจมาแล้ว

“ถ้างั้นถึงเวลาจะผ่านไป 10 ปี 20 ปี หรือ 50 ปี ท่านก็จะไม่ยอมกลับไปที่เมืองหลวงจนกว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสำเร็จใช่ไหม?” ไมล์ยิ้มอ่อนๆ ระหว่างพูด

ใบหน้าของเวโรนิก้าที่ดูมั่นใจเมื่อครู่ก็มีแสดงอาการวิตกเล็กน้อย ‘หมอนี่เอาจริงเหรอ คิดจะทิ้งให้เรารอขนาดนั้นเลยหรือไง ถ้ามันยาวนานถึง 50 ปี ต่อให้เป็นเราเมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครอยากแต่งงานด้วยหรอก’ เวโรนิก้าคิดถึงสภาพของตัวเองตอนแกชราแบบห่อเหี่ยวใจ “ท่านบารอนท่านอย่าพูดเล่นแบบนี้สิ”

“ข้าไม่ได้พูดเล่น”

เอาจริงเหรอ! หมอนี่ไม่มีความคิดอยากแต่งงานกับเราขนาดนั้นเลยหรือไง???’ เวโรนิก้าคิดด้วยความสงสัย เพราะตัวเธอก็เข้าใจดีว่าตัวเองไม่ได้ไม่สวยอะไรขนาดนั้น แถมตำแหน่ง ชื่อเสียง และสถานะทางสังคมก็สูงมากมันแทบไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะโดนปฏิเสธหลายครั้งขนาดนี้ “ท่านบารอนท่านมีคนที่ชอบอยู่แล้วใช่ไหม?”

“ไม่มี” ไมล์ตอบแบบขอไปทีแล้วตักซุปในจานเข้าปากแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ‘ไม่น่าเลย เมื่อกี้น่าจะพูดว่ามีคนที่ชอบเรื่องจะได้จบ เผลอตอบความจริงออกไปสะได้ ชิ! ไมล์รู้สึกหัวเสียเล็กน้อยการความคิดที่รวดเร็วของตน ซึ่งถ้าตอบว่ามีคนที่ชอบแล้วเรื่องทั้งหมดมันอาจจะจบลงเลยก็ได้

“ไม่มีแล้วทำไมเป็นข้าไม่ได้!!!” เวโรนิก้าสัมผัสมือลงที่ช่วงตัวของตัวเองด้วยเสียงที่ดังลั่น

พวกคนใช้ตามมุมห้องต่างก็มองไปที่เธอแบบสงสัย แล้วพรางคิดกันว่า

‘-องค์หญิงเป็นอะไร อาหารไม่ถูกปากเหรอ???’

‘-สองคนนั้นเหมือนกำลังทะเลาะกันอยู่เลย มันเป็นเพราะอะไร???’

‘-ท่านบารอนก็แค่นั่งกินอาหารไม่ใช่หรือไง ทำไมองค์หญิงถึงได้มีสีหน้าอารมณ์เสียแบบนั้นได้ละ???’

พวกคนรับใช้ต่างสงสัยกับท่าทางของเวโรนิก้าที่แสดงออกมา เพราะด้วยขนาดห้องที่ใหญ่พอสมควรมันก็เลยทำให้ได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่นักว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน แต่ทว่าเสียงที่ดังมากของเวโรนิก้าเมื่อครู่ทำให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน

จากนั้นไม่นานไมล์ก็พูดออกไป “ข้าไม่ได้บอกว่าไม่ได้องค์หญิง แต่ข้ายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้”

“กำลังพูดเล่นอะไรอีก ตอนนี้ท่านก็อายุเกิน 20 ปี เข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ มันเกินช่วงที่ต้องแต่งงานสร้างครอบครัวแล้ว”

“นั่นมันก็…” ไมล์ตอบแบบท่าทางอ้ำอึ้งเพราะสิ่งที่เวโรนิก้าพูดออกมามันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในโลกนี้เมื่อขุนนางอายุได้ 18 ปี ก็ต้องแต่งงานเพื่อมีทายาทสืบทอดตระกูลซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ

แต่เมื่อก่อนมันเป็นช่วงที่ไมล์ตกอยู่ในช่วงต่ำสุดของชีวิต ก่อนที่วิญญาณใหม่จะเข้ามาอยู่ในร่าง ช่วงนั้นไม่ว่าจะเป็นขุนนางคนไหนก็ไม่มีใครอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับไมล์สักคน ไม่ว่าจะเป็นขุนนางอาณาเขตใกล้เคียงก็ตาม

เพราะการแต่งงานก็เหมือนกับการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลให้แน่นแฟ้นขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นไม่มีใครต้องการมีความสมัพันธ์เพิ่มขึ้นกับบารอนที่ไม่มีอนาคตกันหรอก มันก็เลยทำให้ไมล์ยังไม่ได้แต่งงาน หรือหมั้นหมายกับใครเลยสักคน

แต่ตอนนี้กลับมีขุนนางส่งลูกสาวและเสนอตัวเธอมาให้จำนวนมากก็ตาม แต่ทว่าไมล์ก็ได้ปฏิเสธออกไปจนหมดอยู่ดี ด้วยเหตุผลที่ว่า [ยังไม่ถึงเวลา]

‘ได้ยินเรื่องแบบนี้แล้วไปต่อยากเลยแฮะ เฮ้อ~ไมล์คิดด้วยความรู้สึกหนักใจ

จากนั้นระหว่างที่กำลังคิดอยู่หนึ่งในคนรับใช้ที่ยืนอยู่มุมห้องก็เดินตรงเข้ามาหาไมล์ แล้วเอียงตัวลงเล็กน้อยที่ข้างหู เพื่อพูดอะไรบางอย่าง

“...มีคนมาขอพบท่านครับ เป็นของของจักรวรรดิ”

‘จักรวรรดิอีกแล้วเหรอ??? ช่วงนี้พวกมันมาบ่อยจริง’ ไมล์หัวเสียเล็กน้อย จากนั้นก็ถามคนรับใช้กลับไป “ใครมา แล้วมันต้องการอะไร?”

“…ทางเราเองก็ไม่แน่ใจครับว่าต้องการอะไร แต่ว่าคนที่มาก็คือองค์ชายซิคแน็ค!”

จากนักเขียน. ต่อไปจะเป็นการบรรยายแบบบุคคลที่ 1 นะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด