ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 21 มุมมองแห่งสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 23 ข้อสอบข้อเขียน

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 22 สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากู๊ดเดย์


รถโฮเวอร์ของวาเรี้ยนขับผ่านสกายเวย์และผ่านคอมเพล็กซ์ลอยน้ำผ่านลาดตระเวนเรือเหาะ และไปถึงย่านที่เงียบสงบ

ย่านนี้ไม่มีอาคารลอยน้ำและมีตึกที่สูงระฟ้าเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น เมื่อมาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวาเรี้ยนก็ลงมาจากรถแล้วรู้สึกว่าสถานที่นี้เหมือนเขาเคยมามาก่อน

ป้ายไฟ LED แบบเก่าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเลื่อนคำว่ายินดีต้อนรับขึ้นมาให้เขาดูเมื่อเขาเดินเข้ามาในสถานเลี้ยงเด็ก

ลานด้านหน้าเป็นสนามเด็กเล่นพร้อมสวนสาธารณะ

"เฮ้ จับบลูเบิร์ดตัวนั้น!"

“จับตัวสีเขียวตัวนั่นด้วย!”

“หลบกระสุน ปัง! ปัง!”

เด็กๆในสถานเลี้ยงเด็กกำลังเล่นเกม VR ที่จะตกยุคไปนานมากแล้วและแถบจะไม่มีใครสนใจเกมพวกนี้ แต่เด็กๆเหล่านี้ก็ยังสนุกกับการเล่นเกมแบบนี้

หุ่นยนต์แม่บ้านที่ดูแลพวกเขาก็ตกยุคเช่นกัน แต่เด็กๆก็ไม่บ่นหรือพูดต่อว่าอะไร พวกเขามีความสุขกับสิ่งที่เป็นและไม่ได้กังวงเกี่ยวกับอนาคตมากนัก

วาเรี้ยนดีใจที่อย่างน้อยก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดและมีหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก

“เย้ ฉันได้ทองแล้ว!”

“ฮิฮิ! ยูได้ทองแล้ว!”

"ศรีมีแพลตตินั่ม!"

'ฉันว่าฉันคงไม่มีทางที่จะมีความสุขแบบพวกเขาได้' วาเรี้ยนส่ายหัวและเดินไปตามทางที่ปูด้วยหิน

ในขณะที่เขากำลังเดินตามทางอยู่ก็มีม้านั่งตัวนึงอยู่ใต้ต้นไม้ทำให้เขานึกถึงฉากในฝันของเขาที่อแมนด้านั่งบนม้านั่งและพูดกับเขา ฉากนี้แวบเข้ามาในความคิดของเขาตอนนี้

'ลูกต้องจำสิ่งนี้ไว้วาเรี้ยน ลูกไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพัง ลูกจะมีคนที่แบ่งปันภาระของลูกและในทางกลับกัน ลูกก็จะแบ่งปันภาระของพวกเขาเหมือนกัน เข้าใจไหม?'

'ตอนนี้ฉันไม่มีใครเลยแม่' วาเรี้ยนกำหมัดแน่น… จากนั้นนึกถึงไคล์และมายาที่เป็นห่วงเขา และคุณแกเร็ธที่ช่วยเขาโดยที่ไม่หวังผลอะไร พอเขาคิดแบบนั้นกำปั้นของเขาก็คลายออก

'ฉันดีใจที่มีพวกเขา บางทีแม่อาจจะถูกของแม่ เขาเลิกคิดแล้วเดินต่อไปก่อนจะหยุดบนรางรถไฟ แต่ถึงแม้เขาจะมีเพื่อนอยู่บ้างแต่เขาก็รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ดีเพราะบางสิ่งเขาก็ไม่สามารถจะแบ่งความรู้สึกแบบนี้กับใครได้

'ภาระบางอย่างฉันก็ต้องแบกรับไว้คนเดียว'

เขาไปถึงหน้าประตูเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กและหุ่นยนต์แม่บ้านก็บอกให้เขารอ วาเรี้ยนนั่งบนม้านั่งข้างนอกและรอเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

'นี้ฉันทำไปทำไหมกันนะ' เขาถามตัวเอง 'ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี้? เพื่อเซีย? เพื่อแม่? เพื่อตัวเอง? ฉันทำไปเพื่อใคร?'

เสียงฝีเท้าดังขึ้น และเสียงชายชราก็ทักทายเขา “มีอะไรหรอเจ้าหนุ่ม”

วาเรี้ยนหันไปหาชายชราที่มีรอยยิ้มสดใสและมีรอยย่นบนหน้าเต็มไปหมด ดูเหมือนว่าเขาจะชอบความชราตามธรรมชาติต่างจากผู้สูงอายุในสมัยนี้

วาเรี้ยนทักทายเล็กน้อยและกล่าวว่า “ผมต้องการความช่วยเหลือ ลุงช่วยตรวจสอบได้ไหมว่าผมเคยมาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้วและได้พบกับผู้หญิงที่ชื่อเซียที่นี่ไหม”

อากาศในห้องร้อนขึ้นและวาเรี้ยนก็พร้อมที่จะต่อสู้ทันที เปลวเพลิงกำลังหมุนรอบตัวชายชราและไฟนั้นก็พร้อมจะพุ่งเข้าใส่วาเรี้ยน

'อย่างน้อยก็ระดับ 2 สินะ, ผู้ปลุกพลังไฟ' วาเรี้ยนใช้ความคิดประมาณพลังของชายชราและตั้งท่ารับการโจมตี

'เขาคงคิดว่าคำถามของฉันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของฉันคือฉันต้องการมาหาคำตอบที่ฉันต้องการ ฉันต้องทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการสินะ'

เขามองตรงเข้าไปในดวงตาของชายชราและพูดว่า "ฟังนะ ผมไม่ต้องการข้อมูลส่วนตัวใดๆ เกี่ยวกับเธอหรอกถ้านั่นคือสิ่งที่ลุงคิดละก็ลุงผิดแล้ว อย่างน้อยก็บอกผมทีว่าผู้หญิงคนนี้เคยอยู่ที่นี่มาก่อนไหม"

ชายชราจ้องกลับไปที่ดวงตาของวาเรี้ยน และถอนหายใจในที่สุดเขาก็หยุดใช้พลังไฟ "ขอดูประวัติอาชญากรรมของเธอหน่อย"

วาเรี้ยนยักไหล่และแตะข้อความของเขา ภาพสามมิติปรากฏขึ้นพร้อมกับแท็บ 'ประวัติอาชญากรรม' วาเรี้ยนคลิกที่มันและปัดไฟล์โฮโลกราฟไปที่ชายชรา

ชายชราดูประวัติอาชญากรรมของวาเรี้ยน ประวัติอาชญากรรมจะบันทึกตั้งแต่การแหกกฎจราจรไปจนถึงการพยายามฆ่า ทุกการกระทำผิดของพลเมืองจะถูกบันทึกไว้

แต่ประวัติอาชญากรรมของวาเรี้ยนนั่นว่างเปล่า เป็นพลเมืองในอุดมคติของสหพันธ์อย่างแท้จริง การหักกระดูกและทำร้ายคู่แข่งของเขาถือเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ที่ถูกจัดขึ้นอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้นประวัติของเขาจึงออกมาขาวสะอาด

ชายชรากวาดสายตามองที่วาเรี้ยนไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตาแก่ๆของฉันบอกว่าเธอกำลังหาคนที่ไม่ได้ป่วย แต่หาคนที่พร้อมที่จะไปกับเธอ"

เขาหยิบมือถือโฮโลซึ่งเป็นอุปกรณ์สมัยเก่าออกมาและค้นหาบันทึกที่เขาบันทึกไว้ในโทรศัพท์

'ลุงพูดถูกครึ่งหนึ่ง ผมกำลังตามหาเซียแต่ผมต้องการยืนยันก่อนว่าเธอมีตัวตนอยู่จริงไหม บางทีระบบอาจกำลังโกหกอยู่' วาเรี้ยนคิด

"อ๊ะ! บัตรประจำตัวของเธอตรงกับบันทึกเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เธอเลยมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้และแม่ของเธอก็อยู่กับเธอ" ชายชราแตะมือถือและปัดไฟล์ไปทางเขา

วาเรี้ยน มองไปที่ไฟล์โฮโลกราฟที่แสดงบันทึกของวันที่ 33 กันยายน 513

{รายการ: วาเรี้ยน + อแมนด้า

เวลาที่มา: 1 ชั่วโมง}

“อืม นั่น——” คำถามของวาเรี้ยนถูกขัด

“ไอ้หนู ไม่มีการวิดีโอที่บันทึกไว้ในสถานที่นี้มันขัดต่อนโยบายของเรา”

"นั่นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ครับ" วาเรี้ยนถอนหายใจ ตอนนี้มีนโยบายป้องกันการสอดแหนมในสังคมอยู่เยอะเลยสินะ

“เกี่ยวกับคนนั้น เอ่อ เซีย” ชายชราเงยหน้าขึ้นจากโฮโลโมบายด้วยใบหน้าที่จริจัง

ใบหน้าของวาเรี้ยนรอฟังคำตอบโดยใช้สีหน้าจริงจังและเขารอคำตอบอยู่

“ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับเธอเลย ลุงทำงานที่นี่มา 6 ปีแล้ว และเท่าที่ลุงรู้ไม่เคยมีผู้หญิงคนใหนชื่อเซียเลยนะ” เขาพูดความจริงออกมาและกลัวว่าจะทำให้วาเรี้ยนผิดหวังกับคำตอบ

"เยี่ยมเลย!" วาเรี้ยนยิ้มอย่างสดใสซึ่งตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา

'เด็กคนนี้ปกติดีไหมเนี้ย' ลุงดูหงุดหงิด 'เด็กนี้มีความสุขที่คนสำคัญที่เขากำลังมองหาไม่ได้อยู่ที่นี่ เด็กนี่เป็นบ้าหรือจิตไม่ปกติหรือเปล่า?

“นั่นคือทั้งหมดที่ลุงรู้ ออกไปเดี๋ยวนี้” ชายชราอยากให้วาเรี้ยนออกไปเดี่ยวนี้เพราะเขาเห็นรอยยิ้มเมื่อกี้และลุงเร่งให้วาเรี้ยนออกไปอีกครั้ง

วาเรี้ยนขอบคุณชายชราทั้งๆ ที่จ้องมองแปลกๆ และออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส

'ข้อมูลของนักเรียนนายร้อยทุกคนถูกลบออกจาเมต้าเน็ต ซึ่งรวมถึงข้อมูลอื่นๆจากสาธารณสมบัติด้วย

ฉันมาที่นี่เมื่อ 7 ปีที่แล้วและในความฝันนั้นแม่กับฉันวางแผนที่จะรับเซียมาเป็นครอบครัว

ถ้ามันเป็นแค่ความฝันฉันต้องไม่เคยมาที่นี้มาก่อนสิและลุงนั่นมีหลักฐานที่บอกว่าเราเคยมาที่นี้ตอนเด็ก ทำให้พิสูจน์ได้ว่านี้เป็นความทรงจำจริงๆ

แต่ฉันโตมาคนเดียวนี่

ดังนั้นต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นทำให้เราไม่ได้รับเลี้ยงเธอ แต่ตอนนั่นฉันยังเด็กเกินไป ฉันลืมไปว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แม่มีความเกี่ยวข้องกับเซียแล้วทำไมเธอถึงไม่บอกฉันละ

จากนั้นเซียก็เข้าร่วมสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิดังนั้นบันทึกของเธอบนเมต้าเน็ตและในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะถูกลบออก'

วาเรี้ยนคิดว่าสิ่งที่เขาคาดเดามาอาจจะเป็นแบบนี้ แต่เขายังคงมีคำถามที่เขาไม่สามารถตอบได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน แม้ว่าเขาจะจำเธอไม่ได้เลยก็ตาม — แต่เซียก็มีตัวตนจริง และไม่ว่าเธอจะอยู่ในสถานการณ์ใด เขาจำเป็นต้องช่วยชีวิตเธอ

พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า สิ้นสุดวันที่ 39 ก.ย.

วาเรี้ยนกลับบ้านและใช้เวลา 5 วันที่เหลือเข้าไปอยู่ในเกาะเมอร์ล็อคเขาใช้เวลาทั้งหมดต่อสู้กับเมอร์ล็อคเลเวล 1 ตลอดทั้ง 5 วันและรู้สึกคุ้นเคยกับพลังที่ตื่นขึ้นของเขาแล้ว

แต่ก็มีบางอย่างผิดปกติ แถบความคืบหน้าของเขาไม่ขยับ มันค้างอยู่ที่:

[เส้นทางร่างกาย ระดับ 1: 50/100]

วันที่ 45 วาเรี้ยนตื่นเร็วกว่าปกติ

'วันนี้ฉันต้องทำให้มันสำเร็จ!' เขามองตัวเองในกระจก 'ฉันมีทางเดียวเท่านั้นที่จะตามหาเซีย ปีหน้าฉันจะอายุ 19 และสอบไม่ได้แล้ว'

'ฉันทำได้!' วาเรี้ยนให้กำลังใจตัวเอง แต่จะสำเร็จไหมเขาก็ไม่รู้

เขาไปที่ท่าเรือปลาดาว ซึ่งเต็มไปด้วยรถโฮเวอร์ไบค์และรถโฮเวอร์ เด็กๆ เข้ามาทุกทางเข้าของยานอวกาศลำใหญ่

ท่าเรือปลาดาวเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ดีที่สุดของโลก ท่าเรืออวกาศนั้นคล้ายกับสนามบินของโลกเก่าแต่เป็นยานอวกาศแทนเครื่องบิน

ยานอวกาศปลาดาวเป็นยานอวกาศ 8 แฉกที่มี 8 ขั้วสำหรับดาวเคราะห์แต่ละดวง รวมทั้งดาวพลูโตด้วย

หลังสงครามดาวพลูโต ขั้วดาวพลูโตก็ถูกยุบและตอนนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น

วาเรี้ยนเดินเข้ามาในท่าเรือ ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ทำจากผนังคริสตัลที่มีสมบัติของดวงดาวเป็นเครื่องป้องกันและดูมีชีวิตชีวาด้วยภาพสามมิติที่จารึกไว้ถึงความสำเร็จของมนุษยชาติ

ทางเข้าถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งสำหรับเจ้าหน้าที่และอีกอันสำหรับทหาร แต่ละคนมีสถาบันการศึกษาที่แตกต่างกัน เนื่องจากข้อกำหนดที่แตกต่างกัน พวกเขาจึงมีการสอบเข้าที่แตกต่างกัน

ทหารหรือทหารผ่านศึกได้รับการฝึกฝนในสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิ

เจ้าหน้าที่ได้รับการฝึกอบรมในโรงเรียนป้องกัน ตอนนี้มีเพียงห้าสถาบันป้องกันภัยบนโลก และสถาบันฝึกทหารจักรพรรดิตอนนี้เป็นอันดับ 1

'ดังนั้นฉันต้องตั้งเป้าไปที่จุดสูงสุด' วาเรี้ยนถอนหายใจและเข้าไปในแผนกเจ้าหน้าที่

การจะเข้าศึกษาในสถาบันป้องถัยต้องมีอย่างน้อยระดับ 2 และอายุไม่เกิน 18 ปี นั่นเป็นเพียงข้อกำหนดเบื้องต้นเท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็ต้องผ่านเข้ารอบในการสอบเข้า ซึ่งต่อให้เป็นอัจฉริยะก็ใช้ว่าจะผ่านได้แบบง่ายๆ

เมื่อผ่านทางเข้าอุโมงค์ในที่สุดวาเรี้ยน ก็มาถึงห้องโถงใหญ่ มีเวทีด้านหน้าและผู้สมัครทุกคนยืนอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในระยะทางสม่ำเสมอ

วาเรี้ยนมาถึงตำแหน่งของเขาและยืนอยู่ในท่าปกติของทหาร แต่ภาพนอกหน้าต่างก็ดึงดูดสายตาของเขาเป็นอย่างมาก

กระสวยอวกาศบนรันเวย์ไม่ใช่แค่หาดูยากแต่จะมองข้ามไปไม่ได้ มันมีสีดำสนิทและยาวอย่างน้อย 200 เมตรและกว้างอย่างน้อย 60 เมตร (ประมาน 1 สนามฟุตบอล)

'นี่คือเรืออวกาศ Type 1 ในตำนานสินะ' วาเรี้ยนตกตะลึงกับการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์นี้

มีคำพูดพูดต่อๆกันมาว่ายานอวกาศ Type 1 เดินทางด้วยความเร็วแสงทำให้แทบจะไม่มีใครเห็นมันได้เวลาเดินทาง

(เพื่อให้เห็นภาพนั้น นักอ่านสามารถเข้าถึงสถานที่ใดๆ บนโลกได้ภายใน 4 วินาที สามารถไปถึงดวงจันทร์ได้ในเวลาประมาณ 2 นาทีและถึงดาวอังคารในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง)

วาเรี้ยนมัวแต่มองยานอวกาศนี้และไม่สังเกตเห็นนายทหารหญิงก้าวขึ้นไปบนเวที

"ซ่าาา จื้ดดดด" (เสียงไฟฟ้า)

บรรดาผู้ที่ไม่ได้จดจ่ออยู่บนเวทีรู้สึกตกใจเล็กน้อยและแสบปลายเท้าที่รวมถึงวาเรี้ยนด้วย

เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากเท้าของเขา เขามองไปที่เจ้าหน้าที่พร้อมกับคนอื่น ๆ แล้วเธอก็พูดด้วยน้ำเสี้ยงเข้มว่า "การฟุ้งซ่านจะฆ่าคุณ มุ่งความสนใจไปที่ภารกิจเสมอ ตอนนี้เซ็นแบบฟอร์มหรือกลับบ้านไปซะในตอนที่ยังกลับได้"

แบบฟอร์มปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้สมัครทุกคน ระบุว่าผู้สมัครกล้ารับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นและหากพวกเขาเสียชีวิต มันเป็นการกระทำของพวกเขาเอง

“ฉัน... ฉันไม่อยากไป”

“ฉันด้วย อัตราการตายอยู่ที่ 30% เลยงั้นหรอให้ตายเถอะพระเจ้า

เสียงกระซิบแผ่วไปทั่วทั้งห้องและส่วนหนึ่งของผู้สมัครไม่สามารถพาตัวเองไปเผชิญกับตัวเลือกสุดท้ายได้

วาเรี้ยน ลงนามในแบบฟอร์มและเข้าสู่ยานอวกาศพร้อมกับคนอีกหลายพันคน

การสอบเข้าเริ่มต้นขึ้น!

จุดหมายปลายทางของพวกเขา? อะบิส?!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด