ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 20 คนธรรมดาและคนอัจฉริยะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 22 สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากู๊ดเดย์

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 21 มุมมองแห่งสวรรค์


[ให้ระบบนี้แสดงความจริงให้คุณรู้]

เสียงกลไกของระบบดังขึ้นและวาเรี้ยนรู้สึกว่าจิตสำนึกของเขาถูกดึงออกมา… ทุกอย่างว่างเปล่า

เมื่อสติกลับมาวาเรี้ยนเห็นแค่พื้นที่ที่มีแต่ความมืด อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกถึงร่างกายของเขา เขาแค่รู้สึกว่ามีอยู่ เขาพยายามขยับตัวและในที่สุดก็ยอมรับว่าเขาถูกลากมาที่นี่ด้วยความคิดของเขาเท่านั้น

จากนั้นเขาก็สังเกตพื้นที่รอบๆเขาแต่มันกลับมืดสนิท ทว่าในระยะไกลกลับมีแสงสว่างอยู่นิดหน่อย บางครั้งก็เป็นสีแดง บางครั้งก็เป็นสีน้ำเงิน และบางครั้งก็เป็นสีเหลือง

เขาเพ่งความสนใจไปที่แสงนั้นและในไม่ช้า มุมมองของเขา "ก็ถูกซูมเข้า"

แสงนั้นชัดเจนขึ้น และเขาเห็นโครงสร้างที่เรืองแสง

พื้นผิวเรียบสามอันเหมือนในปริซึมเชื่อมต่อกันที่ 60 องศา พื้นผิวแต่ละอันเปล่งประกายด้วยสีที่แตกต่างกันไป สีเหลือง สีแดง และสีน้ำเงิน

วาเรี้ยนรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังที่ชวนให้หลงไหลอย่างมาก

เขาไม่มีตัวตนอยู่ในสถานที่นี้ แต่เขาสามารถมองเห็นมันได้ เขาสามารถซูมเข้าและออกดูได้แบบ 3 มิติ เขาสามารถควบคุมวิธีที่เขาดูพื้นที่นี้ได้แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับพื้นที่นี้ได้

'ฉันอยู่ที่ไหน?' เขาสงสัยและสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

วาเรี้ยนจดจ่อกับพื้นผิวปริซึมโดยที่เขาไม่เต็มใจ มุมมองก็ "หมุน"

เบื้องหน้าเขาคือพื้นผิวสีแดง มันเอียงขึ้นไปเหมือนเนินเขา เขามองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของพื้นผิวเป็นเหมือนทางขึ้นเขา

มันเรียบอย่างเหลือเชื่อและเปล่งประกายสีแดงระยิบระยับ ถนนสีแดงที่สวยงามและลึกลับทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด

ในห้วงอวกาศที่มืดมิด ถนนกระจกสีแดงนี้ พร้อมด้วยถนนสีน้ำเงินและสีเหลืองเปรียบเสมือนภาพวาดของเทพเจ้า เขาหลงใหลในความงามที่เหนือจริงนี้

'นี่คือ... เส้นทางแห่งสวรรค์' วาเรี้ยนถอนหายใจด้วยความเสียดายที่เขาไม่สามารถนำร่างจริงๆของเขาเข้ามาได้

[ถูกต้องแล้ว ที่นี่คือเส้นทางแห่งสวรรค์ทั้งหมด]

เสียงของระบบดังขึ้นเขาออกจากอาการมึนงงและวาเรี้ยนก็ตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของระบบ

'นี่คือเส้นทางแห่งสวรรค์? เป็นเพียงชื่อสมมติสำหรับพลังงานในระบบหรอ? เส้นทางแห่งสวรรค์มีอยู่จริงไหม?'

[อะไรจริง? และอะไรที่ไม่จริง?

พื้นที่… ตำแหน่งที่คุณอยู่ตอนนี้มีอยู่แล้วและไม่ได้มีอยู่

ไม่สามารถเข้าถึงได้ทางร่างกายมิติหรือจิตใจ

ไม่มีอยู่ในอวกาศหรือเวลา มันเป็นพิภพเล็ก ๆ ของเส้นทางแห่งสวรรค์]

วาเรี้ยนรู้สึกงุนงงกับคำอธิบายของระบบ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็บังเอิญไปเห็นอะไรบางอย่างในเส้นทาง

เขาสังเกตถนนสีแดงสักพัก คราวนี้เขาสังเกตเห็นว่ามันถูกแบ่งออกเป็นสามเลนที่มีความกว้างเท่ากัน

เลนซ้ายสุดมีทรงกลมสีขาวขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีเส้นสีดำอยู่ห่างจากทรงกลมสีขาวประมานนึง

ทรงกลมสีขาวอยู่ตรงกลางระหว่างจุดเริ่มต้นของถนนและเส้นตรง — ผ่านไปครึ่งทางแล้ว

และเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก

'ถนนเลนสีแดงนี้คือเส้นทางแห่งร่างกาย? ทรงกลมสีขาวนั่นแสดงว่าฉันมีความก้าวหน้าในเส้นทางร่างกายของฉันไปแค่ไหนแล้ว? ตอนนี้ฉันอยู่ระดับ 1 ครึ่งทางแล้ว'

วาเรี้ยนจำได้ว่าความก้าวหน้าของเขาในเส้นทางร่างกายของเขาอยู่ที่ระดับ 1 ที่ 50/100 ครึ่งหนึ่งนั่นเอง

[ถูกต้องแล้ว เลนที่มีทรงกลมสีขาวนั้นคือเส้นทางของร่างกาย มันครอบคลุมครึ่งหนึ่งของระดับ 1 เส้นสีดำคือจุดสูงสุดของระดับ 1 และถ้าหากว่าทรงกลมสีขาวนั้นข้ามเส้นสีดำไปแปลว่าคุณก้าวเข้าสู่ระดับ 2 แล้ว]

วาเรี้ยนพยักหน้าอย่างเข้าใจและสังเกตเลนทั้ง 3 เลนจากเส้นทางสีแดงต่อไป

เขาพยายามเคลื่อนไปข้างหน้าบนถนนและเข้าสู่ระดับ 2 ซึ่งเขาไม่สามาทำให้มุมมอง "ซูมเข้า" หรือ "เคลื่อนไปข้างหน้า" ได้มุมมองของเขาถูกจำกัดอยู่ที่ส่วนระดับ 1 ของเลนเท่านั้น เขามองไม่เห็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือเส้น

เขาเข้าใจว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงระดับที่เขายังก้าวหน้าไม่ถึงได้

จากนั้นวาเรี้ยนก็ซูมออกและเห็นปริซึมอีกครั้ง เขาเพ่งไปบนพื้นผิวสีน้ำเงินและซูมเข้า

หลังจากที่เขาเพ่งดูมันสักพักเขามองไม่เห็นอะไรเลย เขาก็เลยกลับมาจดจ่ออยู่ที่ถนนสีแดง

ฉันได้ข้อสรุปแล้วหล่ะ

'ฉันรู้แล้วตอนนี้' เขากล่าวเมื่อมองดูถนนสามเลนของถนนสีแดง 'ถนนสีแดงคือกลุ่มของเส้นทางผู้ใช้หลายทักษะ สีเหลืองและสีน้ำเงินเป็นเส้นทางผู้ใช้ธาตุและเส้นทางผู้ใช้มิติ'

[พูดต่อซิ]

'สามเลนสีแดงนี้เป็นเส้นทางสวรรค์สามทางที่แตกต่างกันของกลุ่มผู้ใช้หลายทักษะ' เขาจิตชี้ไปที่ช่อสามเลนของถนนสีแดง

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เลนที่มีทรงกลมสีขาว

'นี่คือเส้นทางของร่างกาย ดังนั้นอีกสองเลนคือเส้นทางแห่งพลังจิตและเส้นทางแห่งมอร์เฟอร์'

[มนุษย์มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเส้นทางแห่งสวรรค์ อย่างไรก็ตามมี

สิ่งที่คุณเรียกว่าเป็นกลุ่ม 3 กลุ่ม คือถนนแห่งเส้นทางแห่งสวรรค์โดยพื้นฐานแล้ว

ทุกเส้นทางของถนนมาบรรจบกันในตอนท้ายที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมทั้ง 3 กลุ่มของแตกละเส้นทางถึงอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน

ดังนั้นถนนสีแดงที่ระบบอย่างฉันรู้จักคือถนนแห่งนักปราชญ์ หรือที่คุณเรียกกันว่าเส้นทางผู้ใช้หลายทักษะ

เลนเป็นเส้นทางแห่งสวรรค์

ทรงกลมสีขาวคือ ต้นกำเนิด — เป็นตัวแทนของคุณนั่นเองและในนั่นมีคุณสมบัติต่างๆที่สำคัญและมีมิติอยู่

มันเหมือนกับคุณสมบัติต่างๆที่อยู่ในทรงกมสีขาวเป็นเอกลักษณ์ของคุณ]

'แล้วที่แกพูดมาทั้งหมดมันตรงกับคำถามที่ฉันถามแกตรงไหน' วาเรี้ยนงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้ระบบหยุดพูดข้อมูลออกมา

เขาแค่ถามระบบว่ามันเปลี่ยนพรสวรรค์ของเขาหรือเปล่าเพราะเขาสามารถไต่ขึ้นมาที่ครึ่งนึงของระดับ 1 ได้เร็วเกินไป แต่ตอนนี้เขาได้รับการบอกเล่าเรื่องราวที่ดูเหมือนจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

[ลองจ้องม้องไปที่ต้นกำเนิดดู] ระบบตอบสนองราวกับว่านั่นคือคำตอบ

วาเรี้ยนถอนหายใจและทำตามที่ระบบแนะนำ เขาจ้องไปที่จุดกำเนิดและขยายมุมมองของเขา

เขาเห็นต้นกำเนิดทรงกลมสีขาวประกอบด้วยของเหลวสามสีอยู่ภายใน สีแดง สีฟ้า เหลือง เช่นเดียวกับถนนทั้ง 3 ที่เขาเห็น

พวกมันไม่ใช่ของเหลวจริงๆ บางทีพวกมันดูเหมือนก๊าซที่มีสีแล้วเปลี่ยนเป็นของเหลวสี สิ่งเดียวที่คงที่คือพวกมันผสมกันแต่ไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน

'นี่คือ...' วาเรี้ยน รู้สึกทึ่งกับภาพที่เห็น

หาก "ต้นกำเนิด" เป็นตัวแทนของเขาในระดับพื้นฐานที่สุด ทั้งสามสิ่งนี้จะต้องเป็นส่วนประกอบสำคัญในการที่ทำให้เขาก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว

เขาจำสิ่งที่ระบบพูดเกี่ยวกับต้นกำเนิดได้ ซึ่งเป็นการเป็นตัวแทนของ "คุณ" ขั้นสูงสุด - คุณสมบัติที่สำคัญและมีมิติ

ทั้งสามด้านนี้เป็นแก่นของทุกสิ่ง!

วาเรี้ยน รู้สึกว่าเขาไขปริศนาได้ และเขาอยากจะดีดนิ้วให้ดังๆที่เขาคิดออก

'ดังนั้นทั้งสามด้านที่คุณพูดถึงจึงเป็นพื้นฐานของทุกสิ่งทุกอย่างคุณสมบัติที่สำคัญ มิติ

พวกเขาสร้างฉัน - พวกเขาเป็นสิ่งที่สร้างต้นกำเนิดของฉัน

พวกเขาประกอบขึ้นเป็นเส้นทางแห่งสวรรค์ - แต่ละเส้นทางเป็นตัวแทนของแต่ละสาย

เส้นทางแห่งสวรรค์เป็นหนทางสำหรับผู้ตื่นตัวในการค้นหาพลังของปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้

ทั้งสามทางช่วยให้ผู้ที่พลังตื่นสามารถก้าวหน้าไปด้านใดด้านหนึ่งได้

วาเรี้ยนตระหนักถึงความจริงที่ลึกซึ้งและรู้สึกถึงโลกใหม่ที่ปรากฏต่อหน้าเขา เส้นทางแห่งสวรรค์นั้นซับซ้อนกว่าที่เขาเชื่อในตอนแรกมาก

[ฉลาดนี่ นี่เป็นคำตอบสำหรับคำถามเดิมของคุณ

พรสวรรค์บางคนเก่งกว่าคนอื่น คนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะขึ้นไปถึงระดับสูงๆต้องใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าคนปกติจะไปถึงระดับนั้นบางคนอาจไม่ถึงระดับกลางตลอดช่วงชีวิตของเขาด้วยซ้ำ

เหตุผลก็คือต้นกำเนิดเป็นสิ่งที่ทำให้พรสวรรค์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ถ้าหากเป็นผู้ที่พลังมิติตื่นขึ้นต้นกำเนิดของพวกเขาจะมีมิติในต้นกำเนิดมากกว่าสายอื่นๆ

ดังนั้นผู้ปลุกพลังอวกาศที่เป็นอัจฉริยะจึงมีมิติสูงมากในต้นกำเนิดของพวกเขา]

'ดังนั้นผู้ที่มีพรสวรรค์เพิ่มขึ้นหลังจากกินผลไม้หรือยาลึกลับ การรับสิ่งเหล่านั้นเพิ่มลักษณะของสิ่งนั้นในแหล่งกำเนิดของพวกเขา'

[คุณถูก แม้ว่าคุณจะมีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิดแต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน

แต่ยิ่งพรสวรรค์ในตอนที่คุณเกิดมีมากเท่าไรก็ยิ่งยากที่จะพัฒนาต่อไปเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น

การเปลี่ยนพวกขยะให้เป็นคนธรรมดานั้นง่ายกว่าการเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นอัจฉริยะและการเปลี่ยนอัจฉริยะเป็นอัจฉริยะขั้นสูงนั้นยิ่งยากกว่า]

'ดังนั้นสิ่งที่แกทำคือปรับปรุงต้นกำเนิดของฉันและปรับปรุงความสามารถของฉันในระดับที่บ้าคลั่ง?'

[ใช่ บนโลกนี้ตอนนี้จะไม่มีใครสู้กับพรสวรรค์ของคุณในตอนนี้ได้]

'บนโลกหรอ' วาเรี้ยนตัดสินใจที่จะไม่ถามเพิ่มเติมเพราะตอนนี้เขาไม่อยากรู้อะไรเพิ่มแล้ว

เขามองไปที่เส้นทางต้นกำเนิดของเส้นทางร่างกายในเส้นทางผู้ใช้หลายทักษะซึ่งมันอยู่ครึ่งทางของระดับ 1

วาเรี้ยนค่อนข้างดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้รู้ในสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ที่ไหนเลย

[แน่นอนว่าคุณต้องไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ค่อจากนี้คุณจะเข้าถึง "มุมมองแห่งสวรรค์" นี้หลังจากไปถึงระดับ 9 เท่านั้น แต่การมีระบบนี้ก็เป็นข้อได้เปรียบ]

'ขอบคุณที่เลือกฉันโดยไม่ได้ถามฉันก่อนและผลักฉันให้เจอสถานการณ์อันตรายทุกครั้งที่ฉันจะทำอะไร' วาเรี้ยน พูดด้วยน้ำเสียงที่ซ้ำซากจำเจ

ระบบดูเหมือนโกรธและวาเรี้ยนรู้สึกว่าจิตสำนึกของเขาว่างเปล่า

ทันทีที่เขาลืมตา แสงแดดก็เข้ามากระทบตาของเขา ทำให้เขาต้องหลับตาลงในความมืดมิด เขารู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่ในภายในรถที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างมากนั้นคือรถโฮเวอร์ของเขา

ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นและพลังชี่ในร่างกายของเขาก็ไหลไปทั่วร่างกายจนแทบจะทะลักออกมา

วาเรี้ยน ค่อยๆลืมตาขึ้น

“ท่านค่ะ ฉันกังวลเรื่องที่อยู่ดีๆท่านก็หลับไปนะคะ” เสียงน่ารักของอิชช่าดังขึ้นทำให้เขานึกถึง "มุมมองแห่งสวรรค์"

“จากนี้ไปฉันจะงีบแบบนี้ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วงฉัน”

“รับทราบค่ะท่าน”

“เอาล่ะ พาฉันไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากู๊ดเดย์” วาเรี้ยนยังคิดถึงเรื่องที่เขาพึ่งได้เห็นในมุมมองแห่งสวรรค์และครุ่นคิดระหว่างทางไปบ้านเด็กกำพร้า

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากู๊ดเดย์ — เป็นที่ที่เขาได้พบกับเซียในความฝันนั้น

ตอนนี้เขากำลังจะไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาเห็นในฝันเป็นความทรงจำจริงๆของเขาหรือว่าเป็นความฝันกันแน่..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด