ตอนที่ 65 คำเชิญจากโลติด! (ตอนฟรี)
ตอนที่ 65 คำเชิญจากโลติด!
วันต่อมา
พิธีในตอนเช้า
ทั้งประชาชนและเหล่าขุนนางต่างมารวมตัวกันที่นี่
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของพวกเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เพราะวันนี้เป็นวันที่เฉิงชงจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ!
ใบหน้าของอ้วนเว่ยมืดมนอย่างมาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“เฉิงชง เฉิงอู๋ฮวย ไอ้คนน่าอาย! มันก็แค่คนโชคดีที่บังเอิญได้สังหารเตียวก๊ก!”
“มันน่าอับอายจริง ๆ ที่จักรพรรดิยอมมอบตำแหน่งนี้ให้คนอย่างมัน!”
โฮจิ๋นเองก็เผยดวงตาที่ไม่พอใจเช่นกัน
เขาคือหนึ่งในคนที่ถูกเฉิงชงปิดประตูใส่
ตอนแรกเขาอยากจะเอาชนะเฉิงชงด้วยการเข้าหาก่อน แต่เฉิงชงกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย
สิ่งนี้ทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก
เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของลั่วหยาง แต่กลับได้รับการต้อนรับที่เย็นชากลับมา
จักรพรรดิฮั่นหลิงไม่สนใจบรรยากาศและใบหน้าที่ไม่พอใจของคนรอบด้าน
นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการจะเห็นจริง ๆ อยู่แล้ว
เฉิงชงและตระกูลขุนนางอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน และเขาจะทำตัวเป็นตัวกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย
นี่คือทักษะการหลบหลีกภัยของจักรพรรดิ!
“ท่านพ่อ!”
จักรพรรดิฮั่นหลิงกล่าวเบา ๆ
เตียวเหยียงตะโกนขึ้นเสียงดังทันที “เฉิงชง!”
เฉิงชงก้าวเข้ามาทันที
บรรดาขุนนางรอบด้านต่างมองหน้าเขาด้วยความเย็นเยือก
มีเพียงไม่กี่คนเช่นโลติด ซัวหยง และอ้องอุ้นที่มองเฉิงชงด้วยความอบอุ่น
พวกเขาจงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น ไม่ใช่ตระกูลขุนนาง
เฉิงชงหาได้สนใจท่าทีของบรรดาขุนนางเหล่านี้ไม่ เขาเดินตรงไปอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิอย่างองอาจ
“เฉิงชงถวายบังคมฝ่าบาท!”
จักรพรรดิฮั่นหลิงยิ้มและพยักหน้า
เตียวเหยียงกล่าวอีกครั้ง “เฉิงชง เฉิงชงอู๋ฮวยได้รับพระราชทานตำแหน่งเจ้าพระยาแห่งหนิงกั๋ว และได้รับกระบี่จิงหงอีกหนึ่งเล่ม”
หลังจากนั้น ขันทีด้านข้างได้เดินมาหาเฉิงชง ในมือของเขาถือเสื้อคลุมและกระบี่
เขาสวมเสื้อคลุมและเก็บกระบี่ไว้ที่เอวอย่างไม่รีบร้อน
จักรพรรดิฮั่นหลิงเป็นคนที่สั่งตีกระบี่นี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง และเสื้อคลุมยังได้รับการออกแบบอย่างประณีต
เสื้อคลุมทำมาจากไหมแท้สีดำล้วน โดยมีการประดับตกแต่งด้วยด้ายสีทองรูปอาชาศึกอย่างสง่างาม
การประดับตกแต่งเช่นนี้หมายถึงเฉิงชงคือเจ้าพระยาของจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ
ภายในนั้นยังมีเมฆสีทองเจ็ดรูปแบบลอยอยู่เหนือมัน
หากเป็นของจักรพรรดิจะมีอยู่เก้ารูปแบบ ส่วนของเจ้าพระยาจะมีอยู่เจ็ดรูปแบบ
นี่คือตรายศที่ดูสูงส่งยอย่างยิ่ง!
หลังจากใส่ชุดอย่างเต็มยศแล้ว บรรยากาศรอบตัวเฉิงชงก็เปลี่ยนไปทันที
มันราวกับว่าชุดนี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
มันดูมีราคาอย่างหาที่เปรียบมิได้!
เขายืนอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก มันราวกับโอรสสวรรค์ที่กำลังเดินอยู่ในโลกอันยิ่งใหญ่
ยามนี้เฉิงชงได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าพระยาแห่งหนิงกั๋วอย่างเป็นทางการ!
ในแง่ของแม่ทัพ เขาอยู่ในแนวหน้าของข้าราชการพลเรือนและเหล่าทหารแล้ว!
แม้แต่อ้วนเว่ยที่รู้สึกเกลียดชังเฉิงชง เวลานี้ก็ต้องยอมรับในท่าทีอันไม่ธรรมดาของเฉิงชง
มันดูสูงสง่ายิ่งกว่าเขาที่มาจากตระกูลขุนนาง!
โฮจิ๋นมองจากระยะไกล สายตาไม่พอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาอีกครั้ง
เดิมทีเขาเป็นแค่พ่อค้าขายเนื้อสดในตลาด แต่ด้วยตัวตนของน้องสาวที่ได้กลายเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ เขาจึงได้กลายมาเป็นแม่ทัพใหญ่
แต่เป็นเพราะภูมิหลังอันต่ำต้อย มันจึงทำให้เขาไม่กล้าเย้ยหยันผู้อื่นอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่สาปแช่งในใจ
ชั่วขณะหนึ่ง เขาเริ่มนึกคิดในใจว่าจะปราบเฉิงชงอย่างไรดี!
ส่วนโลติดนั้นเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
เขายกศอกขึ้นอย่างเงียบ ๆ และสะกิดซัวหยงที่ยืนอยู่ด้านข้าง
กระซิบเบา ๆ
“เป็นอย่างไรบ้างป้อเซีย ข้าไม่ได้โกหกเจ้าใช่หรือไม่?”
“เด็กหนุ่มเฉิงชงผู้นี้เป็นต้นกล้าที่ดีและหายากอย่างแท้จริง เขาเหมาะสมกับเจาจีของเจ้ายิ่งนัก!”
“พรสวรรค์ของเขาสูงส่งและยังเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท อนาคตของเขาไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน เขาดีกว่าเด็กหนุ่มขี้โรคอย่างเหอตงคนนั้นอีก!”
ซัวหยงพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเขาเองก็เต็มไปด้วยความยอมรับ
เขากล่าวเบา ๆ
“ข้าไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องนี้ แต่ข้าต้องถามความสมัครใจของเอี๋ยมเอ๋อด้วย”
“ถึงแม้การแต่งงานจะเป็นพิธีสำคัญที่บิดามารดาเป็นผู้จัดเตรียมให้บุตร แต่หากเอี๋ยมเอ๋อไม่ชอบมัน เช่นนั้นข้าก็ไม่อาจส่งนางไปให้ใครได้หรอก!”
โลติดลังเลเล็กน้อย จากนั้นได้กล่าวเบา ๆ
“นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย”
“ป้อเซีย หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ข้าจะเชิญเฉิงชงไปยังร้านอาหารเป่ยเห่ยที่อยู่ทางทิศตะวันออกของลั่วหยางเอง”
“ส่วนเจ้าให้นัดเจาจีมาด้วย พวกเราจะให้ทั้งสองพบปะกันดูสักครั้งก่อนดีหรือไม่?”
ซัวหยงพยักหน้า “ย่อมได้!”
ขณะที่ทั้งสองสนทนากันอย่างลับ ๆ จักรพรรดิฮั่นหลิงได้กล่าวแก่เฉิงชง
“เฉิงชง นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นเจ้าพระยาแห่งหนิงกั๋วของข้า!”
“มันจะเป็นสักขีพยานแห่งความสงบสุขและความปลอดภัยของประเทศชาติ เหล่าคนชั่วและพวกกบฏจะไม่กล้าเข้ามาแตะต้องราชวงศ์ฮั่น!”
“ข้าไม่เพียงแค่จะแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าพระยาแห่งหนิงกั๋วเท่านั้น แต่ยังมอบกระบี่ล้ำค่าให้อีกด้วย!”
“กระบี่จิงฮงเล่มนี้เคยเป็นกระบี่ของข้ามาก่อน ข้าจะมอบให้ท่านวันนี้ หากพบใครที่ไม่ภักดีหรือขัดคำสั่ง ท่านสามารถใช้ดาบเล่มนี้ประหารคนผู้นั้นได้ทันที!”
เฉิงชงโค้งคำนับอีกครั้ง
“เฉิงชงขอบคุณในความเมตตาของฝ่าบาท!”
ด้านข้าง อ้วนเว่ยและคนอื่น ๆ ต่างมองมาด้วยใบหน้าอันเย็นเยือก
พวกเขาเป็นจิ้งจอกเฒ่าในราชสำนักมานาน แน่นอนว่าย่อมเข้าใจสิ่งที่จักรพรรดิฮั่นหลิงกล่าวเมื่อครู่!
“ข้าเหนื่อยแล้ว เลิกพิธีได้!”
จักรพรรดิฮั่นหลิงสะบัดมือ
เหล่าขุนนางบอกลาและกลับไปทีละคน
โลติดจงใจเดินไปมาอย่างช้า ๆ
เมื่อเฉิงชงออกมา เขาได้เข้าไปหาและกล่าวอย่างนุ่มนวล
“หลานอู๋ฮวย!”
“ท่านโลติด มีเรื่องอะไรหรือขอรับ?”
เฉิงชงประหลาดใจเล็กน้อย
โลติดยิ้มพร้อมกล่าว “เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ ข้าได้จัดงานเลี้ยงที่ร้านอาหารเป่ยเห่ยในลั่วหยาง ท่านจะต้องมาให้ได้!”
เฉิงชงผงะชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า
“เมื่อท่านโลติดเอ่ยคำเชิญโดยตรงเช่นนี้ ข้าก็คงไม่กล้าเสียมารยาท! เชิญท่านนำทางได้เลย!”
ถึงแม้จักรพรรดิฮั่นหลิงไม่ต้องการให้เขาติดต่อกับตระกูลขุนนางในเมือง แต่ก็มีแค่ตระกูลใหญ่ ๆ อย่างตระกูลอ้วนแห่งยีหลำ และตระกูลหยางแห่งหงนองที่มักจะใช้อำนาจแข่งขันกับจักรพรรดิ
แต่คนอย่างโลติดที่อุทิศชีวิตเพื่อราชวงศ์ฮั่น ถึงแม้เขาจะเป็นคนจากตระกูลขุนนาง แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายกับจักรพรรดิฮั่นหลิง
ดังนั้นเฉิงชงจึงสามารถไปตามคำเชิญด้วยจิตใจที่สงบ
โลติดและเฉิงชงสนทนาพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนานตลอดทาง และไม่นานก็มาถึงร้านอาหารเป่ยเห่ย
“นี่เป็นที่นั่งสำหรับสี่คน...”
เฉิงชงมองและครุ่นคิดในใจ
“ท่านโลติด มีผู้อื่นมาด้วยงั้นหรือ?”