ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 8 เวอร์จิ้นดันเจี้ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 10 สู้กับอะบิซอล

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 9 อะบิซอล


เวอร์จิ้นดันเจี้ยนสว่าง แต่ไม่มีดวงอาทิตย์ ดินเป็นสีแดงและหญ้าสีน้ำเงินเติบโตทุกที่ มีระบบนิเวศเป็นของตัวเอง

พวกเขาเดินผ่านหญ้าไปเล็กน้อย ก่อนที่วาเรี้ยนจะพบกระต่ายปีศาจสองตัวที่กำลังกินพืชอะไรบางอย่างอยู่

กระต่ายปีศาจเป็นสัตว์เวทมนตร์ระดับ 1 มันสูง 1.5 เมตร มีขนสีน้ำเงินและมีกล้ามวาเรี้ยนจะไม่สามารถทนการโจมตีของพวกมันได้เกิน 3 ครั้งเพราะนั้นจะทำให้กระดูกของเขาหักแน่นอน

สมาชิกในทีมสองคนไปสำรวจรอบๆ และตรวจสอบสัตว์เวทมนตร์ตัวอื่นๆ

วาเรี้ยนแทบจะไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้เลย พวกเขาเร็วกว่าเขามากและวาเรี้ยนรู้จากโปรไฟล์ของพวกเขาว่าอย่างน้อยก็พลังระดับ 2

กระต่ายปีศาจไม่รู้ว่าการตายของพวกมันกำลังคลืบคลานเข้ามา

อาเธอร์เสนอให้กำจัดกระต่ายปีศาจโดยการลอบฆ่า

วาเรี้ยนพยักหน้าและค่อยๆย่องไปข้างหลังกระต่ายปีศาจ เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่เต้นเป็นจังหวะในร่างกายของเขา เขารู้สึกใกล้ชิดกับบางสิ่งที่อยู่ลึกข้างใน

เขากระโจนออกไปที่กระต่าย ถุงมือของเขาส่องประกายและหมัดของเขาเล็งไปที่คอของกระต่ายปีศาจ

"คลิก"

คอของกระต่ายปีศาจถูกหมัดของวาเรี้ยนทุบ กระต่ายปีศาจมีการป้องกันที่อ่อนแอมากและกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้าคือการได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อน

บูม!

วาเรี้ยนกลิ้งตัวมาอย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงการโจมตีของกระต่ายปีศาจอีกตัวที่สามารถหลบการโจมตีของเขาได้

เขาไม่รู้ว่ามันหลบเลี่ยงการโจมตีของเขาได้อย่างไร ไม่ว่าจะด้วยโชคหรือการรับรู้แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาเหลือแล้ว เขาต้องต่อสู้กับมันซึ่งๆหน้า

กระต่ายปีศาจกระโดดเข้ามาหาเขา และวาเรี้ยนก็หลบไปด้านข้าง แม้ว่าพวกมันจะมีการป้องกันที่อ่อนแอ แต่พวกมันก็มีความเร็วเป็นข้อชดเชย

วาเรี้ยนทำได้เพียงเดิมพันด้วยประสบการณ์ของเขาและเคลื่อนไหวก่อนที่การโจมตีจะมาถึงเพื่อหลบมันด้วยความเร็วสูงสุด

'บูม!'

กระต่ายกระโจนเข้าใส่เขาอีกครั้ง ฟันของมันสามารถกัดตัวของวาเรี้ยนแล้วทำให้มีแผลฉกรรจ์ได้อย่างแน่นอน

วาเรี้ยนหักเลี้ยวไปทางซ้ายและจัดการชกที่หลังของมัน ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ เขาทุบคอของมันซ้ำไปอีกครั้งเพื่อความชัวร์

การเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขา และวาเรี้ยนก็มีเหงื่อออกและเหนื่อยมาก

"นี่มันเป็นไปได้ด้วยหรอ!" อาเธอร์มองที่วาเรี้ยนด้วยความประหลาดใจ

แผนการคือการลอบฆ่า แต่ความผิดพลาดเพียงนิดเดียวอาจทำให้วาเรี้ยนตายได้

แม้ว่าอาเธอร์จะช่วยเขาให้รอดได้หากเกิดเหตุการณ์แบบนั้น วาเรี้ยนก็จัดการทุกอย่างด้วยตัวเขาเองได้

การกำจัดกระต่ายปีศาจก่อนที่มันจะรู้ตัวเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องสู้กับความเร็วของพวกมัน 2 ตัวพร้อมกัน

จากนั้นถ้าเขาล้มเหลวในการหลบการโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะตกอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบและชีวิตเขาก็จะจบลง

“ตามคาดเพื่อนของฉัน การต่อสู้ของนายยอดเยี่ยมมาก” ไคล์พยักหน้าเห็นด้วย

“การต่อสู้ในคุกใต้ดินครั้งแรกของนาย ฉันดีใจมาก” มายาเป็นกำลังใจให้

วาเรี้ยนเพิกเฉยต่อเสียงเชียร์ของพวกเขาและชำแหละกระต่ายปีศาจ มีแกนพลังงานขนาดเล็กสองอันอยู่ภายในท้องของมัน

เขารวบรวมแกนหินไว้ในแหวนอวกาศ ซึ่งเป็นสมบัติดวงดาวขั้นต่ำที่มีการจัดเก็บเหมือนกระเป๋า

'เฮ้ ระบบ แกตายแล้วเหรอ? แกควรจะแสดงความคืบหน้าของฉันไม่ใช่หรือไง ไม่ให้รางวัลแก่การฆ่าครั้งแรกของฉันเหรอ' วาเรี้ยนถามเนื่องจากการสื่อสารเป็นกระแสจิตจึงไม่มีใครสังเกตเห็นหรือรับรู้

[นี่ไม่ใช่เกมนะ แต่คุณพูดถูกเกี่ยวกับความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ คุณยังไม่คืบหน้าแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นอย่าพึ่งร้อนใจ ฉันจะแสดงความคืบหน้าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง]

ใบหน้าของวาเรี้ยนกระตุก และเขาสาปแช่งนักเขียนนิยายที่เขาเคยอ่านที่มอบรางวัลให้ทุกครั้งที่ฆ่าครั้งแรก

พวกเขายังคงผจญภัยต่อไปและกระต่ายปีศาจก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ วาเรี้ยนก็ต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ถ้าไม่นับอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เขาแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย พวกเขาพักระหว่างการเดินทางและไม่นานก็ผ่านไปครึ่งวัน

แทนที่จะลดลงแรงของวาเรี้ยนกลับเพิ่มขึ้น ทีมของอาเธอร์ทั้งประหลาดใจและทึ่งเป็นอย่างมาก

ยิ่งเดินไปลึกลงไปเท่าไรกระต่ายปีศาจก็แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

หลังจากฆ่ากระต่ายอสูรตัวที่สิบเสร็จแล้ว วาเรี้ยนก็เก็บแกนของมันในขณะนั้นเองเขาก็มองไปเจอบางอย่าง และเขาสังเกตเห็นมือของไคล์กำลังสั่น

"กลัวหรอเพื่อน?" เขาถามด้วยรอยยิ้มล้อเลียน ทำให้ทุกคนหันมามองไคล์

“ไม่ แน่นอน แต่เรามาลึกเกินไปไม่ใช่หรอ เราจะเข้าใกล้เขตภายในภายในหนึ่งชั่วโมง เราอาจจะเจอสัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 หรือแม้แต่ระดับ 3?” ไคล์พยายามทำเสียงให้เข็มแข็ง

ดันเจี้ยนประกอบด้วยสามพื้นที่: พื้นที่รอบนอก, พื้นที่ภายใน และ พื้นที่แกนกลาง สัตว์เวทมนตร์ในพื้นที่ขนาดภายในขึ้นไปปกติแล้วมันจะไม่ออกมานอกเขตตัวเอง แต่ว่าก็มีบางครั้งเหมือนกันที่มันออกมา

นี่เป็นเหตุผลที่แม่ของเขาไม่ยอมให้เขาเข้าไปในคุกใต้ดิน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้ปลุกพลังก็ตามแต่ถ้าหากเจอเข้ากับสัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 เธอก็คงไม่รอดเหมือนกัน

อย่างไรก็ตามวาเรี้ยนไม่ได้กังวลอะไร แม้แต่สัตว์เวทย์มนตร์ของพื้นที่แกนกลางก็มีถึงระดับ 3 เท่านั้น เช่นเดียวกับอาเธอร์ซึ่งทีมนี้มีทั้งระดับ 2 และ 3

“เธอไม่เชื่อในพลังของฉันเหรอไคล์” อาเธอร์หัวเราะเบาๆ และเหวี่ยงดาบของเขาออกมา

ดาบของฉันหน่ะสามารถผ่าครึ่งพวกมันได้อย่างง่ายดายเลยนะ

“เปล่า ฉันแค่กังวลเรื่องอุโมงค์ข้ามมิติ” ไคล์พูดขึ้นและพยักหน้าเพื่อยืนยันเรื่องที่เขาพึ่งพูดออกมา

อุโมงค์ข้ามมิติเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมันเป็นการส่งสิ่งมีชีวิตในช่องว่างที่เชื่อมต่อกันสองแห่ง

นี่หมายความว่าสัตว์เวทมนตร์จากดันเจี้ยนระดับกลางสามารถมาโผล่ในดันเจี้ยนระดับต่ำได้ แต่ปัญหาคือ . .

“โอกาสมีเพียงหนึ่งในล้านล้านไคล์อย่ากังวลไปเลย” มายาตบไหล่ของเขา

ทีมของอาเธอร์ยังคงเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตามวาเรี้ยนรู้สึกหงุดหงิดกับคำว่าอุโมงค์ข้ามมิติเขาไม่เคยนับความโชคดีของตัวเองเลยสักครั้งเพราะที่ผ่านมาเขานับแต่ความโชคร้ายของตัวเอง

“แต่มีข่าวลือจากชาร์โดว์ออเดอร์ พวกเขาบอกว่าอุโมงค์ข้ามมิติ เป็นเครื่องมือของอะบิซอลพวกนั้นสามารถข้ามอุโมงค์มาและปรากฏตัวในดันเจี้ยนได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลเล็กน้อย

“อย่าไว้ใจข่าวลือจากพวกชาร์โดว์ออเดอร์บ้าๆ พวกนั้นเลย พวกเขาเป็นผู้ก่อการร้ายนะ ให้ตายเถอะ” อาเธอร์ตอบกลับ

อย่างไรก็ตาม วาเรี้ยนสังเกตว่ารอยยิ้มของอาเธอร์แข็งทื่อเล็กน้อย และเขาขาดบุลคลิกที่สบายๆ ตามแบบปกติของเขา..

'จะไม่มีควันถ้าไม่มีไฟหรอกนะแต่ทั้งหมดที่ฉันหวังก็คือโชคของฉันจะไม่เลวร้ายจนฉันได้พบกับบางสิ่งที่ไม่ควรเจอที่นี่' วาเรี้ยนหวัง..

เขาเดินต่อไปข้างหน้าสักพักก็มีแสงสว่างวาบวาบอยู่ข้างหน้า

เสาแห่งแสงตกลงมาจากท้องฟ้าและวาเรี้ยนพยายามมองดูเมื่อแสงนั้นจางลง

ฮิวแมนนอยด์สิบตัวยืนอยู่ตรงที่แสงส่องลงมา พวกมันสูงประมาน 2 เมตรกว่าๆและมีผิวสีเทา

อะบิซอล!

วาเรี้ยนรู้สึกว่าเสียงทั้งหมดหายไปครู่หนึ่ง และก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรเขาก็ถูกลมพัดปลิวไปแล้ว

บูม!

อาร์เธอร์เข้ายึดอะบิซอลสี่แห่งอย่างรวดเร็ว และทีมของเขาจัดการอะบิซอลอย่างละสองแห่ง สถานการณ์ไม่ดีแล้ว

"วิ่ง!" อาเธอร์ตะโกนและเหวี่ยงดาบเพื่อป้องหอกของพวกอะบิซอลคลื่นกระแทกจากการรับหอกของพวกมันทำให้เกิดลมแรงและทำให้พื้นดินแตก

“ไคล์ให้ตายสิ! วาเรี้ยน พร้อมด้วยไคล์และมายาพุ่งไปที่ทางออก

ระบบเตือนความจำปรากฏขึ้นที่หน้าของวาเรี้ยนซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็น

[เส้นทางแรกเริ่มต้น เส้นทางร่างกาย: ระดับ 0 {5/30}]

*** *** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด