ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ ตอนที่ 1 อธิบายสายต่าง ๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ ตอนที่ 3 วาเรี้ยน (2)

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ ตอนที่ 2 วาเรี้ยน (1)


เสียงที่อ่อนล้าแต่มุ่งมั่นของวาเรี้ยน ก้องกังวานไปทั่วดวงจันทร์ "ความหวังในจิตวิญญาณของฉันจะคงอยู่ตลอดไป"

“ฮึ่ม!” เสียงทุ้มดังขึ้นและในวินาทีต่อมา ดวงจันทร์ก็สั่นสะเทือน

วาเรี้ยนขมวดคิ้ว และพลังจิตของเขาก็ปกคลุมดวงจันทร์ทั้งดวงในทันที

ทหารทุกนายในฐานทัพพุ่งขึ้นไปในอากาศและยิงไปที่ดวงจันทร์พร้อมกัน

วินาทีถัดมา ดวงจันทร์ก็แหลกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

บูม!

บูม!

วาเรี้ยน กระพริบตาหลังจากดวงจันทร์แหลกสลายและเทเลพอร์ตขึ้นไปเหนือดวงจันทร์หลายร้อยไมล์

เศษซากจากดวงจันทร์กระจายออกไปทุกทิศทุกทาง

“มนุษยชาติจะไม่ล่มสลาย!”

ทหารที่เพิ่งถูกส่งไปยังสถานีอวกาศใช้พลังที่ถูกปลุกขึ้นเตรียมที่จะทำลายส่วนที่เหลือของดวงจันทร์

สถานีอวกาศที่เป็นแนวป้องกันสุดท้าย หากเศษซากดวงจันทร์ตกลงมาที่โลก

โลกก็จะถึงกาลอวสารโดยสมบูรณ์ แต่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเกินกว่าจะป้องกันได้

'อันที่จริง มนุษยชาติจะไม่ล่มสลาย' วาเรี้ยน เหลือบมองไปที่เศษซากดวงจันทร์

ซิ!

ราวกับว่าพวกเขาถูกบดบังด้วยพลังที่มองไม่เห็น พวกเขาทั้งหมดหยุดแล้วเขาก็ดีดนิ้ว

เป๊าะ!

สายฟ้าผ่าลงมาจากอวกาศ มันเหมือนเป็นสัญญาณของการล่มสลาย

ฟ้าที่ผ่าลงมาเปรียบเสมือนกับความพิโรธของพระเจ้าได้กระทบเศษซากที่กระจัดกระจายและแผดเผาเศษซากของดวงจันทร์ให้เป็นเถ้าถ่าน

“ผู้กอบกู้!”

"จักรพรรดิ!"

"ไร้เทียมทาน!"

มนุษยชาติทั้งหมด ตั้งแต่ดาวพุธถึงดาวเสาร์

มนุษย์ทุกคนตั้งแต่คนที่พลังยังไม่ตื่นจนถึงคนที่มีพลังระดับ 9 ต่างส่งเสียงเชียร์เขาท่ามกลางสงครามที่ตัดสินความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ

วาเรี้ยนอยากได้ยินคำเหล่านั้นเสมอ แต่กว่าเขาจะรู้ตัวว่าโดนอะไรเข้าไปมันก็สายเกินไปแล้ว

ประสาทสัมผัสของเขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่เอวของเขาพอเขาหันไปดูเขาพบว่ามีบาดแผลลึกไปถึงหัวใจ

แต่เขายังไม่ทันที่จะพยายามกดบาดแผลด้วยซ้ำบาดแผลของเขาก็ถูกรักษาภายในทันที

วาเรี้ยน เกร็งและจ้องมองไปไกลๆ

“แกเป็นมนุษย์ที่น่ารังเกียจคนหนึ่งปีที่แล้วฉันคิดว่ามีเพียงมนุษย์สองคนนั้นเท่านั้นที่จะสร้างปัญหาได้”

เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อเงาปรากฏขึ้นมาจากที่ที่ไกลห่างออกไป

วาเรี้ยนกำหมัดแน่น และพื้นที่รอบๆก็เริ่มบิดเบี้ยว พื้นที่ถูกปิดกั้นเพื่อไม่ให้อาวุธนิวเคลียร์นั้นระเบิด แต่!

กรี๊ด!

การปรากฏตัวของเขาทำให้พื้นที่บิดเบี้ยว เขาทำลายข้อจำกัดด้านพื้นที่และมาถึงตัวของวาเรี้ยน

จักรพรรดิอะบิซอลถามด้วยน้ำเสียงสนุกสนานและสงสัย

"ในเวลาเพียงปีเดียว แกเปลี่ยนจากคนที่พลังยังไม่ถูกปลุกมาเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างไร"

*** *** ***

เมื่อปีก่อน

“ข้าจะไม่เมตตาเพียงเพราะพลังของเจ้ายังไม่ตื่น”

ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองลงไปที่วาเรี้ยนที่อยู่ข้างหน้า

"นั้นมันเป็นความคิดของเจ้าข้าไม่ต้องการความเมตตา" วาเรี้ยนตอบด้วยและเริ่มตั้งท่าการต่อสู้ รูปร่างผอมเพรียวของเขาสะท้อนขึ้นมาจากพื้นผิวเวทีที่ขัดมัน

ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไรฝูงชนที่นั่งรอบเวทีก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น เลออนฮอลล์ไม่ใช่ที่ที่ได้รับความนิยมในการเอามาดวลกัน แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น

หุ่นยนต์แม่บ้านเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ผู้ชมขณะที่พวกเขาจ้องไปที่หน้าจอโฮโลแกรม 3 มิติขนาดใหญ่

มันกำลังถ่ายทอดภาพที่ทำให้เห็นว่ามีคู่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ด้วยความตั้งใจอย่างมาก

แมทช์นี้ไม่เหมือนกับการดวลของผู้ถูกปลุกพลังตามปกติ

ผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 ถูกวาเรี้ยนมาท้าดวลซึ่งวาเรี้ยนตอนนี้ยังไม่ถูกปลุกพลังด้วยซ้ำ!

นี้เป็นการท้าดวลที่บ้ามาก แต่ฮอลล์ที่สนับสนุนคนที่พลังยังไม่ตื่นนั้นได้กระจายข่าว

และข่าวก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

"เธอล้อเล่นหรือเปล่า? เด็กสาวมัธยมปลายถามเพื่อนของเธอที่ลากเธอมาดูการดวลนี้

“เป็นความจริง วาเรี้ยน เข้าร่วมฮอล์เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเอง แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของเขานั้นไม่มีใครเทียบได้เจ้าของฮอล์ยังพูดออกมาเองเลยว่าเขาสามารถไปถึงระดับ 4 ได้หากพลังของเขาตื่นขึ้นและกลายเป็นผู้ถูกปลุกพลังระดับกลาง” เพื่อนของเธอตอบ เธอจ้องไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่

“แน่ใจนะว่าไม่ใช่สกา--”

"การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น" ผู้ตัดสิน AI ประกาศ ทุกคนจ้องไปที่หน้าจออย่างตั้งใจ ที่ผู้เข้าแข่งขันที่พลังยังไม่ตื่นนั้นคือวาเรี้ยน

วาเรี้ยน ไม่สะทกสะท้านกับสายตาของคนดูมากมายที่กำลังจับตามองดูเขาอยู่แม้แต่น้อย

เขารักษาท่าทางที่ได้รับการฝึกฝนมาและหายใจเข้าลึก ๆ รอการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้

เขาสามารถจัดการคนธรรมดาหลายสิบคนในการทะเลาะวิวาทได้ด้วยตัวคนเดียว

เขาไม่เคยแพ้การแข่งขันกับผู้ที่ยังไม่ถูกปลุกพลังเลยสักครั้ง

อย่างไรก็ตาม เขารู้ขีดจำกัดของตัวเอง คู่ต่อสู้ของเขาตอนนี้เป็นผู้ถูกปลุกพลังด้านร่างกายระดับ 1

พวกที่ถูกปลุกพลังด้านร่างกายแค่ระดับ 1 ก็แข็งแกร่งกว่านักมวยที่เก่งที่สุด เร็วกว่านักกีฬาที่ไวที่สุด และยืดหยุ่นกว่านักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดของโลก

แต่ว่าผู้ปลุกพลังด้านร่างกาย ระดับ 1 ที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาไม่แข็งแกร่งจนถึงขั้นหลบกระสุนหรือป้องกันโจมตีจากมีดได้ แต่พลังของเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั่วไป บางทีกลุ่มคนร้ายอาจทำให้ผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 ล้มลงได้ แต่การเอาชนะพวกมันแบบตัวต่อตัวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

วาเรี้ยนรู้เรื่องนี้ทั้งหมด แต่เขามั่นใจมากว่า หากมีวิธีหนึ่งที่เขาจะชนะได้ ก็คือการใช้ความแข็งแกร่งของเขาปกปิดจุดอ่อนและใช้ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาได้รับจากการฝึกฝนที่ยากลำบากและทักษะที่ฝึกฝนจนกระดูกหักในการต่อสู้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ผู้ปลุกพลังที่อยู่ข้างหน้าของเขาไม่มีสิ่งเหล่านั้น

เขาเป็นผู้ปลุกพลังคนใหม่และภาคภูมิใจในพลังโดยธรรมชาติของเขามากเกินไป และดูถูกความกล้าหาญและประสบการณ์ที่ฝึกฝนมาทั้งหมด

ในที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็เริ่มเคลื่อนไหว ด้วยความเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะเอื้อมถึงได้ เขาพุ่งไปข้างหน้าวาเรี้ยนชกเข้าที่คางของเขา

ผู้ชมอ้าปากค้าง แต่ก่อนที่คู่ต่อสู้ของเขาจะออกหมัด วาเรี้ยนก็หลบแล้วต่อยสวนกลับไปทันที

'บูม!'

คู่ต่อสู้ของเขาถอยหลังหนึ่งก้าวและปิดจมูกที่มีเลือดออก

คุณสมบัติทางกายภาพของผู้ปลุกพลังร่างกายระดับ 1 นั้นสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามนุษย์ธรรมดาจะไม่มีโอกาสชนะ

“อย่าดูถูกฉันนะ ไอ้ขยะ!” ชายหนุ่มพุ่งเข้ามาที่เขาในขณะที่เขาเล็งลูกเตะไปที่หน้าอกของวาเรี้ยน

"การเคลือนไหวของแกหน่ะมันง่ายเกินไป" วาเรี้ยนตอบแล้วเบี่ยงไปทางขวาและเตะหลังคู่ต่อสู้ ทำให้เขาล้มลงกับพื้น

บูม!

การเตะเพียงอย่างเดียวจะทำให้คนปกติต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ผู้ปลุกพลังนั้นไม่ใช่คนธรรมดา

คู่ต่อสู้ของเขากลับมายืนได้อีกครั้งในชั่วพริบตาและยังคงโจมตี วาเรี้ยน อย่างต่อเนื่อง ทุกท่วงท่าการโจมตีที่คู่ต่อสู้ของเขาปล่อยออกมาจะทำลายกระดูกของวาเรี้ยน อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เขาปล่อยออกมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหมัดตรงหรือลูกเตะ ก็ไม่สามารถแตะต้องเขาได้แม้แต่เส้นผม

แม้จะมีพลังที่อัดแน่น แต่การออกกระบวนท่าของเขาฉันสามารถอ่านได้หมดเพราะมันง่ายเกินไป

"ต่อยที่ช่องท้อง เตะที่ลำไส้ และศอกไปที่ซี่โครง" วาเรี้ยนอ่านการโจมตีของคู่ต่อสู้ในขณะที่เขาปล่อยท่วงท่าทุกอย่างออกมา ขณะที่วาเรี้ยนหลบการโจมตีทุกๆอย่างได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าของเขาสงบนิ่งและถึงแม้เขาจะเหงื่อออก แต่เขาก็ไม่ได้ดูกังวลใจเลย

คู่ต่อสู้ของเขาคิดว่าวาเรี้ยนแค่โชคดีพอที่จะหลบการโจมตี แต่มันก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“บัดซบ! เจ้าลูกครึ่ง” หมัดอันรุนแรงและเร็วถูกต่อยไปที่คางของวาเรี้ยน ทำให้ตัวของเขากระเด็นลอยขึ้นฟ้า และก่อนที่เขาจะลุกขึ้น เขาก็ถูกเตะเข้าที่ซี่โครง

ใบหน้าที่สงบก่อนหน้านี้ของวาเรี้ยนบิดเบี้ยว เขาชกหน้าคู่ต่อสู้และเตะซี่โครงของเขาต่อไป หักทีละท่อน

แกรํก!

แกรํก!

แกรํก!

วาเรี้ยนล้มลงกระแทกกับพื้นและพยายามลุกขึ้น แต่ทุกๆความพยายามถูกตอบโต้ด้วยการโจมตีที่คำนวณไว้ซึ่งทำให้เขาล้มลงอีกครั้ง

สิ้นหวัง เขาเริ่มต่อยที่ขาของวาเรี้ยนด้วยความแข็งแกร่งที่ไร้มนุษยธรรม

แตก!

ขาของวาเรี้ยนเกือบจะหักเมื่อเสียงกระดูกหักของเขาดังก้องไปทั่วเวที เขากัดฟันและทนต่อความเจ็บปวดและทำสีหน้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งคู่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส และการดวลกลายเป็นแมตช์ความอดทนของผู้ที่ยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวดก่อน

ผู้ชมเริ่มบ่นเพราะพวกเขาเริ่มแน่ใจว่าใครจะแพ้นั้นคือวาเรี้ยน

เป็นเพราะความเจ็บปวดที่วาเรี้ยน ต้องเผชิญนั้นยิ่งใหญ่กว่าการต่อสู้กับคนปกติวาเรี้ยนไม่มีทางที่เขาจะชนะ

“พวกเขาโกหกคุณ แม้ว่าวาเรี้ยนจะเข้าใกล้กับผู้ถูกปลุกพลังร่างกายระดับ 1 มากแค่ไหน” เด็กหญิงลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อออกจากห้องฮอล์และอีกหลายๆคนก็เริ่มลุกขึ้นตาม

"รอก่อน!" เพื่อนของเธอยืนกราน และหญิงสาวก็มองเธออย่างรำคาญ แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่ ไม่ว่าแมตช์จะจบลงเมื่อไรก็ตาม

เธอเหลือบมองที่หน้าจออย่างไม่ระมัดระวัง และวินาทีถัดมา เธอก็อ้าปากค้างกับฉากที่เห็น

ขาของวาเรี้ยน ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ความถี่ของการโจมตีก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขาเตะคู่ต่อสู้ด้วยขาที่เปื้อนเลือด การโจมตีของคู่ต่อสู้ค่อยๆหายไป และในที่สุดเขาก็หมดสติ

“วาเรี้ยนชนะ!” เมื่อผู้ตัดสินประกาศทุกคนที่กำลังจะเดินออกจากฮอล์นั้นชะงัก

เมื่อมองไปที่หน้าจอ ทุกคนก็จ้องมองไปยังสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ผู้ที่ปลุกพลังถูกล้มโดยผู้ที่ไม่ถูกปลุกพลัง

เรื่องในวันนั้นกลายเป็นความจริงที่จะไม่มีวันเลือนหายไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด