ตอนที่แล้วบทที่ 61 จัดของขวัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 63 ประกาศการตื่นของเขา

บทที่ 62 ฉิบหาย


กำลังโหลดไฟล์

เฟลิกซ์ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนกร้องและแสงแดดอันสดใสใน UVR

เขาเหยียดแขนไปด้านหลังและยืนขึ้นจากม้านั่ง 'ถึงเวลาซื้อเทคนิคทั่วไปที่ฉันต้องการอย่างยิ่งในตอนนี้'

เขาเรียกโฮเวอร์แค็บและรอ 2-3 วินาทีก่อนที่มันจะมาถึงและรับเขาไป

"ไปศูนย์เทคนิคครับ" เขายิ้ม

....

10 นาทีต่อมา

ภายในร้านที่มีป้ายสีดำขนาดใหญ่แขวนอยู่เหนือทางเข้า เฟลิกซ์กำลังนั่งอยู่ในห้องรับรอง โฮโลแกรมด้านหน้ากำลังแสดงข่าวทั่วทั้งจักรวรรดิในปัจจุบัน

'ตามคาด วอลลี่ยังคงโด่งดังแม้จะผ่านมาเป็นเดือนแล้ว เกมนั้นเปลี่ยนชีวิตของเขาอย่างแท้จริง'

เฟลิกซ์ยิ้มขณะมองดูวอลลี่ที่มีฉายาตัวหนาลอยอยู่เหนือหัว 'กฎไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่คุณจะทำแบบเดียวกันได้หรือไม่'

จริงอย่างที่ฉายากล่าว กฎเกณฑ์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ใครก็ตามที่ไม่กลัวความเจ็บปวดอย่างที่วอลลี่ทำ สามารถทำซ้ำความสำเร็จของเขาและชนะได้เช่นกัน

SGA ไม่เคยเปลี่ยนกฎเว้นแต่จะมีช่องโหว่ แต่มันนานมากแล้วตั้งแต่ช่องโหว่สุดท้ายปรากฏ ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือคือการชนะอย่างถูกต้องหรือค้นหาวิธีที่ผิดธรรมดาเหมือนที่เขาทำ

ไม่มีใครหยุดคุณได้

'เวลาที่ฉันจะครองแพลตฟอร์มข่าวทั้งหมดจะมาในไม่ช้า รอพ่อที่หล่อเหลาคนนี้ก่อนเถอะ จากนั้นจะมีรูปของฉันทุกที่'

ด้วยความมั่นใจ เขายิ้มแล้วปิดโฮโลแกรม มุ่งหน้าไปที่เคาน์เตอร์ตรวจสอบคิวปัจจุบันของเขา

"คุณคะ ยังมีลูกค้าอีก 102 รายที่รอทดสอบเทคนิค ถ้าคุณรีบ ฉันแนะนำให้คุณจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพื่อรับการบริการเป็นลูกค้าคนสำคัญ" สาวสวยสุภาพมัดผมหางม้าแจ้งเขาอย่างมืออาชีพ

“ไม่จำเป็นครับ ผมรอได้ แค่เรียกผมเมื่อถึงคิวผม ขอบคุณครับ”

เฟลิกซ์ไม่สนใจคำแนะนำของเธอ เขาโบกมือขณะเดินกลับไปที่เลานจ์ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถทำตัวเป็นเศรษฐีได้อีกต่อไปโดยการจ่ายเงินเพื่อลัดคิว เขาต้องบีบทุกเหรียญจากนี้ไป เขาจะได้มีเหรียญให้เดิมพันมากขึ้นในระหว่างเกมที่จะมาถึง

น่าเศร้า แม้เฟลิกซ์จะมีเงินหลายล้านในบัญชีธนาคารของเขา เขาก็ยังรู้สึกจน แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ไม่มีใครบังคับให้เขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

เขาสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย หากเขาเดินบนเส้นทางปกติเหมือนคนอื่น ๆ

แต่ในสายตาของเขา นั่นจะเป็นความอยุติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทุกคนในจักรวาล ที่ปรารถนาจะมีโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ด้วยโอกาสและกลโกงมากมายนี้

....

45 นาทีต่อมา

เฟลิกซ์ถูกเรียกเมื่อถึงคิวของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อทำให้เร็วที่สุด

"ห้องสาธารณะหมายเลข 149" เธอให้กุญแจแก่เขาและอธิบายต่อ “คุณสามารถดูรายการเทคนิคทั่วไปได้ที่นั่น นอกจากนี้คุณยังสามารถทดสอบใช้งานฟรีได้ 5 ครั้ง แต่หลังจากนั้น คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,000 SC สำหรับการทดสอบแต่ละครั้ง เข้าใจไหมคะ?”

"ครับ"

เขาหยิบกุญแจและสแกนมันด้วยสร้อยข้อมือ ทันทีหลังจากนั้นมันก็แตกเป็นอนุภาคแสง เฟลิกซ์พยักหน้าอย่างสุภาพและเดินไปที่ห้องด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

เขาวางแผนจะเรียนรู้เทคนิคการเข้าถึงจิตสำนึกก่อนเพื่อไปเยี่ยมแอสน่า และเซอร์ไพร์เธอในขณะที่เธอยังหลับอยู่

“ฮิฮิ เรายังมีสัญญาที่ยังไม่บรรลุระหว่างเรา” เขาถูมือด้วยท่าทางลามก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไอ้สารเลวนี่จะรีบเรียนรู้เทคนิคนี้ คำสัญญาที่เขาให้ไว้กับแอสน่าระหว่างอาบน้ำยังอยู่ในใจเขามาจนถึงทุกวันนี้

ขึ้นอยู่กับความถี่ที่เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า แอสน่าอาจต้องจ่ายจำนวนมาก!

...

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ก้าวออกจากลิฟต์และเดินอย่างช้า ๆ ผ่านห้องทีละห้องจนสายตาเหลือบไปเห็นห้องหมายเลข 149

เขาวางสร้อยข้อมือบนเครื่องสแกนที่ประตู รอ 2-3 วินาทีก่อนที่ประตูจะเปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

เฟลิกซ์หวนคิดถึงความหลัง ดวงตาของเขามองไปรอบ ๆ สังเกตแต่ละมุมของห้องสีขาวเรียบง่าย ไม่มีอะไรอยู่ข้างในยกเว้นแต่เก้าอี้และฉากกั้นขนาดใหญ่ แสดงชื่อเทคนิคนับร้อยอย่างกล้าหาญที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งต้องสงสัยจากความหลากหลายและราคาอันน่าตกใจ

“นานมากแล้วที่ฉันใช้ห้องแบบนี้” เมื่อดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ราคาเหล่านั้น เปลือกตาของเขาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ "ยังแพงเหมือนเดิม"

เขาคลิกปุ่มค้นหาและป้อนชื่อเทคนิคที่เขาต้องการซื้อ

ไม่นานรายชื่อเทคนิคทั้งหมดที่มีชื่อเดียวกันก็ปรากฏขึ้น ตั้งแต่ถูกสุดไปจนถึงแพงที่สุด

เฟลิกซ์ไม่สนใจที่จะเลื่อนไปดูเทคนิคที่เขาไม่สามารถแม้แต่จะจ่ายได้ด้วยทุนที่น่าสงสารของเขา

เขาคลิกปุ่มซื้อเทคนิคที่ 3 ในรายการ

'คุณเฟลิกซ์ ฉันแนะนำให้คุณเตรียมความคิดของคุณให้พร้อม เพราะภายใน 5 วินาที รายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคจะถูกส่งตรงไปยังสมองของคุณ'

เฟลิกซ์ขอบคุณราชินี AI สำหรับการเตือนล่วงหน้าและหลับตาลง

ทันใดนั้น ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับเทคนิคก็ท่วมสมองของเขาเป็นเวลา 6 วินาทีติดต่อกัน

รู้สึกท่วมท้นเล็กน้อย เฟลิกซ์เหงื่อออกบนหน้าผาก เขาใช้มือค้ำยันเพื่อรองรับน้ำหนักของเขา มันค่อนข้างยากที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมากในคราวเดียว

“อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เป็นลมหรือปวดหัว” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“มาดูกันว่าฉันสามารถเข้าสู่จิตสำนึกของตัวเองได้หรือเปล่า แม้จะมีสายเลือดเพียง 1%” เขาเอาแขนเสื้อเช็ดหน้าผากที่มีเหงื่อออกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้

เขาไม่แน่ใจ 100% ว่ามันทำงานยังไง เพราะในชีวิตก่อนของเขามันเปิดใช้งานเองโดยอัตโนมัติ การใช้เทคนิคทั่วไปอย่างน้อยควรรวมสายเลือดมากมากกว่านี้ก่อน บาเรียจิตสำนึกจะได้ไม่แตกทันทีหลังจากล้มเหลว

แต่เขาสามารถทำได้ เพราะบาเรียจิตสำนึกของเขาไม่เหมือนคนอื่น ๆ เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันสามารถทนได้อย่างน้อย 3 ครั้งก่อนที่มันจะถูกทำลาย

"เอาเลย"

เฟลิกซ์บีบคอของเขาและเริ่มพูดภาษาที่ไม่รู้จัก ซึ่งฟังดูแปลกประหลาดและรำคาญหูมาก มันค่อนข้างคล้ายกับเสียงหึ่ง ๆ ที่แตกต่างกันมารวมกัน

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็หยุดพูดและนั่งตัวตรงโดยไม่ขยับเหมือนซากศพ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วิ เขาก็คุกเข่าลงและเริ่มไอเป็นเลือดจำนวนมาก

"แค่ก เชี่ยเอ้ย! ความผิดพลาดเล็กน้อยเพียงครั้งเดียว การเปิดใช้งานด้วยตัวเองก็แตกสลายและทำให้บาเรียจิตสำนึกของฉันแตก" เขาเช็ดเลือดจากปากและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหงุดหงิด

ตอนนี้เขาพยายามได้อีกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ก่อนที่ความเสียหายที่เกิดกับบาเรียของเขาจะกู้คืนไม่ได้ เขาต้องทำมันอย่างฉลาด

ลมหายใจที่ผิดปกติของเขาถูกปรับให้เป็นปกติขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการฝึก เขาต้องรอเพื่อให้รอยแตกบนบาเรียของเขาฟื้น ดังนั้น อย่างน้อยก็ซ้อมสักหน่อยดีกว่า

ภาษาของเผ่าพันธุ์ไฮฟ์ไม่ได้พูดได้ง่าย ๆ เหตุผลเดียวที่เฟลิกซ์สามารถทำได้เป็นเพราะแคลนที่เขาอยู่บังคับให้บลัดไลน์เนอร์รุ่นน้องทุกคนต้องเข้าร่วมชั้นเรียนภาษาไฮฟ์

อย่างไรก็ตาม มีเทคนิคทั่วไปมากมายที่ปล่อยออกมาในแต่ละปีโดยเผ่าพันธุ์ไฮฟ์ เช่นเดียวกับการถ่ายทอดจิตสำนึกที่อาณาจักรอเล็กซานเดอร์ใช้กับมนุษย์โลก

ดังนั้น ภาษานี้จึงเป็นภาษาที่ต้องเรียนรู้สำหรับบลัดไลน์เนอร์ที่ขยันขันแข็ง

ส่วนพวกขี้เกียจ? เผ่าพันธุ์ไฮฟ์ไม่ลืมพวกเขา และทำให้เทคนิคเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติหากตรงตามเงื่อนไขที่เข้มงวด

ตัวอย่างเช่น เทคนิคนี้ที่เฟลิกซ์พยายามเปิดใช้งานด้วยตนเอง อาจทำได้โดยอัตโนมัติหลังจากที่ผู้ใช้เข้าถึงความบริสุทธิ์ต้นกำเนิด

แม้ว่าเฟลิกซ์จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มขี้เกียจหลังจากที่เขากลายเป็นบลัดไลน์เนอร์ขั้นที่ 3 แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะขี้เกียจในชั้นเรียนภาษาไฮฟ์ เพราะรางวัลของการเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกคือการได้รับเทคนิคที่ตนเลือกเอง

เขาจะไม่พลาดสิ่งนั้นไม่ว่ากรณีใด ๆ ดังนั้นเขาจึงเรียนรู้และเชี่ยวชาญภาษาอย่างน้อย 20% ทำให้เขาได้อันดับ 3 ในชั้นเรียน

ใครจะรู้ว่าการทำงานหนักของเขาจะมีประโยชน์ในสถานการณ์นี้

ถึงอย่างนั้นเฟลิกซ์ก็ยังเสี่ยงค่อนข้างมากแม้เขาจะเชี่ยวชาญภาษาเป็นอย่างดี แต่การเปิดใช้งานเทคนิคนี้ด้วยตนเองในขณะที่พึ่งตื่นขึ้นใหม่ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่มีใครพยายามทำ

นรก พวกเขาอาจไม่ทำแม้จะไปถึงระดับความบริสุทธิ์ที่น้อยกว่า (15%) เนื่องจากไม่มีประเด็นหรือผลประโยชน์ชัดเจนที่คู่ควรพอที่จะเสี่ยงต่อการทำลายจิตสำนึกตัวเอง

เพราะจิตสำนึกนั้นว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย!!

แล้วใครจะกล้าเสี่ยงขนาดนั้นเพื่อเข้าไปและไม่เห็นอะไรข้างใน? พวกเขาสามารถรอจนกว่าพวกเขาจะไปถึงความขั้นความบริสุทธิ์ของแหล่งกำเนิดและใช้มันได้โดยอัตโนมัติ

แต่กรณีของเฟลิกซ์แตกต่างออกไปเพราะแอสน่าได้อาศัยอยู่ในจิตสำนึกของเขา และในฐานะเจ้าของบ้าน เขาต้องตรวจสอบเธอโดยเร็วที่สุด

มันแปลกมากที่มีใครบางคนอาศัยอยู่ในร่างกายของเขาโดยที่เขาไม่เห็นว่าเธอเป็นอย่างไร

ความอยากรู้อยากเห็นนี้ค่อย ๆ กัดกินเขาจากภายใน ไม่ว่าเขาจะพยายามเพิกเฉยหรือหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน มันก็จะกลับมาเสมอ ทุกครั้งที่แอสน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนหลงใหลของเธอที่สะกดได้แม้กระทั่งมาร

ดังนั้นเขาจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะได้พบเธอ และกำจัดความอยากรู้อยากเห็นที่น่ารำคาญออกไป มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถมุ่งความสนใจไปที่เส้นทางสายเลือดของเขาได้อย่างแท้จริง

....

30 นาทีต่อมา เฟลิกซ์ยืนขึ้นด้วยท่าทางผ่อนคลาย “เอาล่ะ ได้เวลาต่อรอบ 2 แล้ว”

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ บีบคอและพูดด้วยภาษาแปลก ๆ อีกครั้ง

แต่คราวนี้เขาพูดได้ยาวขึ้นและคล่องแคล่ว แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก เพราะตอนนี้เสียงของเขาทำให้ผู้ฟังพอใจมากกว่าเมื่อก่อนที่ฟังดูเหมือนเสียงกรี๊ดของผีร้าย

ไม่นานเขาก็ปิดตา หยุดพูดและนั่งเงียบ ๆ

.....

เฟลิกซ์กำลังหลับตาลงอย่างสงบบนทะเลสาบใสที่มีแต่น้ำ

แต่ความสงบสุขก็สลายไปในทันทีหลังจากที่เขาตื่นขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า พยายามจะยึดอะไรบางอย่างไว้

“อ๊ากกก!!”

เขาหอบหายใจราวกับกำลังจมอยู่ในมหาสมุทร ขณะที่ดวงตาของเขาสำรวจรอบ ๆ ตัว

'ให้ตายสิ ฉันเกลียดความรู้สึกที่หล่นจากอากาศเวลาที่ฉันพยายามจะเข้าไปในจิตสำนึก'

ด้วยความรำคาญ เขาถอนหายใจและลุกขึ้นยืน วางแผนที่จะไปเยี่ยมแอสน่าโดยเร็วที่สุด เขาไม่รู้ว่าเธอจะตื่นเมื่อไหร่ ดังนั้นเขาจึงต้องรีบไปแกล้งเธอให้สำเร็จ

“ไปดูแม่มดเฒ่ากันเถอะ ฉันพนันได้เลยว่าเธอต้องน่าเกลียดแน่ ๆ เพราะเธออยู่มานานหลายปีแล้ว” เขาหัวเราะด้วยท่าทางขี้เล่น

เขาค่อนข้างมั่นใจในการคาดเดาของเขา เนื่องจากเขาอาศัยความจริงที่ว่าแอสน่ามีรูปร่างเหมือนเปลวไฟเมื่อพวกเขาเห็นเธอในซากโบราณสถาน เขาสงสัยว่าเธอมีพลังงานน้อยจนไม่สามารถรักษารูปร่างเดิมของเธอได้

'ดีที่จิตสำนึกของฉันยังเล็กอยู่ เลยหาเธอเจอได้ง่าย'

เหมือนกับที่เขาคิด มันง่ายมากที่จะหาเธอ เพราะคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่สร้างจากหมอกก็บอกเป็นนัย ๆ ว่าเธออยู่ที่ไหน

เขาเดินย่องไปทางคฤหาสน์ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ส่งเสียงดังมากเกินไปด้วยการทำน้ำกระเซ็นไปทุกที่ มิฉะนั้นเซอร์ไพร์ที่เขาพยายามอย่างหนักจะถูกทำลายหลังจากที่เธอตื่นขึ้นและจับเขาได้

น่าเสียดาย คนเดียวที่ช็อกหนักคือเขา

ทันทีที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์และมองดูความงามจากนอกโลกของแอสน่า ที่สามารถขโมยหัวใจของผู้ชายได้ในเสี้ยววิ เขาก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น สายตาของเขาจับจ้องไปที่คนงามผมสีแดงเข้มที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ

ความคิดสุดท้ายที่แล่นเข้ามาในหัวก่อนที่สมองจะลัดวงจรคือ

'ฉิบหายล่ะ!'

-------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด