ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 147 เรื่องถึงหู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 149 โดนหักหลังความเชื่อใจ

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 148 สองความคิด


ตอนที่ 148 สองความคิด

ณ ภายในห้องขนาดใหญ่ในป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกของเฮอร์เมส

ตัวห้องเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มากขนาดความกว้างของมันคงประมาณ 20x20 เมตร ในแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตามผนังห้องถูกสร้างขึ้นมาจากหินอย่างดีเอามาเรียงต่อกันและมีครกไฟเป็นตัวให้แสงสว่างตามผนังทำให้ห้องถึงมีขนาดใหญ่ก็ตาม แต่ก็สว่างเหมือนกับอยู่ด้านนอกแบบช่วงกลางวัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแสงจากพระอาทิตย์ข้ามาเลย

กลางห้อง

ก็มีตัวโต๊ะยาวขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้ พร้อมกับพวกทหารสวมชุดเกราะหนักยืนเรียงกันและกำลังถกเถียงกันไปมาแบบหาข้อสรุปไม่ได้ราวกับว่ากำลังจะตีกันเพราะเรื่องไม่ลงรอย ที่หัวโต๊ะขนาดใหญ่ก็มีเฮอร์เมสกำลังยืนหลับตากอดอกอยู่ในหน้าตาไม่พอใจเพื่อฟังทหารกำลังเถียงกัน

“-พวกเราต้องยอมแพ้ดีกว่า เราไม่มีทางสู้ได้หรอก”

“-เจ้าจะบ้าหรือไงตอนนี้พวกเรายังไม่ได้แพ้สักหน่อย”

“-ใช่แล้วถ้าอยากยอมแพ้ก็ออกไปเลยสิ ถ้ายอมก้มหัวให้มันพวกเราก็คงไม่ต่างจากพวกขุนนานอาณาเขตทางเหนือ ถ้าต้องเป็นแบบนั้นข้ายอมตายดีกว่าแทนที่จะได้รับความเห็นใจปัญญาอ่อนแบบนั้น”

เสียงทหารพากันพูดออกมาแบบเสียงดังลั่นห้อง โดยตอนนี้ความคิดกำลังแตกออกเป็นสองส่วนกับพวกทหารยศสูงที่กำลังประชุมกันอยู่ 1.ยอมแพ้ 2.สู้ต่อ ซึ่งจำนวนพวกทหารระดับสูงที่จะยอมแพ้กับทหารที่กำลังคิดจะสู้ก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่นัก ก็เลยทำให้ไม่สามารถลงรอยกันได้จนเกิดปัญหาเป็นปากเสียงขึ้น

จนเวลาผ่านไปสักพัก

“พวกเจ้ากำลังพูดผิดเรื่องกันหรือป่าว!”

เฮอร์เมสที่ยืนเงียบไปสักพักหลังจากที่ฟังเหล่าทหารเถียงกันเริ่มพูดขึ้น พร้อมกับกวาดสายตามองพวกทหารที่กำลังเถียงกันอยู่ด้วยแววตาไม่พอใจ ทางเหล่าทหารเมื่อได้ยินเสียงของเฮอร์เมสจากที่กำลังเถียงกันอยู่พวกทหารก็เงียบลงทันที

แล้วก็มีคนสวนขึ้นมา

“ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรท่านเฮอร์เมส?”

คนที่พูดออกมาตอนนี้ก็คือ เจค เป็นหัวหน้าของเหล่าทหารที่มีความคิดยอมแพ้ให้กับกองทัพของไคเซอร์ที่กำลังบุกอยู่ตอนนี้

จากนั้นอีกคนที่ยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกันแต่คนละด้านก็พูดต่อ “เจ้านั่นแหละต้องการอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้คิดยอมแพ้แบบนั้น?”

อีกคนที่พูดออกมาต่อจากเจคก็คือ จาคอป เป็นหัวหน้าของเหล่าทหารที่มีความคิดต่อสู้กับกำลังรบของไคเซอร์ที่กำลังบุกเข้ามา

อย่างที่รู้

ตอนนี้ทหารระดับสูงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย และชายสองคนที่กำลังส่วนกันอยู่ก็เป็นแกนนำในการพูดคุยความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายทำให้บรรยากาศในห้องตอนนี้ยิ่งกดดันเข้าไปอีก

“ก็ถึงได้พูดอยู่นี่ไงว่าพวกเจ้ากำลังเถียงผิดเรื่อง”

เฮอร์เมสตะโกนเสียงแข็งอีกครั้ง จากนั้นก็พรางคิดในใจว่า ‘ให้ตายสิเรียกว่าช่วยวางแผนแต่ดันมาเถียงเรื่องยอมแพ้กับไม่ยอมแพ้สะได้ ไอพวกปัญญาอ่อนนี่ อย่าจะฆ่าพวกทหารฝั่งเจคให้มันหมดอยู่หรอกแต่ถ้าทำแบบนั้นในป้อมต้องเสียหายมาแน่ ชิ

เฮอร์เมสรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากกับสถานการณ์ในตอนนี้ เพราะตัวของเฮอร์เมสตัดสินใจไม่ยอมแพ้ตั้งแต่ออกไปฆ่าทูตที่ส่งมาแล้ว

แต่ทว่า

ถ้าฆ่าทหารฝั่งเจคที่เป็นพวกคิดจะยอมแพ้ไป ก็ไม่ได้เป็นเรื่องดี เพราะทหารกว่าครึ่งในป้อมก็เป็นคนของพวกนี้ และถ้าพวกนี้โดนฆ่าทหารที่รับใช้ก็จะต่อต้านและนั่นมันก็อาจจะทำให้เกิดสงครามภายในป้อมได้

เฮอร์เมสจึงพยามระงับอารมณ์เอาไว้

“ถ้างั้นท่านช่วยอธิบายมาก่อนทำไมท่านต้องฆ่าทูตที่ทางนั้นส่งมาด้วย ท่านเองก็จะรู้ไม่ใช่หรือไงว่าถ้าพวกเรายังสู้ต่อมันรังแต่จะเพิ่มความเสียหายให้กับป้อมรักษาการณ์แห่งนี้ และมันก็มอันตรายต่อชีวิตพวกเราด้วยเช่นกัน”

เจคเริ่มถามด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์ มองตรงไปทางเฮอร์เมส

“แล้วมันยังไง”

เอ่ะ?!!?!?!

“ข้าถามว่าแล้วมันยังไง นี่พวกเจ้าคิดว่าเรื่องแค่นี้ข้าไม่คิดเอาไว้หรือยังไงหน้าที่ของพวกเราก็คือดูแลป้อมเอาไว้ …เท่าที่ไหว”

“เท่าที่ไหว???”

หน้าตาเจคเต็มไปด้วยความสงสัย

ถูกต้อง! ถ้าพวกเราไม่สามารถป้องกันได้ก็เพียงแค่อยู่เท่านั้นเจ้าจะมาจริงจังอะไรตอนนี้ ยังไงสะพวกเราก็แค่ถอยกลับไปยังป้อมชั้นกลางเท่านั้น แล้วที่ข้าเรียกพวกเจ้ามานี้ก็เพื่อมาวางแผนถอยทัพกัน ไม่ได้ให้มาเถียงเรื่องที่เถียงกันยอมแพ้หรือไม่ยอมแพ้สะหน่อย!”

หลังอธิบายถึงความตั้งใจทหารที่กำลังยืนอยู่ก็พากันทำสีหน้าแปลกใจออกมา ซึ่งแต่ละคนต่างก็กำลังแปลกใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เพราะตามปกติแล้วหน้าที่ของทหารประจำป้อมคือต้องทำยังไงก็ได้ให้รักษาตำแหน่งป้อมที่ได้รับหน้าที่ป้องกันเอาไว้

แต่ตอนนี้

ความคิดของเฮอร์เมสนั้นต่างออกไป แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีพวกทหารที่ชอบในความคิดของเฮอร์เมสด้วยเช่นกันเลยไม่มีใครพูดขัดอะไร อีกอย่าง ทหารยศสูงตอนนี้ต่างก็เป็นขุนนางที่ทรยศต่ออาณาจักรทำให้ความคิดที่จะทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกมัน

“นะ นั่นสินะครับ”

เจคเห็นด้วยกับสิ่งที่ได้ยิน

“สมแล้วนะครับที่เป็นท่านเฮอร์เมสสามารถคิดเรื่องสุดยอดแบบนี้ได้”

จาคอปพูดตามแบบชอบใจ

‘ไอบ้าพวกนี้มันก็แค่อยากรอดเท่านั้นแหละ หึ! ถ้าหยุดเถียงเรื่องไร้สาระอย่างการยอมแพ้เรื่องก็จบไปนานแล้วไม่น่าเสียเวลาเลย อีกอย่างตัวเราเองก็ไม่มีความจำเป็นอะไรขนาดนั้นที่ต้องรักษาป้อมเอาไว้เราก็แค่รอให้จอมเวทย์ตายเกือบหมดแล้วสั่งถอยทัพสะก็จบ’

เฮอร์เมสคิดในใจหลังจากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เพราะหลังจากที่อธิบายเหตุผลไปพวกทหารยศสูงด้านหน้าก็มีท่าทางใจเย็นลงและเริ่มพูดจากันรู้เรื่องโดยตอนนี้เน้นวางแผนไปในเรื่องหาทางถอยทัพแบบแนบเนียนแทน

เพราะสำหรับโลกนี้

การแพ้สงครามหรือการถอยทัพมันเป็นเรื่องน่าอับอายก็จริง แต่ถ้าถอยแบบถูกวิธีหรือไม่ก็ถอยเพราะต้องถอยก็จะสามารถกู้หน้ากลับคืนมาได้ ด้วยเหตุผลเช่นนี้ พวกทหารในห้องหลังจากที่ได้ฟังเฮอร์เมสพูดถึงเจตนาที่แท้จริงก็พากันเริ่มวางแผนการถอยทัพแบบมีเกียติกันทันที

….

…..

ในเวลาต่อมา

ระหว่างที่กำลังวางแผนกันอยู่ ก็ได้มีทหารหนึ่งคนเดินเข้ามาในห้องตรงเข้าไปทางเฮอร์เมสที่กำลังยืนออกความคิดอยู่ด้วยท่าทางร้อนใจอะไรบางอย่าง ‘มันเป็นอะไรของมัน เข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจแบบนั้น???’

เฮอร์เมสคิดขณะที่เบนสายตามองทหารที่เดินเข้ามาหาตน

เมื่อเดินถึงทหารก็เอียงตัวเข้าไปที่ข้างหูของเฮอร์เมสเล็กน้อย แล้วเริ่มพูดเสียงแผ่วเบาเพื่อให้เฮอร์เมสได้ยินคนเดียวว่า…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด