ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่18 : กายเซียนแห่งเต๋า สกุลซวนล้วนตกตะลึง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 20 : แผ่นหลังของคนผู้นั้น ทำเอาชายชราตกตะลึงไปนานนับปี!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 19 : ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดรังแกหลานรักของข้า!


ตอนที่ 19 : ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดรังแกหลานรักของข้า!

 

สายโซ่มากมายที่ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่ากลับกระจัดกระจายไปจนทั่วทุกทิศทาง รูปลักษณ์ของมันช่างเต็มไปด้วยความเก่าแก่หากแต่ดูสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

“โซ่เหล่านี้....แฝงไว้ด้วยกฎแห่งเต๋า?”

ทางเข้าเมือง คนจากสกุลซวนเหม่อมองไปยังท้องฟ้าด้วยความตื่นตะลึง ในตอนนี้ กลางอากาศล้วนมองเห็นเส้นสายมากมาย แสงสีม่วงทองทอประกายบาดตาจนไม่สามารถจะนับจำนวนได้!

“ใครกันที่เป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์นี้?”  ผู้นำตระกูลซวนกล่าวขึ้นอย่างสงสัย

ซวนถงสัมผัสได้ว่าโซ่แสงมากมายนี้มีกฎเกณฑ์ฟ้าดินอัดแน่นอยู่ภายใน  เพียงเหลือบมอง ก็รู้สึกได้ถึงพลังอันเอ่อล้น จิตสำนึกราวกับพร้อมจะดำดิ่งลงสู่ห้วงสมาธิเพื่อบรรลุความรู้แจ้งในหนทางแห่งการบ่มเพาะบางอย่าง!

“นี่...นี่ต้องเป็นเพราะเซียนน้อยแซ่หลินผู้นั้น!”

“เร็วเข้า! รีบซึมซับพลังเหล่านี้เสีย!”

“เซียนน้อยสกุลหลินแสดงปาฏิหาริย์อีกแล้ว! เพียงอาทิตย์เดียวกลับทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนี้ขึ้นถึงสามครั้ง!”

เหล่าผู้บ่มเพาะของต้าหยานเร่งรีบทะยานขึ้นสู่ผืนฟ้าแล้วลอยตัวนิ่งเพื่อดูดซับพลังแห่งกฎเกณฑ์อันยิ่งใหญ่ของฟ้าดินและเต๋าศักดิ์สิทธิ์

เพียงได้ยินประโยคนี้ สติของซวนถงก็กลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง เขาหันศีรษะอย่างรวดเร็วก่อนจะพบว่าปลายทางของโซ่แสงเหล่านี้ล้วนมุ่งหน้าไปยังตระกูลหลิน!

ยิ่งเข้าใกล้บริเวณจวนสกุลหลินมากเพียงใด ปริมาณของโซ่ก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น!  เซียนน้อยแซ่หลิน?  ซวนถงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น บุตรสาวเขาบัดนี้กำลังอยู่ในระหว่างความเป็นความตายจากคำสาปนั้น

แต่บัดนี้ เทียบกับเซียนน้อยผู้นั้นแล้ว จะยังมีผู้ใดสนใจชีวิตของนาง? จะยังเหลือผู้ใดห่วงใยหลานชายเขา?

ชายชราทำได้เพียงพาคนของตนเข้าไปยังตระกูลหลินเท่านั้น  และก็พบเห็นคนแซหลินทั้งหมดกำลังบ่มเพาะปราณอยู่อย่างที่เขาคาดไว้  ทุกคนล้วนกำลังเพ่งสมาธิเพื่อทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ฟ้าดินเหล่านั้น ไม่มีสักคนที่กำลังช่วยดูแลบุตรสาวและหลานชายของเขา!

เมื่อตาเฒ่าซวนคิดเรื่องนี้ ใจก็กระหวัดไปถึงการที่ลูกสาวสุดหวงของตนต้องตั้งครรภ์อยู่นานถึงร้อยปี!  หัวใจของเขารวดร้าว และสายตาก็เต็มไปด้วยความกดดัน!

“สกุลหลินช่างประเสริฐยิ่ง!”

“ตระกูลซวนของข้าอาจไม่สามารถก้าวก่ายเรื่องภายในของเขาเจ้าได้ หากแต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่ได้ใส่ใจความเป็นตายของบุตรสาวและหลานชายของข้า  เช่นนั้นข้าจะดูแลพวกเขาเอง!”

“ครานี้ ข้าจะนำตัวทั้งคู่กลับไปยังตระกูลซวน!”

ผู้เฒ่าซวนสูดหายใจลึกและม่านตาหดแคบ ผมเผ้าหนวดเคราสั่นไหวราวกับต้องลม เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเคืองและเจ็บปวด เขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวหลานชายโดนสกุลหลินรังแกเช่นนี้อีกต่อไป!

……

ถัดมาที่จวนของหลินเฮ่า หลินซวนตอนนี้ไม่ได้ตระหนักถึงการมาเยี่ยมเยียนและต้องการพาตัวเขาออกจากตระกูลหลินแม้แต่น้อย ในเวลานี้ เขาจดจ่ออยู่กับการซึมซับพลังแห่งเต๋าที่วนเวียนอยู่รอบกายเท่านั้น ประกายแสงนับไม่ถ้วนต่างพุ่งตรงเข้ามาหลอมรวมในกายเขาอย่างต่อเนื่อง!

และก่อนที่แสงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะหลอมรวมเข้ากับเขา มันก็ได้พุ่งผ่านตัวของซวนยู่ที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่ด้วยเช่นกัน  กฎเกณฑ์แห่งเต๋านับไม่ถ้วนกำลังไหลเข้าหาทั้งคู่!

จริงอยู่ที่คำสาปสำริดนี้ทรงพลังยิ่งนัก มันถูกนำออกมาจากดินแดนบรรพกาลที่แสนลึกลับโดยอัจฉริยะเช่นหวังเถิงเฟย นับได้ว่าเป็นหนึ่งในคำสาปที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน แม้กระทั้งบรรพชนแซ่หลินก็ยังมิสามารถกระทำสิ่งใดได้

แต่เมื่อคำสาปนี้ต้องเผชิญหน้ากับพลังแห่งฟ้าดินและเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ประกายแสงนับไม่ถ้วนก็ปะทุขึ้น!  อักขระเต๋านับหมื่นแสนที่สามารถแบ่งผืนฟ้าแยกแผ่นดินได้นั้นรวมตัวกันกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่กำลังพยายามเผาไหม้คำสาปให้จางหายไป!

ฟู่!

คำสาปสำริดนี้นับได้ว่าแปลกประหลาดยิ่ง มันเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายที่ชั่วร้ายและกำลังบิดตัวไปมาเพื่อต่อต้านกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดินที่ถาโถมเข้ามา ใบหน้าผีร้ายเรื่องก่อตัวขึ้น จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ พวกมันคำรามลั่นแล้วพุ่งเข้าท้าชนกับพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินราวกับปิศาจร้ายกำลังต่อต้านเทพเซียน!

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดคำสาปร้ายนี้ก็เริ่มค่อยๆระเหยหายไปภายใต้การชำระล้างจากพลังแห่งฟ้าดินและอักขระเต๋า!

“ซวนเอ๋อร์...ซวนเอ๋อร์!  นี่เจ้ากำลังช่วยรักษามารดาหรือ?”

เมื่อมองเห็นร่อยรองคำสาปที่สูญหายไป หลินเฮ่าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่ง!  บุตรชายของเขากำลังช่วยชีวิตซวนยู่ขึ้นจากขอบเหวนรก!  จะมีสิ่งใดทำให้เขาปลาบปลื้มไปได้มากกว่านี้กัน?

ควรต้องตระหนักไว้ว่าคำสาปนี้นั้น แม้กระทั่งบรรพบุรุษสกุลหลินก็ไร้ความสามารถจะช่วยเหลือ!  แต่บัดนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุตรชายแสนรักของเขา คำสาปสำริดอันร้ายแรงนั้นกลับไม่มีโอกาสจะต่อต้านแม้เพียงเสี้ยว ราวกับน้ำแข็งต้องเปลวไฟ ทำได้เพียงละลายหายไปกับสายลม!

ความตื่นเต้นของหลินเฮ่าตอนนี้คงไม่มีคำใดจะสามารถบรรยายออกมาได้เท่าเทียม ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้ตื่นตกใจนานเกินไป เมื่อมองไปยังบุตรชายที่กำลังโดนห่อหุ้มด้วยรัศมีแสงเปล่งปลั่ง จู่ๆอักขระเต๋าก็ก่อตัวขึ้นแล้วไหลหลากเข้ามาหาเขาราวกับแม่น้ำอันเชี่ยวกราด!  จิตใต้สำนึกของเขาค้นพบบางสิ่งซึ่งช่วยในการบ่มเพาะลมปราณของเขาให้เร็วขึ้นอย่างยิ่งยวด!

วินาทีต่อมา หลินเฮ่าไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งลงรวบรวมสมาธิเพื่อเขาสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง!

ต้องทราบก่อนว่าแสงสว่างสุกสกาวเหล่านี้นั้นนับว่าเป็นกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดินของโลกใบนี้!

หรือสามารถกล่าวได้ว่า การยืนอยู่ข้างหลินซวนในตอนนี้ ราวกับกำลังจ้องมองไปยังตัวตนอันยิ่งใหญ่ของโลกทั้งใบ!

อย่าได้กล่าวถึงดินแดนปราณในปัจจุบันของหลินเฮ่า ต่อให้เขาเป็นตัวตนที่เหยียบย่างในแดนปราณที่สูงส่งกว่านี้อีกสามดินแดนก็ตามที เขาก็ไม่มีความสามารถมากพอจะได้เข้าใกล้แม้เพียงเศษเสี้ยวของกฎเกณฑ์เหล่านี้เสียด้วยซ้ำไป!

ไม่เพียงแต่หลินเฮ่าเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนในสกุลหลิน บัดนี้กำลังจมลึกอยู่ในห้วงแห่งการบ่มเพาะปราณทั้งสิ้น!

โอกาสที่จะได้เข้าใกล้กฎเกณฑ์อันยิ่งใหญ่เหล่านี้นับว่าง่ายนักหรือ?  แน่นอนว่าไม่มีทาง!  การจะได้พบเพียงเศษเสี้ยวของกฎเกณฑ์ฟ้าดินก็ราวกับใช้โชคทั้งชีวิตเพื่อโอกาสนั้นแล้ว!  ไหนเลยใครจะกล้าไม่ฉวยโอกาสอันดีงามในตอนนี้เอาไว้!

แน่นอนว่ามิใช่เพียงแค่ผู้คนที่อยู่โดยรอบ แต่กล่าวได้ว่าทั้งตระกูลหลินต่างก็รีบเร่งมาเพื่อให้ได้เข้าใกล้จวนของหลินเฮ่ามากที่สุดเพื่อรับโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้!

วูบ วูบ วูบ!

ศิษย์ตระกูลหลินทั้งหลายทยอยกันมาปรากฏตัวโดยรอบบริเวณอย่างรีบร้อน!

ลานกว้างรอบจวนหลินเฮ่าบัดนี้คลาคล่ำไปด้วยฝูงชน บ้างมาปรากฏตัวทั้งๆที่ยังถืออาหารคาอยู่ในมือ บ้างมาพร้อมเสื้อผ้าแค่ท่อนเดียว บางคนถึงขั้นวิ่งมาที่นี่ด้วยกางเกงในตัวเดียว!  เพียงได้พบเห็นสัญญาณของเหตุการณ์อัศจรรย์นี้ ทุกคนพร้อมใจกับทิ้งทุกอย่างทันที!

“อย่าผลักข้าสิ!”

“อย่าขวางทางน่า!”

“หลบไป หลบไป! เจ้าหลานตัวน้อย นี่เป็นที่ของท่านลุงผู้นี้!”

“พี่ชาย ท่านหยุดกางค่ายกลเดี๋ยวนี้นะ! นี่มันมากเกินไปแล้ว!”

“มาก่อนได้ก่อน! เจ้าไม่เข้าใจรึ?”

“เพ้ย! อย่ามาเบียดข้า!”

.....

คล้อยหลังจากที่คนแซ่หลินทั้งหลายนั่งลมบ่มเพาะเพียงชั่วจิบชา  ท่านผู้นำสกุลซวนก็ปรากฏตัวขึ้น!

เมื่อมองเห็นพวกแซ่หลินทั้งหลายมัวแต่นั่งบ่มเพาะกันอยู่ หนวดเคราของซวนถงก็กระดิกไปมาด้วยความโกรธ  สีหน้าเขาตอนนี้ราวกับจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกเมื่อ!

ดูเถิด! ไม่มีลูกเต่าแซ่หลินแม้แต่คนเดียวที่ห่วงใยบุตรสาวหลานชายเขา! ครานี้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม เขาจะพาลูกหลานกลับตระกูลซวน!

*จะเริ่มทำการติดเหรียญตั้งแต่ตอนที่21เป็นต้นไป สามตอนติดเหรียญหนึ่งครั้งนะครับ ขอบคุณที่สนับสนุนค่ากาแฟให้นักแปลตัวน้อยๆคนนี้ครับ*

5 1 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด