ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 94 เอายังไง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 96 ข้อเสนอของสหราชอณาจักร

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 95 ผลโหวต


เสียงของทั้งสามคนโหวตกันแบบเอกฉันท์แบบไม่มีใครเสนอความคิดแปลกแยก และผลโหวตประเทศที่ทั้งสามคนเลือกโจมตีก็คือ อณาจักร!

หลังจากนั้นกองทัพของสหราชอณาจักรก็เดินทางบุกอณาจักรทันทีตามการตัดสินใจของทั้งสามคนที่ได้ลงความเห็นกัน

ซึ่งผลมันก็ออกมาแน่นอนด้วยกำลังรบที่อ่อนแอลงของอณาจักรที่ทุ่มไปกับการโจมตีจักรวรรดิจนเกือบหมด ทำให้เป็นเหมือนตัวเปิดทางอย่างดีให้่กับสหราชอณาจักรบุกยึดครอง ทั้งราชาและเวโรนิก้าต่างก็โดนคุ้มตัวเอาไว้โดยสหราชอณาจักรอย่างง่ายดาย และผลจากการโดนบุกในครั้งนี้ทำให้มีขุนนางจำนวนมากของอณาจักรย้ายไปร่วมมือกับสหราชอณาจักรด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุผลแบบนี้ทำให้เมืองหลวงของอณาจักรโดนตีแตกภายในเวลาไม่กี่วันนับตั้งแต่สหราชอณาจักรเริ่มการบุกโจมตี ทำให้ตอนนี้ทั้งสองประเทศเข้าสู้สภาวะสงครามกัน แบบที่สหราชอณาจักรได้เปรียบอย่างมาก

#############

ณ ห้องรับแขกคฤหาน์ของไมล์

ตอนนี้ผมกับไคเซอร์กำลังนั่งคุยเกี่ยวกับเรื่องหลายเรื่อง โดยส่วนมากในตอนนี้ก็คุยเกี่ยวกับองค์ชายซิคฟรีสว่าผมจะทำอะไรกับมันต่อหลังจับมา แต่ไม่ว่าจะพูดอะไรไปไคเซอร์ก็เห็นด้วยทั้งหมดไม่ได้ขัดอะไรออกมา ตามจริงผมก็อยากพูดว่าตอนนี้เมืองหลวงโดนสหราชอณาจักรหยึดครองไปอยู่หรอก เพราะพระเจ้าได้บอกผมเอาไว้แบบนั้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรเพราะยังไม่ได้แน่ใจอะไรขนาดฟันธงว่าเป็นเรื่องจริง

ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ไคเซอร์รู้จากทหารของตัวเองมากกว่า เพราะเรื่องหลังจากนี้มันอาจจะทำให้ไคเซอร์คิดว่าผมร่วมมือกับทางสหราชอณาจักรก็ได้ ถ้าพูดเรื่องการบุกอะไรออกไปตอนนี้

จนในที่สุด

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

" เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับองค์ชาย ! "

เสียงเคราะประตูก็ดงขึ้นมา แล้วมันก็ตามด้วยเสียงของทหารไคเซอร์ที่กำลังตื่นกับเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งก็ไม่ต้องเดาหรอกว่ามันเป็นเรื่องอะไร

ทางด้านของไคเซอร์ตอนนี้ก็มองไปทางประตูและพรึมพรัมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า " ให้ตายสิไม่มีมารยาทเอาสะเลย ต้องขอโทษด้วยท่านบารอนข้าขอตัวไปคุยกับทหารของข้าก่อนไ ม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรถึงได้เป็นแบบนั้น "

" ไม่ต้องหรอกองค์ชาย ให้ทหารของท่านเข้ามาพูดด้านในเลยก็ได้เพราะฟังจากน้ำเสียงที่ทหารของท่านพูดออกมามันก็น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ข้าเองก็อยากฟังด้วยเช่นกัน ยกเว้นสะแต่ว่าท่านไม่อยากให้ข้ารู้ก็เชิญท่านออกไปพบกับทหารได้เลย "

ตามจริงผมก็แค่แกล้งพูดไปงั้นแหละ เพราะถึงยังไงเรื่องที่ทหารกำลังจะมารายงานมันก็คงเป็นเรื่องของกองทัพสหราชอณาจักรที่บุกยึดเมืองหลวงแน่

" ...ขะ ข้าไม่มีความลับต่อท่านหรอก ท่านบารอน " ไคเซอร์ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเกร็งใจ จากนั้นก็หันไปพูดกับทหารที่ยืนรอด้านหน้าประตูต่อ " เข้ามารายงานด้านใน "

" ครับท่าน "

แล้วทหารก็เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเร่งรีบแบบสุดๆ

จากนั้น

" เกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมถึงได้มีท่าทางแบบนั้น? "

ไคเซอร์ก็เริ่มถามทันทีเพราะความสงสัย เอาตามจริงมันก็น่าสงสัยนั่นแหละเพราะอาการของทหารที่เดินเข้ามาในห้องตอนนี้มันออกหนักมาก แต่ถึงจะโดนไคเซอร์ถามไปทางทหารก็เบนสายตามองมาทางผมและยังไม่กล้าพูดออกมา ท่าทางแบบนี้มันกำลังพยามจะสื่อเป็นนัยว่า [ ช่วยออกไปก่อน ] แต่เสียใจด้วยถึงออกไปทางนี้ก็รู็สิ่งที่นายจะพูดอยู่ดี เหอะๆ

" พูดมาท่านบารอนก็จะฟังด้วย มันเป็นคำสั่งของข้าเอง! "

ไคเซอร์ที่เหมือนจะรู้ว่าทหารต้องการอะไรพูดขึ้นมา ทำให้ทหารเลิกมองผมและหันไปมองทางไคเซอร์ที่นั่งอยู่แทน จากนั้นก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขัดๆ " ....ทางเราได้รับการติดต่อมาจากเมืองหลวงครับ ....ว่าตอนนี้สหราชอณาจักรได้ยึดเมืองหลวงของอณาจักรเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากที่พวกเราเดินทางออกมาได้ไม่กี่วันพวกนั้นก็เริ่มเดินทางบุก ทำให้ทางเมืองหลวงที่เหลือกำลังทหารเพียงครึ่งเดียวภายแพ้อย่างง่ายดาย "

หลังจากที่ได้ฟังไคเซอร์ตอนแรกที่มีใบหน้าทีเต็มไปด้วยความอยากรู้ก็กำลังอ้าปากค้างกับเรื่องที่ได้ยินทหารพูดออกมา แต่ก็นะ หมอนี่คงกำลังโทษตัวเองว่าเป็นเพราะนำกำลังทหารออกมาแน่เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นจะบอกว่ามันเป็นความผิดของไคเซอร์คนเดียวก็ไม่ได้หรอก เพราะถ้าราชาไม่อนุญาคนระดับองค์ชายก็เคลื่อนกองทัพใหญ่ขนาดนี้มาเองไม่ได้เช่นกัน

" องค์ชายตอนนี้ท่านจะเอาแต่ตกใจกับโทษตัวเองไม่ได้นะ ในเวลานี้ความหวังของประเทศขึ้นอยู่กับท่านแล้ว "

ผมเริ่มพูดเพื่อดึงสติของไคเซอร์กลับมา เพราะหลังจากที่ได้ยินทหารรายงานออกมามันก็ทำหน้าอึ้งจนสติลอยไปดาวอังคาร... ไม่สิ! คงลอยไปถึงดวงอาทิตย์แล้วด้วยซ้ำเพราะแบบนี้ผมถึงต้องเรียกให้สติมันกลับมาก่อน และการดึงสติคนที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้วก็คือสร้างแรงกดดันให้ ซึ่งตอนนี้การสร้างสุดยอดแรงกดดันให้มันแล้ว หึหึ!

ระหว่างนั้น

" ท่านไมล์ครับข้ามีเรื่องต้องรายงาน "

เมคัสก็พูดขึ้นมาจากประตูหน้าห้องอีกคน ซึ่งประตูตอนนี้ตั้งแต่ทหารเข้ามามันก็ยังไม่โดนปิดทำให้เห็นเมคัสยืนทำสีหน้าจริงจังมากอยู่ที่ด้านหน้าห้อง เรื่องที่เมคัสกำลังจะพูดผมก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไร เพราะไอพระ... ไม่สิ! ท่านพระเจ้าบอกเอาไว้แล้ว ที่พระเจ้าบอกมมามันมีอยู่สองเรื่อง 1. ข่าวของการยึดของเมืองหลวง 2. ทูตที่ทางสหราชอณาจักรส่งมาเพื่อเจรจากับผม ซึ่งเรื่องที่เมคัสกำลังจะบอกตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องทูตที่โดนส่งตัวมาแน่นอน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด