ตอนที่แล้วChapter 1: สิบสี่อีกครั้ง (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 3: ท้าทายโชคชะตา (ฟรี)

Chapter 2: พี่ชายผู้คลั่งไคล้น้องสาว (ฟรี)


ช่วงเย็นของต้นฤดูใบไม้ผลิก็ยังคงหนาวอยู่ โดยเฉพาะเมืองไป่หยุน เมืองเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของจีน

เจียนอ้ายนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมผ้าห่มคลุมที่ไหล่ บนโต๊ะกาแฟตรงหน้ามีอาหารร้อนๆ วางอยู่ : ไข่ดาวกับมะเขือเทศ หมูเปรี้ยวหวาน ซุปหัวปลา และเต้าหู้

มีแอปเปิ้ลแดงที่ล้างแล้ววางอยู่ข้างจานสองลูก เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นแอปเปิ้ลที่แพงที่สุดในแผงขายผลไม้ แม่ของเธอปฏิบัติต่อเธอแบบนี้เสมอ แม้ว่าพื้นเพครอบครัวของเธอไม่ดี แต่แม่ของเธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอในเรื่องการกินและการเรียน

หวางหยุนเหม่ยออกไปทำงานแล้ว หลังจากเจียนอ้ายกินเสร็จ เธอก็เปลี่ยนเป็นชุดและมัดผมทรงหางม้า เธอมองตัวเองในกระจกก่อนจะสวมรองเท้าแล้วเดินออกไป

ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม เมืองไป่หยุนอากาศชื้นและหนาวเย็นอย่างกับปลายฤดูใบไม้ร่วง เจียนอ้ายกระชับเสื้อคลุมแน่นและมองไปรอบๆ ขณะที่นึกถึงทุกสิ่งที่เธอคุ้นเคยในช่วงวัยเด็ก

เมืองไป่หยุนเป็นเมืองหลวงของจังหวัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจินทางตอนเหนือ ถือเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญและเป็นเมืองเศรษฐกิจที่แบ่งออกเป็น 5 เขตอำเภอใหญ่ๆ ได้แก่ เขตไห่เฉิง เขตจงรั่ว เขตเมืองใต้ เขตเมืองเหนือและเขตว่านเปา

ใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดคือเขตไห่เฉิง ในขณะที่บ้านของเจียนอ้ายอยู่ในเขตเมืองใต้ หรือที่เรียกกันว่าสลัม ชาวเมืองทางใต้ส่วนใหญ่มีชีวิตที่ยากจน สามารถนับจำนวนตึกสูงทั่วทั้งเขตได้ด้วยมือเดียว ตึกส่วนใหญ่เป็นแฟลตหรืออาคารพักอาศัยสูงสองหรือสามชั้น ในเมืองไป่หยุนที่พลุกพล่าน แต่สถานที่แห่งนี้กลับดูแปลกแยก

หลังจากเดินมานานกว่าครึ่งชั่วโมง เจียนอ้ายก็หยุดที่หน้าสตาร์ไลท์บาร์ในเขตจงรั่ว ชายหนุ่มหลายคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่ทางเข้าบาร์ซึ่งมีเสียงดังอึกทึกเล็ดลอดออกมา เจียนอ้ายประหม่าเล็กน้อยแต่ตื่นเต้นมากกว่าเพราะเจียนหยูพี่ชายของเธอทำงานที่นี่

เพื่อที่จะหารายได้เพิ่มเพื่อให้เธอเรียนมหาวิทยาลัยจนจบ พี่ชายต้องออกไปทำงานก่อสร้างในชาติที่แล้ว เขาทำงานหนักมากและใช้เวลาทั้งหมดในวัยเด็กของเขาเพื่อทำงานหาเงิน คาดไม่ถึงว่าวัตถุที่ตกลงมาจะคร่าชีวิตเขาที่ไซต์ก่อสร้าง จนถึงตอนนี้เจียนอ้ายยังไม่กล้านึกถึงภาพหวาดเสียวนั้น

“สาวน้อย กำลังมองหาใครอยู่รึเปล่า? เราปล่อยให้เด็กเข้าไปไม่ได้หรอกนะ”

ทันทีที่เธอเดินถึงทางเข้าหลัก ชายผมสีบรอนซ์สว่างปากคาบบุหรี่ก็มองมาที่เจียนอ้ายและถาม เขาดูไม่ใช่คนดี แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูเป็นมิตร

เจียนอ้ายหยุดชะงักและมองที่ชายผมบรอนซ์ก่อนจะพยักหน้า “ฉันกำลังหาใครคนหนึ่งอยู่ค่ะ”

ชายผมบรอนซ์ยืนขึ้นและมองเจียนอ้ายอย่างประเมิน เขาพ่นควันสีขาวและเลิกคิ้วขึ้น “กำลังมองหาใครล่ะ?  ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าหรอกนะ!”

“ฉันไม่ได้มาหาลูกค้า ฉันมาหาคนที่ชื่อเจียนหยู เขาเป็นการ์ดอยู่ที่นี่” เจียนอ้ายตอบอย่างรวดเร็ว

“อ้อ เธอมาหาเจียนหยูงั้นหรือ!” ชายผมบรอนซ์อดไม่ได้ที่จะมองเจียนอ้ายด้วยสายตาที่มีความหมาย จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “รอตรงประตูนี่แหละ ฉันจะเข้าไปเรียกมาให้”

เมื่อเขาเดินเข้าไปในบาร์ เจียนอ้ายก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ

สตาร์ไลท์บาร์ถือเป็นบาร์ที่ดีที่สุดในเขตจงรั่ว คนหนุ่มสาวชอบมาที่นี่ และเด็กนักเรียนที่ออกจากโรงเรียนจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียงเต็มใจที่จะทำงานในสถานที่แห่งนี้ งานของพวกเขาเป็นงานตอนกลางคืนเท่านั้น และพวกเขาสามารถหาเงินได้แปดร้อยหรือหนึ่งพันหยวนต่อเดือน สำหรับคนอายุ 20 แล้ว นี่ถือเป็นรายได้ดีทีเดียว

เจียนหยู พี่ชายของเธอ มีอายุมากกว่าเธอสี่ปีและเขาเพิ่งอายุสิบแปด เขาทำงานเป็นการ์ดที่สตาร์ไลท์บาร์มาเกือบหนึ่งปีแล้ว พี่ชายรักเธอมากที่สุด เจียนอ้ายยังคงจำได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับเงินเดือนทุกวันแรกของเดือน พี่ชายจะแอบเอาเงินครึ่งหนึ่งให้กับเธอเพื่อเป็นเงินค่าขนม เงินที่เหลือถึงจะเอาให้แม่ ส่วนเขาได้ใช้เงินแค่ไม่กี่สิบเหรียญเท่านั้น

“นั่นไง  ผู้หญิงเสื้อสเวตเตอร์สีขาวคนนั้น!”

ทันทีที่เขาเดินออกมาจากบาร์ เจียนหยูก็เห็นเจียนอ้าย เขายกมือขึ้นและตบหลังศีรษะของคนผมบรอนซ์ “สาว? บ้าเอ้ย  นั่นน้องสาวของฉัน!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เจียนหยูก็วิ่งมาหาเจียนอ้าย เขามองเจียนอ้ายขึ้นลงอย่างกังวล ก่อนจะพูดว่า “เธอรีบออกมาหลังจากเพิ่งหายป่วยเนี่ยนะ! แล้วเธอมาที่....” เจียนหยูมองไปรอบๆ และถาม “เธอมาที่นี่ได้ยังไง?  เดินมาเหรอ?”

เจียนหยูสูง 180 ซม. เขามีคิ้วดกหนาและตาโต และเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง เขาขมวดคิ้วเพราะเป็นห่วงน้องสาว

เมื่อมองไปที่พี่ชาย เจียนอ้ายก็รู้สึกเหมือนกับว่าเวลาผ่านมานานมาก หัวใจของเธออบอุ่นและรู้สึกเหมือนมีก้อนจุกในลำคอ เธออยากจะร้องไห้

“เป็นอะไรไป เสี่ยวอ้าย? พี่ถามเธออยู่นะ!” เจียนหยูรู้สึกกังวลมากขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวเอาแต่เงียบ ไม่ยอมตอบ

เจียนอ้ายฟื้นจากภวังค์อย่างรวดเร็วและพูดว่า “ฉันสบายดี พี่เจียนหยู ฉันแค่ออกมาเดินเล่นน่ะ และก็...ฉันแค่อยากเจอพี่”

บ้านของพวกเขาอยู่ในเขตเมืองใต้ และสถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้อยู่ในเขตจงรั่ว การเดินเท้าใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเพื่อมาถึงที่นี่ เมื่อได้ยินว่าเจียนอ้ายเดินมา เจียนหยูก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ เขาเป็นห่วงเธอและหัวใจของเขาก็เจ็บปวด

“เอ้อร์ซื่อ ฉันต้องไปส่งน้องสาวว่ะ ช่วยบอกพี่ตงให้ด้วย” เจียนหยูหันหน้าไปตะโกนบอกชายผมบรอนซ์ที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ

ชายผมบรอนซ์ยกมือโอเค ส่วนเจียนอ้ายยิ้มด้วยความละอายใจเล็กน้อย “ขอโทษที่รบกวนพี่นะ พี่ชาย”

เมื่อได้ยินคำขอโทษของน้องสาว เจียนหยูก็ยิ้มออกมา "ไม่เป็นไรหรอก วันนี้ไม่ใช่วันสุดสัปดาห์ บาร์ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ พี่ห่วงเธอถ้าให้เดินกลับบ้านคนเดียว”

เจียนอ้ายเดินเข้าไปกอดแขนของเจียนหยูทันที พี่ชายของเธอสูงมากและแข็งแรงมากซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เธอกับแม่เคยชอบเดินคล้องแขนเขาแบบนี้

“นี่ของเธอ” จู่ๆ เจียนหยูก็หยิบของชิ้นเล็กๆออกมาจากกระเป๋าและส่งให้เจียนอ้าย

เจียนอ้ายเงยหน้ามองและเห็นกิ๊บติดผมเล็กๆ

“ขอบคุณค่ะ”  เจียนอ้ายรับกิ๊บมาด้วยความดีใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาและส่งยิ้มให้

เจียนหยูยิ้มตอบและพูดด้วยความรักว่า “พี่เห็นมันที่ตลาดกลางคืนโดยบังเอิญ เธอชอบลิตเติ้ลพีชไม่ใช่เหรอ?”

“ลิตเติ้ลพีชอะไรเล่า?  ลิตเติ้ลบอลต่างหากล่ะ” เจียนอ้ายยิ้ม

“ใช่ ใช่ ลิตเติ้ลบอล”

สองพี่น้องเดินไปที่มอเตอร์ไซด์ของเจียนหยู

ระหว่างทางกลับ เจียนอ้ายนั่งเบาะหลัง สองแขนโอบเอวของเจียนหยู ลมกลางคืนของเมืองไป่หยุนพัดมาปะทะใบหน้าของเธอ มันทั้งหนาวและเปียกชื้น แต่ว่าหัวใจของเจียนอ้ายอบอุ่นเป็นพิเศษและสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ก่อนเข้านอนในคืนนั้น เจียนอ้ายเก็บกระเป๋านักเรียน หยิบชุดนักเรียนออกมารีดให้เรียบร้อย เธอมีไข้สูงเมื่อไม่กี่วันก่อนและไม่ได้ไปโรงเรียนมาสองสามวันแล้ว ตอนนี้เธอไม่ป่วยแล้ว แม้ว่าเจียนอ้ายจะยังจำสิ่งที่เธอเคยเรียนได้ แต่เธอก็ยังวางแผนที่จะกลับไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้

บางทีมันอาจจะเป็นผลทางจิต เจียนอ้ายไม่สามารถข่มตาหลับตาได้เป็นเวลานาน ราวกับว่าเธอกังวลว่าทุกอย่างจะหายไปเมื่อเธอตื่นขึ้นแล้วเธอก็กลายเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง และเธอไม่สามารถเห็นแม่และพี่ชายของเธอได้อีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด