ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 16: สนิมสำริดที่น่าหวั่นเกรง!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่18 : กายเซียนแห่งเต๋า สกุลซวนล้วนตกตะลึง!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่17 : น้ำนมแรกจากมารดา!


ตอนที่17 : น้ำนมแรกจากมารดา!

การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ หลินเปากลับพ่ายแพ้ให้แก่คำสาปและไม่สามารถจะถอนมันออกไปได้ แม้เขาจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่ตัวเองมี หากแต่คำสาปกลับร้ายแรงเกินไป  หลังจากนั้น อาวุโสท่านอื่นๆในตระกูลหลินก็ได้มาช่วยกันพยายามจะทำลายคำสาปนี้

แต่ทว่ากลับพบเพียงความล้มเหลว ไม่เพียงคำสาปจะไม่เบาบางลง มันถึงกับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!  ท้ายที่สุด กระทั่งบรรพชนหลินปรากฏตัวมาลองด้วยตนเอง แม้ทีแรกราวกับว่าการปัดเป่าคำสาปจะได้ผล หากแต่สุดท้ายมันก็กลับมาเหมือนเดิมอยู่ดี!

ณ เวลานี้ คนแซ่หลินก็ล้วนไม่ใช่ผู้โง่เขลา เมื่อมีเบาะแสว่าต้นเหตุเกิดมาจากร้อยปีก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเดาได้ว่าสาเหตุของคำสาปย่อมมาจากสกุลหวังแห่งอาณาจักรซู่!  วิถีทางที่ขี้ขลาดนี้ย่อมต้องเป็นพวกสวะแซ่หวังอย่างไม่ต้องสงสัย!

ยิ่งกว่านั้น ตระกูลหลินเคยได้ข่าวมาว่าหวังเถิงเฟย ว่าที่จักรพรรดิสกุลหวังผู้นั้น ครั้งหนึ่งตอนอายุได้เพียงสองปีได้ถูกมังกรหกเขาอุ้มหายไปลับไปกับกลีบเมฆ สองเดือนถัดมาถึงจะปรากฏตัวอีกครั้ง และกลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เมื่ออายุถึงสามปี เจ้าเด็กตระกูลหวังผู้นั้นก็นำเอาวัตถุมากมายที่ทำมาจากสำริดออกมาจากอาณาเขตมรณะ แม้กระทั่งรถศึกทองคำขอเขาก็ได้รับมาจากที่แห่งนั้นเช่นกัน!  เพียงได้รู้ข่าวนี้ สกุลหลินทั้งหมดปกคลุมไปด้วยความเกรี้ยวกราด แม้กระทั่งเหล่าอาวุโสแซ่หลินก็เดือดพล่านราวกับน้ำร้อนและพร้อมใจกับมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรซู่ของตระกูลหวังทันที!!

เมื่อเดินทางข้ามครึ่งอาณาจักรฉีซานไปจนสุกเขตรอยต่อระหว่างสองอาณาจักร พวกเขาก็จัดการกวาดล้างเหล่านักฆ่าใต้ร่มเงาของตระกูลหวังที่พบเจอไปด้วยเพื่อระบายอารมณ์!

ระหว่างนั้น ผู้เฒ่าเหล่านี้ก็ค้นหาทางแก้ไขคำสาปจากสนิมของสำริดนี้ไปด้วยโดยการขอความช่วยเหลือจากบรรดาตระกูลใหญ่อื่นๆที่เป็นพันธมิตรกัน

“ไม่ว่าจะต้องเสียสิ่งใด เราต้องรักษานางให้ได้!”  บรรพชนแซ่หลินกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น

เมื่อเอ่ยจบ บรรพบุรุษหลินท่านนี้ก็เร่งรีบเดินทางไปเป็นผู้แรก!

เขาใช้ปราณบังคับให้อากาศเบื้องหน้าแหวกออกเป็นช่องว่างระหว่างมิติเพื่อตรงไปยังตระกูลที่เป็นมิตรกันภายนอกอาณาจักรฉีซาน  และเสาะหาวิธีรักษาคำสาปนี้!

ทรัพย์สมบัติและโอสถล้ำค่ามากมายของตระกูลหลินล้วนถูกใช้เพื่อยื้อชีวิตให้กับซวนยู่อย่างบ้าคลั่งโดยไม่เสียดาย! เพียงเพราะหวังว่านางจะอยู่ได้นานพอที่พวกเขาจะหาหนทางก็คำสาปได้พบ!  เนิ่นนานถึงร้อยปีที่นางอดทนต่อคำนินทาและอุ้มท้องเพื่อให้กำเนิดเซียนน้อยของตระกูลหลิน แล้วพวกเขาจะปล่อยให้นางตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร!

ถึงกระนั้น แม้พวกอาวุโสจะพานพบกับทักษะลึกลับ โอสถสมุนไพร และสมบัติต้องสาปนับไม่ถ้วน

แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่ช่วยถอดคำสาปให้ซวนยู่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว! เพียงประคองชีวิตนางให้ยืดออกไปอีกเล็กน้อยเท่านั้น

โดยความบังเอิญ จู่ๆหลินเฮ่าที่วางหลินซวนไว้ข้างกับมารดาเขาก็สังเกตเห็นบางสิ่ง!

เขาค้นพบว่าทารกน้อยบุตรชายของตนนั้นปลดปล่อยปราณม่วงออกมา และปราณนั้นก็ช่วยยับยั้งมิให้คำสาปทำลายชีวิตของซวนยู่มากกว่าเดิม!

“เจ้ากำลังใช้ปราณม่วงเพื่อช่วยเหลือมารดาหรือ?  ใช่แล้ว! ในเมื่อคำสาปนี้เกิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน เจ้าก็นับว่าเป็นคนเดียวที่ช่วยอายู่มิให้แรงกัดกร่อนของมันทำลายชีวิตนามาจนถึงบัดนี้!”  หลินเฮ่าที่ตื่นเต้นจนถึงขีดสุดแทบจะกระโดดไปรอบๆห้องเพื่อสรรเสริญบุตรชายของตน

เมื่อหลินซวนได้ยินประโยคนี้เข้า เขารู้สึกอยากจะตบหน้าบิดาสักหลายที

‘ท่านเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้หรือ?  สมองท่านอยู่ที่ใดกัน!’

ถึงกระนั้น หลินซวนกลับทำได้เพียงยับยั้งไม่ให้คำสาปทำงานมากขึ้นเท่านั้น หากปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไปนานกว่านี้ แม้แต่เขาเองก็เกรงว่าจะไม่สามารถหยุดคำสาปได้มากกว่านี้

“เอาล่ะ มาลองดูกันเถิดว่าจะมีรางวัลใดจากระบบที่พอจะช่วยชีวิตท่านแม่ได้บ้าง....”

หลินซวนที่กำลังขบคิดอยู่ร่างกายแน่นิ่งไม่ขยับไหวใดๆ ตอนนี้เขาทำได้เพียงหายใจและขยับปากเล็กน้อยเท่านั้น

ในเมื่อ [ลมหายใจแรก]  และ [ร้องไห้ครั้งแรก] นับว่าสำเร็จลุล่วงไปแล้ว

ในความระหว่างใคร่ครวญ เวลาแต่ละวินาทีก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้า

ผู้เฒ่าทั้งหลายที่ออกไปค้นหาหนทางแก้คำสาปก็ทยอยกันกลับมา แม้ว่าจะมีสิ่งใดก็ตามติดมือมาด้วย แต่ก็มิสามารถจะใช้ถอนคำสาปนี้ได้เลย บัดนี้พวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างยิ่ง และเริ่มจะพุ่งออกไปที่อื่นอีกครั้งเพื่อตามหาหาทางรักษาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

....

ในอีกด้านหนึ่ง สกุลหวังแห่งอาณาเขตซู่ก็ได้รับข่าวนี้แล้วเช่นกัน พวกเขากำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเป็นสุขกันถ้วนหน้า เพียงสกุลหลินได้พบเจอกันหายนะ แน่นอนว่าตระกูลหวังล้วนยินดียิ่ง และเฝ้าคอยจะได้รับข่าวดีสำหรับตน ซึ่งหมายถึงความตายของซวนยู่อย่างใจจดใจจ่อ

บัดนี้ ผู้นำหวังก็ออกเดินทางอย่างเงียบงัน และนำพาเอาผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลตามไปด้วยจำนวนหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังเมืองต้าหยานแห่งอาณาจักรฉีซาน เขาตัดสินใจว่าเวลานี้เหมาะสมที่สุดในการลงมือสังหารอัจฉริยะน้อยแซ่หลินผู้นั้น

....

ราตรีนี้มืดมนดุจน้ำหมึก ผู้นำตระกูลหวังนำกำลังคนแฝงตัวเข้าไปในป่าลึก เขามองไกลออกไปด้วยสายตาที่หนาวเหน็บเสียดกระดูก

“บุตรข้า หวังเถิงเฟย นับว่าเป็นอนาคตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เขาจะต้องไร้เทียมทานที่สุดในทวีปแห่งนี้”

“สวะน้อยแซ่หลินผู้นั้นหรือจะเทียบเคียงลูกชายข้าได้? คำสาปร้ายแรงนั้นเป็นเถิงเอ๋อร์นำกลับมาด้วยตนเอง พวกเจ้าจะรักษามันได้เยี่ยงไร?”

“ตอนนี้ เราเพียงต้องรอเวลาให้คำสาปทำหน้าที่ของมันเท่านั้น เมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้วนทั้งตระกูลหลินต้องตกอยู่ในความโกลาหล และมันจะเป็นโอกาสให้เรา!”

“ก่อนหน้าพวกเจ้าจัดงานเลี้ยงเพื่อนอวดโอ้ตนเอง หากแต่บัดนี้ ข้าจะสังหารความหวังของพวกเจ้าลงเสีย!”

….

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า คำสาปก็กล้าแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีปราณม่วงจากหลินซวนคอยยับยั้ง แต่ก็มิอาจจะหยุดมันได้ตลอดไป

ผู้เฒ่าแซ่หลินทั้งหลายเต็มไปด้วยความกังวลและดวงตาแดงก่ำ อย่างไรเสีย พวกเขาแทบทุกคนก็ถือได้ว่าติดหนี้ทั้งมารดาและบุตรคู่นี้อยู่ ซวนยู่และหลินซวน นับว่ามีบุญคุณช่วยให้พวกเขาได้เลื่อนขั้นหรือบรรลุบางสิ่ง  แต่ท้ายที่สุด พวกเขากลับมิสามารถหาทางแก้ไขคำสาปนี้ได้

วันเวลาผ่านมา หลินเฮ่าราวกับชายที่กำลังขึ้นสู่สรวงสวรรค์หากแต่ถูกผลักลงสู่ขุมนรก เขาทำเพียงหาทางรักษาภรรยาและแทบไม่เคยได้หลับใหลเลยสักครั้ง  ไม่ว่าจะได้รับข่าวอันใดที่เกี่ยวกับการถอนคำสาปนี้ เขาจะเร่งรีบไปในทันทีเพื่อตามหามัน แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับสูญเปล่ายิ่งนัก

เมื่อไม่สามรถหาทางรักษาภรรยารักของตนได้ นับวันนานเข้า ผมเผ้าของหลินเฮ่ายิ่งขาวโผลนมากขึ้นไปทุกที

วันนี้ หลินเฮ่าก็ยังคงหาหนทางถอนคำสาปให้ซวนยู่อย่างไม่ย่อท้อ เมื่อได้รับโอสถบางอย่างที่บรรพชนหลินกล่าวถึง เขาก็เร่งนำมันไปยังห้องที่ซวนยู่และหลินซวนนอนอยู่ในทันที

เพียงไปถึง จู่ๆเขาก็พบกับภาพที่มิคาดว่าจะได้เห็น ซวนยู่ภรรยาเขากำลังอุ้มบุตรชายขึ้นมาในอ้อมอก!

“อายู่!”  หลินเฮ่าทั้งตกใจและดีใจ  แต่เพียงครู่เดียว ดวงตาของเขาก็หม่นแสงลงอีกครั้ง

เขาพบว่าในครานี้ ร่างกายของนางกลับย่ำแย่ลงอีกแล้ว เหตุผลเดียวที่ซวนยู่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้นั้น ล้วนเป็นเพราะการช่วยเหลือจากหลินซวนเท่านั้น นี่นับได้ว่าเป็นแรงเฮือกสุดท้ายของชีวิตนาง

เมื่อซวนยู่ได้ยินเสียงของสามี นางเงยหน้าขึ้นแล้วมองตรงไปยังหลินเฮ่า แม้ร่างกายจะอ่อนแรงเต็มที หากแต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอันอ่อนโยนมอบให้เขา

“หลินเฮ่า ท่านมาแล้ว  มองดูซวนเอ๋อร์ของพวกเราสิ ระดับการพ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นอีกแล้ว”

หลินเฮ่าทำได้เพียงกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ เขาเก็บซ่อนของเจ็บปวดเอาไว้ภายใน และเค้นเอารอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะออกมาเพื่อเอาใจภรรยา

“ฮ่าๆ ใช่แล้ว! เจ้ามิรู้หรือว่านี่คือบุตรชายของใคร? เสี่ยวซวนย่อมต้องเติบโตขึ้นไปเป็นชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้านี้ จากการอบรมสั่งสอนของเราทั้งคู่อย่างแน่นอน!”

ซวนยู่ทำเพียงยิ้มรับและสัมผัสใบหน้าของหลินซวนเบาๆ นางที่นิ่งเงียบเหมือนผืนน้ำยามไร้ลมพัดนั้นแทบคำตอบของคำกล่าวเมื่อครู่

ลำคอของหลินเฮ่าแห้งผาก ทำได้เพียงส่งยาให้นางด้วยมือที่สั่นเทา

“อายู่ ดื่มสิ่งนี้เถิด เพื่อที่เราจะได้เฝ้ามองซวนเอ๋อร์เติบโตไปพร้อมกัน”

“หากข้าดื่มโอสถมากไปมันคงไม่ดีกับซวนเอ๋อร์เท่าใดนัก”  จู่ๆซวนยู่ก็เงยหน้ามองหลินเฮ่า ใบหน้าของนางซีดเซียวและซูบผอม นางกอดหลินซวนไว้ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยกับสามี

“หลินเฮ่า ให้ข้าได้ป้อนนมให้ลูกเถิด”

หลินเฮ่านิ่งค้างไป เขาเข้าใจในทันทีถึงความหมายที่แฝงไว้ของคำพูดนี้  นางต้องการจะให้หลินซวนได้ดื่มน้ำนมจากอกของมารดา  เขาในครานี้ทำได้เพียงฝืนยิ้มอีกครั้ง

“อายู่ อย่ากล่าวล้อเล่นไป ร่างกายของเจ้า...”

“ไม่ต้องกังวล ข้ายังสามรถขยับร่างกายได้อยู่”  ซวนยู่อุ้มบุตรชายแล้วไกวแขนไปมาเพื่อแสดงว่าตนแข็งแรงเพียงใดด้วยรอยยิ้ม

หลินเฮ่ารู้สึกขมขื่นยิ่งนัก เพียงมองเห็นทั้งแม่และลูกเบื้องหน้าตน เขาราวกับมีบางสิ่งกำลังจุกอยู่ในลำคอ

ขณะนี้ ฝ่ามือเขาเต็มไปด้วยเลือดจากการกำมือหยดย้อยลงมาโดยไม่รู้ตัว เนิ่นนานที่เขาทำได้เพียงแค่นยิ้มออกมา แม้รอยยิ้มนั้นอาจกล่าวได้ว่าน่าเกลียดยิ่งกว่ายามร้องไห้เสียด้วยซ้ำไป

“ตกลง”

ซวนยู่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและอุ้มหลินซวนแนบอก แม้ทารกน้อยจะยังไม่สามารถขยับกายได้ แต่เขาก็ยังหายใจและดื่มนมของมารดาได้

สัมผัสวิญญาณของหลินซวนทำเพียงมองฉากนี้ออย่างเงียบงัน

แต่เพียงสัมผัสกับน้ำนมจากมารดา จู่ๆเสียงของระบบที่เขาไม่ได้ยินสักพักก็ดังขึ้น!

[บรรลุภารกิจ:ดื่มนมแม่ครั้งแรก!]

[ช่างเป็นแหล่งของพลังชีวิตอันเปี่ยมล้น เมื่อผสมกับทำนองแห่งเต๋าที่กักเก็บเอาไว้ในตัวโฮสต์ แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังต้องแยกออกไปสองส่วน!]

[ได้รับทักษะ:กายเซียนแห่งเต๋า!]

*ตอนนี้ผู้แปลมีเพจในเฟสบุ๊คแล้วนะครับชื่อ เสือเหงาแมวหง่าว สามารถเข้าไปติดตามข่าวสารหรือทวงนิยายได้ที่นั่นครับ ขอบคุณครับ*

* มาเพิ่มลิ้งเพจให้สำหรับคนที่หาไม่เจอนะครับ*

https://www.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7-107204498597809/

5 1 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด