ตอนที่แล้วตอนที่ 175 อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดล(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 177 เข็มกลัดอาจารย์ช่างโลหะที่ไม่คาดคิด(อ่านฟรี)

ตอนที่ 176 พอดีมือข้ามันโจมตีไปเอง


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 176 พอดีมือข้ามันโจมตีไปเอง

“เทคนิคนี่มัน! การควบคุมรูปแบบย่อยของเทคนิคผนึกจิตวิญญาณลงในอาวุธ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสร้างวิธีการควบคุมรูปแบบย่อยแบบนี้ได้สำเร็จ เหลือเชื่อมาก” อาร์เดลมองไปที่การกระทำของกายด้วยความหลงใหล นี่เป็นครั้งแรกที่อาร์เดลอยากจะมีตามากกว่านี้เพื่อมองดูเทคนิคที่กายกำลังใช้ให้มากขึ้น

ในตอนนี้อาร์เดลไม่เข้าไปหยุดกาย แต่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ เหมือนกับลูกศิษย์ที่กำลังเรียนรู้จากอาจารย์ไม่มีผิด

กายไม่รู้แม้แต่น้อยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันน่าทึ่งแค่ไหนสำหรับอาจารย์ช่างโลหะ ซึ่งจริง ๆ กายก็ไม่รู้เพราะเขาทำทุกอย่างตามที่เขียนไว้ในพิมพ์เขียวเท่านั้น แน่นอนว่าในตอนนี้กายไม่มีเวลามาสนใจอาร์เดลเขากำลังทุ่มสมาธิและจิตใจทั้งหมดไปที่การหลอมสร้างค้อนหลอมอัคคี

จากวินาทีผ่านไปเป็นนาทีและจากนาทีผ่านไปเป็นชั่วโมงจนกระทั่งผ่านไป 10 ชั่วโมงเต็ม ๆ ในที่สุดกายก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย เขายกเบ้าหล่อที่มีค้อนหลอมอัคคีอยู่ด้านในก่อนจะทุบเอาค้อนออกมาและชุบแข็งมันอีกครั้ง

ก่อนจะใช่ด้ามจับและเก็บรายละเอียด จนในที่สุดค้อนที่มีลวดลายเหมือนกับรอยแตกของพื้นดินซึ่งเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและแม็กม่าก็ปรากฏสู่สายตาและค่อย ๆ ดับลงกลายเป็นลวดลายของโลหะตามปกติ

ขนาดค้อนนั้นใหญ่เท่าค้อนสั่นสะเทือน แต่น้ำหนักกลับไม่มากเท่า ถึงอย่างนั้นค้อนหลอมอัคคีก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจาก มันราวกับมีคลื่นความร้อนแผ่ออกมาเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา

กายไม่รอช้าหยิบยกมันขึ้นมา ก่อนจะลองเหวี่ยงทุบลงไปที่ทั่งตีเหล็กที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแรงของนักรบฝึกหัด ขั้น 3

ปัง!

เสียงค้อนกระทบทั่งตีเหล็กดังขึ้นตามปกติที่โลหะกระทบกันพร้อมทั้งมีประกายไฟกระจายออกมาเล็กน้อย แต่กับมีบางสิ่งต่างออกไป นั้นก็คือ บริเวณทั่งตีเหล็กที่โดนค้อนหลอมอัคคีทุบลงไปนั้นกับกล้ายเป็นสีแดงจากความร้อน แม้จะไม่ถึงขั้นหลอมละลาย แต่ก็ให้ผลที่เหมือนกับการเอาทั่งตีเหล็กโดนลงไปในเตาหลอมเป็นเวลานาน

กายอยากจะรู้ว่าถ้าเขาทุบลงไปติด ๆ กันทั่งตีเหล็กจะร้อนจนหลอมบิดรูปหรือไม่

ในเมื่อสงสัย กายก็ไม่รอช้าจัดการทุบลงไปอีกสามครั้งติดกัน จนกระทั่งทั่งตีเหล็กนั้นร้อนและไม่อาจจะทนได้อีกจึงเกิดการบิดรูปให้เห็นได้อย่างชัดเจน

ดีมาก...กายมองค้อนหลอมอัคคีในมือด้วยความพอใจ

“ตรวจสอบ”

“ชื่อ ค้อนหลอมอัคคี”

“ระดับ 5 ขั้นสุดยอด”

“ความสัมพันธ์กับค้อนหลอมอัคคี 88%”

“ผู้สร้าง เดวิน”

หมายเหตุ : ในทุกการโจมตีมีโอกาส 1% ที่จะปลดปล่อยระเบิดอัคคีออกมา เปอร์เซ็นต์จะสะสมเพิ่มขึ้นในทุกการโจมตีระหว่างการต่อสู้

กายมองไปที่หน้าจอการตรวจสอบอย่างสนใจ ในครั้งนี้มีการเพิ่มขึ้นมากับการตรวจสอบของระบบอีกแล้ว นั้นคือด้านหลังของระดับอาวุธ ปกติแล้วมันจะแสดงแค่ระดับของตัวเลขเท่านั้น แต่ครั้งนี้ได้มีการเพิ่มขั้นในระดับมา

ซึ่งกายรู้อยู่แล้วว่านอกจากการแบ่งเป็นระดับนั้นในระดับเดียวกันยังแบ่งย่อยเป็นขั้นลงไปอีก เหมือนกับที่ครั้งนั้นเขาเคยเอาดาบเดซี่ไปตรวจสอบและก็ได้รับการประเมินจากนักประเมินเชส นักประเมินราคาทั่วไป ประจำร้านขายอาวุธต้นไม้เงินเคยเป็นนักล่าสมบัติมาก่อน

ซึ่งตอนนั้นดาบเดซี่ได้รับการประเมินเป็นดาบระดับ 5 ขั้นกลางเท่านั้น

ซึ่งขั้นของระดับนั้นมี ขั้นต่ำ ขั้นกลาง ขั้นสูง และขั้นสุดยอด ราคาเองก็จะต่างกันไป ยิ่งเมื่อถูกประเมินเป็นระดับสูงแล้วก็มีราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัวตามไปด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับสุดยอด อย่างค้อนหลอมอัคคีเลย เพียงแค่ราคาของวัตถุดิบก็มากถึงหมื่นเหรียญทองแล้ว

ถ้าจะขายจริง ๆ ราคามันคงสูงถึง 3-4 หมื่นเหรียญทอง หรืออาจจะมากกว่าและนี่ยังไม่รวมกับการที่มันสามารถผนึกจิตวิญญาณการต่อสู้ลงไปได้

ตอนนี้ถ้านับอาวุธที่มีเราจะมีค้อนสั่นสะเทือน ซึ่งเป็นระดับ 5 ขั้นสูง ดาบหักสังหาร (เสียหาย) ระดับ 5 ขั้นสุดยอดและค้อนหลอมอัคคี ระดับ 5 ขั้นสุดยอด ซึ่งทั้งสามนี้คืออาวุธที่กายใช้เป็นหลัก

นอกจากนั้นยังมีหน้าไม้กล ระดับ 4 ขั้นกลาง ธนูโลหะของกองทัพนครดาราฟ้า ระดับ 4 ขั้นต่ำ ที่เขาเก็บไว้อยู่อีก ซึ่งพอมาคิดดูแล้วแค่อาวุธในตัวของเขาก็มากพอจะให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ นั้นตาลุกวาวกันเลยทีเดียว

ฮ่า ๆ แต่นี่คือสิทธิพิเศษของช่างโลหะล่ะนะ...กายหัวเราะในใจอย่างภาคภูมิ แม้จะไม่ค่อยชอบงานเกี่ยวกับโลหะ แต่โชคชะตากลับให้เขาวนเวียนเข้ามาเกี่ยวกับมันอยู่เรื่อย ดังนั้นหลัง ๆ มานี้กายทำใจได้แล้วและก็เริ่มสนุกไปกับมัน

แต่ที่ทำให้กายดีใจจริง ๆ นั้นคือในหมายเหตุนั้นมีการอธิบายความสามารถของค้อนหลอมอัคคีไว้ด้วย

ในทุกการโจมตีมีโอกาส 1% ที่จะปลดปล่อยระเบิดอัคคีออกมา เปอร์เซ็นต์จะสะสมเพิ่มขึ้นในทุกการโจมตีระหว่างการต่อสู้ กายอ่านข้อความนี้ซ้ำไปวนมาก ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิดทุกการโจมตีด้วยค้อนหลอมอัคคีจะสะสมเพลิงจนอัดแน่นและมีโอกาสระเบิดออกมาเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ นั้นหมายความว่าถ้าเขาโจมตี 100 ครั้งจะเกิดการระเบิดเพลิงออกมาอย่างแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก

ค้อนหลอมอัคคีคงจะเป็นอาวุธที่เราใช้ไปได้อีกนาน...แต่พอมาคิดดูเรื่องของระบบแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปความสามารถในการตรวจสอบของระบบเกมก็ยิ่งพัฒนาขึ้นราวกับระบบเกมกำลังพัฒนาตัวเองเรื่อย ๆ ไปพร้อมกับผู้เล่นที่เรียนรู้โลกราชัน... กายไม่คิดหาคำตอบของคำถามนี้ต่อเขาเพียงเก็บมันไว้ในใจเท่านั้น

ณ ขณะนั้นเองอยู่ ๆ กายก็รู้สึกเวียนหัวและเหมือนจะคลื่นไส้จากการที่ฝืนใช้ร่างกายจนเกินไป แม้แต่เขาที่เป็นนักรบฝึกหัดขั้น 3 ก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจในการหลอมค้อนหลอมอัคคี

ในตอนนั้นคำเตือนการสร้างและใช้งานค้อนหลอมอัคคีคือต้องเป็นนักรบฝึกหัดขั้นสามเป็นอย่างต่ำ ซึ่งตอนนี้กายเข้าใจแล้วว่าการหลอมค้อนหลอมอัคคีนั้นกลืนกินพลังกายและพลังสมาธิมากแค่ไหน ถ้าไม่ใช่นักรบฝึกหัดขั้น 3 เขาคงไม่อาจจะสร้างมันสำเร็จ และก็คงไม่สามารถใช้งานมันได้

เราควรออกไปนอนพักสักหน่อย...กายไม่ฝืนตัวเอง

เขาคิดจะเก็บค้อนหลอมอัคคีเข้าไปในแหวนมิติและออกไปพักสักหน่อย แต่ก่อนที่เขาจะได้เก็บค้อนหลอมอัคคีลงในแหวนมิติหมายเลข 13 ก็มีเสียงหญิงสาวถามขึ้นมาจากด้านข้างด้วยความตื่นเต้นซะก่อน

“เจ้าทำได้อย่างไร?” อาร์เดลที่อยู่ด้านข้างถามกายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตระหนก

กายที่ยืนอยู่ก็ตกใจราวกับโดนใครเหยียบหาง รีบถอยหนีทั้งระยะห่างในทันที ก่อนจะยกค้อนหลอมอัคคีขึ้นมาทำท่าป้องกัน

อาร์เดลเห็นท่าทีของกายก็ตกใจด้วยเช่นกัน เพราะไม่คิดว่ากายจะตกใจและแสดงท่าทีระมัดระวังขนาดนี้ ซึ่งการที่กายตกใจขนาดนี้ เพราะเมื่อครู่เขาเกือบจะเก็บค้อนหลอมอัคคีเข้าไปในแหวนมิติหมายเลข 13 ซึ่งถ้ามีคนเห็นเข้าคงเป็นเรื่องแน่นอน

เกือบไปเราประมาทไปซะได้...

ว่าแต่เธอมายืนตั้งแต่เมื่อไหร่…ไม่สิ! พิมพ์เขียว!

กายที่พึ่งรู้สึกตัวว่าข้าง ๆ นั้นมีคนมายืนอยู่ แต่เมื่อมองดูและเห็นว่าเป็นอาจารย์ช่างโลหะอาร์เดล เขาก็ตั้งสติรีบหันไปคว้าพิมพ์เขียวของค้อนหลอมอัคคีที่เขาคัดลอกออกมาจากหนังสือบันทึกช่างโลหะ ก่อนจะรีบถามกลับไป

“ทำ? ทำอะไร? ว่าแต่ท่านมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ยืน ข้าก็มายืนตั้งนานแล้ว เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เจ้าเรียนรู้การควบคุมรูปแบบย่อยของเทคนิคผนึกจิตวิญญาณลงวัตถุนั้นมาจากไหน?”

“เรียน? ในฐานะช่างโลหะท่านคิดว่าข้าจะตอบอย่างนั้นเหรอ” กายอ้างในเรื่องความรู้ของช่างโลหะในทันที

ความรู้ในสายช่างโลหะนั้นถือว่าเป็นของมีค่ามากสำหรับช่างโลหะ และช่างโลหะส่วนใหญ่จะไม่มีใครแบ่งปันความรู้ของตัวเองออกไปฟรี ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าอยากจะเรียนรู้ในความรู้ช่างโลหะนั้นจะต้องมีของแลกเปลี่ยนแต่นั้นอยู่ที่ว่ากายจะตกลงหรือไม่

และถ้าคนทั่วไปอยากเรียนอาจจะขอเข้ามาเป็นผู้ช่วยช่างโลหะฝึกหัดอย่างที่ นาธานและมิล่า ผู้ช่วยช่างโลหะฝึกหัดของเขาที่ร้านไร้ขอบเขต ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกายอยู่ดีว่าจะถ่ายทอดไปหรือไม่

แน่นอนว่ากายยอมปฏิเสธอาร์เดลแน่นอน

เขายังจำเรื่องในนครดาราฟ้าได้ ตอนการประมูลครั้งนั้นมีหลายคนเหมือนจะตามหาความรู้ในบันทึกช่างโลหะ และหนึ่งในสามปรามาจารย์ช่างโลหะดูเหมือนจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังด้วย

ดังนั้นกายจึงระวังตัวในเรื่องความรู้ในหนังสือบันทึกช่างโลหะมาก เขาจะไม่เปิดเผยความรู้พวกนี้ออกไปและถ้าเปิดเผยออกไป กายก็จะอ้างว่าเป็นความรู้ของเขาเอง ซึ่งอย่างเช่นเทคนิคการบีบอัดโลหะที่สอนให้นาธานและมิล่า เพราะกายเชื่อว่าสองคนนั้นไม่มีทางเปิดเผยความรู้เขามั่ว ๆ แน่ อีกอย่างพวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนกึ่งลูกศิษย์ของกาย

“ชิ!...จากความสามารถของเจ้าคงไม่ใช่แค่ช่างโลหะทั่วไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงช่างโลหะฝึกหัดเลย เจ้าคงมาถึงระดับของอาจารย์ช่างโลหะแล้วสินะ... ในฐานะอาจารย์ช่างโลหะด้วยกัน บอกเงื่อนไขของเจ้ามาว่าต้องการอะไรถึงยอมสอนการควบคุมรูปแบบย่อยนั้นให้ข้า” อาร์เดลเดินเข้ามาหากาย พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันของนักรบแท้จริง ขั้น 3 ออกมา

กายถอยหลังหนีจนหลังติดกำแพง แต่อาร์เดลก็ยังไม่หยุด เธอแนบชิดกายจนเขานั้นได้กลิ่นหอมจากตัวของเธอ

ด้วยความที่อาร์เดลนั้นสูงและหุ่นสวยราวกับนางแบบทำให้ใบหน้าของทั้งสองนั้นเสมอกัน ดวงตาของอาร์เดลนั้นจ้องไปที่ดวงตาของกายไม่ขยับไปไหน ราวกับว่าถ้าเขาไม่ยอมบอกเงื่อนไขก็จะไม่ยอมปล่อยกายไป

ตอนนี้กายรู้สึกว่าตนกลายเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอที่กำลังถูกรังแกโดยมาเฟียหนุ่ม

“ข้าไม่คิดจะสอนท่าน” กายกล่าวอย่างหนักแน่น

ปัง!

ในตอนนั้นเองอาร์เดลก็ใช่ฝ่ามือทุบเข้าไปที่กำแพงข้าง ๆ ศีรษะของกายสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนี้

เชี่ย...เราลืมไปว่าเธอคือนักรบแท้จริง แถมจะไม่ใช่แค่ระดับหนึ่งด้วย...กายเหลือบมองด้วยห่างตายังจุดที่ฝ่ามือของอาร์เดลจบฝังไป ซึ่งมันเป็นรอยฝ่ามือลึกเข้าไปในผนัง ทำเอากายกลืนน้ำลายด้วยความกลัวเล็กน้อย

“ท่านคิดจะข่มขู่ข้า ที่นี่คือป้อมปราการตะวันออก...”

“ขอโทษที่ พอดีมือข้ามันโจมตีไปเอง เจ้าคงไม่ว่าอะไรสินะ” สีหน้าของอาร์เดลไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แต่เธอก็ถอยออกมาจากกายไม่กดดันเขาอีก

ผู้หญิงคนนี้....กายพูดไม่ออก เขาได้แต่เงียบไป ก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ข้าเข้าใจ แต่ท่าก็ต้องเข้าใจด้วยข้าไม่คิดจะสอนให้คนนอก อีกอย่างตอนนี้เราอยู่ในสงครามข้าต้องรีบไปเตรียมพร้อมในการสู้รบคงต้องขอตัวก่อน”

กายกล่าวจบก็รีบถือค้อนหลอมอัคคีและพิมพ์เขียวออกมาจากโรงหลอมอาวุธทันที

ขณะที่เดินไปด้วยกายก็บ่นในใจไปด้วย

เฮ้อ...ทำไมเราถึงเจอแต่ NPC สาวสวยที่ชอบใช้กำลังกัน แถมสถานการณ์ของเรากับอาร์เดลที่แทบไม่รู้จักกันถึงพัฒนามาเป็นแบบนี้ได้ จริงสิ...ถ้าคิดเฉพาะในเรื่องช่างโลหะ อาร์เดลคือ NPC ที่มีพลังระดับสูงในสายช่างโลหะที่เราเจอเป็นคนแรกเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด