ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 258 แก้ปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 260 คนละเรื่องเดียวกัน

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 259 เหนื่อยอีกแล้วสิ


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 259  เหนื่อยอีกแล้วสิ

“ว้าวววววว~  เป็นแบบที่ได้ยินมาจริงด้วย”

เมื่อเดินทางมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลผม็ตรงมาที่ห้องรับรอง เพราะคนใช้บอกว่าทาร์เลียและลาฟเชียร์อยู่ที่นี่ เมื่อมาถึงก็ได้ยินเสียงร้องแบบดีใจและแววตาที่ลุกวาวของเอ็ดเน่ที่กำลังมองหางของทาร์เลียที่อยู่ในร่างราเมียอยู่

ส่วนลาฟเชียร์ก็กำลังยิ้มอ่อนๆ อยู่ด้านข้างทั้งสองคน

ให้ตายสิ ยัยนั้นคิดว่ากลายร่างได้ตามที่ต้องการหรือไง เฮ้อ~ ผมทำได้เพียงแต่คิดแล้วส่ายหน้าไปมาเพราะความเหนื่อยใจกับสิ่งที่ทาร์เลียกำลังทำอยู่

ระหว่างนั้น

“อะ ท่านดรารอน์มาแล้ว!”

ทาร์เลียที่สังเกตเห็นผมก็พูดขึ้น จากนั้นทุกสายตาในห้องต่างก็มองมาทางผมที่อยู่หน้าประตู

“ท่านพี่ดูนี่สิ ทาร์เลียสุดยอดไปเลย!!”

เอ็ดเน่พูดเสียงดีใจระหว่างมองมาทางผมและชี้นิ้วไปยังหางของทาร์เลีย

ตอนนี้อยากจะบอกไปว่า [สุดยอดอะไรกันละ] แต่ด้วยความน่ารักของเธอที่น่ารักกว่าเมื่อห้าปีก่อนมากคงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก

ตอนนี้ตั้งแต่ที่เดินเข้ามาเอ็ดเน่ที่ผมเห็นก็เหมือนเอรีน่าเข้าไปทุกที… ไม่สิ! คงอาจเป็นเพราะได้สีผิวของดิวนีสันต์มาด้วยทำให้ความเข็มสีขาวเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ต้องบอกว่าสวยกว่าเอรีน่าสะอีก

น่ารัก~

“อ่า สุดยอดไปเลยทาร์เลีย”

ผมตอบตามสิ่งที่เอ็ดเน่น่าจะอยากได้ยิน แต่ทาร์เลียกับบิดตัวไปมาและหน้าแดงแบบกำลังอาย จะบ้าหรือไง! ทางนี้ไม่ได้อยากชมเธอสักหน่อยทำไมต้องอายขนาดนั้นด้วย

“ค่ะ… ท่านดรารอน์ชมข้าครั้งแรกเลย”

ยังไม่จบอีกนะยัยนี่

“สุดยอดจริง เพราะงั้นตอนนี้เธอก็เปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์สะ นี่คิดว่ายาแปลงร่างที่ราชินีภูติให้มามันหาได้ง่ายๆ หรือไง”

ผมพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ

แต่ในใจตอนนี้กำลังรมเสียกับยัยนี่มากจริงๆ

“ค่ะ… ขอโทษคะ”

เหมือนว่าทาร์เลียจะรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดเลยตอบมาแบบนั้น แล้วเธอก็กลับร่างเป็นมนุษย์เหมือนเดิมโดยกินยาเข้าไปหนึ่งเม็ด ส่วนทางเอ็ดเน่ก็ทำหน้าผิดหวังแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินตรงเข้ามาหาผม

ระหว่างเดินเข้ามาเธอก็ยิ้มด้วยใบหน้าดีใจ

อะไรไอ้ใบหน้าแบบนั้น???

ระหว่างกำลังสงสัย

“ท่านพี่วันนี่พวกเราไปเที่ยวงานกันเถอะ!”

เธอก็พูดออกมาด้วยหน้าตายิ้มแบบนั้น ตอนนี้สิ่งที่เธอพูดมามันไม่ใช่คำถามหรอกแต่มันเป็นคำสั่งต่างหาก สีหน้าแบบนั้นใครมันจะไปปฏิเสธลง 

“ดะ ได้สิ!”

“เย้!!!” 

เอ็กดเน่ร้องและกำมือทั้งสองเอาไว้แน่เหมือนกับทำอะไรที่ยิ่งใหญ่สำเร็จ แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้กลับ เฮ้อ~ สุดท้ายก็ต้องไปสินะ

“แต่ว่า วันนี้พวกเราจะไปกันสามคนเท่านั้นนะ”

เอ็ดเน่พูดอีกครั้งระหว่างที่ผมกำลังหนักใจอยู่ แล้วไอ้คำพูดที่เธอพูดออกมาก็ทำให้ทาร์เลียกับลาฟเชียร์มองกันด้วยหางตาไม่เป็นมิตรสะแล้ว

สองคนมองกันแบบนั้นสักพักทาร์เลียก็พูดออกมาก่อน

“ท่านเอ็ดเน่ท่านจะให้ข้าไปด้วยใช่ไหม?”

“ไม่สิต้องเป็นข้าใช่ไหมคะ ท่านเอ็ดเน่!”

ลาฟเชียร์ที่ปกติจะทำตัวเรียบร้อยพูดสู้ขึ้นมาแบบทันควัน แต่ถ้าเอาตามที่ผมเข้าใจสิ่งที่เอ็ดเน่พูดออกมาตอนนี้ทั้งสองคนกำลังเข้าใจผิดกันอยู่ชัดๆ เพราะอีกคนที่กำลังจะไปกับพวกเราก็-

“ทั้งสองคนกำลังพูดเรื่องอะไร ข้า ท่านพี่แล้วก็ท่านแม่จะไปกันสามคน ข้าคงให้ทั้งสองคนไปด้วยไม่ได้หรอกนะ”

เอ็ดเน่ตอบตามที่ผมเข้าไป และส่ายหน้าไปด้วย

จากนั้น

“เฮ้อ~”

“แบบนั้นก็คงพอรับได้”

ทาร์เลียถอนหายใจ ส่วนลาฟเชียร์ก็พูดเหมือนกับว่าโล่งใจเอามากๆ

ระหว่างนั้นทาร์เลียก็

“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน”

พูดขึ้นมาอีกเหมือนกับคิดอะไรออก แล้วเธอก็หันไปทางลาฟเชียร์ก่อนที่จะพูดต่อ

“ลาฟเชียร์เมื่อเป็นแบบนี้พวกเราคงต้องไปสองคนแล้วละ”

“ข้าก็คิดแบบนั้นแหละ…”

เมื่อทั้งสองคนตกลงกันได้ทาร์เลียก็มองมาทางผมด้วยแววตาน่าสงสาร แต่มือทั้งสองของเธอก็แบรแล้วกระดิกไปมา เงินสินะ~ ยัยนั้นต้องการเงินสินะ

“เท่าไหร่?”

ผมถามและใช่มือล้วงกระเป๋าที่เก็บเหรียญในกระเป๋าเสื้อ

“20 ก็น่าจะพอแล้วคะ”

น้อยกว่าที่คิดแหะ!

เป็นแบบนี้ก็แปลว่ายัยนี่เริ่มคิดได้แล้วสินะว่าต้องเองต้องประหยัดเงิน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเหมือนกัน

เมื่อได้ยินคำตอบผมก็เดินไปแล้วส่งเหรียญเงิน 20 เหรียญ ให้กับทาร์เลียตามคำขอ แต่หลังให้ไป

“เอ่ะ?!?!?” 

เสียงร้องแปลกใจของเธอก็ดังขึ้นมาทันที ระหว่างที่มองเหรียญในมือแบบนั้น

“มันมีอะไรน่าตกใจอีกละ อย่าบอกนะว่าไม่พอ”

“นี่ท่านจะฆ่าข้าเหรอ ท่านดรารอน์!!!”

น้ำเสียงที่ตอบออกมาของทาร์เลียจริงจังมาก พอมองสีหน้าของเธอก็เข้าใจเลยว่ากำลังโมโหอยู่ แต่โมโหอะไร? ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?

ผมพยามคิดหาสาเหตุสักพักแต่พอมองไปมองมาก็เข้าใจถึงสิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจอยู่ในตอนนี้ ไม่ผิดแน่นอน!

พอรู้สาเหตุผมจึงพูดไปว่า…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด