ตอนที่แล้วตอนที่ 30 พี่ชายส่งอาหาร ปลุกสำนักงานใหญ่ (RE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 มันต้องเป็นเรื่องล้อเล่นแน่ๆ (RE)

ตอนที่ 31 เพื่อนร่วมชั้นเก่า แกล้งทำกันซึ่งหน้า (RE)


หลินฟาน ..กำลังส่งอาหารงั้นเหรอ?

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างดูมีท่าที.. ไม่อยากจะเชื่อ

หลัว เทียนหมิง กล่าวว่า : “เป็นไปไม่ได้? หลินฟาน กําลังส่งอาหารอยู่ได้อย่างไร เฉียนเฟิง คุณจําผิดคนหรือเปล่า?”

เพื่อนร่วมชั้นต่างพยักหน้าทีละคน และคิดว่า เฉียนเฟิง น่าจะจําผิดคนแล้ว หลินฟาน เป็นต้นหญ้างามในมหาลัยของพวกเขา แล้วเขาจะไปทำงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ได้อย่างไร?

เฉียนเฟิง ได้หัวเราะออกมา ก่อนจะพูดว่า : “ตาฉันไม่ได้บอดนะ จะจําผิดคนไปได้อย่างไร และยิ่งกว่านั้นฉันยังได้พูดคุยกับเขา เขาสวมเครื่องแบบพนักงานซื้อกลับบ้าน และแถมเขายังยอมรับด้วยตัวเองว่ากําลังทำงานส่งอาหารอยู่!”

เฉียนเฟิง พูดออกมาอย่างมั่นใจมาก ทําให้คนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะเชื่อ และเหล่าเพื่อนร่วมชั้นก็ต่างพากันตกตะลึงไปทีละคน

“หลินฟาน กําลังส่งอาหารอยู่จริงๆ นะเหรอ เขาเป็นต้นหญ้างามนะ”

“เขาตกมาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร น่าผิดหวังจริงๆ”

“ฉันคิดว่าเขาน่าจะทําได้ดีมาก ท้ายที่สุดแล้วเขาก็คือต้นหญ้างามของเรา!”

เพื่อนร่วมชั้นพากันถอนหายใจ แต่ในสายตาของพวกเขาทุกคนกับฉายแววความสุขที่อธิบายไม่ได้.. ออกมา

ต้นหญ้างามในปีนั้น.. ตอนนี้กลับแย่ยิ่งเสียกว่าพวกเขาทั้งหมด ซึ่งมันทําให้พวกเขารู้สึกดีมากขึ้นเป็นพิเศษ

หลัว เทียนหมิง พูดอย่างกังวลเล็กน้อยว่า : “เมื่อวานฉันโทรไปหา หลินฟาน เขาเองก็บอกฉันว่ากําลังส่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่ แต่ตอนนั้นฉันคิดว่าเขากำลังล้อเล่นอยู่เท่านั้น ไม่รู้ว่านี่จะทําลายความภาคภูมิใจในตนเองของเขาหรือไม่กัน?”

เฉียนเฟิง กล่าวว่า : “ที่จริงฉันคิดว่าการส่งอาหารเดลิเวอรี่ก็ดีนะ เป็นอิสระดี เมื่อวานฉันยังบอกกับ หลินฟาน อยู่เลยว่าฉันอิจฉาเขาที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปบนถนน และอีกอย่างการเดินทางมันก็ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดี….”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เพื่อนร่วมชั้นต่างก็หัวเราะออกมา คำพูดของ หลัว เทียนหมิง และเฉียนเฟิง มีพลังทำลายมากจริงๆ

แต่มันก็ตลกจริงๆ นะ ต้นหญ้างามผู้มีเกียรติ กลับไปส่งอาหารเดลิเวอรี่!

ในนาทีนั้นเองที่ได้เห็นหนุ่มหล่อสวมเครื่องแบบเดลิเวอรี่ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ล้อลมขับตรงเข้ามาหาพวกเขา

และเข้าหยุดจอดรถต่อหน้า ..กลุ่มเพื่อนร่วมชั้น

หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “ขอโทษนะ ฉันต้องรีบไปส่งออเดอร์ เลยทำให้มาสาย สวัสดีทุกคน”

เพื่อนร่วมชั้นต่างมองหน้ากันด้วยความสันสน ก่อนหน้านี้พวกเขาพากันสงสัยเล็กน้อย แต่มาตอนนี้ความจริงที่ว่า.. ก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว และไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกแล้ว หลินฟาน เขากําลังส่งอาหารอยู่จริงๆ!

ช่วงขณะหนึ่ง การดูถูกเหยียดหยามมันก็พุ่งสูงขึ้นในใจของเพื่อนร่วมชั้น

คนที่ดูสุภาพยังยิ้มหัวเราะให้กับ หลินฟาน โดยถือเป็นการทักทาย แต่กลับบางคนถึงกับไม่สนใจที่ทักทายด้วยซ้ำ และเพราะพวกเขารู้สึกว่า หลินฟาน ไม่คู่ควรได้รับมัน

หลัว เทียนหมิง และเฉียนเฟิง ต่างก็มีประสบการณ์มาแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ดูมีความสุข และดูกระตือรือร้นมาก

“ในที่สุดต้นหญ้าของเราก็มาถึงแล้ว หลินฟาน คุณกําลังส่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่จริงๆ แต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยตอนที่ เฉียนเฟิง พูดออกมาเมื่อกี้” หลัว เทียนหมิง พูดด้วยรอยยิ้ม

เฉียนเฟิง กล่าวว่า : “หลินฟาน รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ไม่เลว น่าจะมีราคาประมาณ 3,000 หยวนใช่ไหม?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “หากพูดให้ถูกก็คือ 3,500 หยวน มันค่อนข้างดีจริงๆ เร็ว และแรง”

ท่าทางจริงจังของ หลินฟาน ทําให้เพื่อนร่วมชั้นอดที่จะหัวเราะไม่ได้ บางคนถึงกับหัวเราะออกมาไม่หยุด

รถคันเล็กๆ ที่เพื่อนร่วมชั้นขับ ต่างมีราคามากกว่า 500,000 หยวน ถูกที่สุดก็ต้องมีราคาหลัก 100,000 หยวน

แต่ หลินฟาน เขากลับขับรถไฟฟ้าที่มีราคาแค่ 3,500 หยวน และยังปฏิบัติราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า ซึ่งมันช่างน่าตลกจริงๆ

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนกําลังดูถูก หลินฟาน อย่างโจ่งแจ้ง และต่างรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

และพฤติกรรมของทุกคน หลินฟาน ย่อมมองเห็น ..ในสายตาของพวกเขา มัน.. สมจริงมากจริงๆ เห็นได้ชัดว่าการมาร่วมตัวกันของเพื่อนร่วมชั้นนั้นเป็นการมาพบปะเพื่อนเก่าๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเพียงการแข่งขัน และการเปรียบเทียบ!

ใครมีชีวิตที่ดี ก็ย่อมมีจิตใจกระฉับกระเฉง และมีชีวิตชีวา ส่วนคนที่มีชีวิตแย่ๆ ก็หวาดกลัวจะถูกคนอื่น ..ดูถูก

หลินฟาน ยิ้มแล้วจอดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของเขาโดยไม่สนใจอะไร

หลัว เทียนหมิง พูดในตอนนี้ขึ้นว่า : “ใช่แล้ว เหมือนว่าดอกไม้งามของเรายังไม่มา?”

ดูเหมือนดอกไม้งามอย่าง คัง หมิ่นเอ่อร์ จะมาสายจริงๆ

เมื่อพูดถึงดอกไม้งามในชั้นของพวกเขา กลุ่มเพื่อนร่วมชั้นชายต่างก็พากันยิ้มออกมา ตอนที่พวกเขาเรียนหนังสือ คัง หมิ่นเอ่อร์ ถือเป็นสาวงามในฝันของเพื่อนร่วมชั้นชายส่วนใหญ่ในชั้นเรียนเลยก็ว่าได้

รวมถึง เฉียนเฟิง เองก็ด้วย..

ตอนที่ เฉียนเฟิง ไปมหาลัยเขาจะดูทำตัวเหมือนโปร่งใส ราวกับไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ และเขาทำได้เพียงแต่แอบหลงรัก คัง หมิ่นเอ่อร์ เท่านั้น มาตอนนี้เขาได้แสดงตัวตนออกมาแล้ว แต่มันกลับทำให้ดูแตกต่างออกไป

ดวงตาของ เฉียนเฟิง กลอกไปมาก่อนจะพูดว่า : “ทุกคน ฉันจองโต๊ะเอาไว้ให้แล้วตอนทุ่มหนึ่ง ดังนั้นเราจึงล่าช้าไม่ได้ กฎของ จินตู ฉันคุ้นเคยดีที่สุด อย่าได้รอช้า มาเถอะ ฉันจะพาทุกคนเข้าไปนั่งที่โต๊ะก่อน แล้วเดี๋ยวฉันค่อยออกมารอ คัง หมิ่นเอ่อร์ เพื่อนร่วมชั้นของเรา”

ที่นั่งของ โรงแรมจินตู แกรนด์ นั้นจองยากมาก พอได้ยินว่า เฉียนเฟิง ได้ใช้ความสัมพันธ์ของเขาจึงจองมาได้

เมื่อได้ยิน เฉียนเฟิง พูดแบบนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าล่าช้าแล้ว ภายใต้การนําของ เฉียนเฟิง พวกเขาได้เข้าไปในโรงแรมจินตู แกรนด์

โรงแรมจินตู แกรนด์ คืนนี้ดูค่อนข้างรื่นเริง หน้าประตูสว่างไสว และมีของประดับตกแต่งอยู่หลากสี ดูเหมือนว่าจะมีการจัดงานมงคลขึ้น

ได้ยินคนข้างๆ พูดคุยกันว่า : “คืนนี้บุตรสาวตระกูลซู แต่งงานกับ คุณชายของตระกูลหลี่ และงานถูกจัดขึ้นที่บนชั้นสามของโรงแรมจินตู”

เมื่อได้ยินว่า ‘บุตรสาวตระกูลซู’ ดวงตาของ หลินฟาน ก็มีแสงแวบแปลกๆ เกิดขึ้นในดวงตาของ หลินฟาน เขารีบส่ายศีรษะ และเรียกตัวเองให้กลับคืนสู่ความสงบ เดินตามเพื่อนร่วมชั้นมาที่โต๊ะอาหารที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง

ในโถงชั้นหนึ่งของ จินตู ปรากฏแสงสีทองสดใสออกมาทั้งหมด ซึ่งมันงดงามอย่างมาก!

ภายในโถงเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาทานอาหาร และดูมีชีวิตชีวามาก

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างก็ส่งเสียงชื่นชม

“จินตู สมควรเป็น จินตู จริงๆ มันหรูหรามาก ได้มานั่งกินข้าวที่นี่ฉันมีความรู้สึกมีเกียรติจริงๆ”

“ฉันอยากมาที่จินตูเพื่อมาสัมผัสประสบการณ์นี้มานานแล้ว แต่น่าเสียดายที่จองที่โต๊ะไม่ได้”

“เฉียนเฟิง ช่างมีความสามารถมากจริงๆ รู้จักผู้คนกว้างขวาง จินตู ขึ้นชื่อเรื่องการจองยากขนาดนี้ เขากลับจองได้ง่ายๆ”

เพื่อนร่วมชั้นต่างก็พากันชื่นชม เฉียนเฟิง

สําหรับ หลินฟาน พวกเขาดูเหมือนจะลืมไปแล้ว

เมื่อฟังเพื่อนร่วมชั้นชม เฉียนเฟิง ก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก และแสร้งทำเหมือนเป็นเจ้านาย ที่เรียกบอกให้ทุกคนนั่งลง

หลัว เทียนหมิง ที่เห็น เฉียนเฟิง แย่งซีน ก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย และเขาได้พูดว่า : “จินตู จองยากก็จริง แต่ค่าบริโภคของที่นี่ก็แพงมาก คืนนี้ทุกคนได้มาร่วมตัวกัน และฉันรู้ว่ากระเป๋าเงินของทุกคนเลือดออกแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้ฉันก็โชคดีที่ได้มากินข้าวที่นี่กับลูกค้าอยู่หลายครั้ง และคุ้นเคยกับอาหารของที่นี่ดีที่สุด สักพักฉันจะเป็นคนสั่งอาหารให้เอง และรับประกันได้เลยว่า ..ราคาไม่แพง”

เพื่อนร่วมชั้นต่างชื่นชมทันทีว่า : “หัวหน้าห้อง ช่างฉลาดมาก!”

หลัว เทียนหมิง ยิ้มอย่างเย็นชาในใจ ที่รับชัยชนะกลับคืนมาได้แล้ว!

เฉียนเฟิง แสร้งทำสีหน้านิ่งๆ แล้วหัวเราะขึ้นมาก่อนพูดว่า : “อาหารไม่ต้องรีบสั่งหรอก คนยังมาไม่ครบเลย ฉันจะออกไปรับเพื่อนร่วมชั้น คัง หมิ่นเอ่อร์ ก่อน”

หลังจาก เฉียนเฟิง พูด เขาก็ได้ออกไป

เมื่อมองดู เฉียนเฟิง และหลัว เทียนหมิง แกล้งทำเป็นแข่งกันซึ่งหน้า หลินฟาน ก็รู้สึกว่ามันดูตลกเล็กน้อย และการที่พวกเขามาแกล้งทำเป็นบังคับใส่กันเช่นนี้ มันดูเด็กเกินไปจริงๆ

ไม่นานหลังจากนั้น เฉียนเฟิง ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับสาวสวยที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่ง

“ดอกไม้งามของห้องเรามาแล้ว!”

“หมิ่นหมิ่น ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลย!”

“ใครว่า หมิ่นหมิ่น ดูสวยขึ้นกว่าเดิมอีก!”

เพื่อนร่วมชั้นเริ่มส่งเสียงออกมาทีละคน

อา… ดอกไม้งาม คัง หมิ่นเอ่อร์!

หลินฟาน เหลือบมองไปที่เธอแล้วร้องโอ้ ..ในใจออกมา คัง หมิ่นเอ่อร์ในความทรงจําเขา เป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสา และใจดีมากคนหนึ่ง แต่ คัง หมิ่นเอ่อร์ ที่อยู่ตรงหน้าเขากลับมีอารมณ์ มีบรรยากาศที่หลากหลาย เหมือน ลม และฝุ่นในอากาศที่ผสมปนกัน

ในชั้นเรียนก่อนหน้านี้ คัง หมิ่นเอ่อร์ เป็นเทพธิดาที่เป็นที่ต้องการของทุกคนจริงๆ แต่เมื่อออกมาอยู่ในสังคม คงถูกคลุกสี ..คือเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว และอีกอย่างในสังคมผู้หญิงอย่างเธอคงหาได้ง่ายๆ เพียงแค่กวักมือ

หลังจากเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย คัง หมิ่นเอ่อร์ ก็กลายเป็นคนใหม่ที่ผ่านประสบการณ์ต่างๆ มามากมายในชีวิต ไม่ใช่หญิงสาวที่ไร้เดียงสาเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เฉียนเฟิง ดูเหมือนจะยังถือว่า คัง หมิ่นเอ่อร์ เป็นเทพธิดาอยู่ ถ้าเขาไม่มีอารมณ์ชั่ววูบแปลกๆ จากในก่อนหน้านี้ เขาคงไม่มองเธอแม้แต่แวบเดียว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะดูเหมือนเขาจะต้องการแทนตัวตนของตัวเองในอดีต และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อพิชิต เทพธิดา…

คัง หมิ่นเอ่อร์ ได้นั่งลงข้างๆ ถัดจาก เฉียนเฟิง เมื่อพอมองไปเธอก็เห็น หลินฟาน และก็ดูอึ้งไปเล็กน้อย : “หลินฟาน? คุณคือ…”

เฉียนเฟิง รีบพูดขึ้นว่า : “ตอนนี้ หลินฟาน เป็นเด็กส่งอาหารแล้ว”

คัง หมิ่นเอ่อร์ ร้องโอ้ออกมา ดวงตาของเธอก็ฉายแววเย็นชาออกมาทันที และเธอก็ไม่สนใจ หลินฟาน อีกต่อไป

เมื่อพอหันกลับมา เธอกลับส่งยิ้มหวานให้ เฉียนเฟิง แล้วพูดว่า : “พี่เฟิง ได้ยินมาว่าพี่ประสบความสำเร็จอย่างมากใน จิงตง อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจาก เจ้านาย มาก ในเรื่องความร่วมมือระหว่างบริษัทของเรากับ จิงตง นั้น พี่ช่วยเหลือฉันหน่อยได้ไหม?”

หัวใจของ เฉียนเฟิง เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจทันที เขารีบพูดว่า : “ไม่ต้องกังวล ในเรื่องนี้พี่จะจัดการให้เอง!”

เทพธิดาคนนี้ ..เมื่อก่อนไม่เคยสนใจอะไรเขา แต่เวลานี้กลับกําลังขอความช่วยเหลือจากเขา!

อีกทั้งเขาก็ไม่ใช่ต้นหญ้างามอย่าง หลินฟาน!

เมื่อนึกถึงความคับข้องใจในอดีตที่เขาเคยได้รับมา เฉียนเฟิง ก็อดไม่ได้ที่จะระบายมันออกมา

“ใช่ หมิ่นเอ่อร์ ฉันได้ยินมาว่าตอนมหาลัย คุณชอบ หลินฟาน ไม่ใช่เหรอ?”

ทันใดนั้น เฉียนเฟิง ก็ยกหัวข้อมาที่ หลินฟาน

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนมองไปที่ คัง หมิ่นเอ่อร์ เพื่อดูว่าเธอจะตอบอย่างไร

แน่นอนว่า คัง หมิ่นเอ่อร์ ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล : “ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน!”

ตอนนี้ หลินฟาน เป็นคนส่งอาหาร มันน่าอับอายจะตาย แล้วจะให้เธอยอมรับได้อย่างไรว่าเธอเคยชอบ หลินฟาน มาก่อน

ในความเป็นจริงแล้ว คัง หมิ่นเอ่อร์ เคยชอบ หลินฟาน ทุกคนเองก็รู้ แต่พอเห็น คัง หมิ่นเอ่อร์ ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เพื่อนร่วมชั้นก็พากันหัวเราะออกมาอีกครั้ง เพราะมันน่าตลกจริงๆ

ในเรื่องนี้จะโทษ คัง หมิ่นเอ่อร์ ก็ไม่ได้ ใครบอกให้ หลินฟาน จนกันล่ะ เขามันดูยากจนออกขนาดนี้ ถามหน่อยว่ามีผู้หญิงคนไหนที่อยากจะอยู่ใกล้เขา?

เฉียนเฟิง แตกต่างออกไป ตอนนี้เขาประสบความสำเร็จแล้ว อดีตสาวงามในชั้นเรียนทุกคนต่างก็รีบเร่งที่จะเข้าหาเขา!

ในตอนนี้เอง

“หลินฟาน!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น และก็ได้เห็นความงามที่ไม่มีใครเทียบได้.. เดินตรงเข้ามาหา หลินฟาน ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

และทุกคนก็ตกตะลึงทันที เมื่อมองเห็นความงามที่ไม่มีใครเทียบได้นี้

นี่ใช่ดาราสาว หลิว ซือซือ ที่เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงนี้อยู่ ..ไม่ใช่เหรอ?

อีกทั้งเธอ.. ยังเดินมาหา หลินฟาน ด้วยตัวเอง?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด