ตอนที่ 114 ไม่ฉลาดขึ้นเลย
ใครมา...
เคาะธรรมดาไม่เป็นหรือไงถึงต้องเคาะแรงๆ ไม่รู้หรอว่าคนอื่นจะคิดว่ามีศัตรูมาแก้แค้น?
เซียวหรงมองพ่อแม่ที่ใบหน้าเต็มด้วยความแปลกใจ เธอยืนขึ้นด้วยท่าทางเคร่งขรึมและไปที่ประตูด้วยความสงสัย
ทันทีที่เธอเปิดประตู กลุ่มสมาชิกตระกูลเซียวในตอนเช้าที่บอกว่าจะมาบ้านเธอเพื่อคุยตอนเย็นก็ผลักเธอออกแล้วรีบเข้าไปในบ้าน พวกทำราวกับว่าบ้านหลังนี้เป็นของตัวเอง
“น้องชาย น้องสะใภ้ผ่อนคลายกันจังนะ แต่เราเกือบตายเพราะหรงหรงของพวกเธอ เธอสองคนสอนลูกยังไงเซียวหรงถึงได้กล้าพูดแบบนั้นกับฉันที่เป็นลุง ขนาดอยู่ต่อหน้าเย่เทียนเธอก็ยังกล้าต่อว่าเราที่เป็นคนในสายเลือด ตอนเซียวหรงกลับบ้านคงบอกให้พวกเธอฟังแล้วสินะ ตอนนี้พวกเธอควรให้คำอธิบายกับฉันที่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลได้แล้ว”
ลุงเซียวเดินไปนั่งข้างน้องชายคนโตที่โต๊ะอาหารและใช้ตำแหน่งผู้นำตระกูลขอให้พ่อแม่เซียวหรงอธิบายเรื่องนี้
ที่จริงแล้วลุงเซียวเลือกเวลานี้มาบ้านเซียวหรงเพื่อจัดการเรื่องเมื่อเช้า เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการจงใจ
ข้อแรก พวกเขาคิดว่าเซียวหรงน่าจะกลับบ้านเวลาประมาณนี้
ข้อสอง พ่อแม่ของเซียวหรงอยู่บ้านในช่วงเวลานี้
พวกเขาจึงติดต่อและมาพร้อมกัน
เซียวหรงคิดว่าพวกเขาล้อเล่นกับเธอ แต่ใครจะรู้ว่าปรสิตตระกูลเซียวพวกนี้ไม่อาจทนได้และรีบมาหาเพื่อฟ้องเรื่องเธอ
พ่อเซียวเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล เขาจึงกลัวพี่ชายแทนที่จะกลัวพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก
ยิ่งพี่ใหญ่โตขึ้นความสุภาพของเขาก็ยิ่งลดน้อยลง หลายปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่มีส่วนร่วมใดๆเลย ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจแล้วขาดทุนแต่ยังใช้เงินทุนไปกับเรื่องส่วนตัวด้วย นอกจากนี้เขามีพี่สะใภ้อยู่ข้างนอกอีกสามคนแถมยังตามใจลูกอย่างเซียวไค่อีก พวกเขาเอาแต่สร้างปัญหาและตระกูลก็ต้องคอยตามเช็ดตูดพ่อลูกคู่นี้
แต่เมื่อเขาคิดว่าพี่ชายคนนี้ดูแลเขาตั้งแต่เด็กและช่วยเขาไว้มาก พ่อเซียวจึงกลืนความโกรธและเมินเรื่องเลวร้ายต่างๆเพื่อเห็นแก่ความรักในครอบครัว
ที่สมาชิกตระกูลเซียวมาวันนี้เพื่อมาจัดการกับหรงหรง?
พ่อเซียวไม่รู้ว่าจะพูดเอาใจลุงเซียวและสมาชิกคนอื่นๆยังไง แต่เซียวไค่ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น “เซียวหรง เธอต้องให้คำอธิบายกับเราต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ ในเมื่อเย่เทียนต้องการให้เธอเป็นกลาง ผลประโยชน์ที่เป็นของพวกเราก็ควรแบ่งให้เราด้วยไม่ใช่หรือไง?”
เซียวไค่จงใจเน้นคำว่าเป็นกลางโดยพาดพิงถึงเซียวหรงที่ใช้ความสวยของตัวเองใช้วิธีน่ารังเกียจจับเย่เทียน
เมื่อเซียวหรงได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เธอเดินไปข้างหน้าแล้วตบหน้าเซียวไค่อย่างจัง
เพียะ
“ฉันไม่ขอโทษนะเพราะนายยื่นหน้ามาเอง”
เซียวไค่ที่โดนเซียวหรงตบหน้าก็สวนกลับไปด้วยแบ็คแฮนด์
เพียะ
เสียงในครั้งนี้ทำให้ทุกคนต้องตกใจ
“เธอกล้าดียังไงมาตบฉันเซียวหรง คิดว่าอยู่ต่อหน้าพ่อแม่แล้วฉันไม่กล้าตบเธอหรือไง”
ด้วยความไม่พอใจเซียวไค่จึงหันไปต่อว่าพ่อแม่เซียวหรง “ลุงกับป้าไร้ความสามารถจริงๆ ตระกูลของเรามีหมาป่าตาขาวเหมือนพวกคุณได้ยังไง ตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทยอดเยี่มขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันแค่ไปพูดกับคุณย่าไม่กี่คำก็ได้ตำแหน่งนี้แล้ว พวกคุณมีลูกขี้แพ้แบบนี้ไปจะได้ประโยชน์อะไร สุดท้ายฉันก็ต้องไปแทนเธออยู่ดีไม่ใช่เหรอ? ขอเตือนลุงกับป้าที่กินข้าวฟรีตลอดเลยนะว่าอย่าได้รุกรานพ่อกับฉันเพื่อเซียวหรงอีก ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะไม่ได้กินผลไม้ดีๆในอนาคต”
“เซียวไค่ ที่นี่คือบ้านของฉัน ฉันไม่สนใจเรื่องที่นายตบฉันกลับ แต่พ่อแม่ฉันเป็นลุงกับป้าของนาย แล้วนายพูดจาหยาบคายแบบนั้นได้ยังไง นายอายุเท่าไหร่กัน ถ้าไม่อยากคุยก็หุบปากแล้วออกไปซะ ออกไปจากบ้านฉัน ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณสองคนพ่อลูก!”
ที่มาหาเรื่องตัวเธอนั้นไม่เป็นไร แต่วันนี้พวกเขามาหาเรื่องพ่อแม่ของเธอด้วย แล้วเธอจะทนได้ยังไง?
เซียวหรงที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปขับไล่สมาชิกตระกูลเซียวกลุ่มนี้ที่ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยคำพูดและการกระทำทันทีแม้ว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับเธอทางสายเลือดก็ตาม
“อี* แกกล้าไล่พวกเรางั้นเหรอ? ฉันขอบอกเอาไว้เลย วันนี้ฉันจะให้บทเรียนเธอแทนลุงกับป้า...” เซียวไค่อันธพาลประจำตระกูลเซียวยังพูดไม่ทันจบ เย่เทียนกับผางเหว่ยที่มากินอาหารเย็นที่บ้านเซียวหรงก็เข้ามาหยุดเขาพร้อมกัน
เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ไม่ได้รับเชิญสองคนข้างหน้าคือเย่เทียนและผางเหว่ย เขาก็สูดหายใจเข้าลึกแล้วเอียงคอถามพ่อด้วยสายตาทันที เขาหวังให้พ่อเข้ามาช่วยเหมือนทุกครั้งและเขาพยายดึงมือเย่เทียนจับไว้ออก
เขาเคยเจอเย่เทียนแค่ครั้งเดียวคือที่งานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าและในห้องทำงานผู้จัดการเช้านี้ก็เป็นอีกครั้ง เรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับเย่เทียนคือเขายอมใช้เงินหลายร้อยล้านในงานเลี้ยงและทำให้คุณย่ามีความสุข ให้พูดตามตรงคือเขาไม่รู้เรื่องของเย่เทียนเลยสักนิด
แต่สำหรับผางเหว่ยที่ติดตามเย่เทียนมา เขาคือเหมินฉิง
ผางเหว่ยมีชื่อเสียงมากในแวดวงคนรุ่นสอง
เขาคือนายน้อยสามของตระกูลผาง เขาร่วมมือกับจิ้งจอกตระกูลฉินในด้านห้างสรรพสินค้า ภายในเวลาไม่กี่ปีตระกูลผางและตระกูลฉินเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
คู่แข่งห้างสรรพสินค้าให้ชื่อพวกขั้งสองคน ฉินเยี่ยนคือจิ้งจอกเยี่ยนและผางเหว่ยคือไซจูเก๋อ
ใครๆก็จินตนาการได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในโลกธุรกิจ
เนื่องจากพวกเขาเป็นคนหนุ่มสาวจึงไม่กลัวอะไร พูดได้ว่าพวกเขาอยู่ท่ามกลางคนรุ่นสองที่มีความสามารถในไห่จิงที่ ตราบใดที่เขาพูดหนึ่งคำปัญหาใหญ่ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ...
เซียวไค่เป็นคนรวยรุ่นสองที่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากกิน ดื่ม ซื้อรถและไปรับสาวๆ เขารู้ว่าตัวเองมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับฉินเยี่ยนและผางเหว่ย
เขาคิดไม่ถึงว่าผางเหว่ยที่ร่วมมือกับฉินเยี่ยนเพื่อซุ่มโจมตีบริษัทเซียวจะตามเย่เทียนมาที่บ้านเซียวหรงด้วย ต่อให้เขาตาบอดเขาก็ยังเห็นว่าผางเหว่ยเป็นเหมือนผู้ติดตามตัวน้อยที่นับถือเย่เทียนอย่างมาก
เซียวไค่พยายามดึงมือออกจากมือเย่เทียนอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาลดลงทันทีและขอร้องให้เย่เทียนปล่อยเขาไป “คุณเย่ เอ่อ...คุณช่วย...”
“ไม่!”