ตอนที่แล้วตอนที่ 113 ช่วงเวลาอวดความมั่งคั่งของผางเหว่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 หักกระดูก

ตอนที่ 114 ไม่ฉลาดขึ้นเลย


กำลังโหลดไฟล์

ใครมา...

เคาะธรรมดาไม่เป็นหรือไงถึงต้องเคาะแรงๆ ไม่รู้หรอว่าคนอื่นจะคิดว่ามีศัตรูมาแก้แค้น?

เซียวหรงมองพ่อแม่ที่ใบหน้าเต็มด้วยความแปลกใจ เธอยืนขึ้นด้วยท่าทางเคร่งขรึมและไปที่ประตูด้วยความสงสัย

ทันทีที่เธอเปิดประตู กลุ่มสมาชิกตระกูลเซียวในตอนเช้าที่บอกว่าจะมาบ้านเธอเพื่อคุยตอนเย็นก็ผลักเธอออกแล้วรีบเข้าไปในบ้าน พวกทำราวกับว่าบ้านหลังนี้เป็นของตัวเอง

“น้องชาย น้องสะใภ้ผ่อนคลายกันจังนะ แต่เราเกือบตายเพราะหรงหรงของพวกเธอ เธอสองคนสอนลูกยังไงเซียวหรงถึงได้กล้าพูดแบบนั้นกับฉันที่เป็นลุง ขนาดอยู่ต่อหน้าเย่เทียนเธอก็ยังกล้าต่อว่าเราที่เป็นคนในสายเลือด ตอนเซียวหรงกลับบ้านคงบอกให้พวกเธอฟังแล้วสินะ ตอนนี้พวกเธอควรให้คำอธิบายกับฉันที่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลได้แล้ว”

ลุงเซียวเดินไปนั่งข้างน้องชายคนโตที่โต๊ะอาหารและใช้ตำแหน่งผู้นำตระกูลขอให้พ่อแม่เซียวหรงอธิบายเรื่องนี้

ที่จริงแล้วลุงเซียวเลือกเวลานี้มาบ้านเซียวหรงเพื่อจัดการเรื่องเมื่อเช้า เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการจงใจ

ข้อแรก พวกเขาคิดว่าเซียวหรงน่าจะกลับบ้านเวลาประมาณนี้

ข้อสอง พ่อแม่ของเซียวหรงอยู่บ้านในช่วงเวลานี้

พวกเขาจึงติดต่อและมาพร้อมกัน

เซียวหรงคิดว่าพวกเขาล้อเล่นกับเธอ แต่ใครจะรู้ว่าปรสิตตระกูลเซียวพวกนี้ไม่อาจทนได้และรีบมาหาเพื่อฟ้องเรื่องเธอ

พ่อเซียวเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล เขาจึงกลัวพี่ชายแทนที่จะกลัวพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก

ยิ่งพี่ใหญ่โตขึ้นความสุภาพของเขาก็ยิ่งลดน้อยลง หลายปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่มีส่วนร่วมใดๆเลย ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจแล้วขาดทุนแต่ยังใช้เงินทุนไปกับเรื่องส่วนตัวด้วย นอกจากนี้เขามีพี่สะใภ้อยู่ข้างนอกอีกสามคนแถมยังตามใจลูกอย่างเซียวไค่อีก พวกเขาเอาแต่สร้างปัญหาและตระกูลก็ต้องคอยตามเช็ดตูดพ่อลูกคู่นี้

แต่เมื่อเขาคิดว่าพี่ชายคนนี้ดูแลเขาตั้งแต่เด็กและช่วยเขาไว้มาก พ่อเซียวจึงกลืนความโกรธและเมินเรื่องเลวร้ายต่างๆเพื่อเห็นแก่ความรักในครอบครัว

ที่สมาชิกตระกูลเซียวมาวันนี้เพื่อมาจัดการกับหรงหรง?

พ่อเซียวไม่รู้ว่าจะพูดเอาใจลุงเซียวและสมาชิกคนอื่นๆยังไง แต่เซียวไค่ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น “เซียวหรง เธอต้องให้คำอธิบายกับเราต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ ในเมื่อเย่เทียนต้องการให้เธอเป็นกลาง ผลประโยชน์ที่เป็นของพวกเราก็ควรแบ่งให้เราด้วยไม่ใช่หรือไง?”

เซียวไค่จงใจเน้นคำว่าเป็นกลางโดยพาดพิงถึงเซียวหรงที่ใช้ความสวยของตัวเองใช้วิธีน่ารังเกียจจับเย่เทียน

เมื่อเซียวหรงได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เธอเดินไปข้างหน้าแล้วตบหน้าเซียวไค่อย่างจัง

เพียะ

“ฉันไม่ขอโทษนะเพราะนายยื่นหน้ามาเอง”

เซียวไค่ที่โดนเซียวหรงตบหน้าก็สวนกลับไปด้วยแบ็คแฮนด์

เพียะ

เสียงในครั้งนี้ทำให้ทุกคนต้องตกใจ

“เธอกล้าดียังไงมาตบฉันเซียวหรง คิดว่าอยู่ต่อหน้าพ่อแม่แล้วฉันไม่กล้าตบเธอหรือไง”

ด้วยความไม่พอใจเซียวไค่จึงหันไปต่อว่าพ่อแม่เซียวหรง “ลุงกับป้าไร้ความสามารถจริงๆ ตระกูลของเรามีหมาป่าตาขาวเหมือนพวกคุณได้ยังไง ตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทยอดเยี่มขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันแค่ไปพูดกับคุณย่าไม่กี่คำก็ได้ตำแหน่งนี้แล้ว พวกคุณมีลูกขี้แพ้แบบนี้ไปจะได้ประโยชน์อะไร สุดท้ายฉันก็ต้องไปแทนเธออยู่ดีไม่ใช่เหรอ? ขอเตือนลุงกับป้าที่กินข้าวฟรีตลอดเลยนะว่าอย่าได้รุกรานพ่อกับฉันเพื่อเซียวหรงอีก ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะไม่ได้กินผลไม้ดีๆในอนาคต”

“เซียวไค่ ที่นี่คือบ้านของฉัน ฉันไม่สนใจเรื่องที่นายตบฉันกลับ แต่พ่อแม่ฉันเป็นลุงกับป้าของนาย แล้วนายพูดจาหยาบคายแบบนั้นได้ยังไง นายอายุเท่าไหร่กัน ถ้าไม่อยากคุยก็หุบปากแล้วออกไปซะ ออกไปจากบ้านฉัน ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณสองคนพ่อลูก!”

ที่มาหาเรื่องตัวเธอนั้นไม่เป็นไร แต่วันนี้พวกเขามาหาเรื่องพ่อแม่ของเธอด้วย แล้วเธอจะทนได้ยังไง?

เซียวหรงที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปขับไล่สมาชิกตระกูลเซียวกลุ่มนี้ที่ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยคำพูดและการกระทำทันทีแม้ว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับเธอทางสายเลือดก็ตาม

“อี* แกกล้าไล่พวกเรางั้นเหรอ? ฉันขอบอกเอาไว้เลย วันนี้ฉันจะให้บทเรียนเธอแทนลุงกับป้า...” เซียวไค่อันธพาลประจำตระกูลเซียวยังพูดไม่ทันจบ เย่เทียนกับผางเหว่ยที่มากินอาหารเย็นที่บ้านเซียวหรงก็เข้ามาหยุดเขาพร้อมกัน

เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ไม่ได้รับเชิญสองคนข้างหน้าคือเย่เทียนและผางเหว่ย เขาก็สูดหายใจเข้าลึกแล้วเอียงคอถามพ่อด้วยสายตาทันที เขาหวังให้พ่อเข้ามาช่วยเหมือนทุกครั้งและเขาพยายดึงมือเย่เทียนจับไว้ออก

เขาเคยเจอเย่เทียนแค่ครั้งเดียวคือที่งานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าและในห้องทำงานผู้จัดการเช้านี้ก็เป็นอีกครั้ง เรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับเย่เทียนคือเขายอมใช้เงินหลายร้อยล้านในงานเลี้ยงและทำให้คุณย่ามีความสุข ให้พูดตามตรงคือเขาไม่รู้เรื่องของเย่เทียนเลยสักนิด

แต่สำหรับผางเหว่ยที่ติดตามเย่เทียนมา เขาคือเหมินฉิง

ผางเหว่ยมีชื่อเสียงมากในแวดวงคนรุ่นสอง

เขาคือนายน้อยสามของตระกูลผาง เขาร่วมมือกับจิ้งจอกตระกูลฉินในด้านห้างสรรพสินค้า ภายในเวลาไม่กี่ปีตระกูลผางและตระกูลฉินเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

คู่แข่งห้างสรรพสินค้าให้ชื่อพวกขั้งสองคน ฉินเยี่ยนคือจิ้งจอกเยี่ยนและผางเหว่ยคือไซจูเก๋อ

ใครๆก็จินตนาการได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในโลกธุรกิจ

เนื่องจากพวกเขาเป็นคนหนุ่มสาวจึงไม่กลัวอะไร พูดได้ว่าพวกเขาอยู่ท่ามกลางคนรุ่นสองที่มีความสามารถในไห่จิงที่ ตราบใดที่เขาพูดหนึ่งคำปัญหาใหญ่ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ...

เซียวไค่เป็นคนรวยรุ่นสองที่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากกิน ดื่ม ซื้อรถและไปรับสาวๆ เขารู้ว่าตัวเองมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับฉินเยี่ยนและผางเหว่ย

เขาคิดไม่ถึงว่าผางเหว่ยที่ร่วมมือกับฉินเยี่ยนเพื่อซุ่มโจมตีบริษัทเซียวจะตามเย่เทียนมาที่บ้านเซียวหรงด้วย ต่อให้เขาตาบอดเขาก็ยังเห็นว่าผางเหว่ยเป็นเหมือนผู้ติดตามตัวน้อยที่นับถือเย่เทียนอย่างมาก

เซียวไค่พยายามดึงมือออกจากมือเย่เทียนอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาลดลงทันทีและขอร้องให้เย่เทียนปล่อยเขาไป “คุณเย่ เอ่อ...คุณช่วย...”

“ไม่!”