ตอนที่ 113 ช่วงเวลาอวดความมั่งคั่งของผางเหว่ย
ผางเหว่ยมองรอบๆรถคันใหม่ในโรงรถ เขาอดชื่นชมออกมาไม่ได้ “สุดยอด!”
พี่ชายของเขาคือส้อมวัว
รถราคา 10 ล้านไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็ก เปลี่ยนรถง่ายอย่างกับเปลี่ยนเสื้อ
เฮ้อ ไม่เข้าใจโลกของมหาเทพเลยจริงๆ
ผางเหว่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไมบัคเอส600แล้วโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อน เพียงแค่ไม่กี่วิเขาได้รับคำชมจากทั่วสารทิศ เขามีควาสุขกับภาพมายาจนตาโค้งเป็นจันทร์เสี้ยว
แค่ชื่อก็กินขาด---- พี่ชายเปลี่ยนรถอีกแล้ว!!! ผางเหว่ยเพิ่มลวดลายเล็กๆสองสามอันปิดหน้าเขาไว้
ฉินเยี่ยนที่กำลังจัดระเบียบบริษัทใหม่จนไม่ได้กลับบ้าน : ไอ้เย็บหมาผางเหว่ย นายอยู่ไหน รีบขับรถใหม่มาส่งอาหารญี่ปุ่นให้เพื่อนคนนี้เร็ว เอาอาหารจากร้านไผ่เขียวที่พวกเราไปบ่อยๆนะ แล้วก็ฝากบอกคุณเย่ด้วยว่าถึงฉันจะไม่ได้ไปหาแต่เขาอยู่ในใจฉันเสมอ
หลิวหรูเยียนที่ถือว่าห้องทำงานผู้จัดการของบริษัทต้าเฟิงเป็นบ้าน: เป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆที่ตระกูลผางมีลูกชายอย่างคุณแล้วบริษัทผางไม่ล้มละลาย
โหยวฉินเสี่ยวเหยาที่เพิ่งฝึกซ้อม : พี่ผางเหว่ยรวยจริงๆแต่หล่อไม่เท่าพี่ชายของฉัน
หนิงเสี่ยวถง: ขอแสดงความยินดีกับคุณผางเหว่ย
ซุนฮวา: ยินดีด้วย
สวีเหว่ยเหว่ย: ไม่มีอะไรจะพูด
ในบรรดาสมาชิกทั้งห้าของสุดยอดเทียนเกิร์ลกรุ๊ป คนสุดท้ายที่มาคอมเม้นคือจ้าวสือสือที่มีอวาตาร์ในวีแชทเป็นของกิน : ถ้าเอารถใหม่คันนั่นเปลี่ยนเป็นน่องไก่กับไส้กรอกแสนอร่อยได้...ก็คงจะดี แถมไม่ต้องท้องว่างตอนซ้อมทุกวันด้วย พูดแล้วอยากจะร้องไห้...
และล่าสุดดาราดังอย่างจื่อฉีก็แสดงสีหน้าด้วยความดูถูก
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนในสายธุรกิจของผางเหว่ยหรือเพื่อนที่เล่นตลกในวันธรรมดา เมื่อใดก็ตามที่มีบางอย่างผิดปกติกับผางเหว่ย พวกเขาจะเป็นคนแรกที่ออกมาเปิดปาก
นายเก่งจริงๆผางเหว่ย ฉันได้ยินมาว่าไมบัคเอส600รุ่นขยายที่อยู่ในเมืองไห่จิงมีแค่ศูนย์จำหน่ายรถยนต์นำเข้าเท่านั้น ตอนนั้นตัวแทนจำหน่ายรถอย่างผู้จัดการอู๋ตี๋บอกว่ารถคันนี้เอาไว้โชว์ไม่ใช่หรอ? สงสัยตระกูลฉันยังมีชื่อเสียงไม่พอ เดี๋ยวนี้คนรุ่นสองไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแล้วหรือไง น่าเศร้าจัง
สุดยอดเลยผางเหว่ย คราวก่อนเพิ่งจะซื้อแมคลาเรนพี1ไปตอนนี้ยังว้ซื้อไมบัคเอส600รุ่นขยายได้อีก บริษัทผางแข็งแกร่งจริงๆ อีกสองวันฉันคงต้องไปเล่นไพ่นกกระจอกกับนายสักหน่อยแล้ว อีกอย่างจะได้ไปคุยเรื่องความร่วมมือไตรมาสหน้าด้วย
รถโครตเจ๋งเลยผางเหว่ย ซื้อมาเท่าไหร่เนี่ย เอามาอวดแบบนี้คืออยากยั่วพวกเราใช่ไหม?
คืนนี้เราไปดื่มกันดีกว่าผางเหว่ย นายขับรถใหม่นี่ไปเปิดหูเปิดตาเพื่อนๆด้วย
ในเมื่อพี่น้องซื้อรถใหม่แล้วมาโพสต์ลงกลุ่มแบบนี้ งั้นออกมาเลี้ยงฉลองกันหน่อยดีกว่าเดี๋ยวฉันเตรียมที่ไว้ให้เอง
ฉันจะทำอะไรก็ต้องคอยดูตาแก่ที่บ้านตลอด ถึงตาแก่จะอามรมณ์ดีซื้อรถให้แต่ก็ต้องดูว่าเป็นรถรุ่นไหน คิดแล้วไม่เห็นสมเหตุสมผลเลย เป็นคนรุ่นสองเหมือนกันแต่ทำไมถึงได้ต่างกันแบบนี้นะ?
ฉางเส้า นายอย่าเศร้าเพราะเรื่องเจ้าอ้วนเหว่ยเลย นายยังไม่จบเรื่องทำดาราสาวคนนั้นท้องป่องไม่ใช่หรือไง พ่อนายยังโกรธอยู่รึเปล่า?
ผางเหว่ย ในเมื่อนายมีรถคันใหม่แล้วถ้างั้นขอฉันขับแมคลาเรนพี1ของนายได้ไหม?
ไอ้เย็บหมาผางเหว่ยเปลี่ยนรถอีกแล้ว...
ในตอนท้ายพ่อแม่ของผางเหว่ยที่ควบคุมลูกชายไม่ได้ก็ทักมา
ไอ้เด็กเวร แกซื้อรถอีกแล้ว ไม่ช้าก็เร็วทรัพย์สินของตระกูลต้องหมดเพราะแกแน่ รีบๆลบเพื่อนพวกนี้ไปให้หมดเลยนะ ถ้าจะอวดคู่แข่งการค้าก็ไม่เป็นไร แต่พรุ่งนี้ฉันจะไปจัดการแกที่บริษัท
อาเหว่ย ลูกเปลี่ยนรถใหม่อีกแล้วเหรอ รถคันนี้เท่าไหร่ล่ะ ตอนนี้ลูกมีเงินพอใช้ไหมถ้าไม่มีก็อย่าลืมมาบอกแม่นะเดี๋ยวแม่โอนเงินให้ ไม่ต้องไปสนใจพ่อไร้สมองของลูกหรอก ตอนลูกออกไปคุยธุรกิจรถกับเสื้อผ้าล้วนเป็นการแสดงสถานะของลูก ตอนไปคุยธุรกิจห้ามทำให้บริษัทผางเสียขายหน้าขาด
ส่วนญาติและเพื่อนที่ถูกผางเหว่ยไล่ออกในช่วงสองวันที่ผ่านมาถูกเขาลบและบล็อกในวีแชทไปตั้งแต่เช้า ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงออกมาโวยวายแล้วคิดว่ารถคันนี้แลกกับการไล่พวกเขาออกแน่นอน...
ผางเหว่ยมองกลุ่มเพื่อนที่แสดงความคิดเห็นต่างๆแล้วเหลือบมองเย่เทียนที่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาดู เขาเดินกลับไปนั่งบนแมคลาเรนสีแดงของเขาแล้วขับตามไมบัคเอส600ที่เย่เทียนกำลังขับไปกินอาหารเย็นที่บ้านพี่สะใภ้เซียวหรง
ครอบครัวเซียว
เมื่อแม่เซียวที่ลงมือทำอาหารเองเห็นพ่อและลูกสาวไม่คิดจะจับตะเกียบคีบอาหาร เธอจึงรู้สึกกังวล “สามี หรงหรง เย็นนี้ฉันทำของโปรดพวกเธอเลยนะ ถึงบริษัทจะมีปัญหาใหญ่แต่พวกเธอก็ควรกินข้าวก่อน จะได้มีแรงไปจัดการปัญหาพวกนั้นไง”
หลังแม่เซียวพูดแบบนั้นพ่อและลูกสาวจึงไม่อาจปฎิเสธได้ เธอคีบอาหารใส่จานพวกเขาและรอดูพวกเขากินให้เห็นกับตา
หลังจากฟังรายงานของเซียวหรงก่อนกินอาหารเย็นพ่อเซียวถึงกับขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่ภรรยาพูดเขาจึงมองชามข้าวที่เต็มไปด้วยกองผัก เขาวางตะเกียบและพูดอย่างจริงจัง
“ภรรยา ลองให้ลูกคุยกับเย่เทียนดูดีไหม ตามจริงแล้วเย่เทียนเป็นคนที่ใช้ได้เลย ก่อนหน้านี้ที่ครอบครัวเราทำผิดคงต้องขอให้เขายกโทษให้ ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดไร้ประโยชน์ค่าแถมเย่เทียนก็เป็นลูกเขยที่ตระกูลเรารู้จักกันอยู่แล้วด้วย แต่หรงหรงนี่สิชอบไปมีเรื่องกับเย่เทียน วันนี้พวกคนหนุ่มสาวที่อยู่ใต้เงาตระกูลเซียวใช้บริษัทเซียวเป็นข้อต่อรองกับเขา ถ้าไปทำให้เย่เทียนโกรธเข้าเกรงว่าตระกูลของเราคงต้องรับผลที่ตามมา”
เซียวหรงมองพ่อด้วยความเป็นห่วงตั้งแต่ต้น เธอวางตะเกียบในมือลงและปลอบพ่อแม่อย่างใจเย็น “พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้หนูจัดการเอง ส่วนเย่เทียน...”
ก่อนเซียวหรงจะพูดจบ เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู
ปัง ปัง ปัง...