ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่10: ของกำนัลมากมาย ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่12: ช่างมัน ข้าจะไม่ทำอันใดอีกแล้ว ที่นี่บ้านของข้านะโว้ย!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่11: พวกเจ้าทั้งหลายเข้าใจผิดแล้ว!


ตอนที่11: พวกเจ้าทั้งหลายเข้าใจผิดแล้ว!

สัมผัสวิญญาณของหลินซวนสั่นไหวไปรอบๆตัวซวนยู่ เพียงไม่นานเขาก็สัมผัสบางสิ่งที่ผิดปกติได้จากกายของมารดา

ท่านแม่ซวนยู่ของเขา ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงผู้บ่มเพาะปราณระดับยอดยุทธเทียบเคียงได้กับหลินเฮ่าผู้เป็นพ่อหลินซวนเลยทีเดียว  อัจฉริยะไร้ผู้ต้าน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอาณาเขตเหนือครามแห่งนี้ เพียงเพราะให้กำเนิดเขา แม้จะใช้เวลาตั้งครรภ์ถึงหนึ่งร้อยปีก็ไม่ควรจะอ่อนแรงถึงเพียงนี้

พลังวิญญาณของหลินซวนวนเวียนอยู่รอบตัวซวนยู่เพื่อตรวจหาสาเหตุ

‘มีบางอย่างที่ไม่ปกติ?’  เขาคิดกับตนเองในใจแต่ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเป็นเพราะอะไร

เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นเวลาแสนนาน สายสัมพันธ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ระหว่างแม่ลูกจึงได้ก่อเกิดขึ้นมา  นานเข้าหลินซวนก็พบว่ามารดาของเขากลับอ่อนแอลงเรื่อยๆ

สำหรับหลินซวนแล้ว สกุลหลินนับว่าทำให้เขาประทับใจพอสมควรเมื่อแรกพบ โดยเฉพาะสายตาที่พ่อและแม่มองเขาด้วยความรักและอบอุ่นอ่อนโยน

“ผ่านมาถึงหนึ่งวันเต็มแล้วที่นางคลอดข้าออกมา  แต่ดูเหมือนร่างกายนางกลับไม่ดีขึ้นแล้วยังอ่อนแอมากกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ?”

“ปัญหาอยู่ที่ใดกันนะ? หรือเป็นที่ข้าเองคิดมากเกินไป?”

เขาทำได้เพียงขบคิดกับตัวเอง แต่สุดท้ายเมื่อยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ จึงทำได้เพียงกลับไปจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะของตนเองเสียก่อน

“ข้าจำเป็นต้องรีบดูดซึมปราณโดยไว หากคาดการณ์ไม่ผิดนัก เพียงดูดซับปราณม่วงจนหมดก็น่าจะเพียงพอสำหรับการไปถึงขั้นแรกของแดนปรับปรุงกายได้”

“เมื่อถึงตอนนั้น สัมผัสวิญญาณของข้าก็น่าจะแข็งแกร่งมากพอที่จะค้นพบว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใดกันแน่”

หลังจากนั้นหลินซวนก็เริ่มดำดิ่งลงไปในห้วงสมาธิเพื่อบ่มเพาะปราณอีกครั้ง

……..

ในงานเลี้ยงของตระกูลหลินช่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ  อาหารเลิศรสนับไม่ถ้วนถูกวางไว้บนโต๊ะ

ทั่วทั้งโถงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยหมอกอ่อนๆล่องลอยในบรรยากาศ ท้องฟ้าสดใส กระเรียนขาวบินอยู่บนท้องฟ้า มีเหล่านักดนตรีกำลังเล่นพิณ นางรำร่ายรำอยู่บนเวทีใหญ่ ช่างดูสวยงามตระการตายิ่ง

พวกแขกนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อชมการแสดงและพวกคุยกันอย่างรื่นเริง

เพียงไม่นาน จู่ๆก็มีลำแสงประหลาดสาดกระจายขึ้นมากลางงาน เหล่าผู้อาวุโสตระกูลปรากฏตัวขึ้นโดยปราศจากที่มา

เมื่อแขกในงานได้พบเจอกับบรรพบุรุษและอาวุโสสกุลหลิน สายตาของผู้คนในงานก็ล้วนแต่จ้องมองไปยังจุดเดียวกัน ถึงแม้เหล่าอาวุโสพวกนี้จะผอมแห้งคล้ายผีตายซากอยู่บ้าง แต่หากมองข้างรูปลักษณ์นี้ไปจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่าหวาดเกรงที่ซ่อนอยู่

ในความเป็นจริงแล้ว บรรพบุรุษแซ่หลินนั้นเป็นเพียงชายชรารูปร่างผ่ายผอมคนหนึ่ง แต่บัดนี้ รูปกายของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!  ผมที่เคยขาวกลับกลายเป็นสีดำสลาย และร่างกายซูบซีดกลับดูราวกับเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่!

เนิ่นนานเพียงใดแล้วที่บรรพบุรุษสกุลหลินใช้ชีวิตมา? พันปี? หมื่นปี? หรืออาจมากกว่านั้น หากให้กล่าวตามความเป็นจริงแล้วควรเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่เขาจะยังสามารถคงรูปลักษณ์อันอ่อนเยาว์ได้จนถึงตอนนี้! นี่ต้องเป้นผลจากการเลื่อนขั้นอย่างแน่นอน!

“นี่ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่ายิ่งดียิ่งของทั้งอาณาจักรฉีซานแห่งนี้ รวมไปถึงเป็นโชคดีสำหรับอาณาเขตเหนือครามของเราเช่นกัน!”  ผู้นำตระกูลหวังเป็นผู้แรกที่ก้าวออกมายกจอกแสดงความยินดีแก่บรรพบุรุษหลินผู้นี้ด้วยเสียงกังวาลสดใส

“ข้า ตัวแทนตระกูลหวังแห่งเมืองเทียนไท่หยาง มีของกำนัลอันเล็กน้อยมามอบให้ท่านอาวุโสแซ่หลินเพื่อแสดงความยินดี!  สิ่งนี้คือ ผลทรัพย์สวรรค์อายุสามหมื่นปี รวมทั้งสิ้นสามผล”

ผลทรัพย์สวรรค์จำนวนสามผล?  เพียงได้ยินเท่านั้น หลินเฮ่าไร้คำจะกล่าวไปในทันที สกุลหวังช่างลงทุนยิ่งนักในครั้งนี้!

ผลทรัพย์สวรรค์นี้มีความสามารถในการช่วยให้เหล่าผู้บ่มเพาะดูดซัมปราณได้ดียิ่งขึ้นโดยไร้ซึ่งผลกระทบใดๆ ช่างเป็นสมบัติฟ้าดินที่หาได้ยากยิ่ง  ควรรู้ว่าต้นทรัพย์สวรรค์นั้นถือว่าเป็นพืชที่ต้องการสิ่งแวดล้อมอันเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษเพื่อการเติบโตได้เต็มที่  จากชื่อเรียกว่าทรัพย์สวรรค์นี้ กล่าวได้ว่าได้รับมาเพราะสถานที่ที่ต้นของมันจะงอกได้นั้นมีเพียงบริเวณปากปล่องงภูเขาไฟที่สูงนับบหมื่นจั้งใต้มหาสมุทร!!

กล่าวได้ว่าเป็นสถานที่วึ่งเต็มไปด้วยภยันตรายมากมาย รายล้อมไปด้วยสัตว์อสูรทรงพลังนับไม่ถ้วน  หากนับเพียงแค่ผลทรัพย์สวรรค์ระดับธรรมดา ราคาของมันนั้นก็พูดได้ว่าสูงเทียมฟ้าแล้ว  แต่ในครั้งนี้ ตระกูลหวังถึงกับนำผลทรัพย์สวรรค์ที่อายุสามหมื่นปีมาสามผลในครั้งเดียว!  ช่างเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ สกุลหวังจ่ายหนักยิ่งนัก!

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน หลินเฮ่ายังคงสับสนเล็กน้อย  เหตุใดคนพวกนี้ถึงมาแสดงความยินดีกับท่านบรรพบุรุษเพียงผู้เดียว? เหตุการณ์ที่สะ่นสะเทือนไปทั่วหล้าเมื่อวานนั้นล้วนเกิดเพะราบุตรชายของเขา หาใช่เพราะบรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้นไม่

“แดนแสงศักดิ์สิทธิ์ก็มีของเล็กน้อยมาเพื่อมอบให้ท่านด้วยเช่นกัน”

“ยินดีด้วย ท่านอาวุโสหลิน นิกายปิศาจของเรามีสิ่งเล็กน้อยมาให้ท่าน”

“สมาคมเมฆเคลื่อนคล้อนของเรา…”

“เผ่าช่างเหนือ….”

บุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากมายในอาณาจักรฉีซานรวมถึงอาณาเขตเหนือครามล้วนทยอยกันลุกขึ้นยืนทีละคน ต่างก็นำเอาสมบบัติลำค่าออกมาเพื่อมอบให้บรรพบุรุษแซ่หลินกันอย่างท่วมท้น

สิ่งของเหล่านี้นับว่ามีมูลค่าสูงส่งมากจนแม้แต่บรรดาผู้ให้เองยังหนาวๆร้อนๆกับราคาที่ต้องจ่าย  หากแต่มันสามารถทำให้ยอดคนอัจฉริยะเช่นบรรพบุรุษแซ่หลินผู้นี้มองพวกเขาในแง่ดีได้ก็นับว่าเป็นความคุ้มค่าในการลงทุน!  แต่กระนั้น เพียงได้ฟังบางประโยค สีหน้าของแขกทั้งหลายก็เริ่มแปลกพิกล เพราะ…

“ยินดีด้วยท่านบรรพบุรุษหลิน การเลื่อนขั้นของท่านช่างนับเป็นเรื่องดียิ่ง!”

“บัดนี้ เมื่อท่านได้เลื่อนขั้น ท่านคงบรรลุถึงดินแดนลมปราณในตำนานแล้วแน่นอน!  สกุลหลินจะต้องเต็มไปด้วยความสมบบูรณ์และรุ่งเรืองไปอีกนานแสนนาน!”

ยินดีด้วยท่านอาวุโสสำหรับการตัดผ่านดินแดนปราณ ข้าขอกล่าวว่าในวันนั้น ข้าได้อยู่ที่ต้าหยานแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ข้าจึงได้รับโชคจนสามารถดูดซับปราณม่วงและรับฟังเสียงแห่งเต๋า ช่างยอดเยี่ยมยิ่ง!”

เพียงมองเห็นใบหน้าอันแสนกระตืนรือร้นของสมาชิกตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งที่กล่าวขึ้นมา  ผู้คนสกุลหลินทำได้เพียงหัวเราะทั้งน้ำตาในใจ  แขกพวกนี้มาที่นี่ด้วยความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง ปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นนี้มิใช่เพราะบรรพบุรุษแซ่หลิน หากแต่เป็นเพราะทารกน้อยสกุลหลินคนเดียวเท่านั้น…

ผู้อาวุโสแซ่หลินบางส่วนทำได้เพียงมองหน้ากันแล้วกลั้นหัวเราะ

แม้กระทั้งบรรพบุรุษตระกูลหลินผู้นั้นก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย  ทำได้เพียงมองไปยังบรรดาแขกผู้มาแสดดงความยินดีกับเขาพร้อมความหนักใจที่จะหยุดพวกเขาไม่ให้เข้าใจผิด  ทำได้เพียงรอจนแขกคนสุดท้ายพูดจบก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ ลายลมโชยมา แขนเสื้อของเขากระพือราวกับเป็นปีกที่ด้านหลัง

“ข้าซาบซึ้งในน้ำใจของพวกท่านยิ่งนัก หากแต่ไม่สามารถจะรับเอาของขวัญแสดงความยินดีทั้งหลายที่มอบให้ไว้กับตัวได้”

“แม้ข้าจะเต็มใจต้อนรับพวกท่านที่มาในวันนี้ หากแต่เหล่าสมบัติล้ำค่าทั้งหลาย ข้าอยากให้พวกท่านรับมันกลับไปเถิด”

เอากลับไป? เมื่อเหล่าแขกได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาทำได้เพียงนิ่งค้างอยู่กับที่ นี่มันเรื่องอันใดกัน? บรรพบุรุษหลินท่านนี้มิได้ต้องการของขวัญแสดงความยินดี?

“ข้าหัวจะระเบิด ถึงเหล่ารุ่นหลังจะยังไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่พวกท่านคงเข้าใจดีสินะ…”  เมื่อเห็นใบหน้าอันโง่งมของแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย บรรพบุรุษแซ่หลินทำได้เพียงลูบหน้าผากตัวเองแล้วหันไปกล่าวอย่างต้องสิ้นหวังกับเหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลอื่น

“ข้ามิใช่ผู้ที่ทำให้ปราณม่วงหรือเสียงแห่งเต๋าปรากฏขึ้น”

“ปราณม่วงจากทิศตะวันออกไกลกว่าแสนลี้”

“สำเนียงแห่งเต๋าที่สะท้อนไปถึงสวรรค์”

“ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะการกำเนิดของเซียนน้อยแซ่หลิน!”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด